ดูคาติ ประเทศไทย (Ducati Thailand) ภายใต้การบริหารของบ้านหลังใหม่ บริษัท เอเอเอส โมโต โครเซ่ จำกัด เชิญแฟนความแรงและผู้หลงใหลสุนทรียะแห่งการขับเคลื่อนสไตล์อิตาเลียนร่วมสัมผัสโมเมนต์ประวัติศาสตร์ กับการกลับมาครั้งสำคัญที่ยกระดับมาตรฐานของแบรนด์ ดูคาติ ให้พรีเมียมสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเดิม ทั้งด้านภาพลักษณ์ การดูแลหลังการขาย และประสบการณ์บริการระดับเวิลด์คลาส โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในงาน Thailand International Motor Expo 2025 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง วันที่ 10 ธันวาคม 2568 ณ บูธ Ducati Thailand หมายเลข G08-2 อาคาร ชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

ในปีแห่งการกลับมาครั้งนี้ ดูคาติ ประเทศไทย ขนทัพไลน์อัปรุ่นใหม่มาเผยโฉมครั้งแรกในประเทศไทยถึง 2 รุ่น ได้แก่ XDiavel และ Desmo 450MX พร้อมด้วยความพิเศษระดับนักสะสมจากรุ่นลิมิเต็ด Scrambler Thailand Edition ที่ผลิตจำนวนจำกัด ซึ่งทั้ง 3 รุ่น ถูกนำมาเสนอเพื่อตอกย้ำดีเอ็นเอของดูคาติในด้านความหรูหรา สมรรถนะ และความงามแบบอิตาเลียนสปอร์ตที่ผสานเข้ากับเทคโนโลยีชั้นนำอย่างสมบูรณ์แบบ

คุณอนุวัชร อินทรภูวศักดิ์ ผู้บริหาร ดูคาติ ประเทศไทย เปิดเผยว่า “การกลับมาของ ดูคาติ ประเทศไทย ครั้งนี้ เราตั้งใจยกระดับมาตรฐานทุกด้านให้สมกับความไว้วางใจของแฟนดูคาติ ที่เฝ้ารอคอยมาอย่างยาวนาน ทั้งด้านบริการ การดูแลหลังการขาย และการมอบประสบการณ์ที่พรีเมียมกว่าเคย ไลน์อัปที่นำมาเปิดตัวครั้งนี้คือสัญลักษณ์ของยุคใหม่ของดูคาติในประเทศไทย ที่มุ่งนำเสนอความหรูหราและสมรรถนะระดับโลกในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”

ด้าน คุณมาโค่ บิออนดิ รองประธานฝ่ายขายและการตลาดของดูคาติ ประจำตลาดเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ประเทศไทยคือหนึ่งในตลาดสำคัญของดูคาติ โดยมีชุมชนแฟนดูคาติที่แข็งแรงและมากด้วยพลังความหลงใหล ไลน์อัปใหม่ทั้ง 3 รุ่น รวมถึงรุ่นลิมิเต็ดที่นำมาเปิดตัวในงานนี้ สะท้อนทิศทางใหม่ของแบรนด์ที่ให้ความสำคัญทั้งด้านดีไซน์คุณภาพระดับสูง และเครื่องยนต์ที่ถ่ายทอดบุคลิกของดูคาติอย่างชัดเจน เราต้องการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุด ให้ผู้ที่กำลังมองหารถจักรยานยนต์พรีเมียมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมข้อเสนอที่ดีที่สุดแห่งปี เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จระดับโลกของดูคาติ”

สำหรับไฮไลต์แรก XDiavel คือการตีความครุยเซอร์ในสไตล์ดูคาติที่ผสานดีไซน์เฉียบคมเข้ากับสมรรถนะเครื่องยนต์ Testastretta DVT 1,262 ซีซี ให้แรงบิดดุดัน และดีไซน์หรูเหมาะสำหรับผู้ขี่ที่ต้องการความพรีเมียมและความโดดเด่น ประกาศราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,405,000 บาท

ทางด้าน Desmo 450MX คือการเปิดประตูครั้งแรกของดูคาติสู่โลกโมโตครอส ด้วยเครื่องยนต์สูบเดียว 449 ซีซี ระบบวาล์วแบบ Desmodromic น้ำหนักตัวเพียงราว 104 กิโลกรัม และกำลังที่ตอบสนองฉับไว ทำให้เป็นรถที่ออกแบบมาเพื่อผู้รักสายลุยที่ต้องการสัมผัสเอกลักษณ์ของดูคาติในโลกออฟโรด ยังไม่ประกาศราคาจำหน่าย


ส่วน Scrambler Thailand Edition รุ่นลิมิเต็ด คือการผสานจิตวิญญาณของ Scrambler เข้ากับศิลปะร่วมสมัยของศิลปินไทย Arjan Neng ซึ่งสร้างสรรค์ลวดลายเฉพาะอย่างประณีตและทรงพลังบนรถรุ่นที่เป็นไอคอนของดูคาติ เป็นรถสะสมที่มีจำนวนจำกัดเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความพิเศษไม่เหมือนใคร ประกาศราคาจำหน่ายอยู่ที่ 405,000 บาท

เพื่อเฉลิมฉลองการกลับมาอย่างเป็นทางการ ดูคาติ ประเทศไทย มอบข้อเสนอสุดพิเศษภายใต้แคมเปญ Ducati Triple Crown Celebration ฉลองความสำเร็จแชมป์โลก MotoGP ถึง 3 สมัยติดต่อกัน มอบวารันตีสูงสุด 4 ปีเต็ม พร้อมฟรีค่าบำรุงรักษานาน 3 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร สิทธิพิเศษนี้สงวนให้เฉพาะผู้ที่จองภายในงาน Motor Expo 2025 เท่านั้น ทำให้การเป็นเจ้าของดูคาติในปีนี้ คุ้มค่าและพิเศษยิ่งกว่าเคย
การกลับมาของ ดูคาติ ประเทศไทย ในปีนี้จึงไม่ใช่เพียงการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ แต่คือการประกาศมาตรฐานใหม่ของความพรีเมียม การบริการ และประสบการณ์ลูกค้าในแบบดูคาติ ผู้สนใจสามารถสัมผัสรถทุกรุ่น ทดลองนั่ง และรับข้อมูลแบบเอ็กซ์คลูซีฟได้ที่บูธ Ducati Thailand หมายเลข G08-2 ในงาน Motor Expo 2025 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2568 และคว้าข้อเสนอพิเศษที่สุดแห่งปีได้ภายในงานเท่านั้น
แท็กที่เกี่ยวข้อง
ducati
เอเอเอส โมโต โครเซ่
xdiavel
Desmo 450MX
Scrambler Thailand Edition
Motor Expo 2025
เขียนโดย
วโรดม อิ้วลันตา
Motorbike Guru
พูดคุยกับกูรูได้ที่

