รีวิว ASUS ZenPad 7.0 (Z370CG) แท็บเล็ต 7 นิ้ว ฟีเจอร์จัดเต็มในราคาไม่ถึงหกพันบาท

ปัจจุบัน แท็บเล็ตขนาด 7 นิ้วได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องด้วยขนาดที่กำลังพอเหมาะมือ และพกพาสะดวกนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ ทาง ASUS จึงไม่พลาดตามติดกระแสดังกล่าว ร่วมวงปล่อยแท็บเล็ตออกมาในนามว่า "ZenPad 7.0 (Z370CG)" ซึ่งตัวเครื่องก็มีสเปคมากมายให้กล่าวถึง จนเราอดไม่ได้ที่จะนำมาทดสอบ เพื่อให้ทุกท่านได้ทราบถึงประสิทธิภาพกัน

นอกจากตัวเครื่องแล้ว ภายในกล่องของ "ZenPad 7.0 (Z370CG)" ยังมาพร้อมอุปกรณ์มากมายดังต่อไปนี้

• สาย micro USB สำหรับชาร์จไฟและถ่ายโอนข้อมูล
• อแดปเตอร์ชาร์จไฟ
• บัตรรับประกัน
• คู่มือการใช้งาน

นับว่าให้ของมาไม่มากนัก แถมไม่มีหูฟังมาให้ด้วย แต่คุณภาพของอุปกรณ์ก็อยู่ในจุดที่น่าพึงพอใจ

อุปกรณ์ภายในกล่องมีอยู่เท่านี้ครับ

เครื่องออกแบบมาได้ดี ดูเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความพรีเมียม โดยเครื่องมีขนาด 189 x 110.9 x 8.7 มม. หนัก 272 กรัม ซึ่งก็นับว่ามีความบาง และเบาอยู่พอสมควร ช่วยให้พกพาไปไหนมาไหนสะดวก นอกจากนั้น ฝาหลังยังถูกดีไซน์ให้ถอดออกได้ เพื่อเปลี่ยนใส่อุปกรณ์เสริมอื่นๆ เช่น Audio Cover หรือ Power Case ได้ ซึ่งทาง ASUS ได้บอกว่าเป็นครั้งแรกของโลกที่แท็บเล็ตทำได้เช่นนี้

ทางด้านขวาของเครื่องจะมีปุ่ม Power และปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง ส่วนทางด้านล่างลงไปหน่อย จะมีช่องสำหรับเปิดฝาหลังอยู่

ด้านล่างของเครื่องจะมีช่อง MicroUSB และรูไมโครโฟนสำหรับการสนทนา

ในขณะที่ทางด้านบนจะเป็นช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5มม.

ด้านหลังของเครื่อง นอกจากจะเป็นที่อยู่ของกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซลแล้ว
ยังเป็นที่อยู่ของฝาหลังที่ถอดเปลี่ยนได้ ซึ่งใช้วัสดุที่มีลวดลายคล้ายหนัง ทำให้ดูพรีเมียม น่าหลงใหลอย่างยิ่ง

แท็บเล็ตจาก ASUS รุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอขนาด LED Backlight IPS ขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 800 (WXGA) พิกเซล อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี ASUS VisualMaster ซึ่งเป็นการรวมกันของฟีเจอร์ ASUS Tru2Life และ ASUS TruVivid ที่ได้นำเทคโนโลยีประมวลผลภาพระดับเดียวกับที่ใช้ในโทรทัศน์มาไว้บนแท็บเล็ตเป็นครั้งแรก ช่วยเพิ่มความสมจริง และมิติของภาพไปอีกระดับ ซึ่งจากการทดสอบด้วยการรับชมภาพยนตร์บนตัวเครื่อง ก็พบว่าหน้าจอสามารถแสดงสีสันของภาพออกมาได้อย่างสวยงามสมจริงเลยทีเดียว

หน้าจอของ ASUS ZenPad 7.0 (Z370CG) แสดงสีสันได้สวยงาม สมจริง เป็นธรรมชาติ
เหมาะกับการรับชมภาพยนตร์บนตัวเครื่องอย่างยิ่ง

เครื่องรันด้วยระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 5.0 Lollipop รวมถึงมาพร้อม ZenUI ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างดี ดูสวยงาม ใช้งานง่าย นอกจากนั้น ยังมีฟังก์ชั่นที่ช่วยอำนวยความสะดวก เช่น ZenMotion ซึ่งเมื่อคุณแตะหน้าจอสองครั้ง ก็จะปลุกหน้าจอให้ทำงานอีกครั้ง เขย่าเครื่อง 2 ครั้งจะเป็นการแคปเจอร์หน้าจอ หรือวาดรูปตัวอักษร C บนหน้าจอที่กำลังพัก ก็จะเข้าสู่โหมดถ่ายภาพ เป็นต้น

ยูสเซอร์อินเทอร์เฟสถูกออกแบบได้อย่างสวยงาม ใช้งานง่าย

เพียงคุณใช้โหมด Ultra-saving mode ก็จะช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ของคุณไปได้อีกชั่วระยะเวลาหนึ่งเลยทีเดียว

ASUS ZenPad 7.0 (Z370CG) มาพร้อมระบบประมวลผล Intel Atom x3-C3230 แบบ Quad-Core 64bit ความเร็ว 1GHz ชิปประมวลผมกราฟิก Mali-450 MP4 รวมถึงมี RAM 2GB และ ROM 16GB (สามารถเพิ่มหน่วยความภายนอกแบบ SD Card ได้สูงสุด 64GB) ซึ่งจากการทดสอบใช้งาน ก็พบว่าเครื่องมีอาการหน่วงอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ก็รองรับการใช้งานแอปฯ ทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง รวมไปถึงการเล่นเกมกราฟิกไม่สูงนักได้เป็นอย่างดี

การทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องด้วยแอปฯ AnTuTu Benchmark (แอปพลิเคชั่นทดสอบประสิทธิภาพชื่อดังที่ใช้ได้ทั้งบนแท็บเล็ต และโทรศัพท์มือถือ) ทำคะแนนได้ที่ 24,250 คะแนน 

ทดสอบเล่นเกม Mission Impossible Rogue Nation ก็อาจมีกระตุกอยู่บ้าง แต่รวมๆ แล้วก็เอาอยู่

เครื่องมาพร้อมคุณสมบัติรองรับการเชื่อมต่อมากมาย ดังต่อไปนี้

• 2G : 850/900/1800/1900 MHz
• 3G : 850/900/1900/2100 MHz
• Bluetooth 4.0
• Micro USB 2.0
• ช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
• Wi-Fi 802.11b/g/n
• Wi-Fi Direct
• Miracast
• GPS, GLONASS & AGPS
• รองรับซิมการ์ดแบบ Micro-SIM

เครื่องรองรับทั้งระบบ Wi-Fi และ 3G ทำให้เราท่องโลกออนไลน์ได้ทุกที่ (ที่มีสัญญาณ)

ในเรื่องของการถ่ายภาพนั้น เครื่องมาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหลังนั้นมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อมระบบออโต้โฟกัส ขนาดภาพสูงสุด 2448 x 3264 พิกเซล f/2.0 ซึ่งจากการทดสอบ แม้ภาพที่ได้อาจจะเทียบกับสมาร์ทโฟนในราคาใกล้เคียงกันไม่ได้ แต่ก็ดูดีกว่าแท็บเล็ตโดยส่วนใหญ่เลยทีเดียว นอกจากนั้น ZenPad ยังรองรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้ที่ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล ด้วย

เครื่องมาพร้อมโหมดถ่ายภาพมากมายให้คุณเลือกใช้ตามความต้องการ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
ซึงแม้ในที่ๆ มีแสงน้อยจะมี noise ให้เห็น แต่ถ้าในสภาวะแสงปกติ กล้องก็พร้อมจะให้ภาพที่อยู่ในเกณฑ์ดี

