

Mazda CX-5 มีดียังไง? กับค่าตัว 1.7 ล้านบาท
Mazda CX-5 ใหม่ (มาสด้า ซีเอ็กซ์-5) รถยนต์อเนกประสงค์สไตล์ SUV แท้ที่มาแบบตัวถังโมโนค็อค ไม่มีแชสซีส์ จึงให้ความนุ่มนวล คล่องตัวพร้อมเทคโนโลยีอีกเพียบ สำหรับคันที่ทีมงานเช็คราคา.คอมนำมาทดสอบขับครั้งนี้เป็นรุ่นท็อปสุด Mazda CX-5 2.2 XDL AWD จะคุ้มกับค่าตัว 1,770,000 บาทหรือไม่มาชมกัน
จุดเด่น
.jpg)
MAZDA CX-5 2.2 XDL AWD ภายนอกไฟหน้าทรงใหม่แบบ LED ปรับระดับอัตโนมัติและมีฟังก์ชั่นเปิด-ปิดอัตโนมัติ กระจังหน้าแบบ 5 เหลี่ยม DNA ของมาสด้าที่ตรงกลางติดด้วยโลโก้ตัวใหญ่ยักษ์ ไฟตัดหมอกทรงกลมเล็ก LED เช่นกัน ไฟท้าย LED ทรงคล้ายรุ่นเดิมแต่ลวดลายใหม่สวยเด่นมากขึ้น กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว LED แบบแนวยาว ด้านข้างเส้นสายถูกปรับให้เพรียวมากขึ้น โดยเฉพาะหลังคาที่ดูแบนลงกว่าเดิม ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า และท่อไอเสียออกคู่เช่นเดิม ล้อแม็ก 19 นิ้วลายใหม่ที่ดูออกไปทางหรูมากกว่าสปอร์ต
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)


