ขาดงาน ไม่ขาดรายได้ ป่วยนานเกิน 30 วัน ประกันสังคมจ่ายทดแทนให้

icon 15 ก.ค. 68 icon 79,216
Share
ขาดงาน ไม่ขาดรายได้ ป่วยนานเกิน 30 วัน ประกันสังคมจ่ายทดแทนให้
 

ขาดงาน ไม่ขาดรายได้ ป่วยนานเกิน 30 วัน ประกันสังคมจ่ายทดแทนให้

รู้หรือไม่! หากคุณเป็นพนักงานประจำ และต้องหยุดงานเกินกว่า 30 วันด้วยเหตุที่ไม่ได้เกิดจากการทำงาน ถึงแม้จะเป็นคำสั่งจากแพทย์ผู้รักษาให้หยุดงานเพื่อรักษาตัวก็ตาม นายจ้างมีสิทธิ์ที่จะไม่จ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดที่เกินนั้นได้ แต่...สำหรับผู้ประกันตนที่มีการจ่ายเงินสมทบเข้าหน่วยงานประกันสังคมอยู่ตลอดจะสามารถรับ "เงินทดแทนการขาดรายได้" จากประกันสังคมได้นะคะ จะมีเงื่อนไขอย่างไร และต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ตามมาดูเลยค่ะ
ผู้ประกันตนมาตรา 33
 

หลักเกณฑ์ และเงื่อนไข "การรับเงินทดแทนการขาดรายได้" จากประกันสังคม

ในกรณีที่ลูกจ้าง (ผู้ประกันตนมาตรา 33) เกิดการเจ็บป่วย และต้องหยุดงานเพื่อรักษาตัวตามที่แพทย์สั่งทำให้ไม่สามารถไปทำงานได้ ซึ่งตามกฎหมายระบุให้ลูกจ้างมีสิทธิ์ที่จะลาป่วยได้ไม่เกิน 30 วัน ใน 1 ปี โดยที่ยังได้รับค่าจ้างเช่นเดิม แต่หากเจ็บป่วย และต้องหยุดพักรักษาตัวนานกว่านั้น นายจ้างก็มีสิทธิ์ที่จะไม่จ่ายค่าจ้างส่วนที่เกิน 30 วันให้กับลูกจ้างได้ ซึ่งกรณีเช่นนี้ หน่วยงานประกันสังคมจะเข้ามารองรับโดยให้สิทธิ์ในการขอรับ "เงินทดแทนการขาดรายได้" ของวันลาป่วยส่วนที่เกินกว่า 30 วันนั้นตามเงื่อนไข ดังนี้
1. ต้องเป็นการหยุดงานเพื่อรักษาพยาบาลตามคำสั่งของแพทย์เท่านั้น
2. ผู้ประกันตนจะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ร้อยละ 50 ของค่าจ้าง และสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท
3. การขอรับสิทธิ์เงินทดแทนขาดรายได้ ต้องเป็นการหยุดครั้งละไม่เกิน 90 วันในรอบปี และจะจ่ายให้ปีละไม่เกิน 180 วัน เว้นแต่ เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังไม่เกิน 365 วัน ซึ่งได้มีการกำหนดโรคเรื้อรังไว้ 6 รายการ ดังนี้
  • โรคมะเร็ง
  • โรคไตวายเรื้อรัง
  • โรคเอดส์
  • โรคหรือการบาดเจ็บของสมอง เส้นเลือดสมองหรือกระดูกสันหลังอันเป็นเหตุให้เป็นอัมพาต
  • ความผิดปกติของกระดูกหักที่มีภาวะแทรกซ้อน
  • โรคหรือการเจ็บป่วยอื่น ๆ ที่ต้องรักษาตัวนานติดต่อกันเกินกว่า 180 วัน ระหว่างการรักษาทำงานไม่ได้ให้ยื่นเรื่องขอมติคณะกรรมการการแพทย์
4. ถ้าผู้ประกันตนลาป่วยโดยได้รับค่าจ้างจากนายจ้างครบ 30 วัน ตามกฎหมายของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานแล้ว ยังต้องหยุดงานตามคำสั่งแพทย์ต่อไปอีก สำนักงานประกันสังคมจะจ่ายเงินเรียกว่า "เงินทดแทนการขาดรายได้" ให้สำหรับระยะเวลาหยุดงานที่นานเกินกว่า 30 วัน
ในกรณีที่ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับค่าจ้างจากนายจ้างในระหว่างหยุดงาน เพื่อการรักษาพยาบาลตามกฎหมายของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หรือมีสิทธิตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานสัญญาจ้างแรงงาน หรือข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างแล้ว ผู้ประกันตนไม่มีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้จนกว่าสิทธิที่ได้รับเงินค่าจ้างนั้นได้สิ้นสุดลง จึงจะมีสิทธิได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ดังกล่าวเท่ากับระยะเวลาที่คงเหลือ 

การยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ "เงินทดแทนการขาดรายได้"

