ออปโป้ ประเทศไทย ประกาศเปิดตัว
"OPPO Reno8 T 5G" สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมการอัปเกรดความสามารถรอบด้าน สานต่อจุดยืน The Portrait Expert ของ Reno Series มอบประสบการณ์การถ่ายภาพพอร์ตเทรตระดับมืออาชีพ พร้อมถ่ายทอดสุดยอดนวัตกรรมบนสมาร์ตโฟนระดับแฟลกชิปของออปโป้ สู่สมาร์ตโฟนระดับ Mid Range ในเซกเมนต์หมื่นต้นได้อย่างลงตัว
OPPO Reno8 T 5G มาพร้อมการอัปเกรด 4 จุดหลัก ได้แก่
สีใหม่ Sunrise Gold สวยงาม ตัวเครื่องบางเฉียบ ออกแบบ Dual Micro-curved หน้าจอโค้ง 3 มิติ 120Hz พร้อม
New Ultra-clear Portrait กล้องระดับแฟลกชิป 108MP Portrait Camera ถ่ายพอร์ตเทรตสวยคมชัด พร้อม Microlens 40X ไม่เหมือนใคร และฟีเจอร์การถ่ายภาพขั้นสูง รวมทั้ง
New Charging Experience ชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOCTM และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,800mAh พร้อมนวัตกรรม Battery Health Engine ควบคุมการจ่ายไฟแบบเรียลไทม์ มั่นใจเรื่องความปลอดภัยได้ตลอดการชาร์จ และยังช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานอีกด้วย และ
Durable Experience ที่นอกจากความทนทานของการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยอดเยี่ยมแล้ว ยังรวมไปถึงการผ่านการทดสอบประสิทธิภาพความลื่นไหลที่เหมือนใหม่อยู่เสมอ แม้ผ่านการใช้งานต่อเนื่องมาแล้วหลายปีก็ตาม
สำหรับ
OPPO Reno8 T 5G ก็เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ ด้วยการอัปเกรดใหม่ ทั้งด้านการถ่ายภาพ ที่แม้จะยังคงสานต่อประสบการณ์ The Portrait Expert จากดีเอ็นเอของ Reno Series เป็นหลัก แต่ก็มีการจับเอาความสามารถของสมาร์ตโฟนรุ่นท็อปสุดมาไว้ด้วยเช่นกัน รวมไปถึงด้านการใช้งาน และการพลิกโฉมดีไซน์ระดับแฟลกชิป ส่วนจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง มาติดตามพร้อมกันได้ในรีวิวนี้เลยค่ะ
กล้องถ่ายภาพ (Camera)
กล้องหลัง - OPPO Reno8 T 5G มาพร้อม 108MP Portrait Camera กล้องพอร์ตเทรตความละเอียดสูง 108MP ครั้งแรกของออปโป้ ผสานเทคโนโลยี NanoPixel Plus กับการรวมพิกเซล 9 พิกเซล เป็นพิกเซลเดียวขนาดใหญ่ ที่ช่วยให้สามารถรับแสงได้ดียิ่งขึ้น
โดย
OPPO Reno8 T 5G มาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ ประกอบด้วย เลนส์หลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Samsung HM6 ขนาด 1/1.67 นิ้ว ค่ารูรับแสงกว้าง f/1.7 รองรับการถ่ายภาพคมชัดสุด 108MP สามารถเก็บรายละเอียดภาพได้ดีขึ้น ทำให้เราสามารถเลือกสร้างมุมมองใหม่ ๆ จากการครอปตัดภาพได้สนุกยิ่งขึ้น, เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.4 ที่ช่วยให้ภาพมีมิติมากขึ้น และเลนส์ Microlens ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/3.3 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของการนำเอาความสามารถของเซนเซอร์กล้องระดับแฟลกชิปอย่าง OPPO Find มาใส่ในสมาร์ตโฟนระดับกลาง ซึ่งช่วยเพิ่มความสนุกด้วยการถ่ายภาพในโหมด Microlens (กล้องจุลทรรศน์) กำลังขยายสูงสุด 40X ทำให้เราสามารถมองเห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็นได้อย่างน่าทึ่ง
ผลลัพธ์ภาพถ่ายที่ออกมาโทนสีสวยงามเป็นธรรมชาติ การถ่ายภาพโหมดบุคคล (Portrait) เบลอฉากหลังได้ค่อนข้างดี ทำให้ภาพที่ได้ดูมีมิติ มีหลุดโฟกัสบ้าง แต่ถ้าจัดระเบียบการถ่ายดี ๆ ตรงนี้ก็ไม่มีปัญหา มีลูกเล่นให้เลือกกันพอสมควร โดยเฉพาะโหมดกล้องจุลทรรศน์ที่เหมือนเป็นการเปิดตาในโลกที่เราไม่เคยเห็น สนุกมาก ๆ ค่ะ ส่วนผลงานจริงจะออกมาสวยงามขนาดไหน ตามมาดูกันเลย!
