x
icon-filter ค้นหาคอนโด
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

10 เทคนิคลงประกาศขาย/ให้เช่า บ้านและคอนโดได้เร็วๆ

icon 17 ธ.ค. 64 icon 135,505
10 เทคนิคลงประกาศขาย/ให้เช่า บ้านและคอนโดได้เร็วๆ
 
มีคำถามจากเพื่อนๆ หลายคนว่าลงประกาศขายบ้าน / คอนโดบนเว็บไซต์มาเป็นสิบๆ เว็บไซต์แล้วแต่ยังขายไม่ออกเลย ก่อนอื่นเราต้องยอมรับว่าราคา และโลเคชั่นของตัวอสังหาฯ เป็นกุญแจสำคัญให้ขายได้เร็ว แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนมองข้ามนั่นคือคุณภาพ หรือความน่าสนใจในตัวประกาศที่เราลงในเว็บไซต์ว่าจะน่าดึงดูด หรืออย่างน้อยล่อใจให้โทรสอบถามกันเบื้องต้นก่อนหรือเปล่า วันนี้ Checkraka.com มีข้อแนะนำง่ายๆ มาฝากกันครับ
1. ตั้งหัวข้อให้ชัดเจน
หลักๆ คือต้องมี "กริยา" และ "กรรม" ให้ครบ (ประธานรู้อยู่แล้วว่าคือคนโพสต์นั่นเอง) กริยาก็คือต้องชัดเจนว่าเราจะทำอะไร "ขาย", "ให้เช่า", "ขายดาวน์", "ขายขาดทุน" หรือบางคนก็ "ขายหรือให้เช่า" (ได้ทั้งสองอย่าง) จากนั้นก็ต้องตามด้วยกรรม คือทรัพย์อะไร เช่น "1 ห้องนอนคอนโด LPN บางนา" หรือ "บ้าน 2 ชั้นย่านราชพฤกษ์" เป็นต้น เพราะหากกริยา และกรรมตรงนี้ไม่ชัดเจน คนก็จะไม่เข้าใจ และไม่เสียเวลาที่จะคลิกอ่านเลย
2. ประกาศต้องครอบคลุมเรื่องสำคัญให้ครบ
บ้านและคอนโดก็เป็นสินค้าอย่างหนึ่ง ซึ่งก็เหมือนสินค้าทั่วไปเวลาขายก็ต้องบรรยายสรรพคุณให้ครบ ซึ่งสำหรับบ้านกับคอนโดต้องครอบคลุมเรื่องสำคัญพวกนี้เป็นอย่างน้อย 
  • สถานที่ตั้ง และถ้าเป็นไปได้ควรมีแผนที่ประกอบด้วย
  • ราคา (ดูข้อ 6 เพิ่มเติม)
  • ขนาดพื้นที่คอนโดหรือบ้าน และจำนวนห้องนอน ห้องน้ำ 
  • รูปร่างหน้าตาเป็นประมาณไหน ซึ่งโดยปกติจะดูได้จากรูปภาพที่เราควรโพสต์ (ดูข้อ 3 เพิ่มเติม) 
  • จุดเด่นของบ้าน หรือคอนโดนั้นซึ่งจะเป็นตัวสำคัญที่ทำให้บ้าน หรือคอนโดเราแตกต่างหรือน่าสนใจ (ดูข้อ 5 เพิ่มเติม)
  • เบอร์โทรศัพท์ หรืออีเมล์ของคนโพสต์เพื่อให้คนสนใจติดต่อกลับได้ง่ายๆ ทันที
3. ใส่รูปภาพสวยๆ
รูปภาพที่ชัดเจน และสวยงามสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อได้มากกว่าข้อความเพียงอย่างเดียว ประกาศที่มีรูปห้อง หรือตัวบ้านสวยๆ จะได้เปรียบประกาศที่ไม่มีรูปเสมอ ถ้าโหลดได้หลายรูปยิ่งดี แต่ต้องแน่ใจว่ารูปแต่ละรูปนั้นดูสวย เทคนิคที่เกี่ยวกับการถ่ายรูปห้อง หรือบ้านให้สวยก็มีหลายเรื่อง สิ่งแรกเลยคือ จัดห้องให้เรียบร้อย ของต่างๆ เก็บให้เข้าที่เข้าทางเพื่อความสะอาดตา ควรใช้กล้องจริงๆ ถ่ายเพราะจะออกมาดูดีกว่ากล้องมือถือ (แต่ถ้าจะใช้มือถือก็พอได้แต่ควรเปิดม่าน หรือเปิดไฟช่วย) ถ้ามีหลายห้องควรถ่ายตามลำดับ เช่นห้องแรกจนถึงห้องสุดท้ายเพื่อให้เห็นภาพจริงๆ เป็นลำดับเหมือนเวลาคนเดินเข้าไปจริงๆ ขนาดไฟล์รูปที่ใช้ไม่ควรเกิน 1 MB เพื่อการโหลดรูปที่รวดเร็ว 
4. พยายามทำให้ Search Engine เจอประกาศเรา
ทุกวันนี้ คนเรา Search หาสิ่งที่ต้องการบนเว็บไซต์ Search Engine หลักๆ เลยก็คือ Google ดังนั้น คำถามคือจะทำยังไงให้คนเจอประกาศของเราท่ามกลางประกาศขายบ้าน / คอนโดที่มีอยู่เป็นล้านๆ ประกาศ โดยปกติพวกนี้จะมีเทคนิคอยู่พอสมควรในการทำให้ Search Engine เจอประกาศเรา และขึ้นมาแสดงผลอยู่ในลำดับต้นๆ ซึ่งเราอาจต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญต่อไป (เช่น ใช้เทคนิค Meta Keyword, Meta Tag) แต่ถ้าเป็นแบบวิธีพื้นฐานก็จะประมาณว่าเราต้องเขียนหัวข้อประกาศให้เป็นคำเฉพาะ หรือเป็นคำที่คนค้นหากันบ่อย เช่น ถ้าคนส่วนใหญ่พิมพ์ค้นหาคำว่า "ไอดีโอ" (สะกดเป็นภาษาไทย) ใน Google มากกว่าคำว่า "IDEO" (สะกดเป็นภาษาอังกฤษ) เราก็ควรตั้งหัวข้อประกาศเราโดยใช้ชื่อโครงการนี้เป็นภาษาไทย เป็นต้น
