ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์
ฮอนด้า จัดกิจกรรม
Thai Honda Open House & Community Relationship เปิดโอกาสให้ชุมชมเข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิต เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปีไทยฮอนด้า โดยครั้งนี้ได้เชิญเหล่าตัวแทนจากสถานศึกษา คุณครู ประธานชุมชน และคณะกรรมการชุมชนจากพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม รวมกว่า 60 ท่าน เข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิต พร้อมเข้าร่วมสัมมนาเชิงปฏิบัติการด้านกิจกรรม CSR ณ บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัดสำนักงานใหญ่ นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
คุณสุคติ สรรพวัฒน์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานการบริหารองค์กร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า “ไทยฮอนด้า เล็งเห็นถึงความสำคัญของการอยู่ร่วมกับสังคมด้วยความสัมพันธ์อันดีและยั่งยืนตลอด 60 ปีที่ผ่านมา เราได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ ชุมชน และประชาชนอย่างต่อเนื่อง การจัดโครงการในครั้งนี้จึงมีเป้าหมายเพื่อยกระดับและกระชับความร่วมมือให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อก้าวไปข้างหน้าร่วมกันอย่างยั่งยืน”
สำหรับกิจกรรมนี้จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเปิดโอกาสให้ชุมชนได้เข้ามารับรู้และเข้าใจต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ กำหนดเป้าหมายร่วมกันเพื่อสร้างภาพการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน เสริมสร้างความร่วมมือกับสังคมโดยรอบ พร้อมทั้งร่วมกันวางแผนเพื่อมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในชุมชนและสังคม ตลอดจนสร้างความเห็นอกเห็นใจและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน
นอกเหนือจากนี้ ยังได้มอบหมวกกันน็อคให้กับชุมชน โดยผ่านสำนักเขตลาดกระบัง จำนวน 600 ใบ นำไปกระจายส่งมอบต่อให้กับผู้คนในชุมชน เพื่อส่งเสริมการขับขี่ปลอดภัยในชีวิตประจำวัน และที่ผ่านมา ไทยฮอนด้าได้ร่วมมือกับชุมชนและนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังในการพัฒนาโครงการที่สร้างคุณค่าและความยั่งยืนมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น โครงการ “ไทยฮอนด้าปลูกเปลี่ยนฟ้า (Tree for Blue Sky)” ที่ช่วยขยายพื้นที่สีเขียวในเมือง การจัดตั้งสวน 15 นาที และกิจกรรมปลูกต้นไม้ริมถนนในพื้นที่รอบนิคม เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีและสมดุลมากขึ้น กิจกรรมเหล่านี้สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของไทยฮอนด้าในการเคียงข้างสังคมไทย พร้อมขับเคลื่อนความยั่งยืนให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นที่จะดำรงอยู่เคียงข้างและอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างสมดุล เพราะเราตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับสังคมรอบข้างเสมอมา และบริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ ภาคสังคม และชุมชนทุกพื้นที่ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ โดยสามารถนำแนวทางปฏิบัติและองค์ความรู้ที่ได้รับไปต่อยอดและผลักดันตามวัตถุประสงค์สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต