บริษัท ยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด ได้กำเนิดขึ้นในวันที่ 1 กรกฎาคม 2498 ในปีนี้จึงเป็นปีครบรอบที่ 70 ปี ของการก่อตั้งบริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ กับจุดเริ่มเรื่องราวของ
ยามาฮ่า โดย
มร.เกนอิจิ คาวาคามิ ประธานบริษัท นิปปอน กักกิ รุ่นที่ 4 บริษัทผู้ผลิตเครื่องดนตรีเบอร์ 1 ของประเทศญี่ปุ่นที่มีประวัติมาอย่างยาวนานจากการก่อนตั้งของ
มร.โทรากุสึ ยามาฮ่า ในการผลิตออแกน และเปียนโน ที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น และได้ก่อตั้งบริษัท นิปปอน กักกิ ขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2430
จนผลัดสู่การบริหารงานของ มร.เกนอิจิ คาวาคามิ ที่มีความสนใจในการมองหาโอกาสทางธุรกิจในอนาคต และสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการทำงานอยู่เสมอ ด้วยความชื่อชอบ และหลงไหลในรถมอเตอร์ไซค์ชนิดที่ว่าเข้าเส้น จากความเชื่อนั้น เขาจึงตัดสินใจเข้าสู่ธุรกิจรถจักรยานยนต์ ในฐานะกิจการใหม่ ควบคู่ไปกับธุรกิจการผลิตเครื่องดนตรี
เมื่อโลกเข้าสู่สภาวะสงคราม จนก่อตัวเป็นสงครามโลกครั้งที่ 2 บริษัท ห้างร้านต่างๆ ภายในประเทศญี่ปุ่นได้ถูกรัฐบาลบังคับให้เปลี่ยแปลงการผลิตทุกอุตสหกรรมให้เป็นการผลิตยุธภัณฑ์ทางการทหาร ซึ่งในเวลานั้น บริษัท นิปปอน กักกิ ได้เป็นผู้เป็นผู้ผลิตใบพัดไม้ และโลหะสำหรับเครื่องบิน การเข้าสู่ธุรกิจรถจักรยานยนต์จึงเป็นส่วนหนึ่งในการประยุกต์ใช้อุปกรณ์เครื่องจักรกลของ บริษัทให้เกิดประโยชน์ในช่วงเวลาที่บ้านเมืองปกติสุขหลังจากสภาวะสงครามโลกได้สิ้นสุดลง
.jpg.webp)
ในช่วงเวลานั้น มร.เกนอิจิ คาวาคามิ จึงได้ตัดสินใจเดินหน้าเข้าสู่ธุรกิจใหม่อย่างเต็มตัวจากที่ได้ค้นคว้า และประเมินความเป็นไปได้ของธุรกิจใหม่ ด้วยการสร้างประโยชน์อันสูงสุดจากเครื่องจักรผลิตใบพัดเครื่องบินที่มีอยู่ ประกอบกับการเปลี่ยนแปลระบบการออกใบอนุญาตขับขี่ครั้งใหญ่ โดยมีแนวโน้มว่าจะมีผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในการเดินทางกันมากขึ้น ซึ่งในขณะนั้นได้มีบริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ภายในประเทศญี่ปุ่นมากถึง 180 ราย ที่เปิดตัวธุรกิตมาก่อน แต่ นิปปอน กักกิ ได้เดินเกมด้วยวิศัยทัศน์ และการประเมินความสามารถทางเทคโนโลยีที่มีอยู่ของบริษัท จึงไม่ได้เพียงแต่วางเป้ามหายไว้เป็นเพียงแบรนด์ชั้นนำภายในประเทศ หากแต่บริษัทนั้นตั้งเป้าหมายไปเป็นแบรนด์ระดับโลกให้ได้ พร้อมกับคำประกาศไว้ว่า "สิ่งใดที่ไม่ได้มีคุณภาพระดับโลก สิ่งนั้นไม่ถือว่าเป็นสินค้า" และ "ถ้าจะทำอะไรก็ต้องเป็นที่สุด" นี่เป็นจุดเริ่มต้นของความท้าทายของธุรกิจใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น ซึ่งเป็นความทะเยอทะยานอย่างยิ่งใหญ่ และน่าจับตามองในเวทีโลก
.jpg.webp)
.jpg.webp)
