Huawei เปิดฉากการประชุม Global Mobile Broadband Forum (MBBF) ครั้งที่ 13 โดยนายเคน หู ประธานกรรมการบริหารแบบหมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ย กล่าวสุนทรพจน์ในงานว่า “เทคโนโลยี 5G เติบโตอย่างรวดเร็ว ในเวลาเพียง 3 ปี เราเห็นความก้าวหน้าที่ชัดเจนด้านการติดตั้งเครือข่าย, การให้บริการลูกค้าและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ”
เขากล่าวเสริมว่า “เมื่อ 5G รุดหน้าอย่างรวดเร็ว เราควรภาคภูมิใจกับความสำเร็จที่ผ่านมา แต่ยังมีอีกหลายประเด็นที่เราสามารถร่วมมือกันในการดึงศักยภาพของ 5G เพื่อเพิ่มมูลค่าสูงสุด เพื่อขยายไปสู่การบริการด้านต่างๆ เช่น คลาวด์และการพลิกโฉม ระบบ เราจะร่วมขับเคลื่อนทั้งการพัฒนา 5G, การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและการเติบโตของอุตสาหกรรมไอซีทีไปพร้อมกัน”
นายเคน หู ประธานกรรมการบริหารแบบหมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ย ร่วมกล่าวสุนทรพจน์ในงาน MBBF
จากข้อมูลเดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 ผู้ให้บริการเครือข่ายมากกว่า 230 รายทั่วโลกได้เปิดตัวบริการ 5G เชิงพาณิชย์ โดยอุตสาหกรรมมีการจัดตั้งสถานีฐาน 5G รวมกันมากกว่า 3 ล้านแห่ง และให้บริการสมาชิกมากกว่า 700 ล้านรายทั่วโลก สำหรับธุรกิจโทรคมนาคม ผู้ให้บริการเครือข่ายสร้างรายได้หลักของธุรกิจจากการให้บริการ แต่เมื่อเทคโนโลยี 5G แพร่หลายมากขึ้น การมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าด้วยพลังที่เหนือระดับของ 5G ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ปริมาณการรับส่งวิดีโอความละเอียดสูงเติบโตอย่างรวดเร็ว แอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยี 5G ความเร็วสูงที่มีค่าความหน่วงต่ำส่งผลให้ปริมาณการดูข้อมูลโดยเฉลี่ยต่อผู้ใช้ (DOU) เพิ่มขึ้นถึงสองเท่า และเพิ่มอัตราเฉลี่ยค่าบริการต่อผู้ใช้งาน (ARPU) ขึ้น 20%-40% ส่งผลให้รายได้ด้านบริการเชื่อมต่อของผู้ให้บริการเครือข่ายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในขณะเดียวกันการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G ในธุรกิจ B2B กลายเป็นกลไกสร้างการเติบโตของรายได้ของผู้ให้บริการเครือข่าย สร้างมูลค่ามหาศาลในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น น้ำมันและก๊าซ การผลิต และการขนส่ง การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในอุตสาหกรรมเหล่านี้กลายเป็นนวัตกรรมที่สร้างมูลค่าทางธุรกิจอย่างมหาศาลให้กับผู้ให้บริการเครือข่าย ในปี พ.ศ. 2564 ผู้ให้บริการเครือข่ายของจีนสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่กว่า 3.4 พันล้านหยวน (ประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ) จากโครงการ 5G เชิงอุตสาหกรรมมากกว่า 3,000 โครงการ ยิ่งไปกว่านั้น โครงการเหล่านี้ยังสร้างรายได้มากขึ้นอีก 10 เท่าจากการประยุกต์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องและบริการด้านไอซีทีแบบครบวงจร
การใช้ 5G ในธุรกิจ B2B จะกลายเป็นกระแสรายได้ที่เติบโตเร็วที่สุดสำหรับผู้ให้บริการ 5G ส่งผลให้เกิดสถานการณ์ใหม่ในอุตสาหกรรมบริการ, การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและรูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ ปูทางสู่โอกาสการเติบโตที่ไม่เคยมีมาก่อน “เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโต เราต้องลงมือทำสิ่งเหล่านี้ให้สำเร็จ” นายเคน หู กล่าวย้ำ
พัฒนาเครือข่ายเพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น
