ข่าวและอีเว้นท์โทรศัพท์มือถือ

icon-filter ค้นหาโทรศัพท์มือถือแบบละเอียด
product filter
product filter
product filter
product filter

Huawei จัดงาน Global Mobile Broadband Forum ครั้งที่ 13 ในประเทศไทย ภายใต้หัวข้อ “5G นำความก้าวหน้า”

icon 26 ก.ค. 68 icon 4,300
Share
Huawei จัดงาน Global Mobile Broadband Forum ครั้งที่ 13 ในประเทศไทย ภายใต้หัวข้อ “5G นำความก้าวหน้า”
 
Huawei เปิดฉากการประชุม Global Mobile Broadband Forum (MBBF) ครั้งที่ 13 โดยนายเคน หู ประธานกรรมการบริหารแบบหมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ย กล่าวสุนทรพจน์ในงานว่า “เทคโนโลยี 5G เติบโตอย่างรวดเร็ว ในเวลาเพียง 3 ปี เราเห็นความก้าวหน้าที่ชัดเจนด้านการติดตั้งเครือข่าย, การให้บริการลูกค้าและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ”
 
เขากล่าวเสริมว่า “เมื่อ 5G รุดหน้าอย่างรวดเร็ว เราควรภาคภูมิใจกับความสำเร็จที่ผ่านมา แต่ยังมีอีกหลายประเด็นที่เราสามารถร่วมมือกันในการดึงศักยภาพของ 5G เพื่อเพิ่มมูลค่าสูงสุด เพื่อขยายไปสู่การบริการด้านต่างๆ เช่น คลาวด์และการพลิกโฉม ระบบ เราจะร่วมขับเคลื่อนทั้งการพัฒนา 5G, การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและการเติบโตของอุตสาหกรรมไอซีทีไปพร้อมกัน”

นายเคน หู ประธานกรรมการบริหารแบบหมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ย ร่วมกล่าวสุนทรพจน์ในงาน MBBF

จากข้อมูลเดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 ผู้ให้บริการเครือข่ายมากกว่า 230 รายทั่วโลกได้เปิดตัวบริการ 5G เชิงพาณิชย์ โดยอุตสาหกรรมมีการจัดตั้งสถานีฐาน 5G รวมกันมากกว่า 3 ล้านแห่ง และให้บริการสมาชิกมากกว่า 700 ล้านรายทั่วโลก สำหรับธุรกิจโทรคมนาคม ผู้ให้บริการเครือข่ายสร้างรายได้หลักของธุรกิจจากการให้บริการ แต่เมื่อเทคโนโลยี 5G แพร่หลายมากขึ้น การมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าด้วยพลังที่เหนือระดับของ 5G ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ปริมาณการรับส่งวิดีโอความละเอียดสูงเติบโตอย่างรวดเร็ว แอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยี 5G ความเร็วสูงที่มีค่าความหน่วงต่ำส่งผลให้ปริมาณการดูข้อมูลโดยเฉลี่ยต่อผู้ใช้ (DOU) เพิ่มขึ้นถึงสองเท่า และเพิ่มอัตราเฉลี่ยค่าบริการต่อผู้ใช้งาน (ARPU) ขึ้น 20%-40% ส่งผลให้รายได้ด้านบริการเชื่อมต่อของผู้ให้บริการเครือข่ายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
 
ในขณะเดียวกันการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G ในธุรกิจ B2B กลายเป็นกลไกสร้างการเติบโตของรายได้ของผู้ให้บริการเครือข่าย สร้างมูลค่ามหาศาลในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น น้ำมันและก๊าซ การผลิต และการขนส่ง การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในอุตสาหกรรมเหล่านี้กลายเป็นนวัตกรรมที่สร้างมูลค่าทางธุรกิจอย่างมหาศาลให้กับผู้ให้บริการเครือข่าย ในปี พ.ศ. 2564 ผู้ให้บริการเครือข่ายของจีนสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่กว่า 3.4 พันล้านหยวน (ประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ) จากโครงการ 5G เชิงอุตสาหกรรมมากกว่า 3,000 โครงการ ยิ่งไปกว่านั้น โครงการเหล่านี้ยังสร้างรายได้มากขึ้นอีก 10 เท่าจากการประยุกต์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องและบริการด้านไอซีทีแบบครบวงจร
 
การใช้ 5G ในธุรกิจ B2B จะกลายเป็นกระแสรายได้ที่เติบโตเร็วที่สุดสำหรับผู้ให้บริการ 5G ส่งผลให้เกิดสถานการณ์ใหม่ในอุตสาหกรรมบริการ, การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและรูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ ปูทางสู่โอกาสการเติบโตที่ไม่เคยมีมาก่อน “เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโต เราต้องลงมือทำสิ่งเหล่านี้ให้สำเร็จ” นายเคน หู กล่าวย้ำ
 

พัฒนาเครือข่ายเพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

นอกเหนือจากการขยายความครอบคลุมแล้ว ควรปรับการพัฒนาเครือข่ายให้เข้ากับประสบการณ์ผู้ใช้แบบต่างๆ อย่างลงตัว เช่น ผู้ให้บริการเครือข่ายในประเทศจีนปรับเครือข่ายให้สอดคล้องกับการใช้แพลตฟอร์ม TikTok และแพลตฟอร์มวิดีโอยอดนิยมอื่น ๆ โดยลดความหน่วงของระยะเวลาการตอบสนองลง 50% และลดการแสดงภาพค้างลง 90% เพิ่มประสบการณ์การรับชมวิดีโอที่ราบรื่นยิ่งขึ้น ส่งผลให้มีปริมาณการใช้ข้อมูลเพิ่มขึ้นสองเท่าและดึงดูดผู้ใช้บริการ 5G รายใหม่มากขึ้น

ขับเคลื่อนการพัฒนา 5.5G

ในการผลักดัน 5G ให้ก้าวไปอีกขั้น หัวเว่ยร่วมมือกับผู้ให้บริการและพันธมิตรในอุตสาหกรรมเพื่อพัฒนาฟีเจอร์สำคัญสี่ประการสำหรับ 5.5G ซึ่งจะเป็นวิวัฒนาการขั้นต่อไปของ 5G ได้แก่ อัตราดาวน์ลิงค์ 10 Gbps, อัปลิงค์ 1 Gbps, รองรับการเชื่อมต่อ 100 พันล้านรายการและคลาวด์ Native Intelligence
 
“ผู้เล่นในอุตสาหกรรมต้องร่วมมือกันเพื่อกำหนดมาตรฐาน, เตรียมความพร้อมด้านคลื่นความถี่และฟูมฟักอีโคซิสเต็มไปด้วยกัน” นายเคน หู กล่าวเสริม
 
ในการประชุม Global Mobile Broadband Forum (MBBF) 2022 นาย เดวิด หวัง กรรมการบริหารและประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และโซลูชันไอซีที ได้กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ ‘ก้าวสู่ยุค 5.5G เพื่อรากฐานแห่งอนาคต’ โดยเขาได้เผยถึงความร่วมมือระหว่างพันธมิตรส่งผลให้อุตสาหกรรมรุดหน้าอย่างมีนัยสำคัญและพร้อมก้าวสู่ยุค 5.5G เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ เขาจุดประกายให้ผู้เล่นในอุตสาหกรรมเตรียมความพร้อมในทุก ๆ ด้าน เพื่อก้าวสู่ยุค 5.5G ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และสร้างโลกอัจฉริยะที่ยั่งยืนไปพร้อมกัน
 
เมื่อการเปลี่ยนสู่โลกอัจฉริยะมาถึงอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่คาดการณ์ไว้จะทำให้ความต้องการด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพิ่มขึ้น เป้าหมายต่อไปที่เราต้องบรรลุบนเส้นทางสู่โลกอัจฉริยะคือเทคโนโลยี 5.5G ที่มอบประสบการณ์การเชื่อมต่อระดับ 10 กิกะบิตต่อวินาที (10 Gbit/s) รองรับการเชื่อมต่อหลายแสนล้านรายการและรองรับคลาวด์ Native Intelligence
นายเดวิด หวัง กล่าวย้ำว่า สองปีหลังจากความร่วมมือระหว่างกลุ่มพันธมิตรในอุตสาหกรรม การพัฒนาเทคโนโลยี 5.5G รุดหน้าเป็นอย่างมาก รวมถึงมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นในประเด็นสำคัญ 3 ข้อที่มีผลต่อความก้าวหน้าของ 5.5G
 
ประการแรก มีการกำหนดมาตรฐานการใช้งาน 5.5G และมีความคืบหน้าในการดำเนินกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ 5.5G ไม่ได้เป็นเพียงวิสัยทัศน์อีกต่อไป
 
ประการที่สอง อุตสาหกรรมได้สร้างความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีที่สำคัญสำหรับ 5.5G ด้วยแบนด์วิดท์ขนาดใหญ่พิเศษและเทคโนโลยี ELAA สามารถมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อระดับ 10 กิกะบิตต่อวินาที (10 Gbit/s) ได้
 
ประการที่สาม อุตสาหกรรมมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนสำหรับภูมิทัศน์ของ Internet of Things (IoT) โดยมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี IoT บน 5.5G ที่โดดเด่นถึง 3 ด้าน ได้แก่ NB-IoT, RedCap และ IoT แบบพาสซีฟซึ่งจะรองรับการเชื่อมต่อ IoT จำนวนมาก
 
นายเดวิด หวัง เน้นว่า “อุตสาหกรรมการสื่อสารมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เทคโนโลยี 5.5G ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ในอนาคตเราต้องรับมือกับ 5 ปัจจัยสำคัญในการพัฒนา 5.5G อันได้แก่ มาตรฐานการใช้งาน, สเปกตรัม, ผลิตภัณฑ์, อีโคซิสเต็มและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เพื่อก้าวสู่ยุค 5.5G อย่างมั่นคงเพื่อสร้างโลกอัจฉริยะที่ดีกว่า”

ประการแรก กำหนดมาตรฐานการใช้งานและส่งเสริมการวิจัยด้านเทคโนโลยีที่สำคัญ

การกำหนดมาตรฐานการใช้งานช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการสื่อสารไร้สายและปูทางให้อุตสาหกรรม 5.5G รุดหน้าตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ เราต้องทำให้แน่ใจได้ว่าการดำเนินการตามข้อกำหนด Release 18 จะต้องเกิดขึ้นภายในไตรมาสที่ 1 ของปี พ.ศ. 2567 ตามแผนที่วางไว้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่าย 5.5G มากขึ้น 10 เท่า ในส่วนของ Release 19 และข้อกำหนดอื่น ๆ ในอนาคต เราควรหารือร่วมกันระหว่างการปรับปรุงมาตรฐาน 5.5G เพื่อสำรวจว่า 5.5G ควรมีคุณสมบัติใดบ้าง สำหรับรองรับบริการและสถานการณ์ใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มอายุการใช้งานและผลักดันศักยภาพสูงสุด
 

ประการที่สอง เตรียมสเปกตรัมเพิ่มเติมสำหรับแบนด์วิดท์ขนาดใหญ่พิเศษ

เราควรบริหารการใช้งานช่วงความถี่ที่ต่ำกว่า 100 GHz อย่างเต็มที่เพื่อสร้างแบนด์วิดท์ขนาดใหญ่พิเศษเพื่อรองรับ 5.5G โดยมี mmWave เป็นย่านความถี่หลักสำหรับ 5.5G ผู้ให้บริการเครือข่ายจะต้องได้รับคลื่นความถี่มากกว่า 800 MHz จากสเปกตรัมนี้เพื่อสร้างประสบการณ์การเชื่อมต่อระดับ 10 กิกะบิตต่อวินาที (10 Gbit/s) โดยความถี่ 6 GHz เป็นย่านความถี่กว้างพิเศษที่มีศักยภาพเพียงพอในการรองรับ 5.5G และเมื่อความถี่ดังกล่าวได้รับการสนับสนุนให้เป็นคลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล (IMT) ในการประชุม WRC-23 ก็มีแนวโน้มว่าประเทศอื่น ๆ จะต้องประมูลคลื่นความถี่ 6 GHz ด้วย นอกจากนี้เรายังสามารถปรับเปลี่ยนความถี่ 6 GHz ให้เป็นแบนด์วิดท์ขนาดใหญ่พิเศษสำหรับ 5.5G ได้
 

