ได้เวลา "เคลียร์ห้อง" ของที่เราไม่ใช้ บริจาคที่ไหนได้บ้าง?

icon 30 ส.ค. 64 icon 4,416
ได้เวลา "เคลียร์ห้อง" ของที่เราไม่ใช้ บริจาคที่ไหนได้บ้าง?

การทิ้งดีต่อเราแค่ไหน? แล้วอะไรบ้าง? ที่ควรตัดใจทิ้ง 

ทำไมต้องจัดห้องใหม่? อาจจะต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า วันนี้เราอยากกลับคอนโดหรือเปล่า เรามักจะหาเหตุผลในการออกไปอยู่ที่อื่นมากกว่าคอนโดหรือไม่? เรากำลังปิดกั้นไม่ค่อยอยากให้ใครมาเจอห้องเราใช่มั้ย? นั่นเป็นสัญญาณเตือนขึ้นขีดแดงแล้วค่ะว่า "คุณควรจัดห้องใหม่" เชื่อมั้ยคะว่า การจัดห้องใหม่ เปลี่ยนนิสัยเราได้! เมื่อก่อนเราใช้ชีวิตทั่วไป ตื่นเช้าไปทำงาน กลับมาค่ำ ๆ ทำอาหารทานข้าว อาบน้ำและนอน ชีวิตวนเวียนอยู่อย่างนี้ หลายคนไม่ค่อยใส่ใจกับจัดเก็บของในคอนโดเท่าไหร่ พอมาในช่วง Work From Home เราอยู่บ้านแทบ 100% สั่งอาหาร ช้อปปิ้งออนไลน์ ผลคือ กล่องพัสดุท่วมห้อง ของบางอย่างไม่ได้จำเป็นแต่ก็ซื้อมาเพราะใครต่อใครบอกกันว่า "ของมันต้องมี!" เจ็บมาเยอะกับคำ ๆ นี้ใช่มั้ยคะ? 
มาเริ่มต้นจัดการกับของในห้องกันดีกว่าค่ะ หาวันว่างสักวันสองวันหรือเดือนสองเดือนก็ได้ ขอให้เป็นการเซ็ตวันหรือเดดไลน์ให้ชัดเจน รื้อของออกมาดู กางออกมาเลือก ว่าอะไรที่ยังสำคัญอยู่ อะไรที่สำคัญน้อยลง และอะไรที่ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว นี่คือหนึ่งในวิธีจัดห้องแบบฉบับของ "คนโดะ มาริเอะ" ที่ไม่ใช่แค่การจัดห้องธรรมดา แต่เป็นการเปลี่ยน Mind set ในการใช้ชีวิตของเราไปด้วยเลย 
อะไรบ้างที่ควรตัดใจทิ้ง? ให้ตั้งคำถามว่า "ของชิ้นนี้ยัง จุดประกายความสุข (Spark Joy) ให้เราอยู่มั้ย?" 
ถ้าคำตอบใจตอนนี้คือ "ไม่" ก็ตัดใจทิ้งได้เลย
  • ของที่สภาพดี แต่เก็บไว้นานเป็นปี ๆ แล้ว แต่ไม่เคยเอาออกมาใช้
  • ของที่ได้รับจากคนที่เลิกรากันไป แล้วคงเหลือไว้แต่ความรู้สึกเทา ๆ 
  • ของที่ระลึกจากการไปท่องเที่ยวในที่ต่าง ๆ ในอดีต ซึ่งเราพิจารณาแล้วว่า ทิ้งไปก็ไม่เป็นไรนะ
  • ของขวัญที่ได้รับจากเพื่อนหรือคนอื่นในอดีต ซึ่งเราไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว อาจมีคุณค่าทางจิตใจ แต่จะมีประโยชน์มากกว่าถ้าของอยู่ในมือของคนที่ต้องการใช้

