ปรับแล้ววันนี้ ภาษีเหล้า เบียร์ บุหรี่...อ่วมมั๊ย? ถามใจคุณดู
อธิบดีกรมสรรพสามิต ชี้แจงอัตราการจัดเก็บภาษีสินค้าและบริการต่างๆ โดยเฉพาะเหล้าและบุหรี่ ที่มีผลบังคับใช้ 16 ก.ย.2560 ส่งผลให้บุหรี่ เพิ่ม 2-15 บาท สุรา 8-30 บาท ส่วนเบียร์ 0.50-2 บาท
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะมีการคิดอัตราภาษีใหม่ ทั้งในด้านมูลค่าที่ 45% จากเดิม 80% และด้านปริมาณแอลกอฮอล์ 55% จากเดิม 20% และในอนาคตคาดว่าจะมีการปรับสัดส่วนการคำนวณนี้ในด้านปริมาณแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามหลักสากล
บุหรี่ จะมีการเก็บภาษีตามมูลค่า และปริมาณเช่นเดียวกัน โดยจะจัดเก็บอยู่ที่ 1.20 บาทต่อมวน ส่งผลให้ทั้งบุหรี่ราคาถูก และบุหรี่ราคาแพง จะมีภาษีในส่วนของปริมาณอยู่ที่ 24 บาทต่อซอง และในด้านมูลค่าบุหรี่ที่มีราคาต่ำกว่า 60 บาท จะเสียภาษีที่ 20% บุหรี่ที่ราคาสูงกว่า 60 บาท จะเสียภาษีที่ 40% และหลังจาก 2 ปีแรก จะมีการปรับภาษีในส่วนของมูลค่าเป็นอัตรา 40% อัตราเดียวทั้งหมด
ภาพรวมโดยสรุป - เบียร์กระป๋องภาษีเพิ่มขึ้น 0.50 บาท
- เบียร์ขวดเสียภาษีเพิ่มขึ้น 2.66 บาท
- เบียร์ราคาแพงเสียภาษีลดลง 0.99-2.05 บาท
- สุราขาว หรือเหล้าขาวเสียภาษีเพิ่มขึ้น 0.84-3.49 บาทต่อขวด ตามขนาดและดีกรี
- ไวน์ผลิตในประเทศราคาไม่เกิน 1,000 บาท เสียภาษีลดลง 25 บาทขึ้นไป
- ไวน์นำเข้าเสียภาษีเพิ่มขึ้น 110 บาทขึ้นไป
- สุรากลั่น หรือเหล้าสี ที่ผลิตในประเทศ เสียภาษีเพิ่มขึ้น 8-30 บาท
- เหล้าสีนำเข้าราคา เสียภาษีลดลง 3-26 บาท
- บุหรี่ราคาต่ำกว่า 60 บาท เสียภาษีเพิ่มขึ้นซองละ 4-15 บาท
- บุหรี่ราคาเกิน 60 บาท เสียภาษีเพิ่มน้อยกว่า 2-14 บาท
สำหรับสินค้าที่มีการเสียภาษีและเป็นอากรแสตมป์เดิมนั้น จะต้องขายตามราคาเดิม ห้ามปรับราคาขายขึ้นโดยอ้างว่าเป็นไปตามภาษีใหม่ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้อย่างเด็ดขาด โดยขอเตือนผู้ค้าอย่าฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา เนื่องจากทางกรมสรรพสามิตได้ร่วมมือกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในการลงพื้นที่ตรวจสอบ ซึ่งสามารถตรวจสอบจากอากรแสตมป์ได้ หากพบกระทำความผิด ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วย ราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ผู้ใดกักตุนสินค้าควบคุม โดยมีสินค้าควบคุมไว้ในครอบครองเกินปริมาณที่กำหนด หรือไม่นำสินค้าควบคุมที่มีไว้ออกจำหน่าย หรือเสนอขายตามปกติ หรือปฏิเสธการจำหน่ายโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