ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

แฮตช์แบ็ก 5 ประตู เวอร์ชั่นยกสูง

ข่าว icon 11 พ.ย. 56 icon 21,794

ALL New VOLVO V40 Cross Country
วอลโว่ V40 Cross Country ใหม่ ถูกส่งมาสานต่อความสำเร็จในตลาดครอสคันทรี รถอเนกประสงค์คันแกร่งพร้อมลุย โดยผสานความแกร่งและทนทาน เข้ากับดีไซน์สง่างามอย่างมีสไตล์


รูปลักษณ์ภายนอก แกร่งพร้อมลุย
วอลโว่ V40 Cross Country ให้ทัศนวิสัยที่ดีกว่า ด้วยตัวถังที่สูงกว่า V40 ทั่วไปถึง 40 มม. และเพิ่มความแกร่งพร้อมลุยด้วยดีไซน์รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ  เช่น กันชนหน้าสีเข้มเพิ่มความแกร่งพร้อมลุย กระจังหน้าลายรังผึ้ง ไฟ Daytime Running Light ที่เฉียงขึ้นเพิ่มความทันสมัยและสะดุดตา กันชนหลังและ skid plate ด้านข้างและด้านหลังพร้อมตราสัญลักษณ์ Cross Country เพิ่มลุคของความบึกบึนสไตล์ครอสคันทรี





รถยนต์ 5 ประตู 5 ที่นั่งสไตล์เท่ เพิ่มความเข้มด้วยกรอบหน้าต่างรอบคันสีดำมัน กรอบกระจกมองข้าง และแร็คหลังคาทรงเพรียว วอลโว่ V40 Cross Country มีสีภายนอกให้เลือก 5 สี คือ Ice White, Ember Black, Biarritz Blue, Misty Blue และ Raw Copper


รูปลักษณ์ภายใน โทนสีทันสมัย สะท้อนอิสระแห่งการเดินทาง
เบาะนั่งใหม่สไตล์สปอร์ตบุหนังคุณภาพสูงสีทูโทน Charcoal Solid/Hazel Brown และเย็บตะเข็บเบาะด้วยสีที่ตัดกัน พร้อมตกแต่งแผงคอนโซลด้วยโทนสี Copper Dawn ทันสมัยสื่อความสปอร์ต และอิสระแห่งการเดินทาง หัวเกียร์ใหม่ในโทนสีดำ Piano Black ขลิบสีโลหะด้าน พร้อมแสงเรืองสีขาวนวล รวมทั้งรูปทรงใหม่ที่จับกระชับมือ ให้ความรู้สึกหรู เรียบ และปราดเปรียว และเพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่วอลโว่ได้แสดงตำแหน่งเกียร์ที่หน้าปัดให้ดูได้ง่าย

ภายใน...ออกแบบมาเพื่อคุณ 
การออกแบบภายใน ยังคงใช้แนวคิด "ออกแบบมาเพื่อคุณ"  Designed around people เป็นหลัก โดยเน้นถึงรูปร่างและการใช้งานของคนขับและคนนั่ง ความสบาย และการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ที่อยู่ในวอลโว่ V40 Cross Country

แผงหน้าปัดกว้าง กับการออกแบบบานประตูที่ดูลื่นไหล ทำให้ภายในรถดูกว้างขวางเหมือนรถขนาดใหญ่ ให้คนขับและคนนั่งรู้สึกสบาย ผ่อนคลาย ไม่อึดอัด และสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ความเรียบหรูสไตล์สแกนดิเนเวียน


หน้าปัดแบบกราฟิก
วอลโว่ V40 ใหม่ เอาใจคนทันสมัยด้วยหน้าปัดแบบอินเทอร์แอคทีฟแสดงผลเป็นกราฟิกที่ดูง่าย หน้าจอแบบ TFT (Thin Film Transistor) ทำให้คนขับสื่อสารกับรถได้ และยังสามารถใช้งานได้เต็มประโยชน์ สะท้อนทุกอารมณ์ เพราะหน้าจอจะแสดงข้อมูลสำคัญในแต่ละสถานการณ์ได้ โดยที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกการแสดงผลหน้าจอได้ถึง 3 แบบ คือ Elegance  Eco และ Performance