ด้วยการที่แท็บเล็ตรุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 7 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD เราจึงรับชมภาพยนตร์บนตัวเครื่องได้อย่างเต็มอรรถรส นอกจากนั้น เครื่องยังมีแอปพลิเคชั่น AudioWizard ที่จะช่วยให้คุณปรับเสียงตามความต้องการได้ถึง 5 โหมด ได้แก่ Movie Mode, Gaming Mode, Vocal Mode, Music Mode, และ Smart Mode รวมถึงยังมีเทคโนโลยี SonicMaster ที่ช่วยทำให้เสียงมีคุณภาพมากขึ้นอีกด้วย

การดูภาพยนตร์บนตัวเครื่องนั้นเต็มไปด้วยความเพลินเพลินอย่างยิ่ง ด้วยระบบภาพและเสียงที่คมชัดนั่นเอง

แอปพลิเคชั่น AudioWizard ช่วยให้คุณปรับเสียงตามความต้องการได้ถึง 5 โหมดเลยทีเดียว 

แอปฯ MiniMovie ช่วยให้คุณนำภาพที่ถ่ายเสร็จแล้วมาทำเป็นภาพยนตร์ในรูปแบบสไลด์โชว์อย่างง่ายๆ

ASUS ZenPad 7.0 (Z370CG) เป็นแท็บเล็ตที่ฝาหลังสามารถถอดออกได้ จึงสามารถนำอุปกรณ์เสริมทั้งหลายมาประกอบเข้าด้วยกันเพื่อใช้งานในลักษณะต่างๆ ได้อย่างลงตัว โดยอุปกรณ์เสริมที่ว่าก็มีดังต่อไปนี้

Zen Clutch : อุปกรณ์เสริมดีไซน์สุดหรูที่ใช้วัสดุที่มีสัมผัสประดุจหนังเป็นส่วนประกอบ ช่วยให้คุณพกพา ZenPad สะดวก แถมยังปกป้องการกระแทกได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังออกแบบให้สามารถพับเพื่อปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลายรูปแบบ ทั้งตัวเครื่องสำหรับพิมพ์ข้อความความ หรือจะใช้รับชมภาพยนตร์ก็สะดวกดี

Zen Case : เคสที่ภายนอกบุด้วยพื้นผิวที่ให้สัมผัสแบบหนัง ซึ่งสามารถประกอบเข้ากับ ZenPad โดยยังคงความเพรียวบาง พกพาสะดวก มีให้เลือกด้วยกัน 5 สี ไม่ว่าจะเป็นสีดำออบซิเดียน สีขาวมุก สีฟ้าอควา สีส้มสด และสีเงินเมทัลลิค

ตัวเครื่องเมื่อถอดฝาหลังออก

ส่วนอุปกรณ์เสริมที่ 2 อย่างที่เราได้มาทดสอบพร้อมกับตัวเครื่องก็คือ

Audio Cover : เป็นลำโพงพร้อมประกอบติดกับตัว ZenPad ซึ่งในตัวอุปกรณ์จะมีลำโพงโดยรอบถึง 4 ตัว ลำโพงตรงกลาง 1 ตัว ลำโพงซัพวูเฟอร์อีก 1 ตัว สามารถให้เสียงในระบบ 5.1 ใช้งานได้ต่อเนื่องนานถึง 6 ชม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง สามารถพับให้เครื่องตั้งได้ เพื่อให้ชมภาพยนตร์แบบถนัด ซึ่งจากการทดสอบก็พบว่าเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้ ให้เสียงที่ดีกว่าตัว ZenPad เองในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ช่วยเพิ่มอรรถรสในการฟังเพลง หรือชมภาพยนตร์ได้เป็นอย่างดี

Audio Cover

Power Case : อุปกรณ์เสริมที่พร้อมยืดอายุเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้นได้สูงสุดถึง 15 ชั่วโมง ซึ่งจากการทดสอบก็เป็นอุปกรณ์ที่ดีเลยทีเดียว สามารถนำไปติดกับตัวแท็บเล็ตแล้วไม่ดูเทอะทะ แถมยังช่วยอำนวยความสะดวก ไม่ทำให้เราต้องลำบากพกแบตเตอรี่สำรองไปไหนมาไหนด้วย

Power Case