5. บอกจุดเด่นให้มากที่สุด
เราควรบอกจุดเด่นของห้อง หรือบ้านเราให้มากที่สุด ข้อด้อยถ้ายังไม่จำเป็นก็อาจจะยังไม่ต้องเขียนไปบนประกาศ แต่ถ้ามีคนโทรมาสอบถาม หรือใครสนใจจริงๆ อาจจะบอกตอนนั้นเอาก็ได้ จุดเด่นหลักๆ ก็เช่น ถ้าเป็นคอนโดก็อาจบอกว่าห้องนี้เป็นห้องด้านที่ไม่ร้อน ห้องวิวสวน ห้องหัวมุม มีจำนวนห้องต่อชั้นน้อย ยูนิตข้างๆ เป็นของดาราชื่อดัง เป็นต้น ถ้าเป็นบ้าน ก็อาจบอกว่าเป็นบ้านหลังที่มองเห็นวิวสวน ส่วนกลางเยอะมาก เพื่อนบ้านดีเป็นระเบียบ ระบบการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด เดินทางแค่ 1 นาทีก็ถึง Mega Bangna เป็นต้น
6. ตั้งราคาให้เหมาะสม
โดยธรรมชาติ คนซื้อสินค้ามักมีงบประมาณที่ต้องการในใจอยู่แล้วในระดับหนึ่งว่าเท่าไหร่ และถ้าคนซื้อสนใจบ้าน หรือคอนโดไหนเป็นพิเศษ และทำการบ้านมาระดับหนึ่งก็จะพอรู้ราคาประมาณการของโครงการนั้นอยู่แล้ว ใครที่ตั้งราคา Over หรือไม่เหมาะสมก็อาจจะไม่ได้รับการสนใจคลิกดูรายละเอียดเลย ดังนั้น เราควรตั้งราคาให้เหมาะสม หรือการตั้งสูงนิดนึงเพื่อการต่อรองในระดับที่เหมาะสมก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่น่าเกลียดอะไร ถามว่าจะเหมาะสมหรือไม่ดูยังไง คำตอบคือเราก็ควรดูประกาศรายอื่นๆ ของบ้าน หรือคอนโดเดียวกันคร่าวๆ ว่าตัวเลขที่โชว์กันในประกาศอยู่ที่ประมาณไหน เราก็ควรจะอยู่ใน Range ประมาณนั้น หรือเราอาจจะสูงกว่า Range นี้ก็ได้ แต่เราก็ควรบรรยายจุดเด่นเพิ่มเติมว่าอะไรที่ทำให้ราคาเราสูงกว่าคนอื่น เช่น เป็นห้องหัวมุม หรือวิวสวยสุดในโครงการ
7. เลือกเว็บไซต์ให้ตรงหรือเหมาะกับสินค้าเรา
ทุกวันนี้มีเว็บไซต์มากมายที่เปิดพื้นที่ให้ลงประกาศขายบ้าน หรือคอนโด ซึ่งบางเว็บไซต์ก็จะมีรูปแบบ Pattern หรือบล็อคชัดเจนว่าต้องลงข้อมูลตามที่กำหนด หรือบางเว็บไซต์ก็เปิดกว้างไม่มีรูปแบบ อยากเขียนอะไรก็เขียนได้เลย และความนิยม หรือความเฉพาะด้านของแต่ละเว็บไซต์ก็มีความแตกต่างกัน เช่น บางเว็บไซต์อาจขายครอบจักรวาลเปิดโอกาสให้ประกาศขายสินค้าได้ทุกอย่าง หรือบางเว็บไซต์อาจเป็นเรื่องซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์อย่างเดียว หรือบางเว็บไซต์ค่อนข้างจะเป็นตลาดอสังหาริมทรัพย์ High-End อย่างเดียว ซึ่งเราก็ต้องตัดสินใจเลือกลงเว็บไซต์ไหนให้เหมาะสมกับสินค้าของเรา หรือถ้าเป็นเว็บไซต์ฟรี ก็ไม่เสียหายที่จะลงหลายๆ เว็บไซต์พร้อมกันไปเลย นอกจากนี้ เราอาจเช็คจำนวนคนเข้าเว็บไซต์นั้นๆ คร่าวๆ จาก TrueHits ก็ได้ว่ามากน้อยแค่ไหน โดยการคลิกที่ปุ่ม  บนด้านบน หรือด้านล่างของเว็บไซต์นั้นๆ (ซึ่งบางเว็บก็เปิดให้คลิกได้เลยแต่บางเว็บอาจไม่มี) ซึ่งถ้าเว็บไซต์ที่มีคนเข้าเยอะๆ ก็อาจทำให้ประกาศเรามีคนเข้าดู หรือโดนเห็นมากกว่าเว็บไซต์ที่คนเข้าดูน้อย
8. ใช้ Social Media เป็นตัวช่วย
หากคนขายเป็นคนที่มีเพื่อนมากมายใน Facebook หรือมี Twitter หรือ Instagram การแชร์ประกาศเราเข้าไปในสื่อ Social Media เหล่านี้ก็เป็นประโยชน์ไม่น้อย เพราะอาจทำให้ประกาศเรามีโอกาสแชร์ หรือส่งต่อไปยังเพื่อน หรือเพื่อนของเพื่อนในวงกว้างมากขึ้น ตัวอย่างที่เห็นไม่นานมานี้ก็อย่างเช่น จตุรงค์ มกจ๊ก ก็ได้ประกาศขายบ้านหลังหนึ่งของตัวเองผ่านทาง Instagram ของตัวเอง ซึ่งก็ดูจะสร้างความรับรู้ และเพิ่มโอกาสในการขายบ้านหลังนี้ได้ไม่น้อย
9. หมั่นอัปเดตให้ประกาศกลับขึ้นมาใหม่
 
โดยปกติพื้นที่บนเว็บไซต์มีจำกัด ดังนั้น เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ประกาศที่เราลงไปอาจโดนดันไปอยู่ข้างล่าง หรือหน้าหลังๆ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น โอกาสที่คนจะเห็นประกาศของเราจะน้อยลงไปเรื่อยๆ ดังนั้น เราควรเข้าไปคลิกอัปเดตประกาศเราเรื่อยๆ เพื่อให้มันกลับขึ้นมาหน้าหนึ่ง หรือลำดับต้นๆ ใหม่ ซึ่งแต่ละเว็บไซต์ก็มีวิธีการแตกต่างกันออกไป ในการที่จะทำให้ประกาศเราโผล่กลับมาในลำดับต้นๆ ใหม่ หรือเราจะยอมเสียค่าบริการให้เว็บไซต์นั้นๆ ก็ได้ ซึ่งแต่ละเว็บไซต์ก็จะคิดราคาแตกต่างกันออกไป เช่นตามตัวอย่างด้านล่างของ Thaihometown.com

ตัวอย่างราคาการลงประกาศโฆษณาของ Thaihometown.com
10. ติดตามประเมิณผล
สิ่งสำคัญอีกอย่างที่พวกเรามักจะลืมกันก็คือ เมื่อโพสต์ประกาศไปแล้ว เราควรเข้าไปเช็คสักนิดว่าประกาศเรามีคนดูกี่คน หรือบางทีมีคนเข้าไปทิ้งอีเมล์ไว้ให้เราส่งรายละเอียดกลับ เราจะได้ติดต่อกลับได้ทันที นอกจากนี้ ถ้าเราสังเกตเห็นแปลกๆ ว่าประกาศคนอื่นในโครงการเดียวกันบนเว็บไซต์เดียวกันมีคนดูมากมาย แต่ของเรามีคนดูนิดเดียว ก็คงต้องมานั่งดูกันว่าเกิดอะไรขึ้น หรือประกาศเรามีข้อบกพร่องตรงไหน เช่น เขียนหัวข้อไม่ครบ ไม่ชัดเจน หรือที่เคยเห็นผิดพลาดแบบขำๆ ก็มีเช่น ใส่ตัวเลข 0 เกินไปหนึ่งตัวในราคาบ้านที่ขาย ซึ่งทั้งหมดนี้ก็อาจเป็นประเด็นที่ทำให้คนไม่คลิกดูประกาศเราเลยตั้งแต่แรก
หวังว่าข้อแนะนำเบื้องต้นทั้ง 10 ข้อนี้ จะช่วยทำให้ท่านขายบ้าน หรือคอนโดกันได้เร็วขึ้นนะครับ เอาแบบว่าโพสต์ปุ๊บ ขายได้ปั๊บเลย โชคดีทุกคนนะครับ 
แท็กที่เกี่ยวข้อง ปล่อยเช่าคอนโด ประกาศขายบ้าน ประกาศขายคอนโด
Condo Guru
เขียนโดย เช็คราคา.คอม Condo Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)