ที่สุดของการดีไซน์

Maserati Quattroporte คือรถยนต์สุดพิเศษ ซึ่งมีการออกแบบที่น่าประทับใจ ความท้าทายของการรวมสมรรถนะแบบสปอร์ตและความหรูหราแบบคลาสสิคของรถยนต์ซาลูนอันหรูหราของอิตาลีอย่างมีสไตล์นั้นได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่นักออกแบบผู้ยิ่งใหญ่เสมอมา ไม่ว่าจะเป็นปิเอโตร ฟรูอา (Frua), เบอร์โทเน่า (Bertone), จิออร์เก็ตโต้ จุยเกียโร่ (Giorgetto Giugiaro), มาร์เซลโล กานดินี่ (Marcello Gandini) และ พินินฟาริน่า (Pininfarina)

การสร้างสรรค์ครั้งล่าสุดของมาเซอร์ราติ คือการสืบทอดงานชิ้นเอกอย่างคู่ควร ด้วยการรักษาภาพลักษณ์ที่เพรียวลม และทรงพลังอย่างแท้จริง

การเข้าไปในรถ Quattroporte เหมือนกับการเข้าไปในห้องพักเฉพาะตัว แผงข้างที่บุด้วยไม้อันหรูหราคือความสุขสันต์ ในขณะที่เบาะที่หุ้มด้วยหนังอันนุ่มนวลให้ความรื่นรมย์ทั้งสัมผัสและกลิ่นหนังของ พอลโทรน่า ฟราว (Poltrona Frau) ไม้ชั้นดีและรอยเย็บอันประณีต ให้เค้าโครงอย่างไร้รอยต่อกับเส้นมันวาวของผังหน้าปัด ร่องกลาง และประตู ซึ่งโอบล้อมผู้โดยสารไว้ในบรรยากาศแห่งความหรูหรา ภายในของรถครอบคลุมด้วยนวัตกรรมทางเทคนิคและวัสดุที่จะเปลี่ยนการเดินทางให้เป็นประสบการณ์ ความผ่อนคลาย และความตื่นเต้นอย่างไม่เหมือนใคร อลูมินั่มเคลือบสีเป็นโครงของแผงควบคุมด้วยระบบสัมผัสของมาเซราติขนาด 8.4" กลางแผงหน้าปัด ซึ่งเป็นส่วนที่ช่วยให้สามารถจัดการระบบข้อมูลและการบันเทิงอันหลากหลายได้อย่างเป็นมิตรกับผู้ใช้

มาเซราติมีชื่อเสียงในเรื่องของการออกแบบเครื่องยนต์อย่างสร้างสรรค์เสมอมา เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V8 ขนาด 3.8 ลิตรแบบใหม่ ซึ่งติดตั้งในรถรุ่น Quattroporte ไฮเทคที่สุดเท่าที่เคยติดตั้งในรถมาเซราติ ตามแบบของเครื่องยนต์ V90 รุ่นคลาสสิค มาเซอร์ราติ ได้สร้างเครื่องยนต์รุ่นใหม่ ซึ่งสามารถให้พลังได้ถึง 530 แรงม้า และแรงบิด 710 เมื่อเร่งเครื่อง  ด้วยลักษณะอันน่าทึ่งซึ่งช่วยให้ Quattroporte สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 4.7 วินาที และขึ้นสู่ความเร็วสูงสุดได้ถึง 307 กม./ชม. ด้วยแรงบิด 95% ที่มีอยู่แล้วที่จำนวนน้อยกว่า 1,600 รอบ/นาที เครื่องยนต์ V8 ของ Quattroporte ได้รวมเอาคุณสมบัติในการวิ่งอย่างนิ่มนวลที่สุดเข้ากับสมรรถนะอันโดดเด่นที่ทุกความเร็วเครื่องยนต์ รวมทั้งการมุ่งเน้นที่การใช้น้ำมันและการปล่อยไอเสีย การใช้เครื่องยนต์ twin turbine แบบยกขนานขนาดเล็ก ช่วยป้องกันปัญหาการรอรอบ (Turbo lag) ทำให้ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วขึ้นต่อทุกสัมผัสบนคันเร่ง