เพราะ "การจัดบ้านหรือจัดห้อง" ถือเป็นการจัดการกับอดีตของเรา และยังเป็นการจัดการกับความกังวลใจในอนาคตด้วย และผลลัพธ์ที่ คนโดะ มาริเอะ ค้นพบคือ การจัดห้องหรือจัดบ้านเปลี่ยน Mind set ในการใช้ชีวิต และช่วยให้เราตัดสินใจเก่งขึ้นมากด้วย เพียงเพราะเรากล้าที่จะเก็บและกล้าที่จะทิ้งของของเราไป ซึ่งสิ่งอยากบอกทุกคนในวันนี้คือ "การทิ้ง" เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเปลี่ยน Mind set ในการใช้ชีวิตใหม่ เรามาเริ่มทิ้งของที่ไม่ได้ใช้ แล้วจะทิ้งยังไงให้เกิดประโยชน์ที่สุด ส่งต่อให้กับคนที่ด้อยโอกาสกับโครงการดี ๆ เหล่านี้กันเลยดีกว่าค่ะ
ส่งต่อ "เครื่องครัวเหลือใช้ ของกินไม่ทัน" ให้โครงการครัวรักษ์อาหาร 

ช่วงเวลานี้มาถึงจุดที่คนไม่มีจะกินจริงๆแล้ว คนที่เคยมีงาน เคยกำลังจะได้มีโอกาส คนที่ไม่ได้จัดว่าอยู่ในกลุ่มเปราะบางตอนนี้ลำบากกันหมด โครงการครัวรักษ์อาหารจึงชวนทุกคนมาส่งต่ออาหารคุณภาพดีที่กินไม่ทัน หรือถูกลืมอยู่ในบ้านและที่ทำงานให้กับชุมชนที่กำลังขาดแคลนอาหาร ดีกว่าต้องถูกทิ้งไปให้หมดอายุไปเฉยๆ  
ซึ่งโครงการนี้ดำเนินงานโดย มูลนิธิ สโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่มีเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาขยะอาหาร และสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงอาหารภายในประเทศไทยโดยการใช้ระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพเข้าไปรับ อาหารไม่สามารถนำไปขายได้แล้ว อย่างอาหารที่หน้าตาไม่สวย หรือใกล้ถึงวันหมดอายุ จากซูเปอร์มาร์เก็ต โรงแรม ร้านอาหาร หรือโรงงานผลิตอาหาร เพื่อนำไปส่งต่อให้กับชุมชนรายได้ต่ำที่มีข้อจำกัดในการได้รับอาหารที่ดีและเพียงพอในแต่ละวัน 
ช่องทางบริจาค
บริจาคได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องครัว อุปกรณ์ครัว ทัพพี ตะหลิว กระทะ หม้อต้ม หม้อนึ่ง ถ้วย ชาม อาหารแห้ง เครื่องดื่ม เครื่องปรุง ขนมขบเคี้ยวที่ยังอยู่ในบรรจุภัณฑ์สมบูรณ์และยังไม่ถูกรับประทาน หรือว่าจะเป็นอาหารกระป๋องที่ยังอยู่ในสภาพดี อย่างข้าวสาร น้ำดื่ม ที่เราซื้อตุนไว้ในช่วงโควิดแล้วกินไม่ทัน ไป Thai SOS แล้วเราจะนำไปส่งต่อให้ชุมชนเปราะบางที่ต้องการความช่วยเหลือ
SOS Thailand ตึก FREC BANGKOK เลขที่ 77 ถนนนครสวรรค์ เเขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100 แผนที่ https://goo.gl/maps/pV78pbKs6q5T2DT66
ติดต่อประสานงาน 0909-724-352 (คุณก้อง) หรือ 087-159-7948 (คุณกุ๊ก)
หรือใครอยากสมทบเงินช่วยเหลือ เพื่อสร้างครัวรักษ์อาหาร ครัวชุมชนของทีม SOS โอนเข้ามูลนิธิโดยตรงได้เลย มูลนิธิสโกลาร์ส ออฟ ซัสทีแนนซ์ ธนาคารไทยพาณิชย์ SCB เลขบัญชี 030-273178-9

