1 มิ.ย. 66
14,139
| สัญญาจ้างงาน | ระบุชื่อผู้ว่าจ้างกับผู้ถูกจ้าง มีรายละเอียดงานที่ทำและค่าตอบแทนที่ได้ รวมไปถึงระยะเวลาในการจ้างงาน สามารถใช้ยื่นประกอบให้ทางธนาคารพิจารณาได้ ถ้าที่ผ่านมาไม่เคยทำ ต่อจากนี้เพื่อนๆ ควรทำค่ะ |
| ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% | ที่ทางผู้ว่าจ้างออกให้คุณ ช่วยยืนยันที่มาของรายได้ทุกครั้งของคุณได้ค่ะ เก็บให้หมด มีประโยชน์ทั้งตอนนำไปใช้รวมรายได้เพื่อยื่นภาษี และประกอบการพิจารณาเพื่อขอกู้ซื้อบ้าน |
| ยื่นแบบเสียภาษีเงินได้ (ภ.ง.ด. 90) | รวมรายได้ตลอดทั้งปีและยื่นแบบเสียภาษีเงินได้ (ภ.ง.ด. 90) เพื่อให้เรามีหลักฐานแสดงรายได้ที่น่าเชื่อถือและสามารถตรวจสอบได้ |
| Statement เดินบัญชีเงินฝากอย่างต่อเนื่อง | เดินบัญชีเงินฝากอย่างต่อเนื่องขั้นต่ำประมาณ 1 ปี พยายามให้ผู้ว่าจ้างโอนรายได้เข้าบัญชีธนาคารเพื่อสร้าง Record อย่างสม่ำเสมอเดือนละ 1 ครั้ง และรายได้ที่ผ่านบัญชีควรจะสัมพันธ์กับหลักฐานทางภาษีตลอดปี |
| สมัครบัตรเครดิตไว้บ้าง 1-2 ใบ | ถ้าไม่มีบัตรเครดิตเลยก็จะกลายเป็นคนไม่มีเครดิต และถ้ามีแล้วควรรักษาวินัยในการจ่ายให้ดี โดยการจ่ายเต็มทุกเดือน ก็จะช่วยทำให้ธนาคารพิจารณาปล่อยกู้สินเชื่อบ้านได้ง่ายขึ้น |
| ห้ามติดเครดิตบูโร | พยายามอย่าผิดชำระหนี้ ถ้าค้างชำระไม่จ่ายค่าบัตรเครดิต 3 เดือน จะเสียเครดิตทันที (คลิกศึกษารายละเอียดบทความที่เกี่ยวกับเครดิตบูโร) |
| มีภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อน ต้องรีบเคลียร์ | คิดโดยรวมค่าใช้จ่ายที่มี ทั้งค่าใช้จ่ายส่วนตัว และภาระการผ่อนซื้อต่างๆ บวกรวมค่างวดผ่อนบ้านแล้วต้องไม่เกิน 80% ของรายได้ทั้งหมด ถ้าเกิน ต้องพยายามปิดหนี้ผ่อนชำระอย่างอื่นก่อนขอยื่นกู้ซื้อบ้าน |
| อย่าค้ำประกันให้ใคร | อย่าค้ำประกันใครที่ไม่ใช่ญาติสนิท เพราะคุณอาจจะเป็นหนี้โดยที่ไม่ได้ก่อ และเสียเครดิตการเงินจนกู้ซื้อบ้านไม่ได้ |
| เงินดาวน์ | เพื่อนๆ ที่มีอาชีพอิสระ ควรเก็บเงินก้อนนี้ให้เยอะกว่าพนักงานเงินเดือนทั่วไป สัก 25% ขึ้นไปของราคาบ้าน (เช่น บ้านราคา 1 ล้าน ควรมีเงินดาวน์ 250,000 บาท) |
| เงินก้อนสำรอง หากธนาคารปล่อยสินเชื่อให้ ไม่เต็มวงเงินของราคาซื้อ ขายบ้าน | ส่วนใหญ่ธนาคารมักปล่อยสินเชื่อบ้านให้ไม่เต็มวงเงินของราคาซื้อขาย เพื่อนๆ จึงควรเก็บเงินเตรียมไว้ประมาณ 15% ของราคาบ้าน (เช่น ถ้าต้องการซื้อบ้านราคา 1 ล้าน ควรเก็บสำรองที่ 150,000 บาท) |
| เงินสำหรับค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน | ในกรณีขาดรายได้ เพื่อนๆ ควรมีเงินเก็บฉุกเฉินก้อนนึงที่จะสามารถจ่ายทุกภาระค่าใช้จ่ายได้ขั้นต่ำเป็นเวลา 6 เดือน (เช่นถ้าในแต่ละเดือนมีภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมด 30,000 บาท เราควรมีเงินฉุกเฉิน 6 เดือน คือ 180,000 บาท) |
| ขอใช้บริการ Pre-Approve จากธนาคารที่เราจะทำเรื่องกู้ซื้อบ้าน หรือกู้ซื้อคอนโด | ธนาคารต่างส่วนใหญ่จะมีบริการ Pre-Approve ซึ่งเราสามารถของใช้บริการ โดยลองส่งเอกสารรายได้ที่จะใช้ยื่นกู้ขอสินเชื่อบ้านกับทางธนาคาร เพื่อลองตรวจสถานะการเงินของเราคร่าวๆ ก่อนยื่นกู้ซื้อบ้านจริง เพื่อเพิ่มความมั่นใจได้ |
| ยื่นหลักทรัพย์เพิ่ม | กรณีที่คุณมีที่ดินเปล่าอยู่ สามารถใช้โฉนดที่ดินมาเป็นหลักทรัพย์เพื่อค้ำประกันการกู้ซื้อบ้านได้ |
| หาคนค้ำประกัน | โดยผู้ค้ำประกัน ต้องเป็นบุคคลที่มีงานประจำและมีรายได้ที่มั่นคง |
| หาคนกู้ร่วม | สามารถยื่นขอกู้ร่วมได้สูงสุด 3 คน โดยบุคคลที่คุณจะกู้ร่วม ควรเป็นคู่สมรสหรือบุคคลในครอบครัว จะทำให้ธนาคารพิจารณาอนุมัติการกู้ให้ผ่านได้ง่ายขึ้น |
| ยื่นทำเรื่องขอกู้ซื้อบ้าน กับธนาคารที่เราเดินบัญชี Statement | ใช้บัญชีธนาคารที่ไหนให้ทำเรื่องขอกู้ซื้อบ้านที่นั่น เพราะอาจจะมีเปอร์เซ็นต์ในการกู้ผ่านง่ายกว่าการกู้ต่างธนาคาร |
เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้
| ประเภทคุกกี้ อ่านเพิ่มเติม ที่นี่ |
ยินยอม / ไม่ยินยอม |
|---|---|
| คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ (Strictly Necessary) |
|
| คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์ (Functionality) |
|
| คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์ (Performance & Analytics) |
|
| คุกกี้เพื่อการตลาด (Marketing) |
