
รถจักรยานยนต์ Honda ติดตั้งเทคโนโลยี "E-Clutch" รถบิ๊กไบค์ที่ไม่ต้องกำคลัตช์ "มือใหม่ก็ขี่ได้" มือเก๋าก็ยัง "บิดมันได้เช่นเคย" โดยระบบนี้คือ การนำชุดกลไกกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว มีทำหน้าที่ "กำคลัตช์" แทนผู้ขับขี่และจะทำงานตั้งแต่เริ่มตบเกียร์แรกและออกตัว จนหยุดสนิทโดยผู้ขับขี่ไม่ต้องกำคลัตช์เลย เจ้า E-Clutch ที่แหละจะทำให้หมด ออกตัวไม่ดับ แถมอากจะขับแบบเดิม ๆ เล่นคลัตช์ก็ย่อมได้อีกด้วย

Honda E-Clutch ทำงานยังไง ทำไมออกตัวไม่ดับ?
Honda E-Clutch เป็นการผสมระหว่างการใช้ก้านคลัตช์ (ที่มือซ้าย) ควบคุมกับชุดควบคุมชุดคลัตช์ไฟฟ้าเล็ก ๆ ที่ติดอยู่ข้าง ๆ เครื่องยนต์ซึ่งน้ำหนักเพียง 2 กิโลกรัมเท่านั้น การควบคุมทั้ง 2 แบบ (มือกำ-ชุดคใบคุมไฟฟ้า) จะมีแกนที่ต่อจากขาคลัตช์เพื่อ "งัด" หรือ "ยกแผ่นกดลัตช์" หรือขอเรียกง่าย ๆ ว่า "ชุดคลัตช์" ให้ชุดคลัตช์ด้านในนั้น "ลอย" หรือศัพท์บ้าน ๆ เรียกว่า "คลัตช์จาก" จังหวะนี่คือ เหมือนการกำคลัตช์และตบเกียร์ 1 นั่นเอง เมื่อชุดคลัตช์ที่เคยถูกแผ่นกดคลัตช์กดไว้กับฟลายวิล "ยกลอย" ทำให้แผ่นคลัตช์หมุนฟรีจากกันกับฟลายวิล เมื่อเข้าเกียร์เครื่องยนต์ก็ไม่ดับ เพราะหมุนฟรีเป็นอิสระต่อกันนั่นเอง (ถ้างง..ให้กลับไปอ่านอีกรอบ...)

เมื่อต้องการออกตัวเพียงแค่บิดคันเร่งระบบ E-Clutch (ที่ทำหน้าที่แทนมือซ้ายผู้ขับขี่) ที่ทำงานในแบบไม่เกิน 2 วินาที คือเร็วมาก จะค่อย ๆ ปล่อยชุดคลัตช์ให้กลับเข้าที่เดิมหรือให้ชุดคลัตช์กลับไปติดแนบสนิทกับฟลายวิลอีกครั้ง รถก็จะเคลื่อนที่ออกไป ซึ่งจะทำงานด้วยการตรวจจับสัญญาณจากเซ็นเซอร์ต่าง ๆ มากมาย เช่น ความเร็วของเครื่องยนต์ (เพลาข้อเหวี่ยง), มุมปีกผีเสื้อ (ลิ้นเร่ง), ตำแหน่งเกียร์ โหลดคันเกียร์, การคลายคลัตช์, มาตรวัด และความเร็วล้อหน้าและหลัง และทำงานร่วมกับการคำนวณจาก ECU ควบคุมเครื่องยนต์ ระบบก็จะใช้การควบคุมชุดคลัตช์ให้เหมาะสมกับในแต่ละสภาวะการขับขี่ และทางฮอนด้า ญี่ปุ่นคุยว่า ระบบ E-Clutch นี้มีขนาดกระทัดรัด, ทำงานได้รวดเร็วกว่ามนุษย์, การควบคุมคลัตช์ที่เหมาะสมกับสถานะการขับขี่ (การสตาร์ท การเปลี่ยนเกียร์ และการหยุด) และสามารถควบคุมคลัตช์ด้วยตนเองแม้ในระหว่างการควบคุมอัตโนมัติ และในการเปิดหรือปิดระบบตามความต้องการของผู้ขับขี่-แปลง่าย ๆ คือ ระบบอัตโนมัติทำงานอยู่แล้วผู้ขับเข้าไปทำซ้าซ้อน ระบบ E-Clutch ก็ยังจัดสรรได้ดี