Elegance แสดงผลด้วยโทนสีเหลือง ในรูปแบบดั้งเดิมแต่ทำให้อ่านง่ายด้วยภาพกราฟฟิก เช่น สัญลักษณ์แสดงระบบช่วยในการจอดรถอัตโนมัติ (Park Assist Pilot) และระบบแจ้งเตือนป้ายจราจร (Road Sign Information)  ทางด้านซ้ายจะเป็นหน้าปัดแสดงอุณหภูมิเครื่องยนต์ อุณหภูมิภายนอก และระดับน้ำมันในถัง ส่วนด้านขวาจะแสดงรอบเครื่องยนต์ เวลา และตำแหน่งเกียร์ที่ใช้
Eco แสดงผลด้วยโทนสีเขียว สร้างแรงบันดาลใจเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม  มาตรวัดแบบ Eco จะอยู่ทางด้านซ้ายมือ แสดงปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้ในขณะนั้น และปริมาณการใช้เชื้อเพลิงสะสม หากผู้ขับขี่ประหยัดเชื้อเพลิงมากที่สุดก็จะมีไฟเขียวแสดงขึ้น  ส่วนทางด้านซ้ายจะแสดง Eco Guide ที่วัดความเร็วรถ ความเร็วรอบเครื่อง ตำแหน่งวาล์วปีกผีเสื้อ (Throttle) และการเบรกเพื่อประเมินความประหยัดของเชื้อเพลิง และแนะแนวทางให้ผู้ขับขับขี่ประหยัดมากยิ่งขึ้น  และจะมีกราฟเส้นแสดงว่าประหยัดน้ำมัน รวมทั้งมีการคำนวณอัตราการใช้เชื้อเพลิงเฉลี่ยใน 2-3 นาทีที่ผ่านมา และแสดงให้เห็นเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนเมื่ออัตราการประหยัดเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ยิ่งสัญลักษณ์ดังกล่าวอยู่ใกล้ด้านบนมากเท่าไร ไฟเครื่องหมาย e จะติดแสดงว่ามีการประหยัดเชื้อเพลิงมาก ระบบนี้ยังช่วยให้ผู้ขับขี่ประหยัดพลังงานได้ในทุกสถานการณ์
Performance แสดงผลด้วยโทนสีแดง ให้อารมณ์สปอร์ต มาตรวัดตรงกลางจะแสดงมาตรวัดรอบเครื่องแทนที่จะเป็นความเร็วรถอย่างในแบบ Elegance หรือ Eco  ความเร็วของรถจะแสดงในรูปแบบตัวเลขดิจิตอลตรงกลาง  ทางด้านขวาเป็นมาตรแสดงพลังที่บอกให้ผู้ขับทราบว่าในแต่ละวินาทีรถมีกำลังอยู่เท่าไร และใช้ไปเท่าไร Power Guide ช่วยให้ผู้ขับขี่เร่งได้เต็มที่เพื่อการแซงอย่างปลอดภัย

คล่องตัว พร้อมพาคุณสู่การผจญภัยในฝัน
วอลโว่ V40 Cross Country ตอบสนองความต้องการของคนรักการเดินทางและผจญภัย ใหญ่พอที่จะพาเพื่อนทั้งแก๊งไปด้วยกัน เพื่อประสบการณ์การผจญภัยที่สนุกสนาน เบาะหลังแบบ 40/60 พับได้สะดวกเพื่อสนองไลฟ์สไตล์แอคทีฟ
                                                            
Volvo Sensus เพื่อการควบคุมได้เต็มที่ พร้อมความปลอดภัยและความบันเทิงเต็มพิกัด
Volvo Sensus เป็นนวัตกรรมที่ให้ความสะดวกและข้อมูลสำคัญแก่คนขับอย่างเต็มที่ โดยออกแบบให้แผงคอนโซลกลางและหน้าปัดทำมุมเอียงหันไปด้านคนขับ เพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นข้อมูลต่างๆ ที่สำคัญได้สะดวกจากหน้าจอสี 7 นิ้ว วอลโว่ได้ติดตั้งจอในตำแหน่งค่อนข้างสูงบนแผงคอนโซลหน้าเพื่อให้ผู้ขับมองเห็นข้อมูลและถนนได้อย่างชัดเจนพร้อมๆ กัน 
นอกจากนี้ การออกแบบตำแหน่งการวางอุปกรณ์ต่างๆ อยู่ในระยะที่ผู้ขับขี่สามารถเอื้อมถึงปุ่มบังคับต่างๆ ได้สะดวก จอดังกล่าวจะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับเพลง โทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อทัศนวิสัยที่ชัดเจนและมองเห็นมุมกว้างได้มากกว่า รวมทั้งข้อมูลอื่นๆ
Volvo Sensus ยังสามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยเทคโนโลยีบลูทูธ เพื่อให้สามารถสื่อสารได้สะดวกปลอดภัย รวมทั้งฟังเพลงจากเครื่องเล่นเพลงแบบพกพาได้อย่างรื่นรมย์ และสามารถฟังเพลงผ่านการเชื่อมต่อแบบบลูทูธได้ในรถยนต์ด้วย