ประการที่สาม เตรียมรองรับเทคโนโลยี 5.5G ด้วยเครือข่ายอุปกรณ์, และชิปที่พร้อมรองรับการใช้งาน

ทั้งเครือข่ายและอุปกรณ์ต้องได้รับการอัปเกรดเพื่อรองรับการเชื่อมต่อระดับ 10 กิกะบิตต่อวินาที ผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยมาพร้อมเทคโนโลยี ELAA ที่สามารถรองรับเสาอากาศมากกว่า 1,000 ชุด เหมาะสำหรับย่านความถี่กลางและความถี่สูง และมาพร้อมเทคโนโลยี Massive MIMO ที่รองรับความจุถึง 128T นอกจากนี้ การพัฒนานวัตกรรมเกี่ยวกับชิปและอุปกรณ์ 5.5G ก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ชาญฉลาดมากขึ้น สามารถรองรับ 3T8R หรือมากกว่า และสามารถรองรับผู้ให้บริการเครือข่ายได้มากกว่าสี่ราย
 

ประการที่สี่ ทำงานร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนอีโคซิสเต็ม 5.5G ให้เติบโต

อีโคซิสเต็มที่ก้าวหน้าจะตอบสนองความต้องการด้านดิจิทัลได้ดีขึ้นในทุกสถานการณ์ ในการสร้างอีโคซิสเต็ม IoT ที่รองรับ 5.5G ผู้ให้บริการเครือข่ายและผู้จำหน่ายอุปกรณ์จะต้องวางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับเครือข่าย 5.5G สร้างการเชื่อมต่อไร้ที่ติระหว่างผู้คนและสิ่งของ ในขณะเดียวกันผู้จำหน่ายอุปกรณ์ต้องปรับต้นทุนและเพิ่มความยืดหยุ่นของอุปกรณ์เพื่อรองรับการใช้งานในสถานการณ์ที่หลากหลาย นอกจากนี้ นักพัฒนาในภาคอุตสาหกรรมและนักพัฒนาแอปพลิเคชันจะต้องพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ ๆ ที่รองรับเทคโนโลยีนี้อีกด้วย
 

ประการที่ห้า ก้าวไปข้างหน้าเพื่อประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5.5G ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

เมื่อข้อกำหนดการใช้งาน, สเปกตรัม, ผลิตภัณฑ์, และอีโคซิสเต็มเติบโตเต็มที่ ก็ถึงเวลาประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5.5G ในสถานการณ์ต่าง ๆ การปฏิสัมพันธ์ผ่านเซ็นเซอร์หลากหลายประสาทสัมผัสจะเปลี่ยนวิธีที่เราสื่อสาร ยานพาหนะที่เชื่อมต่อได้แบบอัจฉริยะจะกลายเป็นพื้นที่สำคัญอันดับ 3 ในการติดต่อสื่อสารแบบไร้สายและกลายเป็นที่นิยม ในขณะที่การเชื่อมต่ออัจฉริยะในอุตสาหกรรมต่าง ๆ จะทำให้การรับส่งข้อมูลทั่วถึงกันมากยิ่งขึ้น ผลักดันให้เกิดการยกระดับอุตสาหกรรม มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในรูปแบบใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดยั้งและทำให้วิสัยทัศน์สู่โลกอัจฉริยะมีความชัดเจนมากกว่าที่เคย ทำให้ผู้เล่นในอุตสาหกรรมต้องร่วมมือกันเพื่อสำรวจความเป็นไปได้และผลักดันการพัฒนาและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5.5G ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
 