รายละเอียดกล้องหลังของ OPPO Reno8 T 5G
กล้องหลัก ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.7, FOV 84°, 6P lens, AF
กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.4, FOV 89°, 3P lens, FF
กล้อง Microlens ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/3.3, FOV 65°, 3P lens, FF (กำลังขยายสูงสุด 40X)
โหมดถ่ายภาพกล้องหลัง
Night, Video, Photo, Portrait, PRO, Extra HD, PANO, SLO-MO, TIME-LAPSE, Dual-view video, Microscope, STICKER, Text scanner, Google Lens
คุณสมบัติการถ่ายวิดีโอกล้องหลัง
1080P/720P@30fps
EIS : 1080P/720P@30fps
Video Zoom : 1080P/720P@30fps
SLO-MO : 720p@120fps
TIME-LAPSE : 1080p@30fps
Dual-view Video : 720p@30fps
หน้าเมนูกล้องถ่ายภาพ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
-- AUTO --
-- 108MP PORTRAIT CAMERA --
ถ่ายภาพพอร์ตเทรตความละเอียด 108MP ให้ผลลัพธ์ภาพถ่ายที่มีความคมชัดและความละเอียดสูงสุด (9,000 x 12,000 pixels) แค่เลือกครอปตัดและแก้ไขจากภาพต้นแบบเพียงภาพเดียว ก็สามารถเพิ่มมุมมองใหม่ ๆ ได้อีกมากมาย โดยสามารถเปิดใช้งานโหมด Hi-res ได้ที่ Camera > Photo > ⋯ (จุดสามจุดด้านขวาบน) > Hi-res ON
-- BOKEH FLARE PORTRAIT
เพิ่มความชัดลึกให้ภาพมีมิติด้วยฉากหลังที่เบลอแบบเนียน ๆ และเอฟเฟกต์ที่ช่วยสะกิดดวงไฟโบเก้ให้ระเบิดออกอย่างสวยงาม เพิ่มความสวยงามและโดดเด่นให้ตัวแบบ เสมือนถ่ายด้วยกล้อง DSLR เลยทีเดียว สามารถเปิดใช้งานได้โดยเข้าไปที่ Camera > Portrait > Filters > Bokeh Flare Portrait
-- AI PORTRAIT RETOUCHING
ปรับแต่งใบหน้าให้เนียนสวยด้วย AI Portrait Retouching เอไออัจฉริยะที่ใช้คุณสมบัติใบหน้าที่แตกต่างกัน 373 จุดผ่านอัลกอริธึมการจดจำใบหน้าของ OPPO สามารถระบุลักษณะใบหน้าได้อย่างแม่นยำ เกลี่ยผิวเนียน เบลอรอยสิว รอยแผลเป็น และจุดด่างดำต่าง ๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเราสามารถเลือกปรับระดับได้ 0 - 100 ภาพออกมาสวยเนี้ยบ ไม่ต้องเอาไปเข้าแอปฯ แต่งต่อเลย วิธีเข้าใช้งาน Camera > Portrait > Retouch
-- HDR --
ถ่ายภาพย้อนแสงได้สวยงาม คมชัด โดยจะมีการปรับใบหน้าให้สว่างสดใส และขุดรายละเอียดของภาพให้ชัดเจน ไม่กลืนหายไปกับแสง ให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจค่ะ ซึ่งจากภาพตัวอย่างด้านล่างนี้ ฟีเจอร์ HDR ทำให้เรามองเห็นรายละเอียดของท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน ในขณะที่เมื่อปิด HDR รายละเอียดต่าง ๆ จะหายหมดเลย โดยฟีเจอร์ HDR รองรับการใช้งานทั้งกล้องหน้า-หลัง สามารถเปิดใช้งานโหมดได้ที่ Camera > Photo > ⋯ (จุดสามจุดด้านขวาบน) > HDR Auto
-- 40X MICROLENS --
เพิ่มความสนุกให้การถ่ายภาพมากขึ้นไปอีก ด้วยลูกเล่นจากสมาร์ตโฟนรุ่นพี่ OPPO Find X3 Pro กับการถ่ายภาพในโหมด Microlens (กล้องจุลทรรศน์) ที่สามารถถ่ายภาพได้ด้วยกำลังขยาย 20 เท่า และ 40 เท่า เสมือนกำลังนั่งอยู่ในห้องเรียนวิทยาศาสตร์ เปิดมุมมองใหม่ในโลกใบเล็กที่จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป สามารถเปิดใช้งานได้โดยเข้าไปที่ Camera > More > Microscope (ระยะโฟกัส 1 - 3 มิลลิเมตร)
-- NIGHT --
โหมดสำหรับการถ่ายภาพกลางคืนหรือในที่ที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอ ช่วยให้ภาพที่ออกมาสว่าง คมชัด และเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ได้ดีกว่าการถ่ายด้วยโหมดปกติ สามารถเปิดใช้งาน Camera > Night ได้เลย ไม่จำเป็นต้องตั้งค่าอะไรเพิ่มเติมค่ะ สะดวกมาก ๆ
นอกจากนี้ OPPO Reno8 T 5G ยังรองรับ Dual-view Video หรือวิดีโอแบบมุมมองคู่ สามารถบันทึกวิดีโอพร้อมกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังแบบรวมไว้ในเฟรมเดียวกันได้ สามารถเข้าใช้งานได้ที่ Camera > More > Dual-view Video รวมไปถึง Flash Snapshot ที่จะช่วยจับภาพแบบต่อเนื่อง พร้อมประมวลผลเลือกภาพที่คมชัดที่สุดให้อัตโนมัติด้วย Image Clear Engine (ICE) สามารถใช้งานได้แค่ถ่ายภาพด้วยการกดปุ่มชัตเตอร์ค้างไว้ ฟีเจอร์นี้เหมาะมาก ๆ สำหรับถ่ายภาพสิ่งที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ สัตว์เลี้ยง เด็ก หรือแม้แต่การถ่ายภาพบุคคลที่ต้องการโมเมนต์ที่เป็นธรรมชาติค่ะ
กล้องหน้า - OPPO Reno8 T 5G มาพร้อมเลนส์ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.4 ถ่ายภาพสวยคมชัด ถูกใจสาว ๆ ที่ชื่นชอบการเซลฟี่ และเช่นเคยกับความพิเศษของกล้องหน้าจากออปโป้ที่สามารถทำผลงานได้ถูกตาต้องใจผู้ใช้งานมาโดยตลอด เอาเป็นว่ากล้องหน้าไม่ต้องขายเยอะ! ของเขาดี ใครที่มีโอกาสได้ลองสัมผัส ยังไงก็เลิฟแน่นอนค่ะ
รายละเอียดกล้องหน้าของ OPPO Reno8 T 5G
กล้องหลัก ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.4, FOV 89°, 5P lens, FF
โหมดถ่ายภาพกล้องหน้า
Night, Video, Photo, Portrait, PANO, TIME-LAPSE, Dual-view Video, STICKER
คุณสมบัติการถ่ายวิดีโอกล้องหน้า
1080p/720P@30fps (ค่าเริ่มต้น 720P@30fps)
การรีทัชเป็นค่าเริ่มต้น
ไม่รองรับ Ultra Steady Video, Video Zoom, SLO-MO
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
-- AUTO --
-- PORTRAIT --
โหมดสำหรับการถ่ายภาพเซลฟี่แบบละลายหลัง สามารถเลือกปรับค่า f ตั้งแต่ระดับ f1.4 - f16 เหมือนกล้องหลังเลยค่ะ การเข้าใช้งานสามารถเลือกสวิตช์ไปกล้องหน้า Front Camera > Portrait > Apeture Icon (ไอคอนรูรับแสงด้านซ้าย)
-- AI PORTRAIT RETOUCHING
