All New Honda Forza350 รถสกู๊ดเตอร์ครอบครัวระดับพรีเมี่ยมเปิดตัวครั้งแรกของโลกในไทย 2 รุ่นคือ Standard Type ราคาแนะนำที่ 179,000 บาท และ Roadsync Type ราคาแนะนำที่ 181,000 บาท พร้อมกับรุ่นแต่งพิเศษที่มีให้เลือก 2 รุ่น Forza Nitron Neon TH1 ชุดแต่งพรีเมียมจากอังกฤษติดตั้งโช้คอับรุ่นพิเศษ ราคาแนะนำที่ 221,800 บาท และ Forza Yoshimura G'craft Rising Spirit TH2 ซึ่งเป็นชุดแต่ง The Yoshimura X G’craft Rising Spirit Edition ตำนานจากญี่ปุ่น และท่อไอเสียจากสำนักแต่งสัญชาติญี่ปุ่น ที่ร่วมมือกับ H2C ราคาแนะนำที่ 206,900 บาท 

 

All New Honda Forza350 ยังใช้พื้นฐานเครื่องยนต์ ระบบช่วงล่างและระบบเบรกต่าง ๆ จากรุ่นก่อนหน้าที่ให้สมรรถนะดีเยี่ยมอยู่แล้ว แต่ได้มีการปรับในส่วนชุดแฟริ่งด้านหน้า ได้แก่ ไฟหน้าใหม่แบบแยกคนละฝั่งจากเดิมที่เป็นโคมเดียวกัน เพื่อให้ย้อนรอย Forza รุ่นแรกที่เป็นไฟหน้าแบบแยกฝั่ง 

 

ส่วนไฟท้ายลายใหม่จากรุ่นก่อนหน้าเป็รรูปคล้ายตัว "X" มาคราวนี้ออกแบบรูปทรงคล้ายรูปตัว "A" ทำให้ดูพรี่เมี่ยมมากขึ้นกว่าเดิม ต่อมาในจดแสดงผลตรงกลางมาตรวัดขนาดใหญ่ขึ้นเป็นแนวตั้งมีพื้นที่แสดงรายละเอียดต่าง ๆ ได้มากกว่ารุ่นก่อนหน้าที่จอแคบกว่า และยังเพิ่มระยะเลื่อนขึ้น-ลงของ "ชิว" ด้านหน้าเป็น 150 มม. พร้อมระบบเลื่อนด้วยไฟฟ้า 

 

สิ่งอำนวยความสะดวกสบายได้แก่ ท่านั่งการขับขี่ที่สามารถวางเท้าได้ 2 แบบ เบาะนั่งขนาดใหญ่ที่เก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่  รีโมทอัจฉริยะ Honda Smart Key สตาร์ตเครื่องยนต์โดยไม่ต้องใช้กุญแจ และระบุตำแหน่งพร้อมป้องกันขโมย ระบบ Honda Smart Controller ควบคุมการสั่งงาน สะดวกสบายด้วย In-Console USB Charger & Bottle Holder เป็นทั้งที่ชาร์จสมาร์ทโฟนแบบ Type C และที่วางขวดน้ำ รวมถึงระบบ HSVCs (Honda Smartphone Voice Control System : ระบบสั่งงานโดยเสียง) และในรุ่นที่ทดสอบมีระบบ Roadsync ใช้งานสะดวก ผ่านแอปพลิเคชัน ทั้งรับ-วาง อ่านข้อความ คำสั่งด้วยเสียงให้นำทาง โดยไม่ต้องดุในโทรศัพท์ 

 

