รูดบัตรเครดิตต่างประเทศ: รู้มั้ยแต่ละบัตรชาร์จค่าธรรมเนียมกันเท่าไร?

icon 31 ส.ค. 66 icon 401,194
รูดบัตรเครดิตต่างประเทศ: รู้มั้ยแต่ละบัตรชาร์จค่าธรรมเนียมกันเท่าไร?
เชื่อว่าการได้ไปท่องเที่ยวเปิดหูเปิดตาที่ต่างประเทศนั้นเป็นความฝัน และความชื่นชอบของใครหลายๆ คน ซึ่งในการไปเที่ยวหรือช้อปปิ้งในต่างแดน หลายๆ คนก็นิยมใช้ "บัตรเครดิต" ซะส่วนใหญ่ เพราะนอกจากจะไม่ต้องพกเงินสดเยอะๆ แล้ว ยังจะได้รับโปรโมชั่นดีๆ จากการรูดบัตรเครดิตอีกด้วย ปกติเวลาเราใช้บัตรเครดิตที่ต่างประเทศ จะโดนชาร์จค่าธรรมเนียมที่เรียกว่า "ค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน" ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่า เอ๊ะ.. โดนแบบนี้รวมไปรวมมาจะซื้อของได้ราคาถูกหรือแพงกว่าที่เมืองไทยกันแน่? วันนี้เราก็ได้รวบรวมข้อมูลมาให้เพื่อนๆ ดูกันแล้วว่า แต่ละธนาคารชาร์จ "ค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน" กันเท่าไหร่บ้าง? พร้อมกับวิธีการคำนวณง่ายๆ ซึ่งจะทำให้เราคำนวณได้เองคร่าวๆ ว่า ตกลงที่เราใช้บัตรเครดิตซื้อของที่เมืองนอกนั้น จริงๆ แล้วจะออกมาถูกหรือแพงแค่ไหน ถ้าหากต้องบวกค่าธรรมเนียมพวกนี้เข้าไปด้วยค่ะ

สูตรการคำนวณเป็นเงินบาทเวลารูดบัตรเครดิตที่ต่างประเทศ พร้อมตัวอย่าง

เวลาเราใช้บัตรเครดิตไปรูดซื้อของที่ต่างประเทศ เราจะไม่ได้เสียแค่เงินค่าซื้อของเท่านั้น เราจะต้องเสียค่าธรรมเนียมความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงินด้วย ซึ่งทุกธนาคารจะชาร์จพวกนี้หมด เพราะถือว่าธนาคารก็ต้องลดความเสี่ยงในเรื่องความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่ขึ้นๆ ลงๆ ทุกวันด้วยเช่นกัน ส่วนสูตรการคำนวณคร่าวๆ จะเป็นไปตามตารางข้างล่างนี้ค่ะ 
 
ขั้นตอนการคำนวณ : รูดบัตรเครดิตต่างประเทศจะคิดออกมาเป็น "เงินบาท" เท่าไร ?
1.  รูดบัตรฯ เป็นเงินตราต่างประเทศอะไรก็ตาม ถ้าไม่ได้รูดเป็น US Dollars จะต้องนำไปแปลงเป็น US Dollars ก่อนเสมอ
2.  โดยการแปลงเป็น US Dollars ให้ใช้อัตราแลกเปลี่ยนตามแบรนด์บัตรเครดิตที่เรารูดไป โดยดูอัตราแลกเปลี่ยนได้จากเว็บไซต์เหล่านี้
VISA CARDMASTERCARDUNION PAYJCBAMEX
3. นำจำนวนเงินที่รูด ไปคูณกับอัตราแลกเปลี่ยน (USD-Baht) ที่ได้จากเว็บไซต์ตามข้อ 2 เพื่อให้ตัวเลขออกมาเป็นเงินบาท
4. หลังจากนั้น ให้นำจำนวนเงินที่ได้จากข้อ 3 ไปคูณกับ "ค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน" (%) ตามที่แต่ละธนาคารกำหนด โดยมีรายละเอียดสำหรับแต่ละธนาคารในตารางด้านล่าง เพื่อให้ได้ตัวเลขค่าธรรมเนียมความเสี่ยง
5. นำจำนวนเงินที่ได้ในข้อ 3 รวมกับที่ได้ในข้อ 4 จะเท่ากับจำนวนเงินทั้งหมดที่ถือว่าเรารูดบัตรเครดิตเป็นเงินบาทไป และเราต้องจ่ายคืนให้แก่ธนาคาร
 
ตัวอย่างวิธีการคำนวณ : นาย A ใช้บัตรเครดิต KTC JCB เพื่อรูดซื้อของที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเงินจำนวน 25,000 เยน ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 นาย A จะต้องชำระเงินให้กับบริษัท บัตรกรุงไทย (KTC) เป็นเงินไทยบาทเท่าไร ณ วันที่บริษัทฯ เรียกเก็บ?
 
วิธีการคำนวณ
  • Step 1 และ Step 2 : แปลงค่าสกุลเงิน JPY เป็นสกุลเงิน USD ก่อน โดยดูจากตารางใน website ของ JCB โดยเลือกดูอัตราแลกเปลี่ยนตามวันที่ที่เราทำรายการ (31/07/2566)
    อัตราแลกเปลี่ยน USD 1 = JPY 141.024 ดังนั้น JPY 25,000 จะเท่ากับ 25,000 หาร 141.024 = USD 177.275
  • Step 3 : อัตราแลกเปลี่ยน USD 1 = THB 34.28 ดังนั้น USD 177.275 จะเท่ากับ 177.275 X 34.28 = 6,076.987 บาท
  • Step 4 : บริษัทบัตรกรุงไทย (KTC) กำหนดค่าความเสี่ยงฯ อยู่ที่ไม่เกิน 2.0% ดังนั้น นำ 6,076.987 x 2% = 121.539 บาท
  • Step 5 : ยอดค่าใช้จ่ายผ่านบัตร KTC JCB จำนวนเงิน 25,000 เยน จะถูกเรียกเก็บเป็นเงินไทยทั้งหมด 6,076.987 + 121.539 = 6,198.526 บาท โดยประมาณ

ตารางแสดง "ค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน" ของบัตรเครดิตแต่ละสถาบันการเงิน

"ค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน" ของแต่ละธนาคาร หรือสถาบันการเงินในไทย จะเป็นไปตามตารางข้างล่างนี้ค่ะ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่าง 2.0% - 2.5% ของยอดค่าใช้จ่าย แต่บางช่วงเวลา บางธนาคารก็จะมีโปรโมชันส่วนลดค่าธรรมเนียมความเสี่ยงฯ ให้เราได้ช้อปปิ้งกันแบบชิลๆ ค่ะ ซึ่งก็ต้องคอยติดตามโปรโมชันของแต่ละแบงก์กันดู ส่วนค่าธรรมเนียมความเสี่ยงฯ หลักๆ จะเป็นดังตารางด้านล่างนี้
 
ธนาคาร/สถาบันการเงิน ค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน (ปกติ)
​บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ
ไม่เกิน 2.5% ของยอดค่าใช้จ่าย
​บัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย
ไม่เกิน 2.5% ของยอดค่าใช้จ่าย
บัตรเครดิต​ธนาคารซิตี้แบงก์    
ไม่เกิน 2.5% ของยอดค่าใช้จ่าย
​บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน
ไม่เกิน 2.5% ของยอดค่าใช้จ่าย
บัตรเครดิตธนาคารทหารไทยธนชาต
ไม่เกิน 2.5% ของยอดค่าใช้จ่าย
บัตรเครดิต โลตัส
ไม่เกิน 2.5% ของยอดค่าใช้จ่าย
บัตรเครดิต​ธนาคารไทยพาณิชย์
ไม่เกิน 2.5% ของยอดค่าใช้จ่าย
บัตรเครดิตคาร์ด เอ็กซ์
ไม่เกิน 2.5% ของยอดค่าใช้จ่าย
บัตรเครดิต​แบงค์ออฟไชน่า
ไม่เกิน 2.5% ของยอดค่าใช้จ่าย
​บัตรกรุงไทย
ไม่เกิน 2.0% ของยอดค่าใช้จ่าย
​บัตรกรุงศรีอยุธยา
ไม่เกิน 2.5% ของยอดค่าใช้จ่าย
บัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์
ไม่เกิน 2.5% ของยอดค่าใช้จ่าย
บัตรเครดิต​ธนาคารยูโอบี
ไม่เกิน 2.5% ของยอดค่าใช้จ่าย
บัตรเครดิต​อเมริกัน เอ็กซ์เพรส
ไม่เกิน 2.5% ของยอดค่าใช้จ่าย
​บัตรเครดิตธนาคารออมสิน
ไม่เกิน 2.5% ของยอดค่าใช้จ่าย
​บัตรเครดิตอิออน
ไม่เกิน 2.5% ของยอดค่าใช้จ่าย
​บัตรเครดิตธนาคารไอซีบีซี (ไทย)
ไม่เกิน 2.0% ของยอดค่าใช้จ่าย
 
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับวิธีการคำนวณค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงินคร่าวๆ และอัตราค่าความเสี่ยงฯ ของแต่ละสถาบันการเงินที่เรานำมาให้ดู ทางทีมงานก็หวังว่าเพื่อนๆ จะได้ประโยชน์จากข้อมูล และสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายได้เองเบื้องต้นนะคะ ส่วนใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวในต่างประเทศและใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตอยู่เป็นประจำ ก็อย่าลืมเลือกสมัครบัตรเครดิตให้เหมาะและตรงกับความต้องการของเรา หรืออาจจะใช้บัตรเครดิตที่มีค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงินน้อยๆ เข้าไว้ เพื่อความประหยัดและคุ้มค่าที่สุดของการใช้จ่ายค่ะ
 
อยากสอบถามข้อมูลความรู้เรื่องการเงินอื่นๆ เพิ่มเติม ทักมาพูดคุยกับ GURU ได้ที่นี่!! https://page.line.me/uht3147t

หมายเหตุ :
  1. ข้อมูล ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2566
  2. ค่าความเสี่ยงจากการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน คิดจากค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ผ่านบัตรเครดิต รวมไปถึงการถอนเงินสด (Cash Advance) ที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศ โดยจะถูกเรียกเก็บเป็นสกุลเงินบาทไทยตามอัตราแลกเปลี่ยนที่สถาบันการเงินนั้นๆ ถูกเรียกเก็บจากบริษัทบัตรเครดิตที่สถาบันการเงินนั้นเป็นสมาชิกอยู่ ณ วันที่มีการเรียกเก็บยอดค่าใช้จ่ายดังกล่าวกับสถาบันการเงิน
  3. ในกรณีที่สกุลเงินต่างประเทศที่ทำรายการผ่านบัตรเครดิตไม่ใช่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ยอดค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะถูกแปลงเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐก่อนที่จะทำการแปลงเป็นสกุลเงินบาทเพื่อเรียกเก็บ
  4. *การยกเว้นค่าธรรมเนียมความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงินจากบัตรเครดิตยูเนียนเพย์ธนาคารแห่งประเทศจีน จำกัดสิทธิพิเศษเฉพาะการใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ภายในประเทศจีนเท่านั้น (Mainland)
  5. บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นการรวบรวมข้อมูลค่าความเสี่ยงจากการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน และอัตราแลกเปลี่ยนของแต่ละประเภทบัตรอ้างอิงตามบริษัทบัตร VISA, MASTER, UNION PAY, JCB และ AMEX หากมีค่าใช้จ่ายอื่นใดที่ธนาคารเจ้าของบัตรเรียกเก็บเพิ่มเติม โปรดสอบถามโดยตรงจากสถาบันการเงินผู้ออกบัตรฯ นั้นๆ
แท็กที่เกี่ยวข้อง บัตรเครดิต credit card สมัครบัตรเครดิต shopping
Money Guru
เขียนโดย เช็คราคา.คอม Money Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)