เอฟเฟกต์ช่วยปรับแต่งใบหน้าสำหรับการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอพอร์ตเทรต เพื่อให้ใบหน้าดูเรียบเนียน ปรับรูปหน้า เบลอรอยสิว รอยแผลต่าง ๆ ซึ่งเราสามารถเลือกปรับแต่งได้เองแบบเรียลไทม์เลยค่ะ สำหรับการถ่ายภาพนิ่ง สามารถเข้าใช้งานได้ที่ Front Camera > Portrait > Retouch จากนั้นก็จะมีเครื่องมือปรับแต่งความงามทั้งหมด 8 แบบ ที่เลือกปรับระดับได้ 0 - 100 เพื่อควบคุมเอฟเฟกต์ภาพให้ออกมาสวยถูกใจที่สุดค่ะ ส่วนในการถ่ายวิดีโอเราจะเลือกปรับระดับได้ 0 - 100 แต่จะไม่สามารถเลือกปรับเฉพาะจุดในเหมือนภาพนิ่งได้นะ วิธีเข้าใช้งาน Front Camera >Vodeo > Retouch
-- AI COLOR PORTRAIT
ปรับฉากหลังให้เป็นสีขาว-ดำ ในขณะที่ภาพบุคคลยังคงมีสีสันสวยงาม เรียกได้ว่าไม่ต้องเข้าไปดูดสีออกใน Photoshop แล้วนะ กล้องปรับให้เรียลไทม์ แค่เปิด Front Camera > Portrait > Filters > AI Color Portrait แล้วกดถ่ายก็ได้เลย (รองรับการใช้งานเฉพาะกล้องหน้า)
-- SELFIE HDR --
ตรวจจับแสงพื้นหลังและลดส่วนที่สว่างเกินไปของภาพเมื่อมีการถ่ายเซลฟี่แบบย้อนแสง พร้อมทั้งปรับใบหน้าให้สว่างและมีรายละเอียดของภาพชัดเจนที่สุด สามารถเปิดใช้งาน Selfie HDR ได้ที่ Front Camera > Photo > HDR Auto ON
-- NIGHT --
โหมดสำหรับการถ่ายเซลฟี่ตอนกลางคืนหรือในที่แสงสว่างน้อย เพิ่มความสว่างให้ใบหน้า (ภาพซ้าย) ซึ่งนอกเหนือจากการถ่ายในโหมด Night แล้ว เรายังสามารถเลือกเปิด Flash: Fill Light หรือไฟลบเงา เพื่อช่วยลบเงาและทำให้หน้าสว่างขึ้นได้ด้วย (ภาพขวา)
แบตเตอรี่ (Battery)
OPPO Reno8 T 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,800 mAh รองรับชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOCTM สามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ในเวลาเพียง 44 นาที และชาร์จเพียง 5 นาที ก็สามารถคุยโทรศัพท์ได้นานถึง 5.5 ชั่วโมง หรือดูวิดีโอได้ 3.5 ชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งจากการทดสอบก็สามารถใช้งานตลอดวันได้แบบสบาย ๆ แต่ถ้าชอบเล่นเกมหนัก ๆ หรือดูหนัง ดูวิดีโอ ก็แนะนำให้พกสายชาร์จ หรือ Power Bank เผื่อไว้ด้วยจะดีกว่าค่ะ
โดย OPPO Reno8 T 5G ยังมาพร้อมกับ Battery Health Engine เอกสิทธิ์เฉพาะของ OPPO ที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น ด้วยการควบคุมกระแสไฟฟ้าและการชาร์จอย่างชาญฉลาด โดยแบตเตอรี่ขนาด 4,800mAh ของ OPPO Reno8 T 5G รองรับรอบการชาร์จสูงสุดถึง 1,600 ครั้ง หรือระยะเวลาประมาณ 4 ปี ซึ่งมาตรฐานสูงกว่าอุตสาหกรรมโดยปกติถึง 2 เท่า
ทางด้านของโหมดเสริมการประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ (Power Saving Mode) ทั้งโหมดประหยัดพลังงานสูงสุด (Super Power Saving Mode), การเพิ่มประสิทธิภาพการเปิดเครื่องรอใช้งานขณะนอนหลับ (Sleep Standby Optimization) รวมไปถึงการจัดการแอปแบตเตอรี่ต่าง ๆ ก็มีให้เลือกใช้งาน เอาเป็นว่าทั้งด้านการใช้งานและความปลอดภัยเกี่ยวกับแบตเตอรี่ก็จัดเต็มให้เหมือนกัน
ประสิทธิภาพ (Performance)