นอกเหนือจากการขยายความครอบคลุมแล้ว ควรปรับการพัฒนาเครือข่ายให้เข้ากับประสบการณ์ผู้ใช้แบบต่างๆ อย่างลงตัว เช่น ผู้ให้บริการเครือข่ายในประเทศจีนปรับเครือข่ายให้สอดคล้องกับการใช้แพลตฟอร์ม TikTok และแพลตฟอร์มวิดีโอยอดนิยมอื่น ๆ โดยลดความหน่วงของระยะเวลาการตอบสนองลง 50% และลดการแสดงภาพค้างลง 90% เพิ่มประสบการณ์การรับชมวิดีโอที่ราบรื่นยิ่งขึ้น ส่งผลให้มีปริมาณการใช้ข้อมูลเพิ่มขึ้นสองเท่าและดึงดูดผู้ใช้บริการ 5G รายใหม่มากขึ้น
ขับเคลื่อนการพัฒนา 5.5G
ในการผลักดัน 5G ให้ก้าวไปอีกขั้น หัวเว่ยร่วมมือกับผู้ให้บริการและพันธมิตรในอุตสาหกรรมเพื่อพัฒนาฟีเจอร์สำคัญสี่ประการสำหรับ 5.5G ซึ่งจะเป็นวิวัฒนาการขั้นต่อไปของ 5G ได้แก่ อัตราดาวน์ลิงค์ 10 Gbps, อัปลิงค์ 1 Gbps, รองรับการเชื่อมต่อ 100 พันล้านรายการและคลาวด์ Native Intelligence
“ผู้เล่นในอุตสาหกรรมต้องร่วมมือกันเพื่อกำหนดมาตรฐาน, เตรียมความพร้อมด้านคลื่นความถี่และฟูมฟักอีโคซิสเต็มไปด้วยกัน” นายเคน หู กล่าวเสริม
ในการประชุม Global Mobile Broadband Forum (MBBF) 2022 นาย เดวิด หวัง กรรมการบริหารและประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และโซลูชันไอซีที ได้กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ ‘ก้าวสู่ยุค 5.5G เพื่อรากฐานแห่งอนาคต’ โดยเขาได้เผยถึงความร่วมมือระหว่างพันธมิตรส่งผลให้อุตสาหกรรมรุดหน้าอย่างมีนัยสำคัญและพร้อมก้าวสู่ยุค 5.5G เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ เขาจุดประกายให้ผู้เล่นในอุตสาหกรรมเตรียมความพร้อมในทุก ๆ ด้าน เพื่อก้าวสู่ยุค 5.5G ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และสร้างโลกอัจฉริยะที่ยั่งยืนไปพร้อมกัน
เมื่อการเปลี่ยนสู่โลกอัจฉริยะมาถึงอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่คาดการณ์ไว้จะทำให้ความต้องการด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพิ่มขึ้น เป้าหมายต่อไปที่เราต้องบรรลุบนเส้นทางสู่โลกอัจฉริยะคือเทคโนโลยี 5.5G ที่มอบประสบการณ์การเชื่อมต่อระดับ 10 กิกะบิตต่อวินาที (10 Gbit/s) รองรับการเชื่อมต่อหลายแสนล้านรายการและรองรับคลาวด์ Native Intelligence
นายเดวิด หวัง กล่าวย้ำว่า สองปีหลังจากความร่วมมือระหว่างกลุ่มพันธมิตรในอุตสาหกรรม การพัฒนาเทคโนโลยี 5.5G รุดหน้าเป็นอย่างมาก รวมถึงมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นในประเด็นสำคัญ 3 ข้อที่มีผลต่อความก้าวหน้าของ 5.5G
ประการแรก มีการกำหนดมาตรฐานการใช้งาน 5.5G และมีความคืบหน้าในการดำเนินกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ 5.5G ไม่ได้เป็นเพียงวิสัยทัศน์อีกต่อไป
ประการที่สอง อุตสาหกรรมได้สร้างความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีที่สำคัญสำหรับ 5.5G ด้วยแบนด์วิดท์ขนาดใหญ่พิเศษและเทคโนโลยี ELAA สามารถมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อระดับ 10 กิกะบิตต่อวินาที (10 Gbit/s) ได้
ประการที่สาม อุตสาหกรรมมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนสำหรับภูมิทัศน์ของ Internet of Things (IoT) โดยมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี IoT บน 5.5G ที่โดดเด่นถึง 3 ด้าน ได้แก่ NB-IoT, RedCap และ IoT แบบพาสซีฟซึ่งจะรองรับการเชื่อมต่อ IoT จำนวนมาก
นายเดวิด หวัง เน้นว่า “อุตสาหกรรมการสื่อสารมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เทคโนโลยี 5.5G ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ในอนาคตเราต้องรับมือกับ 5 ปัจจัยสำคัญในการพัฒนา 5.5G อันได้แก่ มาตรฐานการใช้งาน, สเปกตรัม, ผลิตภัณฑ์, อีโคซิสเต็มและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เพื่อก้าวสู่ยุค 5.5G อย่างมั่นคงเพื่อสร้างโลกอัจฉริยะที่ดีกว่า”