จากรูป-ซ้ายสีน้ำเงินชุดคลัตช์มือ / ฝั่งขวาสีแดงชุด E-Clutch / ทั้ง 2 ชุดจะมาต่อกับแกนกลางที่ควบคุมแผ่นกดคลัตช์ (สีเหลือง)

กรณีกำคลัตช์เอง (สีน้ำเงิน)

กรณีระบบ E-Clutch ทำงาน (สีแดง)

กรณีระบบ E-Clutch ทำงานแล้วผู้ขับต้องการใช้คลัตช์เอง ระบบ E-Clutch ก็จะตัดการทำงานทันที่ และเมื่อไม่มีการใช้งาน "ก้านคลัตช์เกิน 1- 2 วินาที E-Clutch ก็จะกลับทำงานเหมือนเดิม
ระบบ Honda E-Clutch มีมอเตอร์ MCU ขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 32 มม. ว่างตรงข้ามกันและคบกับฟันเฟืองตัวเดียวกันเพื่อให้เสริมแรงและทำงานได้ดีไม่ผิดพลาด กลไกดูซับซ้อน แต่หลักการง่ายมากคือ มีแกนกลางต่อไปยังชุดคลัตช์เดิม ตัวแกนกลางนี้จะมีตัวเชื่อมโยงระหว่าง "คลัตช์มือ" 1 ชุด และ "คลัตช์ไฟฟ้า" อีก 1 ชุด ในแกนเดียวกัน โดยที่ทั้ง 2 แบบก็สามารถไปขยับแกนกลางเพื่อยกชุดคลัตช์ได้เหมือนกันเลย ขึ้นกับผู้ขับขี่ว่าจะ กำคลัตช์ใอเอง หรือจะให้ E-Clutch ทำงานแทน

นอกจากนี้ยังทำงานร่วมกับระบบเกียร์ "quick shifter control" ที่เปลี่ยนเกียร์โดยไม่ต้องใช้คลัตช์ ทำให้มีความนุ่มนวล สะดวก ปลอดภัย ไม่ต้องคอยพะวงกับการใช้คลัตช์เวลาเล่นโค้งต่าง ๆ และสามารถเปิดหรือปิดระบบได้ เมื่อระบบปิดอยู่หรือการใช้คันคลัตช์ด้วยมืออาจทำให้ระบบเข้าสู่โหมดแมนนวลชั่วคราว ซึ่งต้องใช้ก้านคลัตช์เหมือนกับเกียร์ธรรมดาทั่วไป ระบบจะทำงานเหมือนเกียร์ธรรมดาทั่วไป ซึ่งต้องใช้คันคลัตช์ในทุกสถานะการขับขี่ (สตาร์ท การเปลี่ยนเกียร์ และหยุด)

สำหรับเทคโนโลยีนี้มือเก๋าออกมองว่า "ขับไม่มันแน่ ๆ" แต่ความจริงแล้วระบบนี้ยังใช้ "แผ่นคลัตช์แห้ง" เหมือนรถมีคลัตช์ปกติทั่วไป และสามารถควบคุมการใช้คลัตช์ที่มือได้เอง โดยที่ระบบจะตัดการทำงานให้เองอีกด้วย เรียกว่าเป็นระบบที่ มือใหม่ก็ขี่ง่าย มือเก๋าก็บิดมันติดมือ หรือจะยกล้อ เข้าโค้งในสนามทำได้เหมือนเดิมทุกประการเลยครับ และรถบิ๊กไบค์ของฮอนด้าที่มีระบบนี้ได้แก่ Honda CBR 650 และ CB 650 ใหม่ ไปลองขี่กันเลยครับบบบบ



เขียนโดย
สินธนุ จำปีศรี
Motorbike Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่