OPPO Reno8T 5G มาพร้อมชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 695 5G สถาปัตยกรรมแบบ Octa-core เทคโนโลยีการผลิตขนาด 6 นาโนเมตร ความเร็วในการประมวลผลสูงสุด 2.2GHz รองรับการเชื่อมต่อ 5G Dual-SIM ใช้งาน 5G ทั้งระบบ SA/NSA ได้สองซิมพร้อมกัน ทำให้สามารถเชื่อมต่อด้วยเครือข่ายสัญญานได้รวดเร็ว จับคู่กับชิปประมวลผลกราฟิก Adreno 619 พร้อมหน่วยความจำ RAM 8GB แบบ LPDDR4x รองรับ RAM Expansion ได้สูงสุดถึง 8GB และหน่วยความจำภายใน ROM 128GB / 256GB แบบ UFS 2.2 พร้อมรองรับการเพิ่มพื้นที่ความจำด้วย MicroSD Card สูงสุด 1TB การประมวลผลและการตอบสนองการใช้งานต่าง ๆ รวมทั้งการเปิด-ปิดหรือสลับการใช้งานแอปฯ ความเร็วและความลื่นไหลทำได้ดีมาก
ความบันเทิงและการเล่นเกม
OPPO Reno8 T 5G มาพร้อมหน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาดใหญ่ถึง 6.7 นิ้ว ความคมชัดระดับ Full HD+ พร้อมรองรับการแสดงสีสันแบบ 10-bit Colors หรือสามารถแสดงผลได้สูงถึง 1.07 พันล้านสี ซึ่งให้สีสันที่มากกว่ามาตรฐาน 8-bit ถึง 64 เท่า ด้วยช่วงกว้างของสีที่มากกว่า จึงทำให้ทุกการแสดงผลออกมาดูเป็นธรรมชาติและสมจริงกว่า ไม่เกิดอาการ Color Banding เห็นภาพเป็นแถบสีหรือหย่อมสี สามารถเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ได้อย่างสมบูรณ์ พร้อมทั้งหน้าจอแบบโค้ง 3D และการวางกล้องหน้าแบบเจาะรู รวมไปถึงอัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz และอัตรา Touch Sampling Rate สูงสุด 360Hz ซึ่งนอกจากจะให้มุมมองการรับชมที่กว้างเต็มตา และสีสันที่สด ชัดแล้ว ยังสามารถแสดงผลได้อย่างลื่นไหล เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ตโฟน Reno รุ่นแรกที่มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลระดับแฟลกชิป ทำให้เราสามารถดูวิดีโอและรับชมคอนเท้นต์ต่าง ๆ ได้อย่างเต็มอรรถรส
ทางด้านการประมวลผลขณะเล่นเกมบน OPPO Reno8 T 5G สามารถเล่นได้ลื่นไหลดี จากการทดสอบด้วยเกม ROV ค่าเฟรมเรทวิ่งอยู่ที่ 45FPS ตลอดเกม ไม่หน่วง ทัชติดนิ้วดี สามารถปรับกราฟิกระดับ HD ในระดับสูงมาก และปรับการแสดงผลระดับสูงได้ ภาพสวย คมชัด จากหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED และประสิทธิภาพทางด้านการตอบสนองด้วย Refresh Rate 120Hz และ Touch Sampling Rate 360Hz ตอนที่ต้องอาศัยความเร็ว ความลื่น และการทัชหน้าจอที่แม่นยำ ทำให้เรารู้สึกสนุกไปกับเกมมากขึ้น ไม่หัวร้อน เอาเป็นว่าค่อนข้างถูกใจเลยค่ะ
และหลังจากทองลองเล่นติดต่อกันประมาณ 3 รอบ ตัวเครื่องยังแค่อุ่น ๆ เท่านั้นค่ะ ไม่ร้อน นอกจากนี้ OPPO Reno8 T 5G ยังมาพร้อมกับโหมด Game ที่สามารถเลือกจัดการ จัดระเบียบเกมต่าง ๆ ได้ รวมไปถึงการตั้งค่าสิ่งอำนวยความสะดวกระหว่างการเล่นเกม, ปิดกั้นการแจ้งเตือน เพื่อไม่ให้ถูกรบกวนในขณะเล่นเกม, เปิดโหมดโฟกัสเกม ฯลฯ ก็สามารถเลือกตั้งค่าได้ตามที่ต้องการ
ระบบเสียง