ประการแรก กำหนดมาตรฐานการใช้งานและส่งเสริมการวิจัยด้านเทคโนโลยีที่สำคัญ
การกำหนดมาตรฐานการใช้งานช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการสื่อสารไร้สายและปูทางให้อุตสาหกรรม 5.5G รุดหน้าตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ เราต้องทำให้แน่ใจได้ว่าการดำเนินการตามข้อกำหนด Release 18 จะต้องเกิดขึ้นภายในไตรมาสที่ 1 ของปี พ.ศ. 2567 ตามแผนที่วางไว้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่าย 5.5G มากขึ้น 10 เท่า ในส่วนของ Release 19 และข้อกำหนดอื่น ๆ ในอนาคต เราควรหารือร่วมกันระหว่างการปรับปรุงมาตรฐาน 5.5G เพื่อสำรวจว่า 5.5G ควรมีคุณสมบัติใดบ้าง สำหรับรองรับบริการและสถานการณ์ใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มอายุการใช้งานและผลักดันศักยภาพสูงสุด
ประการที่สอง เตรียมสเปกตรัมเพิ่มเติมสำหรับแบนด์วิดท์ขนาดใหญ่พิเศษ
เราควรบริหารการใช้งานช่วงความถี่ที่ต่ำกว่า 100 GHz อย่างเต็มที่เพื่อสร้างแบนด์วิดท์ขนาดใหญ่พิเศษเพื่อรองรับ 5.5G โดยมี mmWave เป็นย่านความถี่หลักสำหรับ 5.5G ผู้ให้บริการเครือข่ายจะต้องได้รับคลื่นความถี่มากกว่า 800 MHz จากสเปกตรัมนี้เพื่อสร้างประสบการณ์การเชื่อมต่อระดับ 10 กิกะบิตต่อวินาที (10 Gbit/s) โดยความถี่ 6 GHz เป็นย่านความถี่กว้างพิเศษที่มีศักยภาพเพียงพอในการรองรับ 5.5G และเมื่อความถี่ดังกล่าวได้รับการสนับสนุนให้เป็นคลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล (IMT) ในการประชุม WRC-23 ก็มีแนวโน้มว่าประเทศอื่น ๆ จะต้องประมูลคลื่นความถี่ 6 GHz ด้วย นอกจากนี้เรายังสามารถปรับเปลี่ยนความถี่ 6 GHz ให้เป็นแบนด์วิดท์ขนาดใหญ่พิเศษสำหรับ 5.5G ได้
ประการที่สาม เตรียมรองรับเทคโนโลยี 5.5G ด้วยเครือข่าย, อุปกรณ์, และชิปที่พร้อมรองรับการใช้งาน
ทั้งเครือข่ายและอุปกรณ์ต้องได้รับการอัปเกรดเพื่อรองรับการเชื่อมต่อระดับ 10 กิกะบิตต่อวินาที ผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยมาพร้อมเทคโนโลยี ELAA ที่สามารถรองรับเสาอากาศมากกว่า 1,000 ชุด เหมาะสำหรับย่านความถี่กลางและความถี่สูง และมาพร้อมเทคโนโลยี Massive MIMO ที่รองรับความจุถึง 128T นอกจากนี้ การพัฒนานวัตกรรมเกี่ยวกับชิปและอุปกรณ์ 5.5G ก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ชาญฉลาดมากขึ้น สามารถรองรับ 3T8R หรือมากกว่า และสามารถรองรับผู้ให้บริการเครือข่ายได้มากกว่าสี่ราย
ประการที่สี่ ทำงานร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนอีโคซิสเต็ม 5.5G ให้เติบโต
อีโคซิสเต็มที่ก้าวหน้าจะตอบสนองความต้องการด้านดิจิทัลได้ดีขึ้นในทุกสถานการณ์ ในการสร้างอีโคซิสเต็ม IoT ที่รองรับ 5.5G ผู้ให้บริการเครือข่ายและผู้จำหน่ายอุปกรณ์จะต้องวางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับเครือข่าย 5.5G สร้างการเชื่อมต่อไร้ที่ติระหว่างผู้คนและสิ่งของ ในขณะเดียวกันผู้จำหน่ายอุปกรณ์ต้องปรับต้นทุนและเพิ่มความยืดหยุ่นของอุปกรณ์เพื่อรองรับการใช้งานในสถานการณ์ที่หลากหลาย นอกจากนี้ นักพัฒนาในภาคอุตสาหกรรมและนักพัฒนาแอปพลิเคชันจะต้องพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ ๆ ที่รองรับเทคโนโลยีนี้อีกด้วย