กระจกมองหลังไร้กรอบ
กระจกมองหลังที่ออกแบบใหม่ ไร้กรอบ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ช่วยเพิ่มความมีสไตล์ ช่องเก็บของใต้ที่วางแขนเป็นช่องเก็บของที่สามารถเก็บแผ่นซีดีหรือของกระจุกกระจิกได้ รวมทั้งยังมีเครื่องต่อกับ USB/iPod หรือ AUX แล้วแต่ระบบเครื่องเสียง  ที่วางแขนสามารถปรับได้เพื่อให้รองรับผู้ขับขี่ได้สูงสุด บนคอนโซลด้านหน้าที่วางแขนมีที่วางแก้ว 2 ใบและช่องเสียบไฟฟ้าขนาด 12V  นอกจากนี้ยังมีกล่องเก็บแว่นกันแดดเหนือประตูคนขับ (อุปกรณ์เสริม) ที่เสียบปากกาในช่องเก็บของด้านหน้า และช่องเก็บของกระจุกกระจิกใต้แผงหน้าปัด       
  
เครื่องยนต์ T5 ขับสนุกทันใจ  
วอลโว่ V40 Cross Country เป็นรถที่ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า เครื่องยนต์เบนซิน T5 แบบ 5 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ให้พลัง 213 แรงม้าที่ 6000 รอบต่อนาที และแรงบิด 300 นิวตันเมตรที่ 2,700-5,000 รอบต่อนาที ติดตั้งเกียร์ออโตเมติก 6 จังหวะ ที่ตอบสนองทันใจ V40 ใหม่สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ช.ม. ได้ใน 6.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 210 กม./ช.ม. และสามารถรองรับน้ำมันได้หลากหลายทั้งเบนซิน 95, E10 และ E20 ได้  อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยในเมืองและนอกเมือง 13.3 กิโลเมตรต่อ 1 ลิตร
พวงมาลัยที่บังคับควบคุมได้แม่นยำ
คอพวงมาลัยหนาเสริมสปริง และมีฉนวนที่แข็งช่วยเพิ่มความมั่นคง และให้ผู้ขับขี่รู้สึกถึงล้อที่สัมผัสพื้นผิวถนนได้ในขณะขับขี่  ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ปรับด้วยไฟฟ้า (Electrical Power Assist Steering - EPAS) ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยให้พวงมาลัยเบาแรง และผู้ขับขี่สามารถเลือกได้ถึง 3 ระดับว่าต้องการให้พวงมาลัยเบาแค่ไหน 
  • โหมด Low  ระบบจะส่งแรงช่วยมากขึ้น ทำให้เบาแรงที่สุด 
  • โหมด Medium ระบบจะส่งแรงช่วยปานกลาง ทำให้รู้สึกถึงล้อที่สัมผัสกับผิวถนนได้ดีขึ้น  
  • โหมด High เหมาะสำหรับนักขับที่ต้องการสนุกกับการขับขี่ได้อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ปรับด้วยไฟฟ้าทำงานร่วมกับระบบต่างๆ ที่เกี่ยวกับระบบบังคับเลี้ยว เช่น Lane Keeping Aid และ Park Assist Pilot
เพิ่มการทรงตัวที่ดีกับ Roll Angle Sensor
ระบบควบคุมการทรงตัวและยึดเกาะถนนแบบไดนามิก (Dynamic Stability and Traction Control - DSTC) ในวอลโว่ V40 Cross Country ให้ทั้งความปลอดภัยและขับขี่สนุก เพราะระบบ Advanced Stability Control ใช้เซ็นเซอร์วัดมุมโคลง (Roll Angle Sensor) เพื่อประเมินความเสี่ยงที่รถจะลื่นไถลตั้งแต่แรกเริ่ม และเปิดให้ระบบควบคุมการทรงตัวทำงานได้เร็วและแม่นยำ  รวมทั้งช่วยให้สามารถบังคับควบคุม และหลีกเลี่ยงการลื่นไถลได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
เลี้ยววงแคบได้สบายกว่า
Corner Traction Control ในวอลโว่ V40 Cross Country ใช้ทอร์คเวคเตอร์ช่วยให้เข้าโค้งได้อย่างนุ่มนวล  ล้อด้านในจะถูกเบรก และส่งกำลังไปยังล้อด้านนอกเพื่อให้คนขับเข้าโค้งได้มั่นคงขึ้นขณะที่ลดความเสี่ยงที่จะเกิดรถปัดหมุน  ระบบนี้ทำให้ขับขี่บนถนนโค้ง เข้าวงเวียน และบนพื้นเปียกลื่นได้สะดวกและปลอดภัยขึ้น ระบบนี้จะมีประโยชน์มากเมื่อขับขี่ออกจากถนนแคบๆ เพื่อเข้าไปใช้ถนนใหญ่

เทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนผู้ขับและความปลอดภัย 
วอลโว่ V40 Cross Country มาพร้อมระบบสนับสนุนที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ได้รับความสะดวก สามารถเห็นข้อมูลที่สำคัญเพื่อการขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด
สตาร์ทและหยุดรถอัจฉริยะ
ระบบ Start/Stop ติดตั้งมาในเครื่องยนต์ทุกชนิดและทุกระบบส่งกำลัง เทคโนโลยีนี้ช่วยดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อหยุดรถ เครื่องยนต์จะหยุดทำงานเมื่อเข้าเกียร์ว่าง หรือเมื่อเหยียบเบรก เมื่อผู้ขับขี่เหยียบคันเร่ง เครื่องยนต์จะติดขึ้นโดยอัตโนมัติ   อย่างไรก็ดี บางครั้งเครื่องยนต์จะไม่ดับทุกครั้งที่หยุดรถ เพราะเทคโนโลยีนี้จะคำนวณปัจจัยต่างๆ เอง แต่จะไม่ดับเครื่องหากเครื่องยนต์ยังเย็นอยู่  หรืออุณหภูมิเย็นไปหรือร้อนไป หรือเมื่อแบตเตอรี่อ่อน และเมื่อผู้ขับขี่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ผู้ขับขี่สามารถปิดระบบ Start/Stop ได้เมื่อต้องการโดยกดปุ่มที่กลางหน้าปัด ปุ่มที่มีไฟ LED จะสว่างอยู่หากระบบดังกล่าวกำลังทำงาน ระบบ Start/Stop จะสามารถลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิงลงได้ถึง 5% โดยเฉลี่ยเมื่อขับขี่ในเมืองและนอกเมือง และ 10% เมื่อขับขี่นอกเมือง

ระบบไฟส่องสว่างเพิ่มมุมมองด้านข้างเมื่อใช้สัญญาณไฟเลี้ยวขณะขับขี่ความเร็วต่ำ (Cornering Light) 
อีกหนึ่งนวัตกรรมเพื่อความปลอดภัย ได้แก่ ระบบไฟส่องสว่างเพิ่มมุมมองด้านข้างเมื่อใช้สัญญาณไฟเลี้ยวขณะขับขี่ความเร็วต่ำ เป็นการพัฒนามาจากระบบไฟหน้าแบบหักเหตามพวงมาลัยและปรับระดับสูง/ต่ำโดยอัตโนมัติ  โดยจะส่องสว่างในพื้นที่ที่ผู้ขับขี่จะมองเห็นได้ โดยหักเหมุมส่องสว่างตามพวงมาลัยเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ยามค่ำในเส้นทางมืดๆ  แสงสะท้อนจากไฟส่องสว่างดังกล่าวจะครอบคลุมมุม 15 องศาจากตัวรถ  ระบบความปลอดภัยนี้จะทำงานเมื่อรถยนต์ใช้ความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมงพร้อมกับมีการเปิดไฟเลี้ยว และจะปิดการทำงานเมื่อความเร็วของรถยนต์สูงเกิน 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Lane Keeping Aid ระบบแจ้งเตือนเพื่อป้องกันรถวิ่งออกนอกเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ 
จากผลการศึกษาที่พบว่าอุบัติเหตุจำนวนมากเกิดขึ้นแม้ไม่ใช่ช่วงเวลาคับขัน หรือแม้ในขณะสภาพอากาศแจ่มใส แต่เกิดจากการที่ผู้ขับขี่ง่วง ป่วย หรือเสียสมาธิ  และสถิติของวอลโว่พบว่าอุบัติเหตุ 30% เกิดจากการเปลี่ยนเลนกะทันหัน  และ 75% ของจำนวนนี้เกิดขึ้นเมื่อใช้ความเร็วที่ 70 กม./ช.ม. หรือสูงกว่านั้น  
ระบบ Lane Keeping Aid ใช้กล้องด้านหน้าตรวจจับเส้นแบ่งเลนทั้งด้านซ้ายและขวา  ระบบจะบันทึกแนวที่รถวิ่งไปข้างหน้า  หากหัวรถเบนออกนอกแนวที่ควรจะเป็น ระบบจะทำงานทันที โดยที่เครื่องยนต์จะส่งแรงบิดเพิ่มมายังพวงมาลัย   และเตือนด้วยการทำให้พวงมาลัยสั่นเพื่อให้คนขับดึงให้รถกลับเข้ามาในแนวที่ควรจะเป็น ระบบนี้ทำงานในขณะที่รถกำลังขับขี่ด้วยความเร็วระหว่าง 65-200 กม./ช.ม.

ระบบเซ็นเซอร์เรดาร์แจ้งเตือนเมื่อมียานพาหนะอยู่ในมุมอับของสายตา  (Enhanced Blind Spot Information system  BLIS  radar sensor) 
ระบบแจ้งเตือนเมื่อมียานพาหนะอยู่ในมุมอับของสายตารุ่นใหม่ ที่ใช้เรดาร์ที่อยู่มุมท้ายรถหลังกันชนช่วยในการติดตามและแจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีรถขับมาทางด้านหลังในจุดที่อับสายตาทั้งด้านซ้ายและขวาห่างไปในระยะ 70 เมตร  จากเดิม 9 เมตร จึงช่วยลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนเลนเรดาร์ที่มุมทั้งสองข้างของกันชนหลังจะตรวจจับว่ามีรถคันอื่นเข้ามาในรัศมีด้านหลังรถและด้านข้างของรถหรือไม่  และจะส่งสัญญาณเตือนโดยที่ไฟ LED ที่เสา A จะติดขึ้น
 
ระบบเปิด/ปิดไฟสูงอัตโนมัติใหม่ (Active High Beam)
เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้ไฟหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยระบบนี้จะเปิดเป็นไฟสูงตลอดเวลา แต่เมื่อมีรถสวนมา ระบบจะลดระดับแสงของไฟสูงให้พ้นจากสายตารถที่สวนมา ขณะเดียวกันก็ยังคงส่องสว่างเป็นไฟสูงในพื้นที่ส่วนอื่นๆ ที่ไม่รบกวนสายตารถที่อยู่ด้านหน้าหรือที่สวนมา ระบบดังกล่าวทำงานโดยใช้เทคโนโลยีสะท้อนแสงไฟที่ติดตั้งอยู่ในไฟหน้า ซึ่งจะปรับระดับความสว่างของแสงอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์  เมื่อพ้นไปแล้วก็จะปรับมาเป็นไฟสูงเหมือนเดิมเพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นทางข้างหน้าได้อย่างชัดเจนในยามค่ำคืน

ระบบเปิด/ปิดไฟสูงอัตโนมัติยังสามารถทำงานร่วมกับระบบไฟหน้าแบบหักเหตามพวงมาลัย (Active Bending Lights) รวมทั้งเซ็นเซอร์วัดน้ำฝนเพื่อปรับการทำงานของไฟและที่ปัดน้ำฝนซึ่งจะให้ทัศนวิสัยที่ดีที่สุดแก่ผู้ขับขี่ในสถานการณ์ต่างๆ

ใหม่ - ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถวิ่งเข้ามาทางด้านข้างขณะถอยหลังออกจากที่จอด Cross Traffic Alert ช่วยเป็นตาหลังให้คุณ เช่น จักรยานหรือคนเดินเท้าได้ แต่อาจจะมองไม่เห็นเป็นบางครั้งและในกรณีที่ระยะห่างจากวัตถุนั้นไม่มาก  ระบบจะทำงานตลอดเวลาที่วัตถุนั้นยังอยู่ในรัศมี โดยส่งสัญญาณเสียงและมีภาพกราฟิกเตือนที่หน้าปัดรถยนต์