OPPO Reno8 T 5G ติดตั้งลำโพงสเตอริโอคู่ บน-ล่าง (Dual Stereo Speakers) มีการจัดวางตำแหน่งของลำโพงดี จึงทำให้มือไม่บังทางเสียงในขณะใช้งาน คุณภาพเสียงดี ขับเสียงดังทรงพลัง คมชัด และมีมิติ พร้อมตอบรับทุกการใช้งานด้วยเทคโนโลยี Real Original Sound ที่ช่วยปรับแต่งเสียงให้เหมาะสม จะฟังเพลง ดูวิดีโอ หรือเล่นเกม ก็ฟังได้เพลิน ๆ นอกจากนี้ ยังมีโหมด Ultra Volume ที่สามารถเพิ่มระดับความดังเสียงได้สูงสุดถึง 200% อยู่ในที่เสียงดังแค่ไหนก็ได้ยินชัด
คะแนนทดสอบประสิทธิภาพการใช้งาน
- ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ได้คะแนนรวม 407,221 คะแนน
- ทดสอบความเร็วในการอ่าน-เขียนของหน่วยความจำด้วยแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark ได้ Sequential Read 528.2 MB/s | Sequential Write 502.2 MB/s
- ทดสอบการจับสัญญาณ GPS ภาคพื้นดินด้วยแอปพลิเคชัน GPS Tester พบว่าจับสัญญาณได้ 29 ดวง จาก 49 ดวง
- ทดสอบ Multi-touch รองรับการสัมผัสพร้อมกันบนหน้าจอ 10 จุด
- ทดสอบการรองรับการแสดงผลวิดีโอสตรีมมิ่งที่ความละเอียดระดับสูงด้วย Google WideVine CDM ระดับ L1 (รองรับการแสดงผลที่ความละเอียดระดับสูงขณะสตรีมมิ่งวิดีโอ)
เมนูการใช้งาน (Software & Features)
OPPO Reno8 T 5G แกะกล่องพร้อมใช้ ColorOS 13 ทำงานบนพื้นฐานของระบบปฏิบัติการ Android 13 หน้าตาอินเทอร์เฟส (User Interface - UI) สวยงาม พร้อมออกแบบให้เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน จัดวางเลย์เอาต์เป็นระเบียบ ไม่รก และดูสบายตาค่ะ สามารถเลือกปรับแต่งหน้าจอ เช่น ภาพพื้นหลัง, วิดเจ็ต และไอคอนเมนูต่าง ๆ ได้ตามความชอบและไลฟ์สไตล์การใช้งานของตัวเอง รวมไปถึงการเรียกใช้งานและการเข้าถึงแอปพลิเคชัน/ฟีเจอร์ต่าง ๆ ก็สามารถเข้าถึงได้ง่าย ใช้งานได้รวดเร็ว ลื่นไหล ไม่สะดุดค่ะ
สำหรับฟีเจอร์และลูกเล่นต่าง ๆ ใน ColorOS 13 ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งหน้าจอด้วยตัวเอง, โหมดถนอมสายตา, โหมดกลางคืน, โหมดโคลนแอพ, โหมดหน้าจอแบ่งส่วน รวมไปถึงเครื่องมืออำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น แถบด้านข้างอัจฉริยะ, ลูกบอลช่วยเหลือ, Flex Drop, Air Gestures, การแปลภาษา 3 นิ้ว ด้วย Google Lens ก็มีมาให้เลือกใช้งานอย่างครบครัน พร้อมทั้งสามารถเลือกปรับอัตราการรีเฟรชจอภาพเป็นแบบสูง 120Hz หรือแบบมาตรฐาน 60Hz ก็ได้
OPPO Reno8 T 5G บนพื้นฐานของ
Android 13 ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน พร้อมความเป็นส่วนตัวที่เพิ่มขึ้นผ่านฟีเจอร์ต่าง ๆ เช่น Smart Always-on Diaplay (สำหรับเพลง), Auto Pixelate (ใช้งานได้หลังจากอัปเดต OTA ในอนาคต), Private Safe, 5-Grade Access Control และ Security Authentication for Privacy
พร้อมช่วยเติมเต็มให้การใช้งานให้ลื่นไหลขึ้น ไปกับ RAM Expansion เทคโนโลยีพิเศษที่สามารถเสริมพื้นที่หน่วยความจำ RAM ที่มีอยู่ให้แล้วให้มากขึ้น เพื่อช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง การสลับการใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเราสามารถเลือกตั้งค่าได้เองเลยว่าอยากจะอัปเกรดเท่าไหร่ โดยเลือกปรับขยายได้ 3 ระดับ คือ 4GB, 6GB และสูงสุดที่ 8GB