ประการที่ห้า ก้าวไปข้างหน้าเพื่อประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5.5G ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เมื่อข้อกำหนดการใช้งาน, สเปกตรัม, ผลิตภัณฑ์, และอีโคซิสเต็มเติบโตเต็มที่ ก็ถึงเวลาประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5.5G ในสถานการณ์ต่าง ๆ การปฏิสัมพันธ์ผ่านเซ็นเซอร์หลากหลายประสาทสัมผัสจะเปลี่ยนวิธีที่เราสื่อสาร ยานพาหนะที่เชื่อมต่อได้แบบอัจฉริยะจะกลายเป็นพื้นที่สำคัญอันดับ 3 ในการติดต่อสื่อสารแบบไร้สายและกลายเป็นที่นิยม ในขณะที่การเชื่อมต่ออัจฉริยะในอุตสาหกรรมต่าง ๆ จะทำให้การรับส่งข้อมูลทั่วถึงกันมากยิ่งขึ้น ผลักดันให้เกิดการยกระดับอุตสาหกรรม มีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในรูปแบบใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดยั้งและทำให้วิสัยทัศน์สู่โลกอัจฉริยะมีความชัดเจนมากกว่าที่เคย ทำให้ผู้เล่นในอุตสาหกรรมต้องร่วมมือกันเพื่อสำรวจความเป็นไปได้และผลักดันการพัฒนาและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5.5G ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้ให้เกียรติขึ้นกล่าวเปิดงาน Global Mobile Broadband Forum 2022 ครั้งที่ 13 ว่า "ผมรู้สึกเป็นเกียรติ และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานเปิดงานสำหรับแวดวงอุตสาหกรรมไอซีทีระดับโลก Global Mobile Broadband Forum 2022 ครั้งที่ 13 ที่จัดขึ้นที่ประเทศไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งถือเป็นเวทีสำคัญของภาคเอกชนและภาครัฐในการร่วมกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ต่อการขับเคลื่อนประเทศและภาคอุตสาหกรรม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และผลักดันให้ประเทศไทยมีการพัฒนาด้านดิจิทัลอย่างรวดเร็ว ด้วยการดำเนินนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อขับเคลื่อนสู่ประเทศไทย 4.0 ทั้งด้านการ “ส่งเสริมและลงทุน” โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และด้าน “การเตรียมความพร้อมเรื่องกำลังคนด้านดิจิทัล” ผมเชื่อมั่นว่างานประชุมสัมมนาในวันนี้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ในการพัฒนาระบบดิจิทัลเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและสังคม และจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีดิจิทัลร่วมกันอย่างคลอบคลุมและยั่งยืน"
นอกจากนี้ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จํากัด ยังได้จับมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดตัวสมุดปกขาวสำหรับการพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลในประเทศไทย ในหัวข้อ "พลิกโฉมประเทศไทยสู่ขุมพลังดิจิทัลแห่งอาเซียน (Transform Thailand Into ASEAN Digital Powerhouse)" ภายในงานครั้งนี้ โดยหัวเว่ยได้ร่วมมือกับบริษัทโรแลนด์ เบอร์เกอร์ เพื่อจัดทำสมุดปกขาวฉบับดังกล่าวจากการรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกองค์กรภาคเอกชนและภาครัฐกว่า 40 แห่ง ในภาคอุตสาหกรรมด้านทักษะดิจิทัลของประเทศไทย ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อช่วยส่งเสริมด้านการสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับทักษะดิจิทัลเชิงเทคนิคอย่างครอบคลุม ทั้งนี้ รายละเอียดในสมุดปกขาวจะประกอบไปด้วยข้อมูลเชิงลึกที่เรียบเรียงอย่างเป็นระบบในด้านเทรนด์ดิจิทัล ทักษะดิจิทัลที่กำลังเป็นที่ต้องการ และช่องว่างระหว่างภาคอุปสงค์และอุปทานของบุคลากรดิจิทัลในประเทศไทย เพื่อส่งมอบคำแนะนำสำหรับการวางนโยบายที่ยั่งยืนเกี่ยวกับแผนด้านทักษะบุคลากร แนวทางการพัฒนาบุคลากร รวมไปถึงแผนปฏิบัติการต่าง ๆ เอกสารฉบับนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นสนับสนุนคุณค่าทางสังคมอย่างต่อเนื่องของหัวเว่ย