Park Assist Pilot  ระบบช่วยในการจอดรถอัตโนมัติ
ระบบ Park Assist Pilot ถูกพัฒนาขึ้นเนื่องจากผลการวิจัยของ TNS ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยระดับโลกพบว่า หนึ่งในสามของผู้ขับขี่ในยุโรปมีปัญหาในการจอดขนานขอบทาง ส่วนในอังกฤษ สองในสามของผู้ขับขี่ระบุว่าการจอดขนานขอบทางเป็นเรื่องยาก ระบบ Park Assist Pilot ช่วยให้จอดแบบขนานขอบทางได้อย่างง่ายดาย โดยที่ระบบอัจฉริยะจะควบคุมการบังคับเลี้ยวของรถเอง ผู้ขับขี่เพียงกำหนดความเร็วและเกียร์เท่านั้น  ระบบนี้ทำงานโดยเซ็นเซอร์อัลตร้าโซนิคที่ติดตั้งไว้ที่ด้านหน้า หลัง และข้างรถ
อัตราโซนิคเซ็นเซอร์สำหรับช่วยจอดที่ติดตั้งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมทั้งเซ็นเซอร์บนกันชน 2 จุด ที่มองเห็น 90 องศาทำหน้าที่วัดระยะที่ว่างที่จะจอด เมื่อกดปุ่มที่กลางแผงหน้าปัด ระบบจะทำงาน หากระบบคำนวณว่ามีพื้นที่ว่างทางด้านข้างพอที่จะจอดรถ ระบบจะส่งสัญญาณบอกคนขับและแสดงข้อมูลบนหน้าจอว่าพื้นที่พร้อม รวมทั้งบอกคนขับด้วยว่าให้เปลี่ยนเป็นเกียร์อะไรก่อนที่จะหยุดชั่วครู่และเริ่มทำงานอีกครั้ง ระบบดังกล่าวจะควบคุมการบังคับเลี้ยวโดยอัตโนมัติ และผู้ขับขี่ต้องบังคับเบรกและคันเร่งเอง
Park Assist Pilot จะวัดระยะห่างของช่องว่าง หากมีความยาวเป็น 1.2 เท่าของความยาวรถ ระบบจะเตือนคนขับด้วยสัญญาณเสียง และแนะนำให้หยุดรถโดยแสดงข้อความบนหน้าปัด หากพื้นที่ว่างมีจำกัด ระบบจะแจ้งเตือนให้คนขับเดินหน้าหรือถอยหลังเพื่อให้จอดได้ง่ายขึ้น โดยแสดงข้อความและภาพบนหน้าปัดเพื่อให้คำแนะนำทีละขั้นตอนจนกว่ารถจะเข้าที่จอดได้เรียบร้อย และเมื่อจอดเสร็จแล้วระบบจะแจ้งให้ทราบด้วยสัญญาณเสียงและข้อความบนหน้าปัดอีกครั้ง  หากไม่ต้องการใช้ระบบ Park Assist Pilot  ก็สามารถจอดรถเองได้ โดยอาศัยเซ็นเซอร์ช่วยจอด (Park Assist Sensor)
ผู้ขับขี่สามารถสั่งให้ระบบ Park Assist Pilot ทำงานได้เมื่อใช้ความเร็วไม่เกิน 50 กม./ช.ม. อย่างไรก็ดี ระบบนี้จะทำงานเมื่อความเร็วของรถต่ำกว่า 30 กม./ช.ม. โดยจะส่งสัญญาณเตือนให้คนขับชะลอความเร็วลงก่อนที่ระบบจะทำงาน  