การทดสอบสมรรถนะ “All New Honda Forza350” ในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกกลุ่มแรกของดลกอีกด้วยเพราะว่าได้ขับทดสอบหลังจากเปิดเพียง 1 วัน โดยเส้นทางทดสอบนั้นไทยฮอนด้า ได้ออกแบบเส้นทางทดสอบเป็น 2 เส้นทาง เพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสสมรรถนะการขับขี่ใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ไปพร้อม ๆ กับการท่องเที่ยวพักผ่อนตามแหล่งท่องเที่ยวอันลือชื่อระดับโลก ในพื้นที่เมืองพัทยาและอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยทีมงาน MotobikeGuru ใด้ลองขับขี่ในเส้นทางที่ 1 เริ่มออกเดินทางจากโรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยท์ สเปซ พัทยา จังหวัดชลบุรี สู่ถนนเลียบหาดพัทยาเหนือ เส้นทางที่มีการจราจรค่อนข้างหนาแน่น เพื่อทดสอบความคล่องตัว ขับขี่สบายเพราะเบาะนั่งออกแบบให้รองรับสรีระได้อย่างลงตัว แท่นวางเท้าสามารถวางเท้าได้ 2 ลักษณะ คือตั้งฉากกับตัวรถเหมือนกับท่าขี่ปกติ หรือเหยียดขาไปด้านหน้า

 

ท่าขับขี่ยังสบายเหมือนเดิม มุมมองกระจกมองข้างชัดเจนแต่หาการจราจรหนาแน่นยังคงต้องระวัง "รูด" กระจกข้างรถยนต์เอาไว้ด้วย ส่วนเบาะขนาดใหญ่จนรู้ว่ามีความกว้างมากไปสำหรับผู้ทดสอบทำให้ต้องกางขามากขึ้น แต่มีการเล่นระดับของเบาะช่วงตรงกลางจึงเหมือนมีที่พิงเล็ก ๆ ไว้กันเมือยล้า 

 

ต่อจากนั้นเดินทางไปยัง Pattaya City Sign ซึ่งเป็นทางลาดชันและทางโค้งบนเขากำลังของเครื่องยนต์ 330 ซีซี eSP+ บิดติดมือไม่รอรอบมากนัก เมื่อเปิดคันเร่งช่วงออกตัวและเร่งแซงทันใจ ระบบช่วงล่างหนึบ ๆ แน่น ๆ และระบบเบรกที่หยุดได้อยู่และเบามือ ซึ่งมาพร้อม ABS แบบ Dual Channel  ที่ทำงานไวเพราะเส้นทางที่ทดสอบมีช่วงที่เปียกน้ำและลื่นอยู่บ้างระบบนี้ก็สามารถทำงานได้อย่างดี แต่ว่ามีจุดที่ต้องระวังเพราะในรุ่นที่ทดสอบนั้นเป็นตัวที่มีระบบ RoadSync หากไม่คุ้มเคยก็จะใช้งานลำบาก และปุ่มแฮนด์ทางด้านซ้ายมือมีเยอะมาก ต้องใช้งานให้คุ้นเคยจึงจะเลือกสวิตช์ต่าง ๆ ได้ตามต้องการครับ 

 

จากทริปสั้น ๆ ระยะทางประมาณ 40 กม. พอจะสรุปได้ว่ายังขับสนุกขี่ดีเหมือนเดิม อัตราเร่งตอบสนองทันใจไม่รอรอบนาน ช่วงล่างยังให้ทั้งความนุ่มนวลที่ความเร็วต่ำ และหนึบที่ความเร็วสูงในระดับน่าพอใจ ชิวบังลมที่เพิ่มระยะขึ้นมาช่วยกั้นลมปะทะตัวได้มากขึ้นอย่างชัดเจน แต่ก็ทำให้ต้านลมมากขึ้นตามไปด้วย เบาะใหญ่นั่งสบาย ท่าขับขีที่ให้ความสบายนั่งได้ 2 ท่าทาง ฟังก์ชั่นใช้งานที่พร้อมรองรับการขับขี่ได้ทุกวัน โดยเฉพาะระบบ Roadsync ที่ช่วยให้ขับขี่ปลอดภัยมากขึ้นไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูบ่อย ทั้งหมดนี้ราคาแนะนำที่ 181,000 บาท นับว่าไม่สูงเกินไปกับิ่งได้มาและสมรรถนะของเครื่องยนต์ระดับ 350 ซีซี เลยครับ