บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้แนะนำ New bZ4X ที่ประกอบและนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น โดยเพิ่งจะเปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการไปไม่นานนี้ อยู่ที่ 1,529,000 บาท สำหรับรุ่น FWD และ 1,649,000 บาท สำหรับรุุ่น AWD ซึ่ง กูรูช้าง-สินธนุ จำปีศรี ได้เดินทางไปร่วมกิจกรรมทดสอบรถยนต์รุ่นดังกล่าวบนเส้นทาง กรุงเทพ-เพชรบุรี-หัวหิน ซึ่งผลจากการร่วมกิจกรรมนี้จะเป็นอย่างไรนั้น ไปดูกันเลย
อ่านบทความและข่าว Toyota ที่เกี่ยวข้อง
- TOYOTA YARIS CROSS NIGHTSHADE สไตล์สปอร์ต พรีเมียม ไม่ซ้ำใคร ในราคา 919,000 บาท
- ใหม่หมดคัน ! TOYOTA HILUX TRAVO จัดเต็มทุกรายละเอียด พร้อมทุกถนน
- กูรูช้าง พาชมคันจริง New Toyota Land Cruiser FJ สวยจนน่าเป็นหนี้ คาดไม่เกิน 1.5 ล้านบาท
- New Toyota Land Cruiser FJ เผยโฉมแบบ World Premiere แล้วที่ญี่ปุ่น พร้อมแผนที่จะทำตลาดในไทยต้นปี 2026
- Toyota Fortuner Leader G+ เติมเต็มไลน์อัพ ตอกย้ำความเป็นผู้นำตัวจริงในตลาด PPV ในราคา 1,439,000 บาท
- Toyota มอบประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ กับการจัด GR Car Meet ครั้งแรก ใน GR DAY COFFEE & CONNECT
- โตโยต้าเคียงข้างคนไทย ส่งความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ผ่านโครงการ TOYOTA GIVING ขับเคลื่อนไทยให้ยั่งยืน
- Toyota สนับสนุนยานพาหนะและบุคลากร ในภารกิจ "จิตอาสา" งานพระราชพิธีพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
- Toyota ส่งคาราวานรถกระบะ Hilux เร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้และภาคกลาง
- Toyota Gazoo Racing Thailand 2025 ปิดฉากการแข่งขันส่งท้ายฤดูกาลอย่างยิ่งใหญ่ในสนามที่ 5 จ.เชียงใหม่
.jpg.webp)
.jpg.webp)
บรรยากาศการทดลองขับ
กูรูช้าง ได้ร่วมกิจกรรมทดลองขับ Toyota bZ4X รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) และขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ในพื้นที่ไร่องุ่น ที่มีทั้งทางฝุ่น-ลูกรัง,ทางราบ, เนินชันและหินกรวดลื่น ๆ ให้ได้ลองสมรรถนะกันแบบ ออฟโรดเบา ๆ พอสนุก ไม่โหดจนเกินไป ซึ่งจุดประสงค์ของการทดสอบในครั้งนี้ ไม่ได้จะมาบอกว่า bZ4X เป็นรถลุยออฟโรดจ๋า แต่ทาง โตโยต้าต้องการที่จะอยากให้เรา รู้ฟีล ของช่วงล่าง การเก็บแรงสะเทือน และบาลานซ์ของตัวรถเวลาเจอทางไม่เรียบมากกว่า
.jpg.webp)
ไฮไลต์รุ่นไมเนอร์เชนจ์
สิ่งที่เปลี่ยนไปจากรุ่นแรกที่เคยนำเข้า มีอยู่หลายจุดที่น่าสนใจ เช่น
- โครงสร้างตัวถังและหลังคา Panoramic Roof
- ตอนนี้หลังคากระจกพาโนรามิกยาวต่อเนื่องไปถึงด้านหลัง
- ตัดคานกลางที่เคยมีในรุ่นก่อน ทำให้ห้องโดยสารโปร่ง โล่งตาขึ้น
- แบตเตอรี่ & ระยะทางวิ่ง
- ขนาดแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้นเป็นราว ๆ 70 กว่า kWh
- เคลมระยะทางวิ่งได้สูงสุดประมาณ 440 กว่ากิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ในสเปกที่ให้มอเตอร์แรงระดับ 200 กว่าแรงม้า และตัวรถค่อนข้างใหญ่)
- ขนาดตัวรถ & ล้อ
- ขนาดตัวถังใหญ่ใกล้เคียงกับ Innova เลยทีเดียว เรียกว่าตัวใหญ่เต็ม ๆ ไม่ใช่ C-SUV เล็ก ๆ
- ใส่ล้อขนาด 20 นิ้ว จากโรงงาน
- จุดเด่นจริง ๆ ไม่ใช่แค่ “ประหยัดไฟ”
- ด้วยความที่ตัวรถใหญ่ หนัก และมีกำลังมอเตอร์เยอะ การประหยัดไฟอาจไม่ใช่จุดเด่นหลัก
- แต่แลกมาด้วย แฮนด์ลิงดี ช่วงล่างนิ่งหนึบ และการตอบสนองคันเร่งที่มั่นใจได้ มากกว่า
.jpg.webp)
ฟีลลิ่งช่วงล่างบนทางฝุ่น – นุ่ม หนึบ ไม่ดีด ไม่เด้ง
สิ่งที่รู้สึกได้ชัดมากคือ ช่วงล่างทำการบ้านมาดี โดยเฉพาะตอนวิ่งบนทางลูกรัง ก้อนหิน และเนินต่างระดับ
- เวลาเจอหลุมหรือทางขรุขระ
- ช่วงล่างจะ รับแรงแล้วซับไว้ รู้สึกว่ารถยุบตัวแล้ว จบ เลย
- ไม่มีอาการดีดตัวกลับแรง ๆ จนตัวโยน หรือสะเทือนขึ้นมาถึงมือที่พวงมาลัย
- ตอนผ่านเนินหรือหลุมแรง ๆ
- แทบไม่มีจังหวะ จึก ๆ หรือสะเทือนแบบรถบางรุ่นที่ช่วงล่างแข็งไปหรือนิ่งไม่พอ
- รู้สึกได้ว่าช่วงปลายของจังหวะยืด-ยุบโช้ก เขาเซตให้มีความนุ่มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ช่วยเก็บอาการได้ดี
- ระยะใต้ท้องรถประมาณ 200 มม.
- ไม่ต้องกังวลเรื่อง ท้องติด เวลาไต่เนินหรือผ่านทางขรุขระ
- ใต้ท้องมีแผ่นปิดเรียบร้อยพอให้สบายใจเวลาเจอเศษหินหรือทางขรุขระ
โดยรวม ถ้าคุณอยากได้รถไฟฟ้าที่ขับในเมืองเนียน ๆ แล้วพอออกต่างจังหวัดจะพาขึ้นไร่ ขึ้นเขา ถนนลูกรังเบา ๆ ก็ทำได้แบบไม่เครียด
ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ & X-MODE
ในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) จะมี X-MODE มาให้ เพื่อช่วยเพิ่มการยึดเกาะในสภาพทางลื่น ๆ เช่น ดิน หิน หิมะ (ตามสเปกโหมด)
- ระบบจะจัดการแรงบิดให้ทั้ง
- มอเตอร์หน้า–หลัง
- ซ้าย–ขวา แต่ละล้อ
- เวลาเหยียบคันเร่งบนทางลื่น ๆ รถไม่ได้ปั่นฟรีหรือเหวี่ยง แต่ระบบช่วยควบคุมให้ขึ้นเนินหรือผ่านอุปสรรคได้แบบ “นิ่ง ๆ”
เอาจริง ๆ ถ้าใช้งานทั่วไป ไม่ได้ปีนป่าฝ่าดง รุ่นขับล้อหน้าก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าชอบความมัน ความมั่นใจเวลาไปเส้นทางทุรกันดารมากขึ้น รุ่นขับสี่ + X-MODE ก็ให้ฟีลที่ครบกว่าและสนุกกว่า



ภายในห้องโดยสาร – สปอร์ต มีกลิ่นอายล้ำ แต่ยังจับต้องง่าย
ดีไซน์ภายในของ bZ4X ให้ฟีล สปอร์ต แข็งแรง มีเหลี่ยมมุม ไม่ได้ล้ำแบบยานอวกาศสุดขอบ แต่ก็ไม่ได้บ้าน ๆ
- แดชบอร์ด & หน้าจอ
- หน้าจอมาตรวัดจะถูกดันไปใกล้กระจกหน้า ทำให้สายตาไม่ต้องก้มลงเยอะ เวลามองคล้าย ๆ Head-up style
- แต่ต้องระวังเรื่อง “ตำแหน่งเบาะและพวงมาลัย” ถ้านั่งเตี้ยไปหรือยกพวงมาลัยสูงไป อาจบังมาตรวัด ต้องปรับให้พอดีตัวเอง
- อุปกรณ์และปุ่มต่าง ๆ
- ปุ่มปรับกระจกไฟฟ้า และฟังก์ชันพื้นฐานยังเป็นปุ่มกดอยู่ด้านข้าง ใช้งานง่าย ไม่ซ่อนในจอทั้งหมด
- มีปุ่มเซ็ตทริปต่าง ๆ แยกชัดเจน
- คอนโซลกลาง & เกียร์
- หัวเกียร์ดีไซน์สวย ดูทันสมัย ต้องกดแล้วหมุนเพื่อเข้าเกียร์ D หรือ R
- มีปุ่ม P แยกเป็นแบบกด
- กล้องรอบคันติดตั้งมาให้ในทุกรุ่นย่อย
- ระบบสำหรับรุ่นขับสี่
- จะมีปุ่ม X-MODE และการแสดงผลระบบมอเตอร์/แรงบิดเพิ่มเติม
- รุ่นขับล้อหน้าจะตัดส่วนนี้ออก แต่ฟังก์ชันอื่น ๆ แทบเหมือนกันทั้งหมด
- กระจกมองหลังแบบดิจิทัล
- แม้ไม่มีที่ปัดน้ำฝนหลัง แต่ใช้จอดิจิทัลช่วยมองแทนได้ ความคมชัดดีมาก
- ต้องใช้เวลาปรับตัวเล็กน้อยเพราะระยะการมองต่างจากกระจกธรรมดา
- หลังคา Panoramic Roof
- แผ่นกระจกยาวต่อเนื่อง ไม่มีคานกลางคั่น
- มีม่านบังแสงให้ ปรับเปิด–ปิดได้
พื้นที่โดยสารด้านหลัง – กว้าง โปร่ง นั่งสบาย
ลองย้ายมานั่งด้านหลัง รู้สึกได้เลยว่า
- พื้นที่ขาและหัวค่อนข้างกว้าง โปร่งกว่ารถระดับ C-SUV หลายรุ่น