ระบบแจ้งเตือนป้ายจราจร (Road Sign Information) ช่วยแสดงป้ายจราจรสำคัญ
ระบบแจ้งเตือนป้ายจราจร จะแสดงป้ายสำคัญบนหน้าปัด และมาพร้อมกับสัญญาณเตือนระดับความเร็ว (Speed Alert) ที่จะแสดงภาพสัญลักษณ์ของป้ายจราจรบนมาตรวัดความเร็วหากขับขี่ด้วยความเร็วเกินกำหนด เพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติตามกฎจราจร และลดความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุไม่คาดฝัน เพราะในขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง ผู้ขับไม่สามารถอ่านป้ายต่างๆ ได้ทันตลอดเวลา องค์การ European Road Safety Observatory ได้ศึกษาและพบว่า 30% ของอุบัติเหตุที่ก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิต เกิดจากการใช้ความเร็วเกินกำหนด ส่วนองค์การ Swedish Road Administration ของสวีเดน ระบุว่า หากทุกคนขับรถไม่เร็วกว่ากำหนด จะสามารถรักษาชีวิตมนุษย์ได้ถึง 100-150 ชีวิตในแต่ละปี ระบบนี้จึงช่วยเป็นหูเป็นตา อ่านและแสดงสัญลักษณ์ที่เป็นสากลบนแผงหน้าปัด เช่น ป้ายจำกัดความเร็ว หรือ ป้ายห้ามแซง กล้องที่ติดตั้งที่หน้ารถจะสามารถตรวจจับป้ายจราจรที่ได้มาตรฐานของยุโรป  

ระบบเปิด/ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติเมื่อขับขี่เข้า/ออกจากที่มืด (Tunnel Detection)
ระบบนี้จะเปิดไฟหน้าโดยอัตโนมัติเมื่อรถเข้าสู่ที่มืดหรืออุโมงค์ และเมื่อออกจากอุโมงค์ก็จะปิดไฟหน้ารถหรือกลับมาสู่ตำแหน่งที่ตั้งไว้เดิมโดยอัตโนมัติเช่นกัน ระบบเปิด/ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติเมื่อขับขี่เข้า/ออกจากที่มืดทำงานโดยอาศัยเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งบนกระจกหน้าช่วยวัดแสงและคาดสถานการณ์ล่วงหน้าเพื่อสั่งการให้ระบบนี้ทำงาน   นอกจากระบบดังกล่าวจะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยให้แก่ผู้ขับขี่แล้ว ยังจะช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ เพราะตามนุษย์ต้องอาศัยเวลาในการปรับการมองเห็นเมื่อระดับของแสงเปลี่ยนไป

ระบบป้องกันการชนขณะขับขี่ความเร็วต่ำ (City Safety) ครอบคลุมความเร็วถึง 50 กม./ช.ม.
วอลโว่ V40 Cross Country ติดตั้งระบบป้องกันการชนขณะขับขี่ความเร็วต่ำแบบใหม่ที่สามารถทำงานในความเร็วไม่เกิน  50 กม./ช.ม. โดยระบบนี้ ติดตั้งเซ็นเซอร์แบบเลเซอร์ที่กระจกบังลมด้านบนในตำแหน่งเดียวกับกระจกมองหลัง รถจะหยุดตัวเองหากคนขับไม่แตะเบรก ขณะที่รถคันหน้าชะลอความเร็วหรือหยุด หรือเมื่อรถพุ่งเข้าหารถคันหน้าที่หยุดนิ่งอยู่กับที่ด้วยความเร็วสูงเกินไป ดังนั้นจึงช่วยลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุหากความเร็วของรถคันหน้ากับคันหลังต่างกันไม่ถึง 15 กม./ช.ม. และช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุหากความเร็วของรถทั้งสองคันต่างกันระหว่าง 15-50 กม./ช.ม. 