ในแง่การพัฒนาทักษะบุคลากรและการสนับสนุนอีโคซิสเต็มของการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลของประเทศไทย หัวเว่ยไม่เพียงมุ่งมั่นที่จะเตรียมความพร้อมให้แก่บุคลากรด้านดิจิทัลในปัจจุบันสำหรับอนาคตที่กำลังจะมาถึง แต่ยังช่วยรับมือปัญหาด้านการขาดบุคลากรดิจิทัลรุ่นใหม่ด้วยการเตรียมตัวบุคลากรดิจิทัลรุ่นใหม่ในไทย ท่ามกลางช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังมุ่งสู่การขึ้นเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลแห่งอาเซียนอย่างรวดเร็ว
หัวเว่ย ได้ร่วมกับ สมาคมจีเอสเอ็ม (GSMA) และ Global TD-LTE Initiative (GTI) เปิดฉาก Global Mobile Broadband Forum 2022 รวบรวมผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สาย ผู้นำอุตสาหกรรมแนวดิ่ง และพันธมิตรอีโคซิสเต็มจากทั่วโลกร่วมหารือกลยุทธ์ผลักดัน 5G ให้ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์และถกประเด็นในหัวข้ออื่น ๆ เช่น
การพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, เทคโนโลยีอัจฉริยะและวิวัฒนาการ 5G ผู้สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.huawei.com/en/events/mbbf2022
ขับเคลื่อนนวัตกรรมการบริการเพื่อเพิ่มมูลค่าสูงสุดของ 5G
เทคโนโลยี 5G ให้ความเร็วสูงพร้อมค่าความหน่วงต่ำ ผสานกันอย่างไร้รอยต่อกับคลาวด์และ AI เพื่อมอบบริการใหม่สำหรับผู้บริโภคและธุรกิจต่าง ๆ ผู้ให้บริการสามารถมอบประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นเฉพาะบุคคล เช่น Extended Reality (XR), การเล่นเกมบนคลาวด์และบริการโทรศัพท์ให้กับผู้บริโภค และมอบโซลูชันการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลขององค์กรที่ครอบคลุมกว่าที่เคย มุ่งสู่การเปิดกระแสรายได้ใหม่โดยเพิ่มโอกาสการเติบโตของผู้ให้บริการเครือข่ายให้รุดหน้าไปไกลกว่าการเชื่อมต่อ และมุ่งสู่บริการคลาวด์และการบูรณาการระบบเต็มรูปแบบ
การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรมเป็นคลื่นลูกใหม่ของการพัฒนาเศรษฐกิจโลก และ 5G เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลและช่วยเปิดโอกาสใหม่ทั่วโลก ทุกฝ่ายในอีโคซิสเต็มไอซีทีต้องร่วมมือกันเพื่อผลักดันโอกาสเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด “ความร่วมมือที่แข็งแกร่งจะขับเคลื่อนการพัฒนาเครือข่าย 5G รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและอุตสาหกรรมโดยรวมให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด” นายเคน หู กล่าวสรุป
นำทรัพยากรด้านเครือข่ายมาใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อความสำเร็จของ 5G เชิงพาณิชย์
เจมส์ เฉิน ประธานฝ่ายขายกลุ่มธุรกิจผู้ให้บริการเครือข่ายของหัวเว่ย (Huawei Carrier BG) กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ ‘ก้าวอย่างมั่นคงสู่ความสำเร็จของ 5G’ (Making Strides Towards 5G Success) ว่า “เราเห็นเทคโนโลยี 5G ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เพื่อบรรลุศักยภาพสูงสุดเราต้องเร่งการติดตั้งและใช้ประโยชน์จากทุกย่านความถี่, ทุกหน่วยความถี่, และทุกวัตต์ เรามุ่งนำ 5G จากแบรนด์ชั้นนำและเทคโนโลยีชั้นนำมาพัฒนาสู่ประสบการณ์ชั้นนำและธุรกิจชั้นนำ และเราจะสร้างความสำเร็จเชิงพาณิชย์ของ 5G ให้ได้”