อะไรไม่ได้ใช้ ส่งให้มูลนิธิกระจกเงา 

มูลนิธิกระจกเงา เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาสังคมหลาย ๆ ด้าน เช่น งานด้านสิทธิมนุษยชน งานด้านสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศ งานพัฒนาอาสาสมัครและการแบ่งปันทรัพยากร เป็นต้น ทางมูลนิธิเปิดรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ด้อยโอกาสมาโดยตลอด ซึ่งเราสามารถบริจาคได้หลายอย่างมาก ได้แก่
  • เครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวี ตู้เย็น เครื่องเสียง เครื่องซักผ้า ไม่ว่าจะเป็นของเก่าหรือของใหม่ ของเสียไม่ใช้แล้วก็บริจาคได้
  • เฟอร์นิเจอร์ หรืออุปกรณ์สำนักงาน อันนี้ขอแบบสภาพดีหน่อย พร้อมใช้งานจะดีกว่า
  • อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์, คีย์บอร์ด, โทรศัพท์, Laptop หรือเมาส์ก็ได้หมด
  • อุปกรณ์การเรียน และเครื่องเขียนต่างๆ เช่น สมุด หนังสือ นิตยสาร นิทาน หรือจะเป็นกระดาษที่ใช้แล้วก็ได้นะ 
  • ของใช้ทั่วไปก็ได้หมด เช่น เสื้อผ้า, รองเท้า, กระเป๋า ฯลฯ
ช่องทางบริจาค
ศูนย์รับบริจาค ผู้บริจาคสามารถเดินทางมาบริจาคได้ที่ มูลนิธิกระจกเงา เลขที่ 191 ซอยวิภาวดี62 (แยก4-6) ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 (ปักหมุดมูลนิธิกระจกเงา)
ส่งพัสดุ 
  • ผู้บริจาคสามารถส่งพัสดุมาได้ที่ มูลนิธิกระจกเงา เลขที่ 191 ซอยวิภาวดี62 (แยก4-6) ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210 (โทร 061-9091840)
  • ส่งพัสดุฟรีผ่าน Nim Express ส่งฟรีตั้งแต่ 15 ก.พ.-30 ธ.ค. 2564 รายละเอียดสอบถามโทร 061-9091840
บริการรับของบริจาคถึงบ้าน โดยทีมศูนย์รับบริจาค มูลนิธิกระจกเงา (พื้นที่ กทม.ปริมณฑล) 
*เงื่อนไขในกรณีออกไปรับถึงบ้าน กรณีเป็นหนังสือขั้นต่ำ 2,000 เล่ม, เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ขั้นต่ำ 10 ชุด (*ไม่คิดค่าบริการออกไปรับ) และ กรณีเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครืองแต่งกาย และอื่นๆ (*คิดค่าบริการออกไปรับตามระยะทาง)
สำหรับใครที่อยากบริจาคเสื้อผ้าทั่วไป ชุดนักเรียน นักศึกษา ผ้าห่ม ผ้านวม ตุ๊กตา และหมอน แต่ไม่สะดวกซักเอง ช่วงนี้ Otteri Otteri WASH & DRY มีโครงการ Wash & Share "ซักเพื่อให้" เราสามารถนำผ้าไปวางที่กล่องรับบริจาคในร้านสะดวกซักที่เข้าร่วมโครงการได้เลย ทางร้านจะซักและอบฟรี เพื่อส่งต่อให้มูลนิธิกระจกเงา และกระจายต่อไปยังหน่วยงานที่ร่วมมือ 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ, เชียงราย, เชียงใหม่, อุบลราชธานี และสงขลา โดยกิจกรรมมีตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2564 - 15 กันยายน 2564 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้เราทิ้งของที่เราไม่ได้ใช้ ช่วยทำให้ห้องโล่งขึ้น แถมยังได้ส่งต่อของไปให้มีประโยชน์ต่อผู้อื่นได้อีก 
ช่องทางการรับบริจาคกับ Otteri Otteri WASH & DRY 
เช็กสาขาที่เข้าร่วมโครงการนี้ https://web.facebook.com/otteriwashdry
ปันกัน ปันให้น้องผู้ด้อยโอกาส

