การจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ก็คล้ายๆ กับการจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพ ที่ดูเหมือนจะเป็นการจ่ายเบี้ยทิ้งไป โดยอาจจะไม่ได้ใช้ประโยชน์ หรือใช้ประโยชน์ได้ไม่คุ้มค่าเท่าใดนัก แต่...ก็ต้องบอกว่า กองทุนประกันสังคมก็ถือเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการจากภาครัฐ ที่จะช่วยสร้างหลักประกันให้เราได้อุ่นใจขึ้นบ้างในวันที่เกิดความจำเป็นต้องใช้ค่ะ เพราะผู้ประกันตนก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ในหลายๆ ด้าน ที่จะช่วยรับผิดชอบเฉลี่ยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เช่น เงินทดแทนรายวันเมื่อผู้ประกันตนเจ็บป่วยต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล ประสบอันตราย หรือทุพพลภาพ กรณีเสียชีวิต กรณีชราภาพ รวมถึงมีเงินสงเคราะห์บุตรให้ รวมถึงติดตามสวัสดิการจากรัฐที่ควรได้เพิ่มเติม เป็นต้น
 
 โดยเฉพาะกลุ่มฟรีแลนซ์ หรือกลุ่มคนที่ประกอบอาชีพอิสระ ที่ไม่ได้รายได้ประจำ และไม่มีสวัสดิการเหมือนกับพนักงานบริษัททั่วไป ที่ควรหาช่องทางวางแผนการเงินที่จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น ในเรื่องของการรักษาพยาบาล และสวัสดิการอื่นๆ ที่ควรจะได้รับ แต่จะต้องทำประกันสังคมมาตราไหน ต้องจ่ายเท่าไหร่ และได้รับความคุ้มครองอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ 
  
   
 คุณสมบัติของผู้ประกันตนมาตรา 40
     
ผู้ประกันตนมาตรา 40 คือ กลุ่มคนที่ประกอบอาชีพอิสระ ไม่ได้เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 หรือมาตรา 39 และไม่เป็นข้าราชการหรือรัฐวิสาหกิจ  
  - ต้องเป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย
  - อายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ และไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์
  - ผู้พิการทางร่างกายที่รับรู้สิทธิ
  - เป็นผู้ถือบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ที่มีเลขประจำตัวหลักแรกเป็น 0 หรือ 6 หรือ 7
  
   
 ผู้ประกันตน มาตรา 40 จะได้รับความคุ้มครองอะไรบ้าง
    
สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 40 จะได้รับความคุ้มครอง ใน 5 กรณี ตามเงื่อนไขของการจ่ายเงินสมทบ โดยการจ่ายสิทธิประโยชน์จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการเกิดสิทธิ ดังนี้ค่ะ  
 กรณีที่ 1 เมื่อประสบอันตราย หรือเจ็บป่วย จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ เมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้ว 3 ใน 4 เดือน ก่อนเดือนที่ประสบอันตราย หรือเจ็บป่วย
  
     | กรณีประสบอันตราย หรือเจ็บป่วยรับเงินทดแทนการขาดรายได้ |  ทางเลือกที่ 1   จ่ายเงินสมทบ 70 บาท/เดือน |  ทางเลือกที่ 2  จ่ายเงินสมทบ 100 บาท/เดือน |  ทางเลือกที่ 3  จ่ายเงินสมทบ 300 บาท/เดือน |  
  | นอนพักรักษาตัว 1 วันขึ้นไป (ผู้ป่วยใน)  |  วันละ 300 บาท |  วันละ 300 บาท |  วันละ 300 บาท |  
  | ไม่นอนโรงพยาบาล แต่มีใบรับรองแพทย์ ให้หยุดพักรักษาตัว ตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป |  วันละ 200 บาท |  วันละ 200 บาท |  วันละ 200 บาท |  
  | ภายใน 1 ปี นอนพัก และไม่นอนพักในโรงพยาบาล |  ไม่เกิน 30 วัน/ปี |  ไม่เกิน 30 วัน/ปี |  ไม่เกิน 90 วัน/ปี |  
  | ไปพบแพทย์ (ผู้ป่วยนอก) และมีใบรับรองแพทย์มาแสดง |  ครั้งละ 50 บาท   (3 ครั้ง/ปี) |  ครั้งละ 50 บาท   (3 ครั้ง/ปี) |  ไม่คุ้มครอง |  
  