- ระดับความสบาย “มากกว่า Corolla Cross แน่นอน” ตามความรู้สึก
- มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารหลัง
- มีช่องชาร์จ USB-C 2 ตำแหน่ง และระบบเป่าลมบริเวณเบาะให้ด้วย
เบาะหลังพับได้ ถ้าถอดหมอนรองศีรษะจะทำให้พื้นเกือบเรียบ เหมาะสำหรับบรรทุกของชิ้นใหญ่ขึ้น
.jpg.webp)
แบตเตอรี่ & การดูแลสุขภาพแบต
ในรถสามารถดูข้อมูลสถานะแบตเตอรี่ได้จากหน้าจอโดยตรง
- แสดง SOC (State of Charge) และสถานะสุขภาพแบต
- ผู้ใช้สามารถเช็กเองได้จากหน้าปัด ไม่จำเป็นต้องเข้าสูนย์เพื่อตรวจค่าเบื้องต้น
ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้เจ้าของรถสบายใจมากขึ้นเรื่องสุขภาพแบตในระยะยาว
.jpg.webp)
ฟีลลิ่งบนถนนดำ – สเปกยุโรป ขับแล้วนิ่ง มั่นใจ
ในวันต่อมามีการทดสอบบนถนนดำ ทางเรียบ ปกติแบบใช้งานจริง
- อัตราเร่ง
- แรงดึงไม่ได้โหดแบบกดแล้วกระชากหลังติดเบาะ แต่รู้ได้เลยว่า แรงม้าแรงบิดมีเต็ม
- การไต่ความเร็วลื่นไหล นุ่มนวล ไม่กวนผู้โดยสาร
- รุ่นขับสี่ (AWD)
- ฟีลลิ่งการเร่งและเกาะถนน เทียบชั้นรถยุโรปหลายรุ่นได้เลย
- ต้องไม่ลืมว่ารถคันนี้ใช้มาตรฐานการเซ็ตมาแนวรถยุโรป ทำให้ความมั่นคงและความรู้สึกที่พวงมาลัยออกไปทาง พรีเมียม
- ระบบช่วยขับ
- Adaptive Cruise Control เว้นระยะห่างได้กำลังดี ไม่ทิ้งห่างเกินจนรำคาญ
- ระบบเตือนออกนอกเลน–ช่วยประคองรถให้อยู่ในเลน ทำงานได้ค่อนข้างนุ่มนวล ไม่ตวัดพวงมาลัยให้ตกใจ
- เวลาเข้าโค้ง ระบบช่วยเลนก็ยังทำงานได้เนียน ไม่กระชาก
โดยรวมแล้ว ในการขับทางเรียบ bZ4X ให้ความรู้สึกว่าเป็น SUV ไฟฟ้าพรีเมียม นั่งสบาย ขับง่าย นิ่งและมั่นใจ มากกว่าการจะเน้นประหยัดสุด ๆ
.jpg.webp)
สรุปมันคือ BEV สไตล์ “คัมรี่ยกสูง ลุยนิดหน่อย”
ถ้าจะสรุปให้สั้นและเห็นภาพ ผมมองว่า Toyota bZ4X คันนี้คือรถไฟฟ้าที่ให้ฟีลประมาณ คัมรี่ที่ยกสูงขึ้น ช่วงล่างนุ่มหนึบขึ้น นั่งสบายในเมือง และพร้อมจะพาเราออกไปลุยทางฝุ่นเบา ๆ ได้โดยไม่ต้องกลัวมาก คนที่เหมาะกับรถคันนี้คือ
- คนที่อยากได้ BEV แบบ SUV ขนาดใหญ่ นั่งสบายทั้งครอบครัว
- ให้ความสำคัญกับ ความนุ่มนวล ช่วงล่างดี แฮนด์ลิงมั่นใจ มากกว่าตัวเลขประหยัดไฟที่สุดขั้ว
- ต้องการความพรีเมียมทั้งฟีลการขับและการเซ็ตระบบช่วยขับแบบสไตล์ยุโรป
สามารถไปลองสัมผัสตัวจริงและทดลองขับได้ที่โชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ แล้วคุณจะได้รู้เองว่าฟีล คัมรี่ยกสูงไฟฟ้า ที่ลุยได้นิดหน่อย มันเป็นยังไงในแบบของคุณเองครับ
เขียนโดย
วโรดม อิ้วลันตา
CAR GURU
พูดคุยกับกูรูได้ที่