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้ให้เกียรติขึ้นกล่าวเปิดงาน Global Mobile Broadband Forum 2022 ครั้งที่ 13 ว่า "ผมรู้สึกเป็นเกียรติ และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานเปิดงานสำหรับแวดวงอุตสาหกรรมไอซีทีระดับโลก Global Mobile Broadband Forum 2022 ครั้งที่ 13 ที่จัดขึ้นที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นเวทีสำคัญของภาคเอกชนและภาครัฐในการร่วมกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ต่อการขับเคลื่อนประเทศและภาคอุตสาหกรรม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และผลักดันให้ประเทศไทยมีการพัฒนาด้านดิจิทัลอย่างรวดเร็ว ด้วยการดำเนินนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนสู่ประเทศไทย 4.0 ทั้งด้านการ “ส่งเสริมและลงทุน” โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และด้าน “การเตรียมความพร้อมเรื่องกำลังคนด้านดิจิทัล” ผมเชื่อมั่นว่างานประชุมสัมมนาในวันนี้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ในการพัฒนาระบบดิจิทัลเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและสังคม และจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีดิจิทัลร่วมกันอย่างคลอบคลุมและยั่งยืน"
 
นอกจากนี้ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทยจํากัด ยังได้จับมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดตัวสมุดปกขาวสำหรับการพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลในประเทศไทย ในหัวข้อ "พลิกโฉมประเทศไทยสู่ขุมพลังดิจิทัลแห่งอาเซียน (Transform Thailand Into ASEAN Digital Powerhouse)" ภายในงานครั้งนี้ โดยหัวเว่ยได้ร่วมมือกับบริษัทโรแลนด์ เบอร์เกอร์ เพื่อจัดทำสมุดปกขาวฉบับดังกล่าวจากการรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกองค์กรภาคเอกชนและภาครัฐกว่า 40 แห่ง ในภาคอุตสาหกรรมด้านทักษะดิจิทัลของประเทศไทย ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อช่วยส่งเสริมด้านการสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับทักษะดิจิทัลเชิงเทคนิคอย่างครอบคลุม ทั้งนี้ รายละเอียดในสมุดปกขาวจะประกอบไปด้วยข้อมูลเชิงลึกที่เรียบเรียงอย่างเป็นระบบในด้านเทรนด์ดิจิทัล ทักษะดิจิทัลที่กำลังเป็นที่ต้องการ และช่องว่างระหว่างภาคอุปสงค์และอุปทานของบุคลากรดิจิทัลในประเทศไทย เพื่อส่งมอบคำแนะนำสำหรับการวางนโยบายที่ยั่งยืนเกี่ยวกับแผนด้านทักษะบุคลากร แนวทางการพัฒนาบุคลากร รวมไปถึงแผนปฏิบัติการต่าง ๆ เอกสารฉบับนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นสนับสนุนคุณค่าทางสังคมอย่างต่อเนื่องของหัวเว่ย ในแง่การพัฒนาทักษะบุคลากรและการสนับสนุนอีโคซิสเต็มของการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลของประเทศไทย หัวเว่ยไม่เพียงมุ่งมั่นที่จะเตรียมความพร้อมให้แก่บุคลากรด้านดิจิทัลในปัจจุบันสำหรับอนาคตที่กำลังจะมาถึง แต่ยังช่วยรับมือปัญหาด้านการขาดบุคลากรดิจิทัลรุ่นใหม่ด้วยการเตรียมตัวบุคลากรดิจิทัลรุ่นใหม่ในไทย ท่ามกลางช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังมุ่งสู่การขึ้นเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลแห่งอาเซียนอย่างรวดเร็ว
 