OPPO Reno8 T 5G รองรับการเชื่อมต่อ 5G แบบ Dual Mode สามารถใช้งาน 5G ได้พร้อมกัน 2 ซิม ทั้งแบบ SA และ NSA พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 5 สามารถเชื่อมต่อด้วยเครือข่ายสัญญานได้อย่างรวดเร็ว การรับ-ส่งข้อมูลเร็วและแรง ให้ประสบการณ์การใช้งาน 5G ที่น่าประทับใจ
รักษาความปลอดภัยของข้อมูลได้ด้วยการตั้งรหัสผ่าน (Password), การปลดล็อกด้วยใบหน้า (Facial Recognition) และการปลดล็อกด้วยการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (In-display Fingerprint) ที่สามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมาก ๆ ค่ะ
การออกแบบ (Design)
OPPO Reno8 T 5G มาในดีไซน์สุดพรีเมียมเลยค่ะ สีสันสวยงามมาก ๆ นำเสนอใน 2 เฉดสี คือ สีทอง Sunrise Gold และสีดำ Midnight Black ซึ่งสีที่เรานำมารีวิวให้ชมกันในวันนี้ คือ Sunrise Gold ที่เป็นสีใหม่ สีไฮไลท์ของรุ่นนี้ ดีไซน์แบบ OPPO Glow อันเป็นเอกลักษณ์ พื้นผิวด้านละเอียด พร้อมโดดเด่นด้วยการไล่เฉดสีที่ไม่เหมือนใคร จากฐานสีทองอ่อนราวกับแสงแดดอ่อน ๆ ตอนรุ่งสาง ไปจนถึงสีฟ้า สีม่วง สีแดง และสีเหลือง ให้ภาพลักษณ์ของความเงียบสงบและอบอุ่น ในขณะที่สีดำ Midnight Black เป็นเฉดสีที่ออกแบบจากการสะท้อนของแสงจันทร์บนทะเลสาบอันเงียบสงบ มีเสน่ห์ ลึกลับ และให้ความรู้สึกผ่อนคลายไปในคราวเดียวกัน
ดีไซน์แฟลกชิป Dual Micro-Curved ตัวเครื่องโค้งทั้งหน้าและหลัง พร้อมด้วยขนาดความบางของตัวเครื่องเพียง 7.7 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบาเพียง 171 กรัมเท่านั้น และด้วยความบางนี้ จึงทำให้ผู้ใช้งานสมาร์ตโฟนสามารถจับถือใช้งานได้สบายมือมากยิ่งขึ้น
ด้านหลังตัวเครื่องของ
OPPO Reno8 T 5G มาพร้อมกับโลโก้ oppo ที่ถูกจัดวางอยู่ทางด้านล่างขวา พร้อมดีไซน์โมดูลกล้องเป็นแบบคู่ โดยจัดวางโมดูลกล้องทั้งสองในแนวตั้ง และวางไว้ภายในแผงวงรีที่มีพื้นผิวตัดกัน เพิ่มความสวยงามทันสมัยได้อย่างไร้ที่ติ นอกจากนี้โมดูลกล้องยังล้อมรอบด้วยวงแหวนโลหะตกแต่ง เพิ่มความพรีเมียม หรูหรา พร้อมทั้งช่วยปกป้องเลนส์ได้เป็นอย่างดี
OPPO Reno8 T 5G มาพร้อมกล้องหลัง 108MP Portrait Camera 3 เลนส์ ประกอบด้วย เลนส์หลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/1.7, เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.4 และ เลนส์ Microlens ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/3.3 พร้อมไฟแฟลช LED ในตัว
