
ในปี พ.ศ. 2564 หัวเว่ย คลาวด์ได้เปิดตัวกลยุทธ์ ‘มุ่งสู่ยุคดิจิทัลด้วยนวัตกรรมบริการรอบด้าน’ หรือ ‘Dive into digital with Everything as a Service’ ซึ่ง ‘ความรอบด้าน’ นั้นรวมไปถึงวิสัยทัศน์และความเข้าใจในอุตสาหกรรมของหัวเว่ย โดยหัวเว่ยคลาวด์ดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 หลังจากพัฒนามาเป็นเวลาสี่ปี หัวเว่ย คลาวด์ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ในประเทศจีน อันดับ 3 ในประเทศไทยและอันดับ 4 ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และยังเป็นบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในกลุ่มผู้นำด้านบริการคลาวด์ 5 แห่งในภูมิภาค
หัวเว่ยลงทุนในประเทศไทยมาเป็นระยะเวลายาวนาน นับตั้งแต่การเปิดตัว หัวเว่ย คลาวด์ ในประเทศไทยเมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2561 หัวเว่ย คลาวด์ ไทยแลนด์เป็นส่วนหนึ่งของ 15 ภาคอุตสาหกรรม มีพันธมิตรมากกว่า 300 รายในประเทศไทย และให้บริการลูกค้าหลายพันรายจนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบันหัวเว่ยมอบบริการคลาวด์มากกว่า 80 รายการบนหัวเว่ย คลาวด์ ไทยแลนด์ หัวเว่ยสร้างศูนย์ข้อมูล (Availability Zone – AZ) จำนวน 3 แห่งในประเทศไทย และเปิดตัวศูนย์ข้อมูลแห่งที่ 3 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2565 การเปิดตัวเว็บไซต์ภาษาไทยจะเป็นก้าวสำคัญในการส่งมอบที่สุดแห่งประสบการณ์การสั่งซื้อ, การใช้งาน, และการบริการให้กับลูกค้าหัวเว่ย คลาวด์ ไทยแลนด์

เพื่อสอดรับการขยายตัวของเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทย หัวเว่ยมีโครงการมากมายนอกเหนือจากบริการเหนือระดับของหัวเว่ย คลาวด์ เพื่อต่อยอดพัฒนาอีโคซิสเต็มและธุรกิจในประเทศไทย เช่น โครงการ Huawei ASEAN Academy บริการฝึกอบรมเสริมศักยภาพบุคลากรด้านดิจิทัลกว่า 25,000 รายการทั่วโลก โครงการ Huawei Spark Ignite Thailand 2021 การแข่งขันสตาร์ทอัพในประเทศไทยและกิจกรรมแข่งขัน ‘Hackathon’ ของนักเรียนนักศึกษาใน HUAWEI CLOUD and Connect เป็นต้น
หัวเว่ยประกอบธุรกิจในประเทศไทยมาเป็นเวลา 23 ปี และคืนสิ่งดี ๆ สู่สังคมไทยอย่างต่อเนื่อง หัวเว่ย คลาวด์มอบคำมั่นในการเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการให้บริการคลาวด์เปี่ยมคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน