สำหรับกำหนดการ 3 วัน ที่ผู้เขียนไปร่วมมา นำมาถ่ายทอดพอให้ได้เห็นภาพกันเริ่มจากวันแรกเดินทางกันตามสะดวกแต่ขอให้ไปลงทะเบียนที่ Ashcarya Resort ตอนบ่ายโมง จากนั้นก็เปลี่ยนชุด อุปกรณ์เซฟตี้ต้องครบเตรียมไปขี่อุ่นเครื่องทำความคุ้นเคยกับตัวรถ โดยมีผู้ฝึกสอนของทีม Enduropark Thailand มาดูแล พร้อมสอนเทคนิคพื้นฐานไปด้วย ซึ่งดีสำหรับใครที่ยังไม่เคยสัมผัส บีเอ็มดับเบิลยู R1250GS มาก่อน หรือที่กำลังอยากได้ก็ถือโอกาสมาลองของจริง ช่วงบ่ายถึงเย็นทุกคนก็ได้ขี่ฝึกสกิลที่จำเป็นของการออกทริปจนครบถ้วนและคุ้นกับรถพอที่จะลุยในวันรุ่งขึ้น เสร็จก็กลับมารับประทานอาหารเย็นและพักผ่อนตามสบาย แนะนำว่าไม่ควรนอนดึกเตรียมร่างกายให้สดพร้อมขี่ลุยยาวๆ ในวันรุ่งขึ้น

วันที่สอง ตื่นมาทานอาหารเช้าพร้อมทำธุระส่วนตัว และแต่งตัวชุดขี่เอนดูโร่ให้พร้อมก่อน 9.00 น. ทุกคนมาเจอกันที่จุดจอดรถเพื่อวอร์มอัพและฟังบริฟ ครึ่งวันเช้ามุ่งหน้าเข้าสู่เส้นทางออฟโร้ดที่มีความหลากหลาย ส่วนใหญ่เป็นทางฝุ่น ดินบ้าง ทรายบ้าง ผ่านไร่อ้อยและกล้วยบ้าง จนมาแวะพักจอดเพื่อทำเวิร์คช็อปการขี่ขึ้นลงเนิน กลับรถในที่แคบแบบลงรถ ได้ประสบการณ์ติดตัวไปกันไม่น้อย โดยเฉพาะการขี่แล้วลงเพื่อเทิร์นรถกลับพร้อมขี่ต่อ เป็นทริคที่จำเป็นเวลาขี่ไปตามทางออฟโรดที่แคบและมองแล้วว่าต้องกลับรถทันที แต่ถ้าเอาให้คล่องก็ต้องหาเวลากลับไปฝึกฝนด้วยตนเอง การที่นานๆ มาขี่แล้วใช้ทริคเหล่านี้ย่อมทำได้ไม่คล่อง ยิ่งถ้าใครชื่นชอบออกทริปกับจีเอสแบบนี้ ยิ่งควรหาเวลากลับไปฝึกในที่ทางเหมาะสมต่อไป จนได้เวลาพอสมควรก็ขี่ไปเติมพลังทานอาหารกลางวันกันที่ เดอะ ซีนเนอรี่ วินเทจ ฟาร์ม รีสอร์ท สวนผึ้ง พร้อมกับครอบครัวที่ตามมาทานกลางวันพร้อมกันแบบ ไม่ได้หายไปทั้งวันยังแวะมารายงานตัวกับครอบครัวพร้อมมีเวลาเก็บภาพสวยๆ ร่วมกันอีก ก่อนไปลุยต่อในภาคบ่ายที่เน้นออนสลับออฟโร้ดกับแบบสบายๆ ให้สัมผัสถีงสมรรถนะตัวรถทั้งออนและออฟ พร้อมแวะจิบกาแฟยามบ่าย เสมือนการออกทริปในกลุ่มเพื่อนฝูง สุดท้ายขี่จบทริปเข้าที่พักกันราว 16.30 โดยสวัสดิภาพทุกคน กลับเข้าห้องพักถอดชุดคลุกฝุ่นอาบน้ำแต่งตัวพาครอบครัวออกไปดินเนอร์รอบแคมป์ไฟกันแบบชิลๆ กับอากาศที่สูดได้เต็มปอด เป็นมื้อเย็นที่บรรยากาศเก๋กู๊ดมาก ที่สำคัญคือ ได้มิตรภาพใหม่จากเพื่อนร่วมทริปและรอยยิ้มของคนในครอบครัว นับเป็นกิจกรรมที่สร้างความพึงพอใจและสบายใจให้กับพ่อบ้านสายลุยไม่น้อย อาหารและเครื่องดื่มผ่านคอไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกับเสียงพูดคุย รอยยิ้ม และเวลา จนสามทุ่มครึ่งน้ำค้างเริ่มลงแรงก็ได้เวลากับเข้าที่พักพักผ่อนกันตามสะดวก ในวันรุ่งขึ้นหลังมื้อเช้าที่พักก็แล้วแต่ความชอบจะเช็คเอ้าท์ตอนไหนเพราะมีเวลาชิลได้ถึงเที่ยง ผู้เขียนใช้เวลากับที่พักเต็มที่ ชาร์จพลังชีวิตก่อนกลับไปเข้าลูปชีวิตคนเมืองในกรุงเทพฯ กันต่อไป 

ใครสนใจงานนี้ มีจัดทุกสุดสัปดาห์  ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 27 ก.พ. 2565 และพิเศษสำหรับลูกค้า BMW Motorrad หรือเจ้าของรถยนต์ BMW (รุ่นใดก็ได้)