ระบบดังกล่าวถูกพัฒนาขึ้นเนื่องจากมีสถิติระบุว่าการชนท้ายคันหน้าในบริเวณที่มีการจราจรคับคั่งนั้น 75% เกิดขึ้นเมื่อผู้ขับขี่ใช้ความเร็วต่ำกว่า 30 กม./ช.ม. และอีก 50% มาจากการที่ผู้ขับขี่ไม่เหยียบเบรกทันเวลา จากข้อมูลดังกล่าว วอลโว่ได้พัฒนาระบบความปลอดภัยดังกล่าว  และหลังจากระบบป้องกันการชนขณะขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ ออกสู่ตลาดในปี 2554 บริษัทประกันภัยชั้นนำของสวีเดนระบุว่า รถยนต์วอลโว่ที่ติดตั้งระบบป้องกันการชนขณะขับขี่ด้วยความเร็วต่ำมีอัตราการชนท้ายคันหน้าน้อยกว่ารถอื่นๆ ถึง 20%
ระบบแจ้งเตือนเมื่อผู้ขับขี่แสดงอาการเหนื่อยล้า (Driver Alert Control) 
จากการศึกษาของ GDV ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยชั้นนำของเยอรมันพบว่า หนึ่งในสี่ของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนนถนนออโตบาห์น เกิดจากการที่ผู้ขับขี่เหนื่อยล้าเกินไป ขณะที่องค์กร Swedish Road Administration ระบุว่า หากผู้ขับขี่เหนื่อยล้าจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ถึง 30% ระบบเตือนผู้ขับขี่จึงถูกออกแบบมาเพื่อให้ติดตามดูว่าผู้ขับขี่เหนื่อยล้าหรือเสียสมาธิ ระบบนี้ทำงานโดยมีกล้องและเซ็นเซอร์หลายตัว พร้อมด้วยเครื่องควบคุม กล้องจะวัดระยะห่างของรถกับเส้นแบ่งเลน ส่วนเซ็นเซอร์พิเศษจะตรวจจับทิศทางการเคลื่อนที่ของรถยนต์  ระบบควบคุมจะบันทึกข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและคำนวณว่าผู้ขับขี่เสียสมาธิหรือสูญเสียการควบคุมรถหรือไม่ แล้วจะส่งสัญญาณเสียงเตือน พร้อมด้วยข้อความบนหน้าปัดโดยแสดงภาพถ้วยกาแฟเพื่อแนะนำให้ผู้ขับขี่นั้นหยุดพักจนกว่าจะดีขึ้น


เทคโนโลยีความปลอดภัยเต็มพิกัด- ครั้งแรกกับถุงลมนิรภัยปกป้องเข่า
วอลโว่ V40 Cross Country ใหม่ประกอบด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยชั้นนำของโลกมากมาย อาทิ โครงสร้างความปลอดภัยของตัวถังที่มีทั้งส่วนที่สามารถยุบตัวเพื่อดูดซับแรงกระแทกในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ และเหล็กเกรดต่างๆ ที่ให้การปกป้องผู้โดยสารภายในตัวรถอย่างมีประสิทธิภาพ  
นอกจากนี้ ด้านคนขับวอลโว่ได้ติดตั้งถุงลมนิรภัยป้องกันหัวเข่าสำหรับผู้ขับขี่ไว้ที่เหนือแป้นเบรกและคันเร่ง รวมทั้งยังมีถุงลมนิรภัยในจุดอื่นอีกด้วย เช่น ถุงลมนิรภัยแบบสองจังหวะสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ถุงลมนิรภัยที่ติดตั้งด้านข้างของพนักพิงหลังสำหรับที่นั่งด้านหน้าที่รองรับสีข้างของคนขับและผู้โดยสาร  ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (Roll Over Protection System) ที่ประกอบด้วยโครงสร้างตัวถังที่แข็งแรง เข็มขัดนิรภัยแบบปรับแรงดึงได้ และม่านนิรภัยทั้งสองฝั่งที่ติดตั้งยาวตลอดจากเสา A ไปยังเสา C เพื่อให้การปกป้องเมื่อเกิดการชนด้านหน้า ด้านข้าง หรือเมื่อรถพลิกคว่ำ เซ็นเซอร์ตรวจจับความเร็วที่เก็บข้อมูลและประมวลผลก่อนการชนเพื่อปรับให้ถุงลมนิรภัยและเข็มขัดนิรภัยทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเพื่อการปกป้องสูงสุดเมื่อเกิดการชนทางด้านหน้าในระดับรุนแรงปานกลางหรือน้อย นอกจากนี้ เบาะที่นั่งสำหรับเด็กของ ISOFIX ที่ติดตั้งเป็นมาตรฐานในรถยนต์วอลโว่ยังให้การปกป้องสูงสุดสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 10 ขวบ
SPECIFICATION VOLVO V40 Cross Country






วอลโว่ V40 Cross Country เปิดตัวด้วยราคา 1,920,000 บาท พร้อมการรับประกัน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่อย่างใดถึงก่อน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-319-9820 หรือทางเว็บไซต์ http://www.volvocars.com/th/Pages/default.aspx
ดูรายละเอียด Volvo V40 Cross Country 

แท็กที่เกี่ยวข้อง


ข่าวและอีเว้นท์รถยนต์ล่าสุด




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)