  
    กรณีที่ 2 ทุพพลภาพ รับเงินทดแทนการขาดรายได้ ตามเงื่อนไขขึ้นอยู่กับระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบ ดังนี้
  - จ่ายเงินสมทบ 6 ใน 10 เดือน ก่อนทุพพลภาพ ได้รับ 500 บาท/เดือน 
  - จ่ายเงินสมทบ 12 ใน 20 เดือน ก่อนทุพพลภาพ ได้รับ 650 บาท/เดือน 
  - จ่ายเงินสมทบ 24 ใน 40 เดือน ก่อนทุพพลภาพ ได้รับ 800 บาท/เดือน 
  - จ่ายเงินสมทบ 36 ใน 60 เดือน ก่อนทุพพลภาพ ได้รับ 1,000 บาท/เดือน 
  
         | กรณีทุพพลภาพ รับเงินทดแทนการขาดรายได้ |  ทางเลือกที่ 1   จ่ายเงินสมทบ 70 บาท/เดือน |  ทางเลือกที่ 2  จ่ายเงินสมทบ 100 บาท/เดือน |  ทางเลือกที่ 3  จ่ายเงินสมทบ 300 บาท/เดือน |  
  | ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้รายเดือน |  500 - 1,000 บาท |  500 - 1,000 บาท |  500 - 1,000 บาท |  
  | ระยะเวลาในการรับเงินทดแทน |  เป็นเวลา 15 ปี |  เป็นเวลา 15 ปี |  ตลอดชีวิต |  
  | ได้รับเงินค่าทำศพ (เสียชีวิตระหว่างรับเงินทดแทน) |  25,000 บาท |  25,000 บาท |  50,000 บาท |  
  
  
   กรณีที่ 3 กรณีเสียชีวิต ได้รับเงินค่าทำศพ โดยมีเงื่อนไข คือ 
  - จ่ายเงินสมทบมาแล้ว 6 ใน 12 เดือน ก่อนเดือนที่เสียชีวิต
  - กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ จ่ายเงินสมทบ 1 ใน 6 เดือน ก่อนเดือนที่เสียชีวิต มีสิทธิ์ได้รับเงินค่าทำศพ
  
     | กรณีเสียชีวิต ได้รับเงินค่าทำศพ |  ทางเลือกที่ 1   จ่ายเงินสมทบ 70 บาท/เดือน |  ทางเลือกที่ 2  จ่ายเงินสมทบ 100 บาท/เดือน |  ทางเลือกที่ 3  จ่ายเงินสมทบ 300 บาท/เดือน |  
  | ได้รับเงินทำศพ (โดยผู้จัดการศพ) |  25,000 บาท |  25,000 บาท |  50,000 บาท |  
  |   ได้รับเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต   (เมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้ว 60 เดือน ก่อนเดือนที่เสียชีวิต)   |  รับเพิ่ม 8,000 บาท |  รับเพิ่ม 8,000 บาท |  ไม่คุ้มครอง |  
  