การเข้าสู่ธุรกิจรถจักรยานยนต์นั้น บริษัท นิปปอน กักกิ ได้ดำเนินงานเป็นโปรเจคลับ โดยมีการดำเนินการ และพัฒนาด้วยบุคคลากรทีมีจำนวนจำกัด โดยมี มร.เกนอิจิ คาวาคามิ และคณะวิศวกรผู้บุกเบิก ได้ร่วมกันผลิตรถจักรยานยนต์คันแรกออกมาจากการถอดแบบของรถจักรยานยนต์จากเยอรมันตะวันตก ที่ใช้ในช่วงสงครามโลกอย่าง DKW RT125 จนเป็นต้นกำเนิดของจักรยานยนต์รุ่นแรกของยามาฮ่าในรุ่น YA-1 และทีมพัฒนายังคงมุ่งมั่นทดสอบ เจ้า YA-1 คันนี้อย่างต่อเนื่อง และได้ทำการเปิดตัวขึ้นอย่างเป็นทางการกับเครื่องยนต์ 2 จังหวะ 1 ลูกสูบ ขนาด 125 ซีซี และพัฒนาเป็นเกียร์แบบ 4 สปีท เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศที่เป็นเนินเขาของญี่ปุ่นได้ดียิ่งขึ้น ระบบสตาร์ทด้วยเท้า (คิกสตาร์ท) เป็นพื้นฐานเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน และที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร คือคันเกียร์ และคันสตาร์ทเท้าถูกออกแบบให้อยู่บนแกนเดียวกัน ในรูปแบบการจัดวางอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อกับสีสันที่ล้ำสมัย และโดดเด่นจนเป็นที่กล่าวขานไปทั่วประเทศกับการออกแบบสีของรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า YA-1 ด้วยสีแดงเลือดหมู ตัดกับสีขาวของงาช้าง เป็นทูโทนที่โดดเด่นจึงเป็นที่นิยมอย่างมาก (ซึ่งในสมัยนั้นรถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นจะเน้นการใช้งานในลักษณะทั่วไป และใช้ขนส่งสินค้า จึงนิยมออกแบบตัวรถเป็นสีดำ หรือสีเข้ม ที่ช่วยซ่อนคราบสกปรก) และด้วยเหตุนี้ ตัวรถที่เพรียวบาง สีสันสดใสของ YA-1 จึงโดดเด่นตัดกับบรรยากาศของเมืองที่ดูไร้สีสัน และยังคงทิ้งร่องรอยจากสงคราม จนผู้คนพากันเรียกกันว่า " Akatombo " หรือ "แมลงปอแดง"
.jpg.webp)
โดยยามาฮ่า YA-1 ได้ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม พ.ศ. 2498 ทว่าหลังจากนั้นในวันที่ 1 กรกฎาคม บริษัท ยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด ได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการ ในปีเดียวกันนั้นเอง โดยเป็นการแยกธุรกิจรถจักรยานยนต์ออกจาก บริษัท นิปปอน กักกิ และก่อตั้งกิจการเป็นอิสระ โดยในปีแรกของการก่อตั้ง ยามาฮ่า มอเตอร์ ได้ครองตำแหน่งสูงสุดในการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และแม้จะเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ที่ใหม่ที่สุด ชื่อเสียงของบริษัท ได้แพร่กระจายไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาที่ฐานเงินเดือนของบัณฑิตจบใหม่ในประเทศญี่ปุ่น เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10,000 เยน แต่ราคาของ YA-1 ซึ่งสูงถึง 138,000 เยน ถือเป็นยานยนต์ที่มีราคาสูงเกินกว่าที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่จะเข้าถึงได้ แต่อย่างไรก็ตาม YA-1 กลับประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และสามารถทำยอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้นถึง 11,000 คัน ตลอดระยะเวลาสามปีของการผลิต
และนี่คือต้นกำเนินอันยิ่งใหญ่ของ “ยามาฮ่า” แบรนด์รถจักรยานยนต์ที่มีต้นกำเนินมาถึง 70 ปี กับการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของคุณภาพของสิงค้า เทคโนโลยีใหม่ๆ ส่งต่อมายังปัจจุบัน