เจมส์ เฉิน อธิบายถึงการใช้ 5G ขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรม โดยเครือข่าย 5G จะเร็วกว่า 4G ถึง 10 เท่า ให้ความเร็วมากกว่า 1 Gbps และผู้ใช้ 5G ยังใช้ข้อมูลได้มากกว่า 4G ถึงสองเท่า หรือมากกว่า 20 GB ต่อเดือน และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สร้างโอกาสทางธุรกิจสำหรับผู้ให้บริการเครือข่ายสามด้านด้วยกัน คือประสบการณ์ผู้ใช้, การเชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (IoT), และการเข้าสู่ยุคดิจิทัลของภาคอุตสาหกรรม
- สร้างรายได้จากการให้บริการประสบการณ์ผู้ใช้งานมากกว่าที่เคย เนื่องจากผู้ให้บริการเครือข่ายเปลี่ยนจากโมเดลธุรกิจที่อิงตามปริมาณการใช้งานเป็นหลัก เป็นการให้บริการเป็นหลัก โดยเสนอบริการ 5G ที่ปรับราคาตามปัจจัยอื่นเช่น ความเร็ว, ค่าความหน่วงต่ำและประสบการณ์การอัปลิงค์
- การเชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (IoT) ยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งบริการ IoT จากผู้บริโภครายย่อยและอุตสาหกรรม ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสร้างการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ได้หนึ่งแสนล้านครั้ง
- ระหว่างการเข้าสู่ยุคดิจิทัลของภาคอุตสาหกรรม 5G มอบบริการคุณภาพสูงและการเชื่อมต่อที่มีเสถียรภาพ เช่น ระบบเครือข่ายส่วนบุคคล (private line) และเครือข่ายที่ทำให้ผู้ให้บริการเครือข่ายขยายธุรกิจสู่ตลาด B2B ด้วย การเติบโตของเทคโนโลยี 5G ทำให้ผู้ให้บริการเครือข่ายเพิ่มบริการใหม่ ๆ ที่นอกเหนือจากการเชื่อมต่อ และเพิ่มแหล่งรายได้ใหม่
ในวันแรกของการประชุม MBBF 2022 สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หัวเว่ย และ บริษัท อินฟอร์เมชั่น แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น เน็ทเวิร์คส จำกัด (มหาชน) ยังได้ร่วมกันเป็นสักขีพยานในการเปิดตัวสมุดปกขาวเกี่ยวกับเมือง 5G (5G City White Paper) รวมถึงได้เปิดตัวเมือง 5G อัจฉริยะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก

นอกจากนี้ภายในงานการประชุม Global Mobile Broadband Forum (MBBF) ครั้งที่ 13 สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (ONDE) ได้เป็นผู้นำในการพัฒนาสมุดปกขาวเกี่ยวกับเมือง 5G โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดเตรียมแนวทางการสร้างเมือง 5G อย่างมีประสิทธิภาพและผสานเทคโนโลยี 5G เข้ากับชีวิตของผู้คนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ตอบสนองนโยบายของคณะกรรมการขับเคลื่อน 5G ระดับชาติ ภายใต้นโยบายนี้ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (National Telecom Public Company Limited – NT), หัวเว่ยและพันธมิตรในอุตสาหกรรมได้ริเริ่มสร้างเมือง 5G แห่งแรกในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) การติดตั้งเทคโนโลยี 5G จะทำให้เขตเมืองดังกล่าวสามารถประยุกต์ใช้บริการที่ชาญฉลาดหลากหลายรูปแบบ ซึ่งจะช่วยพัฒนาเรื่องการจัดการจราจรและการเข้าถึงข้อมูล เพิ่มประสิทธิภาพด้านการรักษาความปลอดภัยในเมือง และพัฒนาคุณภาพของสภาพอากาศด้วยการติดตามปริมาณของฝุ่น PM 2.5 แบบเรียลไทม์
หัวเว่ย ร่วมกับ สมาคมจีเอสเอ็ม (GSMA) และ Global TD-LTE Initiative (GTI) เปิดฉาก Global Mobile Broadband Forum 2022 รวบรวมผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สาย ผู้นำอุตสาหกรรมแนวดิ่ง และพันธมิตรอีโคซิสเต็มจากทั่วโลกร่วมหารือกลยุทธ์ผลักดัน 5G ให้ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์และถกประเด็นในหัวข้ออื่น ๆ เช่น การพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, เทคโนโลยีอัจฉริยะและวิวัฒนาการ 5G ผู้สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:
https://www.huawei.com/en/events/mbbf2022