ช่องทางการชำระเงินแบบไหน...ที่เหมาะกับคุณ?

จะสะดวกแค่ไหนหากสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ทุกที่ทุกเวลา เพียงมีเครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่เราสามารถพกติดตัวไปได้ทุกที่ เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และระบบเครือข่ายสื่อสาร

การชำระเงินทางอินเทอร์เน็ต (Internet Payment)

เป็นการโอนเงิน หรือชำระเงินในการซื้อสินค้าและบริการผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถเลือกได้หลายรูปแบบ เช่น

1. ผ่านบริการ Internet Banking เป็นบริการที่นอกจากผู้ใช้จะสามารถโอนเงิน ชำระเงินค่าสินค้าและบริการแล้ว ยังสามารถตรวจสอบยอดเงินในบัญชี หรือเรียกดูรายการใช้จ่ายย้อนหลังได้ โดยสามารถสมัครใช้บริการกับธนาคารที่เรามีบัญชีเงินฝากอยู่
   * สำหรับการซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ต ระบบของร้านค้าบางแห่งจะเชื่อมต่อไปยังระบบ internet banking ของธนาคาร เพื่อตรวจสอบและอนุมัติรายการชำระเงิน เมื่อรายการสำเร็จผู้ใช้จะได้รับการยืนยันการทำรายการทางเว็บไซต์ ทาง SMS หรือทางอีเมล์ตามที่ได้แจ้งลงทะเบียนไว้กับธนาคาร
2. ผ่านเว็บไซต์ ด้วยบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต เราสามารถซื้อสินค้าและบริการกับร้านค้าออนไลน์ที่มีช่องทางการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตไว้บริการลูกค้าได้ โดยผู้ซื้อเพียงกรอกรายละเอียดการชำระเงิน เช่น หมายเลขบัตร ชื่อผู้ถือบัตร วันหมดอายุ หมายเลขรหัส CVV รวมถึงอาจต้องใส่รหัสผ่าน OTP* ด้วย และเมื่อชำระเงินสำเร็จจะได้รับข้อความยืนยันการชำระเงินทางหน้าเว็บไซต์ ทาง SMS หรือทางอีเมล์ตามที่ได้แจ้งลงทะเบียนไว้กับธนาคารหรือผู้ออกบัตร (ในปัจจุบันเราสามารถใช้ e-Money บางประเภทในการชำระค่าสินค้าและบริการผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ด้วย)
   * OTP (One Time Password) เป็นรหัสที่ใช้ครั้งเดียว ซึ่งผู้ออกบัตรจะส่งให้แก่ผู้ถือบัตรผ่าน SMS หรือส่งทาง e-mail ตามที่ผู้ถือบัตรได้ลงทะเบียนไว้ เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนความเป็นเจ้าของบัตร

การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ (Mobile Payment)

Mobile Payment เปรียบเสมือนการมีกระเป๋าสตางค์อยู่ในโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือแท็บเล็ต
เราสามารถชำระค่าสินค้าและบริการผ่านเครือข่ายของระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ตามร้านค้าทั่วไป และร้านค้าบนอินเทอร์เน็ต แต่ต้องลงทะเบียนกับผู้ให้บริการชำระเงินเพื่อเชื่อมโยงบัญชีที่จะชำระเงินเข้ากับโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือแท็บเล็ตก่อน อาทิ บัญชีธนาคาร บัญชีบัตรเครดิต (credit card) และเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) 

สำหรับผู้ใช้บริการ

• ลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรม ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปที่ร้านค้า เพราะสามารถจัดการธุรกรรมได้ด้วยตัวเอง ที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ว่าจะอยู่ต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ
• มั่นใจได้ เพราะสามารถตรวจสอบรายการได้ตลอด และมีการแจ้งเตือนการทำธุรกรรมผ่าน SMS (อาจต้องสมัครใช้บริการและมีค่าใช้จ่าย)
• ไม่ต้องถือเงินสดในการซื้อสินค้า ซึ่งเสี่ยงสูญหาย หรือมีอันตราย

สำหรับร้านค้า

• ได้รับเงินรวดเร็วเพราะเงินเข้าบัญชีโดยตรง ลดความเสี่ยงในการจัดการเงินสด
• มีช่องทางการชำระเงินให้ลูกค้าเลือกมากขึ้น ขายสินค้าได้ทุกเวลา ไม่จำเป็นต้องเปิดหน้าร้าน
• มีบันทึกข้อมูลการขาย และสรุปข้อมูลทางบัญชีได้อย่างรวดเร็ว