หัวเว่ย ได้ร่วมกับ สมาคมจีเอสเอ็ม (GSMA) และ Global TD-LTE Initiative (GTI) เปิดฉาก Global Mobile Broadband Forum 2022 รวบรวมผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สาย ผู้นำอุตสาหกรรมแนวดิ่ง และพันธมิตรอีโคซิสเต็มจากทั่วโลกร่วมหารือกลยุทธ์ผลักดัน 5G ให้ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์และถกประเด็นในหัวข้ออื่น ๆ เช่น การพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, เทคโนโลยีอัจฉริยะและวิวัฒนาการ 5G ผู้สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.huawei.com/en/events/mbbf2022
 

ขับเคลื่อนนวัตกรรมการบริการเพื่อเพิ่มมูลค่าสูงสุดของ 5G

เทคโนโลยี 5G ให้ความเร็วสูงพร้อมค่าความหน่วงต่ำ ผสานกันอย่างไร้รอยต่อกับคลาวด์และ AI เพื่อมอบบริการใหม่สำหรับผู้บริโภคและธุรกิจต่าง ๆ ผู้ให้บริการสามารถมอบประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นเฉพาะบุคคล เช่น Extended Reality (XR), การเล่นเกมบนคลาวด์และบริการโทรศัพท์ให้กับผู้บริโภค และมอบโซลูชันการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลขององค์กรที่ครอบคลุมกว่าที่เคย มุ่งสู่การเปิดกระแสรายได้ใหม่โดยเพิ่มโอกาสการเติบโตของผู้ให้บริการเครือข่ายให้รุดหน้าไปไกลกว่าการเชื่อมต่อ และมุ่งสู่บริการคลาวด์และการบูรณาการระบบเต็มรูปแบบ
 
การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรมเป็นคลื่นลูกใหม่ของการพัฒนาเศรษฐกิจโลก และ 5G เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลและช่วยเปิดโอกาสใหม่ทั่วโลก ทุกฝ่ายในอีโคซิสเต็มไอซีทีต้องร่วมมือกันเพื่อผลักดันโอกาสเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด “ความร่วมมือที่แข็งแกร่งจะขับเคลื่อนการพัฒนาเครือข่าย 5G รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและอุตสาหกรรมโดยรวมให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด” นายเคน หู กล่าวสรุป
 

นำทรัพยากรด้านเครือข่ายมาใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อความสำเร็จของ 5G เชิงพาณิชย์

