โลกทั้งใบได้รวมเป็นหนึ่งเดียวในกิจกรรม
Royal Enfield One Ride ครั้งที่ 14 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2568 งานขับขี่ประจำปีสุดไอคอนิกนี้ได้กลายเป็นพื้นที่ระดับโลกที่เปิดโอกาสให้นักบิด
โรยัล เอ็นฟีลด์มารวมตัวกันในวันเดียว เพื่อสัมผัสถึงมิตรภาพและความหลงใหลใน
“การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์อย่างแท้จริง” (Pure Motorcycling)
ปีนี้มีนักบิดกว่า 40,000 คน จากกว่า 1,500 เส้นทางทั่วโลก ออกเดินทางพร้อมกัน ทำให้ One Ride เป็นหนึ่งในการเฉลิมฉลองมอเตอร์ไซค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก การขี่เริ่มต้นพร้อมกับแสงแรกของพระอาทิตย์ทางตะวันออก และต่อเนื่องไปจนถึงพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าทางตะวันตก กลายเป็นการเฉลิมฉลองต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ที่ครอบคลุมทุกโซนเวลา
สำหรับประเทศไทย มีผู้เข้าร่วมการเดินทางสุดมันส์นี้ถึง 1,626 คน เฉพาะในกรุงเทพและปริมณฑลก็มีมากถึง 400 คน !! มารวมตัวกันเพื่อออกเดินทางบนเส้นทางการขับขี่และทำกิจกรรมร่วมกันที่สะท้อนถึงความผูกพัน ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และความรักที่มีต่อการขี่รถมอเตอร์ไซค์ของเหล่านักบิดที่แท้จริง
ทุก ๆ ปี One Ride ได้รวมเอาชุมชนนักบิดและผู้ที่หลงใหลการขี่มอเตอร์ไซค์ไว้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่น้องใหม่ในวงการ ไปจนถึงนักบิดวัยเก๋าผู้มากประสบการณ์เพื่อร่วมเฉลิมฉลอง “ความเป็นตัวของตัวเอง”, “การแสดงออกอันเป็นเอกลักษณ์” และ “อิสรภาพบนท้องถนน” ได้สร้างเครือข่ายนักบิดที่แม้จะอยู่ต่างทวีป คนละซีกโลก แต่กลับรู้สึกใกล้ชิดดั่งครอบครัว และก่อเกิดเป็นมิตรภาพที่ยั่งยืน
ในปีนี้ หมวกกันน็อคไม่ได้เป็นเพียงอุปกรณ์ป้องกัน แต่ยังถูกใช้เป็นสัญลักษณ์แห่งตัวตน ผ่านการตกแต่งเฉพาะตัว มอเตอร์ไซค์คัสตอมคันโปรด และเครื่องแต่งกายสุดเท่ที่ไม่เหมือนใคร จนกลายเป็นผืนผ้าใบเล่าเรื่องราวและความคิดสร้างสรรค์ของนักบิดแต่ละคน
นอกเหนือจากการเฉลิมฉลองแล้ว One Ride ยังตอกย้ำถึงความรับผิดชอบต่อการขับขี่ปลอดภัย ด้วยเส้นทางที่ถูกคัดสรรอย่างเหมาะสม เคารพต่อชุมชนท้องถิ่น และโครงการดี ๆอย่าง “Helmets for India” เพื่อสร้างความมั่นใจว่านักขับขี่ทุกคนจะกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย และพร้อมออกเดินทางอีกครั้ง
งาน One Ride เติบโตอย่างก้าวกระโดดนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2011 โดยมีผู้เข้าร่วมงานเพียง 14 ประเทศ และ 23 เมืองในอินเดีย แต่ในปี 2024 One Rideประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานถึง 41,730 คน จาก 66 ประเทศ ขณะที่ปี 2025 ยังคงมีผู้เข้าร่วมงานในระดับเดียวกัน โดยมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 40,000 คน จาก 60 ประเทศทั่วโลก