ปันกัน เป็น platform ในการสร้างการมีส่วนร่วมของคนในสังคมไทย โดยเปิดรับบริจาคสิ่งของสภาพดีที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้วเพื่อเป็นสินค้าแบ่งปันในร้าน นำเงินที่ได้ไปเป็นทุนเพื่อสร้างประโยชน์ และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นแก่สังคม ถือเป็นโครงการที่เหมาะกับภารกิจเคลียร์ห้องของเราสุด ๆ เพราะรับบริจาคทั้งข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้า หนังสือ ตุ๊กตาที่ไม่ได้ใช้แล้ว โดยเค้าจะเปิดรับบริจาคหลากหลายช่องทาง ทั้งหน้าร้านตามห้างสรรพสินค้า มีรถไปรับของถึงบ้าน มีการทำกิจกรรมตั้งกล่องรับบริจาค รวมถึงส่งไปรษณีย์ไปก็ได้หมด รวมของเข้าไปที่ส่วนกลาง คัดแยกของแล้วนำไปจำหน่ายเพื่อมอบเป็นทุนการศึกษาให้เด็กที่ขาดโอกาส ซึ่งในช่วงโควิด-19 ระบาดนี้เราอาจจะต้องทำความสะอาดเสื้อผ้าและสิ่งของที่เราจะนำไปบริจาค เช็กสภาพว่า พอใช้งานได้หรือไม่ เพื่อให้ของที่เราส่งไปเกิดประโยชน์สูงสุดกับน้องๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือนะคะ 
ช่องทางรับบริจาค
  • ช่องทางที่ 1 ส่งพัสดุไปรษณีย์หรือขนส่งอื่นๆ มาที่ โครงการร้านปันกัน เลขที่ 7 ซอยอ่อนนุช 90 แขวง/เขต ประเวศ กรุงเทพฯ 10250 โทร 081-903-6639
  • ช่องทางที่ 2 นำสิ่งของสภาพดีมาบริจาคด้วยตัวเองที่คลังสินค้าแบ่งปัน ซอยอ่อนนุช 90 ทำการวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 11.00 -15.00 น. พิกัด https://goo.gl/maps/aQVV2cPuxPVxnKvQ7

ปิ่นโตไม่ใช้...เราขอนะ!

ปิ่นโตไม่ใช้...เราขอนะ! โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่ารักมาก นอกจากจะช่วยระบายของในครัวเราและให้พื้นที่ครัวเราโล่งขึ้นแล้ว ยังได้ช่วยเหลือคนอื่นอีกด้วย โดยทาง Chula Zero Waste ร่วมกับ Food For Fighters เปิดรับบริจาคปิ่นโตและกล่องข้าวพลาสติกใช้ซ้ำ เพื่อส่งต่อให้ชุมชนชุมชนวัดโสมนัสและชุมชนจักรพรรดิพงษ์ในย่านนางเลิ้งใช้ใส่อาหารที่ได้รับจากครัวกลางของชุมชน พิสูจน์ให้เห็นว่าการช่วยชุมชนและการลดขยะจากกล่องอาหาร ภาชนะ ช้อนส้อมแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งในสถานการณ์ Covid-19 ก็ทำได้! จะเป็นปิ่นโตหรือกล่องข้าวรูปแบบไหนก็ได้ ขอแค่เป็นของที่มีอยู่แล้วที่บ้าน แต่อาจจะเก็บไว้ค้างอยู่ในตู้ ไม่ค่อยได้เอาออกมาใช้งาน หรือมีเยอะจนใช้ไม่หมด อยู่ในสภาพดี แข็งแรง ใช้ซ้ำได้นานๆ ล้างทำความสะอาดได้ แต่ทางโครงการไม่ได้รับกล่องข้าว delivery หรือ single-use plastic นะคะ
ช่องทางรับบริจาค
  • เขียนแปะหน้ากล่องว่า "บริจาคปิ่นโต/กล่องข้าว" แล้วส่งปิ่นโต/กล่องข้าวไปที่ ศูนย์ข้าวเพื่อหมอ Food for Fighters (FFF) สมาคมนิสิตเก่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทร. 02-016-9910
  • หรือใครอยากสนับสนุนเป็นเงินก็สามารถ โอนเงินเข้าเลขที่บัญชี 109-249780-3 มูลนิธิคุวานันท์ ธนาคารไทยพาณิชย์ (หักลดหย่อนภาษีได้) และระบุตรงหมายเหตุว่า "ปิ่นโต" หรือ "PintoFighter" แล้วส่งหลักฐานการโอนเงินมาที่ line ID:@silvervoyage


ขอบคุณข้อมูลจาก : https://thestandard.cohttps://wasteorshare.com

แท็กที่เกี่ยวข้อง แต่งบ้าน work from home อยู่บ้าน เคลียร์ห้อง บริจาคของ
Condo Guru
เขียนโดย เช็คราคา.คอม Condo Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่



icon gotop

เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)