.jpg)
.jpg)
ภายในเป็นการปรับใหม่หมดเริ่มจากคอนโซลหน้าสไตล์ยุโรป โดดเด่นด้วย WINDSHIELD ACTIVE DRIVING DISPLAY แสดงข้อมูลสําคัญในการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้ารถ ในระดับสายตาผู้ขับ เทคโนโลยีเชื่อมต่อโลกโซเชียล MZD CONNECT พร้อมจอแสดงผลตรงคอนโซลกลางขนาด 7 นิ้ว รองรับการสั่งงานด้วยเสียง Voice Command ช่อง USB 2.1 แอมป์ ระบบเสียง BOSE รอบทิศทาง ลำโพง 10 ตำแหน่ง เชื่อมต่อ Bluetooth พร้อม Infotainment และระบบนำทาง Navigator
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า พร้อมระบบบันทึกตําแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ที่สามารถบันทึกได้ 2 ตําแหน่ง เบาะหลังพับได้ 40:20:40 ส่วนเก็บสัมภาระกว้างขวางพร้อมแผ่นปิดที่ถอดออกได้ ช่องแอร์ด้านหลัง ช่อง USB บริเวณที่เท้าแขนเบาะหลัง และเท่ด้วยซันรูฟไฟฟ้า
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
หน้าจอแสดงผลระบบ MZD Connect CX-5
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)
สมรรถนะและการทดสอบ
.jpg)
มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 (Mazda CX-5) นอกจากความอเนกประสงค์แล้วยังให้ความรู้สึกดั่งขับรถเก๋งสปอร์ต เพราะเมื่อนั่งตำแหน่งคนขับ ด้วยดีไซน์ต่างๆ ภายในและระดับความสูงคอนโซลหน้า และจอภาพสะท้อนบนกระจก ทำให้เกิดความรู้สึกว่ากำลังขับรถเก๋งอยู่ รวมถึงระบบควบคุมต่างทั้งพวงมาลัยที่เฉียบคม บังคับทิศทางง่ายและเบา อัตราทดวงเลี้ยวน้อยยิ่งให้ความรู้สึกเหมือนขับรถคาร์ท แต่ทั้งนี้เมื่อความเร็วสูงๆ พวงมาลัยอาจเบาไปสักหน่อย
.jpg)
อัตราเร่งของเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ SKYACTIV-D 2-STAGE TURBOCHARGER แบบ 2 ขั้น 16 วาล์ว พร้อมระบบไอเสียแปรผันอัจฉริยะ VVT ความจุ 2,191 ซีซี กำลัง 175 แรงม้า ที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิด 420 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ผ่านระบบเกียร์ขั้นเทพอย่าง SKYACTIV-DRIVE อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic เปลี่ยนตำแหน่งเองได้ด้วยการโยก +/- ที่คันเกียร์ ราวรถสปอร์ตออกตัวได้อย่างรวดเร็วด้วยแรงบิดมหาศาลจากเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ แม้จะไม่ค่อยรู้สึกถึงการทำงานของระบบ 2-STAGE TURBOCHARGER มากนัก แต่ก็ดึงหลังติดเบาะไต่ระดับความเร็วได้เรื่อยๆ โดยเฉพาะอัตราเร่งแซงที่ทันใจมากๆ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะไหน ก็เร่งแซงได้สบาย
.jpg)
.jpg)
แม้พลังเครื่องยนต์จะแรงและให้อัตราเร่งที่จัดจ้าน แต่ก็มีข้อจำกัดของเครื่องยนต์ดีเซลที่รอบสูงสุดนั้นมีให้เล่นไม่มากนัก รอบเครื่องยนต์เพียง 5,000 กว่ารอบ/นาที เปลี่ยนเกียร์แล้วทำให้ฟีลลิ่งสปอร์ตลดลงไปบ้าง แต่ว่าความเร็วยังคงไหลลื่นได้เรื่อยๆ
.jpg)
การควบคุมและการเข้าโค้งของ Mazda CX-5 ตอบสนองได้ดีเกินรถตัวสูงใหญ่แบบ SUV จากช่วงล่างที่หนึบออกทางกระด้าง แต่จัดว่าการเปลี่ยนเลนการเข้าโค้ง กระโดดคอสะพาน มั่นใจมากๆ โดยเฉพาะเมื่อต้องเบรกและหักเลี้ยวอย่างแรง CX-5 ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ซึ่งระบบเบรกที่ให้ความรู้สึกนุ่มเท้าและออกแรงไม่มากนัก ก็สามารถเบรกได้อยู่ไม่ต้องใช้แรงมาก เรียกว่าระบบเบรกคล้ายกับรถยุโรปก็ว่าได้
.jpg)
ความประหยัด สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ถ้านำไปเทียบกับเครื่องยนต์เบนซินในรุ่นย่อยอื่นๆ นับว่าประหยัดในระดับที่เกินคุ้ม แต่ถ้านำไปเทียบกับรถเครื่องยนต์ดีเซลในระดับเดียวกันนั้น ดูยังไม่ค่อยน่าประทับใจมากนัก อาจเป็นเพราะความจุถังน้ำมันเพียง 58 ลิตรที่เล็กกว่ารถประเภท PPV จึงรู้สึกว่าน้ำมันลดระดับลงเร็วกว่าที่คาดเอาไว้ แต่เมื่อเทียบระยะทางที่วิ่งได้ของน้ำมันที่มีในถังก็นับว่าได้ระยะทางเยอะพอตัว เช่นระดับน้ำมันเต็มวิ่งได้ 555 กม.ทีเดียว และก็ยังมีไม้ตายเด็ดคือระบบ i-Stop (Idling Stop System) ที่ดับเครื่องทุกครั้งที่จอดนิ่ง แม้จะเข้าเกียร์ "N" แล้วก็ตาม ระบบนี้หากรำคาญก็สามารถกดปิดได้ที่ปุ่มด้านขวามือของคอนโซลหน้า
.jpg)
.jpg)
ความปลอดภัย
.jpg)
Mazda CX-5 รุ่นที่ทดสอบนี้มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (i-ACTIV AWD) ให้ความมั่นใจได้มากยิ่งขึ้นขณะขับขี่ผ่านเส้นทางที่เปียกลื่น นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane-Keep Assist System (LAS) , ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน Lane Departure Warning System (LDWS) , ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ Smart City Brake Support (SCBS) , ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง Smart City Brake Support-Revers) , ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน (HLA) , ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ (G-VECTORING CONTROL)
.jpg)
.jpg)
ในการใช้งานจริงนั้นระบบความปลอดภัยในมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ที่โดดเด่นมากที่สุดคือ ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน Lane-Keep Assist System (LAS) , ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน Lane Departure Warning System (LDWS) ในเวลาขับทางไกล แม้เผลอก้มหยิบของเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจทำให้รถเอียงออกนอกเลน ระบบนี้ช่วยได้ดีมากแถมดึงกลับมาเข้าเลนเดิมอีกต่างหาก และอีกระบบหนึ่งคือ ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) เตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน และสุดท้าย RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง เพราะได้ใช้บ่อยตลอดเวลาที่ทดสอบขับเจ้า CX-5 คันนี้
.jpg)
บทสรุป
Mazda CX-5 ใหม่ รถอเนกประสงค์สำหรับครอบครัวที่ต้องการความเร้าใจ สนุกทุกการขับขี่ และมีความชื่นชอบไปทางสปอร์ตนิดๆ เนื่องจากให้ความหนึบของช่วงล่างที่ออกไปทางกระด้างกว่านุ่มนวลแต่มั่นใจกว่า และเครื่องยนต์ดีเซลที่แรงเอาเรื่อง อัตราเร่งทันใจ ความประหยัดยังไม่ประทับใจมากนักแต่ก็ประหยัดกว่ารุ่นเบนซินอยู่หลายขุม เบาะนั่งโอบกระชับรับสัดส่วนจนบางครั้งขาดความนุ่มนวลของสัมผัสลงไปบ้าง นับว่า CX-5 เน้นชัดเจนให้เป็นสปอร์ต SUV ที่ขับสนุกเทียบเท่ารถยนต์สปอร์ต ที่ยกสูง ลุยน้ำได้ ขับขี่ได้ทุกสภาพถนน ใครชอบแนวนี้นับว่าไม่แพง ยิ่งแลกกับเทคโนโลยี Skyactiv เต็มคันของซีเอ็กซ์-5 คันนี้ หากคุณต้องการมีรถที่ให้อารมณ์และความรู้สึกใกล้เคียงรถยุโรปในราคาเอื้อมถึงสบายๆ เพียง 1,770,000 บาท Mazda CX-5 นี่ไงคือคำตอบ!...
.jpg)
ความรู้สึกผู้ทดสอบขับ
สิ่งที่ชอบ - กำลังเครื่องยนต์แรงสะใจ ช่วงล่างเกาะถนน ระบบความปลอดภัยมีให้ครบและคุ้ม เครื่องเสียงชั้นเยี่ยม
สิ่งที่ไม่ชอบ - เบาะนั่งใช้วัสดุแข็งเกินไปไม่สบาย ช่วงล่างกระด้างที่ความเร็วต่ำ น้ำหนักพวงมาลัยเบาเกินไปที่ความเร็วสูง

เขียนโดย
เช็คราคา.คอม
CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่