ความสุขจากการเดินทางและขับขี่

Quattroporte คือที่มาของความสุขสันต์ทั้งสำหรับผู้โดยสารและผู้ขับขี่ด้วยการออกแบบทางวิศวกรรมเครื่องกลที่ดี เครื่องยนต์ ช่วงล่างของรถ ระบบส่งกำลัง และระบบกันสะเทือน คือปัจจัยสำคัญ ร่วมกับความสบายและสมรรถนะอันไม่มีที่ติ การใช้อลูมินั่มจำนวนมากในการผลิตโครงรถและช่วงล่าง จึงทำให้ลดน้ำหนักไปได้อย่างมาก ในขณะเดียวกับส่วนเสริมความแข็งแรงที่ทำด้วยเหล็กรุ่นพิเศษให้ความมั่นใจถึงความแข็งในการบิด ถึงแม้จะมีฐานล้อที่ยาวมาก

ระบบกันสะเทือน ปีกนกคู่บริเวณส่วนหน้า และจุดเชื่อมโยงหลายจุดในส่วนหลัง ได้รับการควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ สปอร์ต สกายฮุค (Sport Skyhook) รุ่นล่าสุด เกียร์อัตโนมัติ ZF ความเร็ว 8 ระดับแบบใหม่ ซึ่งมีซอฟต์แวร์ที่ปรับได้เองนั้นจะเบาขึ้น และมีประสิทธิภาพมากกว่ารุ่นก่อนหน้า ทั้งยังมีเกียร์โอเวอร์ไดรฟ์ (overdrive) สองระดับซึ่งได้รับการพัฒนาเป็นพิเศษเพื่อลดการใช้น้ำมันและเพิ่มความสะดวกสบาย ผู้ขับสามารถเลือกโหมดอัตโนมัติ หรือเปลี่ยนเกียร์เองโดยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยหรือคันเปลี่ยนเกียร์บริเวณช่องกลาง ในทั้งสองกรณี การกดปุ่ม  SPORT จะทำให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้เร็วขึ้นและสามารถจัดการกับการขับขี่แนวสปอร์ตได้เฉียบขาดขึ้น จึงให้ความรื่นรมย์ในการขับขี่ได้ถึงที่สุดโดยไม่ต้องสูญเสียความสบายของผู้โดยสารเลยแม้แต่น้อย  

โหมด I.C.E. (Increased Control Efficiency) ซึ่งให้ประสิทธิภาพในการควบคุมมากขึ้นนั้น ได้รับการออกแบบมาเพื่อประหยัดน้ำมันอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งให้การขับขี่ที่ผ่อนคลาย และไม่ต้องใช้แรงจับยึดมาก ระบบส่งกำลังช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลที่สุด ไม่ว่าจะในขณะที่เพิ่มหรือลดระดับเกียร์ก็ตาม

การรับประกันถึงการปกป้องสูงสุดอย่างสมบูรณ์คือพื้นฐานสำหรับการเดินทางที่สุขสันต์ ดังนั้น มาเซอร์ราติ Quattroporte จึงประกอบไปด้วยระบบความปลอดภัยทั้งเชิงรุกและเชิงรับแบบใหม่ล่าสุด

ระบบสร้างความเสถียรของมาเซอร์ราติ (Maserati Stability Program-MSP) คือระบบไฟฟ้าระดับสูงซึ่งเมื่อรถเริ่มไถล จะลดแรงบิดจากเครื่องยนต์และกระตุ้นเบรกให้เข้าสู่ระดับเสถียรภายในเสี้ยววินาที ไฟหน้าคู่แบบ Bi-Xenon มีระบบหมุนได้ในตัว ซึ่งให้ความสว่างแก่ท้องถนนและขอบถนน หน่วยไฟฟ้าที่ควบคุมลำแสงทั้งแบบเต็มลำและแบบลดต่ำ ช่วยให้มองเห็นได้หลายระยะ และสามารถปรับความลึกของลำแสงได้โดยอัตโนมัติเพื่อให้มองเห็นได้ชัดที่สุดตลอดเวลา และสุดท้าย ไฟกลางวันแบบ LED ช่วยให้รถมองเห็นได้ในทันที

รถยนต์ Quattroporte รุ่นใหม่นี้ ประกอบไปด้วยถุงลมนิรภัย 6 ชิ้น ได้แก่ ถุงลมนิรภัยด้านหน้าแบบสองระดับสองชิ้น สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า ถุงลมด้านข้าง 2 ชิ้นซึ่งติดอยู่กับที่นั่งด้านหน้า เพื่อปกป้องบริเวณสะโพกและลำตัวของผู้ที่อยู่ด้านหน้า หากเกิดการชนจากทางด้านข้าง ถุงลมด้านข้างอีก 2 ชิ้นซึ่งติดอยู่กับหลังคารถจะป้องกันศีรษะของผู้ที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง

 

บุคลิกลักษณะส่วนตัวอันโดดเด่นของมาเซราติ  Quattroporte ลูกค้าสามารถเลือกสีและวัสดุสำหรับรายละเอียดทุกอย่าง เพื่อเสริมมุมมองของลักษณะรถยนต์อันประดุจอัญมณีแห่งการออกแบบของอิตาลี สีรถยนต์ภายนอกที่ปรับใหม่อย่างสมบูรณ์นี้มีอยู่ 8 เฉดสี ซึ่งสามารถนำไปรวมกับขอบล้อสามชนิด (19", 20" และ 21") รวมทั้งสีของก้ามปูเบรคอีก 5 สี 

การตกแต่งภายในของมาเซราติ Quattroporte นั้นโอ่อ่าอย่างแท้จริงด้วยอุปกรณ์ตกแต่งภายในที่ครบครัน โดยมีทางเลือกเสนอให้ท่านมากมาย ตั้งแต่แผงหน้าปัดส่วนกลางขนาดใหญ่ ซึ่งเหมือนกับร่องกลางและส่วนข้างประตู สามารถเลือกแต่งได้ด้วยไม้ชั้นดี 5 ชนิด ที่มีรูปแบบลายไม้น่าสนใจ สำหรับผู้ที่ต้องการ "อารมณ์" สปอร์ตกว่านี้ อาจเลือกเคลือบคาร์บอนมันวาวได้

นอกจากนี้ ยังมีทางเลือกของสีต่างๆส ำหรับหนังนุ่มของ พอลโทรน่า ฟราว (Poltrona Frau) ซึ่งใช้แต่งบริเวณแผงหน้าปัด ร่องกลาง ประตู และพวงมาลัย รวมทั้งเบาะนั่ง ให้บรรรยากาศทางเลือกที่ผ่อนคลาย  นอกจากนี้ ส่วนกลางของเบาะนั่งและหลังคาอาจตกแต่งด้วย อัลคานทาร่า (Alcantara) ได้

เบาะนั่งเต็มไปด้วยความสะดวกสบาย และออกมาในรูปแบบเบาะไฟฟ้าปรับได้ 14 ทิศทาง พร้อมด้วยหน่วยความจำ และฟังก์ชั่นพิเศษเสริมความสะดวกสบายทางด้านข้างอีกด้วย ทุกๆ เบาะนั่งของผู้โดยสารในรถจะมาพร้อมกับเบาะแบบพ่นลม (Seat ventilation) และเบาะให้ความร้อน (Seat heating) เพื่อตอบสนองความต้องการภายในห้องโดยสารให้มากขึ้น

Quattroporte ได้รับการออกแบบมาสำหรับผู้ที่มองหาอุปกรณ์เสียงที่ดีที่สุดสำหรับรถยนต์ ระบบเสียงชั้นนำยุคใหม่ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นมาร่วมกับ โบเวอร์แอนด์วิลกินส์ (Bowers & Wilkins) ช่วยให้ท่านดื่มด่ำกับรายละเอียดเล็กที่สุดของเสียงได้ 

ด้วยลำโพง 15 ชิ้นที่กระจายไปทั่วแผงหน้าปัด ประตู และชั้นด้านหลัง มีเครื่องขยายเสียงขนาด 1,280 วัตต์ และตั้งมาตรฐานใหม่ให้กับความบันเทิงในรถยนต์ การศึกษาโดยละเอียดเกี่ยวกับการวางโครงแหล่งเสียงและการตั้งค่าของระบบ ควอนตัม ลอจิก เซอร์ราวน์ (Quantum Logic Surround) รอบทิศทาง ช่วยสร้างความจริงของเสียงระะดับที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนในรถยนต์ ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการรับรู้ถึงองค์ประกอบต่างๆในร่องเสียง ตั้งแต่เครื่องดนตรี เสียง และเสียงสะท้อนจากอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งจะถูกแยกและนำไปผ่านกระบวนการเพื่อให้เสียงที่ใสราวกับแก้วและมีความละเอียดสูงสุดเท่าที่จะทำได้

สำหรับราคาของ Quattroporte รุ่น S เครื่อง V6 3.0 ลิตร 410 แรงม้า ราคาอยู่ที่ 11.5 ล้านบาท และรุ่น GTS เครื่อง V8 3.8 ลิตร 530 แรงม้า ราคาอยู่ที่ 14.5 ล้านบาท

ดูราคา-สเปค และโปรโมชั่น Maserati ทุกรุ่น