สำหรับเอกสารที่ใช้ในการประกอบการยื่นคำขอรับเงินทดแทนการขาดรายได้ กรณีเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มีดังนี้
1. แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน (สปส.2-01 )
2. ใบรับรองแพทย์
3. หนังสือรับรองจากนายจ้าง
4. สำเนาบัตรประชาชนหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้
5. สถิติวันลาของผู้ยื่นคำขอ
6. หลักฐานอื่น ๆ ที่ทางเจ้าหน้าที่ขอเพิ่มเติมเพื่อประกอบการพิจารณา
7. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์ของธนาคารหน้าแรกที่มีชื่อ เลขที่บัญชี (กรณีขอรับเงินทางธนาคาร) มี 9 ธนาคาร ดังนี้
  • ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน)
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
  • ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
  • ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
  • ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
  • ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
  • ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
  • ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
  • ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน)
โดยสามารถยื่นเอกสารได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครเขตพื้นที่ 1-12 แห่ง/จังหวัด/สาขา ที่สะดวก (ยกเว้นสำนักงานใหญ่ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข) นะคะ
หมายเหตุ : หากผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนไม่พอใจคำสั่งจ่ายประโยชน์ทดแทน สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง
ผู้ประกันตนมาตรา 39
 

หลักเกณฑ์ และเงื่อนไข "การรับเงินทดแทนการขาดรายได้" จากประกันสังคม

สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่นำส่งเงินสมทบภายใน 15 เดือนย้อนหลัง และมีการนำส่งเงินสมทบรวมกันไม่น้อยกว่า 3 เดือนจะติดต่อกันหรือไม่ก็ตาม ก่อนวันที่เข้ารับการรักษาพยาบาล โดยแพทย์มีคำสั่งให้หยุดพักรักษาตัวจะได้รับสิทธิ "เงินทดแทนการขาดรายได้" ตามเงื่อนไข ดังนี้
1. ต้องเป็นการหยุดงานเพื่อรักษาพยาบาลตามคำสั่งของแพทย์เท่านั้น
2. ต้องเป็นผู้ที่มีรายได้จากการประกอบอาชีพ
3. จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ร้อยละ 50 โดยคิดจากฐานอัตราการนำส่งเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 39 (4,800 บาท)
4. สามารถรับเงินทดแทนการขาดรายได้ ครั้งละไม่เกิน 90 วัน และไม่เกิน 180 วันต่อปี เว้นแต่เป็นการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังสามารถรับเงินทดแทนการขาดรายได้ ได้ไม่เกิน 365 วัน

การยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ "เงินทดแทนการขาดรายได้"

ในส่วนของเอกสารในการรับเงินทดแทนการขาดรายได้ กรณีเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 มีดังนี้
1. แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน (สปส.2-01)
2. บัตรประจำตัวประชาชน
3. สำเนาบัตรประกันสังคม (เฉพาะต่างชาติ/ต่างด้าว)
4. สำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) หรือสำเนาหนังสือเดินทางชั่วคราว หรือเอกสารรับรองบุคคลที่ทางราชการออกให้ (เฉพาะต่างชาติ/ต่างด้าว)
5. หลักฐานการประกอบอาชีพ เช่น ใบเสร็จรับเงินค่าเช่าแผงขายของ,ใบสั่งสินค้า, ใบรับสินค้าเพื่อแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
6. ใบรับรองแพทย์ตัวจริง ที่ระบุวันหยุดงาน
7. กรณีเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุลให้แนบสำเนาเอกสารใบเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุลด้วย
8. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร ประเภทออมทรัพย์หน้าแรก ซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชี ใช้ได้ 9 ธนาคาร โดยไม่มีค่าธรรมเนียม คือ
  • ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
  • ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
  • ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
  • ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
  • ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
  • ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
  • ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
  • ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน)
โดยให้ยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทน ภายในระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันที่มีสิทธิ ที่สำนักงานประกันสังคมพื้นที่ ที่สะดวก (ยกเว้นสำนักงานใหญ่ภายในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข)

ทราบเงื่อนไขแบบนี้แล้ว หากผู้ประกันตนมีเหตุให้เกิดความเจ็บป่วยจนต้องหยุดพักรักษาตัวเป็นระยะเวลานาน ก็สามารถติดต่อเพื่อรับเงินทดแทนการขาดรายได้จากหน่วยงานประกันสังคมตามรายละเอียดข้างต้นได้เลยนะคะ 
ขอบคุณข้อมูลจาก กระทรวงแรงงาน, สำนักงานประกันสังคม
แท็กที่เกี่ยวข้อง ประกันสังคม เงินชดเชย กองทุนเงินทดแทน เงินชดเชยกรณีเจ็บป่วย เงินชดเชยจากประกันสังคม เงินทดแทนจากประกันสังคม
Money Guru
เขียนโดย เช็คราคา.คอม Money Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)