เจมส์ เฉิน ประธานฝ่ายขายกลุ่มธุรกิจผู้ให้บริการเครือข่ายของหัวเว่ย (Huawei Carrier BG) กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ ‘ก้าวอย่างมั่นคงสู่ความสำเร็จของ 5G’ (Making Strides Towards 5G Success) ว่า “เราเห็นเทคโนโลยี 5G ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เพื่อบรรลุศักยภาพสูงสุดเราต้องเร่งการติดตั้งและใช้ประโยชน์จากทุกย่านความถี่, ทุกหน่วยความถี่, และทุกวัตต์ เรามุ่งนำ 5G จากแบรนด์ชั้นนำและเทคโนโลยีชั้นนำมาพัฒนาสู่ประสบการณ์ชั้นนำและธุรกิจชั้นนำ และเราจะสร้างความสำเร็จเชิงพาณิชย์ของ 5G ให้ได้”
เจมส์ เฉิน อธิบายถึงการใช้ 5G ขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรม โดยเครือข่าย 5G จะเร็วกว่า 4G ถึง 10 เท่า ให้ความเร็วมากกว่า 1 Gbps และผู้ใช้ 5G ยังใช้ข้อมูลได้มากกว่า 4G ถึงสองเท่า หรือมากกว่า 20 GB ต่อเดือน และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สร้างโอกาสทางธุรกิจสำหรับผู้ให้บริการเครือข่ายสามด้านด้วยกัน คือประสบการณ์ผู้ใช้, การเชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (IoT), และการเข้าสู่ยุคดิจิทัลของภาคอุตสาหกรรม
  • สร้างรายได้จากการให้บริการประสบการณ์ผู้ใช้งานมากกว่าที่เคย เนื่องจากผู้ให้บริการเครือข่ายเปลี่ยนจากโมเดลธุรกิจที่อิงตามปริมาณการใช้งานเป็นหลัก เป็นการให้บริการเป็นหลัก โดยเสนอบริการ 5G ที่ปรับราคาตามปัจจัยอื่นเช่น ความเร็ว, ค่าความหน่วงต่ำและประสบการณ์การอัปลิงค์
  • การเชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (IoT) ยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งบริการ IoT จากผู้บริโภครายย่อยและอุตสาหกรรม ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสร้างการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ได้หนึ่งแสนล้านครั้ง
  • ระหว่างการเข้าสู่ยุคดิจิทัลของภาคอุตสาหกรรม 5G มอบบริการคุณภาพสูงและการเชื่อมต่อที่มีเสถียรภาพ เช่น ระบบเครือข่ายส่วนบุคคล (private line) และเครือข่ายที่ทำให้ผู้ให้บริการเครือข่ายขยายธุรกิจสู่ตลาด B2B ด้วย การเติบโตของเทคโนโลยี 5G ทำให้ผู้ให้บริการเครือข่ายเพิ่มบริการใหม่ ๆ ที่นอกเหนือจากการเชื่อมต่อ และเพิ่มแหล่งรายได้ใหม่
ในวันแรกของการประชุม MBBF 2022 สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ บริษัท โทรคมนาคม​แห่งชาติ​ ​จำกัด (มหาชน) หัวเว่ย และ บริษัท อินฟอร์เมชั่น แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น เน็ทเวิร์คส จำกัด (มหาชน) ยังได้ร่วมกันเป็นสักขีพยานในการเปิดตัวสมุดปกขาวเกี่ยวกับเมือง 5G (5G City White Paper) รวมถึงได้เปิดตัวเมือง 5G อัจฉริยะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก
นอกจากนี้ภายในงานการประชุม Global Mobile Broadband Forum (MBBF) ครั้งที่ 13 สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ONDE) ได้เป็นผู้นำในการพัฒนาสมุดปกขาวเกี่ยวกับเมือง 5G โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดเตรียมแนวทางการสร้างเมือง 5G อย่างมีประสิทธิภาพและผสานเทคโนโลยี 5G เข้ากับชีวิตของผู้คนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ตอบสนองนโยบายของคณะกรรมการขับเคลื่อน 5G ระดับชาติ ภายใต้นโยบายนี้ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (National Telecom Public Company Limited – NT), หัวเว่ยและพันธมิตรในอุตสาหกรรมได้ริเริ่มสร้างเมือง 5G แห่งแรกในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) การติดตั้งเทคโนโลยี 5G จะทำให้เขตเมืองดังกล่าวสามารถประยุกต์ใช้บริการที่ชาญฉลาดหลากหลายรูปแบบ ซึ่งจะช่วยพัฒนาเรื่องการจัดการจราจรและการเข้าถึงข้อมูล เพิ่มประสิทธิภาพด้านการรักษาความปลอดภัยในเมือง และพัฒนาคุณภาพของสภาพอากาศด้วยการติดตามปริมาณของฝุ่น PM 2.5 แบบเรียลไทม์
 
หัวเว่ย ร่วมกับ สมาคมจีเอสเอ็ม (GSMA) และ Global TD-LTE Initiative (GTI) เปิดฉาก Global Mobile Broadband Forum 2022 รวบรวมผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สาย ผู้นำอุตสาหกรรมแนวดิ่ง และพันธมิตรอีโคซิสเต็มจากทั่วโลกร่วมหารือกลยุทธ์ผลักดัน 5G ให้ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์และถกประเด็นในหัวข้ออื่น ๆ เช่น การพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, เทคโนโลยีอัจฉริยะและวิวัฒนาการ 5G ผู้สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: https://www.huawei.com/en/events/mbbf2022
แท็กที่เกี่ยวข้อง huawei Global Mobile Broadband Forum

บทความโทรศัพท์มือถือล่าสุด

ดูทั้งหมด

เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)