  
   กรณีที่ 4 กรณีชราภาพ ได้รับเงินก้อนพร้อมดอกผล เมื่ออายุ 60 ปีบริบูรณ์ และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน
  
     | กรณีชราภาพ ได้รับเงินก้อนพร้อมดอกผล |  ทางเลือกที่ 1   จ่ายเงินสมทบ 70 บาท/เดือน |  ทางเลือกที่ 2  จ่ายเงินสมทบ 100 บาท/เดือน |  ทางเลือกที่ 3  จ่ายเงินสมทบ 300 บาท/เดือน |  
  |   ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ   (ตามจำนวนงวดที่จ่ายเงินสมทบพร้อมผลประโยชน์ตอบแทน)   |  ไม่คุ้มครอง |  50 บาท/เดือน |  150 บาท/เดือน |  
  |   รับเงินบำเหน็จเพิ่ม   (เมื่อจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 180 เดือนขึ้นไป)   |  ไม่คุ้มครอง |  ไม่คุ้มครอง |  รับเพิ่ม 10,000 บาท |  
  | สามารถฝากเงินออมเพิ่มได้ ไม่เกินเดือนละ 1,000 บาท |  ไม่คุ้มครอง |  ออมเพิ่มได้ 1,000 บาท |  ออมเพิ่มได้ 1,000 บาท |  
  
  
   กรณีที่ 5 กรณีสงเคราะห์บุตร ได้รับเงินรายเดือน เมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้ว 24 ใน 36 เดือน และขณะรับเงินสงเคราะห์บุตร ต้องส่งเงินสมทบทุกเดือน
  
     | กรณีสงเคราะห์บุตร ได้รับเงินรายเดือน |  ทางเลือกที่ 1   จ่ายเงินสมทบ 70 บาท/เดือน |  ทางเลือกที่ 2  จ่ายเงินสมทบ 100 บาท/เดือน |  ทางเลือกที่ 3  จ่ายเงินสมทบ 300 บาท/เดือน |  
  |   ได้รับเงินสงเคราะห์บุตรรายเดือน   ตั้งแต่แรกเกิด จนถึงอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์ คราวละไม่เกิน 2 คน   |  ไม่คุ้มครอง |  ไม่คุ้มครอง |  200 บาท/คน/เดือน |  
  
  
 ช่องทางการสมัคร / การชำระเงิน และการรับเงินประโยชน์ทดแทน
      
สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้ง่ายๆ ได้ด้วยตนเอง ที่สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ, เคาน์เตอร์เซอร์วิส (เซเว่น-อีเลฟเว่น), ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร, เว็บไซต์ www.sso.go.th, เครือข่ายประกันสังคมทั่วประเทศ หรือสายด่วนประกันสังคม 1506  
 ตัวอย่างแบบคำขอสมัครผู้ประกันตนตามมาตรา 40   ช่องทางการชำระเงินสำหรับสมทบผู้ประกันตนมาตรา 40
  
  - ชำระเงินได้ที่เคาน์เตอร์ธนาคาร และหน่วยบริการ ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร, เคาร์เตอร์เซอร์วิส (เซเว่น-อีเลฟเว่น), เคาน์เตอร์โลตัส, ตู้บุญเติม และเคาน์เตอร์ Cenpay Powered by บุญเติม
  - ชำระเงินโดยการหักบัญชีเงินฝากธนาคาร ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารทหารไทยธนชาต, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารออมสิน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
  - ชำระผ่าน Mobile Application Shopee
  
 ช่องทางการรับเงินประโยชน์ทดแทนมาตรา 40 
  
  - รับเงินด้วยตนเอง/มอบอำนาจรับเงินแทน ที่สำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ
  - รับเงินทางธนาณัติ
  - รับเงินผ่านธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารออมสิน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
  
   
อย่างที่ทราบกันดีว่าประกันสังคมเป็นสวัสดิการที่รัฐบาลให้การสนับสนุน เพื่อให้ผู้มีรายได้ มีหลักประกันในการใช้ชีวิต มีความมั่นคง และมีเงินเก็บส่วนหนึ่งเตรียมพร้อมสำหรับวัยเกษียณ การจะเลือกสมัครประกันสังคมมาตราไหน ผู้สมัครก็ควรศึกษาหลักเกณฑ์การส่งเงินสมทบ และเงื่อนไขการรับสิทธิประโยชน์ทดแทน เพื่อช่วยวางแผนคุ้มครองความเสี่ยงในเรื่องต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมนะคะ 