นำเสนอหน้าจอโค้ง 3 มิติ 120Hz ระดับแฟลกชิปเป็นรุ่นแรกของสมาร์ตโฟนออปโป้ในช่วงราคานี้ โดย OPPO Reno8 T 5G มาพร้อมจอ 3D Curved flexible แบบ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความคมชัดระดับ Full HD+ (2,412 x 1,080 พิกเซล), 394PPI, ความลึก 10-bit แสดงผลได้สูงถึง 1.07 พันล้านสี, รองรับขอบเขตสี 100% sRGB และ 100% DCI-P3 พร้อมค่าความสว่างสูงสุด 950 nits, อัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz และอัตรา Touch Sampling Rate สูงสุด 360Hz บน พื้นที่การใช้งานหน้าจอต่อตัวเครื่อง 93% แสดงผลภาพสีสันสดใส สวยงาม คมชัด ใช้งานกลางแดดได้ดี พร้อมมีเซนเซอร์สำหรับการสแกนนิ้วบนหน้าจอ มิติตัวเครื่องกว้าง 74.3 x สูง 162.3 x หนา 7.7 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักตัวเครื่องโดยรวมประมาณ 171 กรัม
บริเวณกึ่งกลางด้านบนของหน้าจอ วางกล้องหน้าแบบเจาะรู ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสงกว้าง f/2.4 และเหนือเลนส์กล้องบริเวณขอบจอเป็นลำโพงเสียง โดย OPPO Reno8 T 5G มาพร้อมขอบจอบางเป็นพิเศษ โดยขอบด้านล่างหนาเพียง 2.32 มิลลิเมตร ส่วนขอบด้านซ้ายและขวาก็หนาเพียง 1.57 มิลลิเมตรเท่านั้น ทำให้พื้นที่การแสดงผลเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ด้านบนของตัวเครื่องมีรูไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และช่องลำโพงอีกหนึ่งช่อง ส่วนทางด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Hybrid รองรับ Nano-SIM 2 ช่อง หรือ 1 Nano-SIM + 1 MicroSD Card (สูงสุด 1TB), ไมโครโฟนสนทนา, พอร์ตเชื่อมต่อสำหรับชาร์จแบตเตอรี่และถ่ายโอนพลังงาน/ข้อมูลแบบ USB Type-C และลำโพงเสียง
ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่ม-ลดระดับเสียง (Volume) ส่วนทางด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดเครื่องหรือพักการใช้งานหน้าจอ
เพิ่มเติมกับ Packaging แบบใหม่ ถ้ายังจำกันได้ แบบเดิมจะเป็นกล่องสีเขียว ซึ่งรอบนี้ก็เปลี่ยนใหม่เป็นกล้องสีขาว พร้อมออกแบบการจัดวางใหม่ โดยในส่วนของดีเทลชื่อรุ่น ความจุตัวเครื่อง ก็มีระบุไว้ชัดเจน ว่าไม่ได้นะ! แค่กล่องก็สวยแล้ว
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- ตัวเครื่อง OPPO Reno8 T 5G
- หัวชาร์จแบตเตอรี่ 67W SUPERVOOCTM
- สายชาร์จ USB-C
- เคสกันรอยแบบซิลิโคนใส
- เข็มจิ้มซิม
- ฟิล์มกันรอย (ติดมาให้เรียบร้อยแล้ว)
- คู่มือการใช้งาน และใบรับประกันสินค้า
บทสรุป (Wrap-up)
OPPO Reno8 T 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่มาพร้อมความเก่งรอบด้าน ไฮไลท์ทางด้านการถ่ายภาพพอร์ตเทรตที่เสมือนเป็นดีเอ็นเอที่ถ่ายทอดต่อกันมาของ Reno Series ซึ่งความเก่งก็ไม่ได้หมดแค่การถ่ายภาพพอร์เทรตเท่านั้น เพราะเจ้า OPPO Reno8 T 5G รุ่นนี้ ยังพกเอาความสามารถระดับท็อปของรุ่นพี่ OPPO Find X3 Pro อย่างการถ่ายภาพ Microlens (กล้องจุลทรรศน์) มาด้วย รวมไปถึงจุดเด่นจึ้ง ๆ ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ที่ดีไซน์แบบ 3D Curved โค้งทั้งสองด้าน อัตรารีเฟรชเรทหน้าจอสูงสุด 120Hz ใช้งานได้แบบลื่นปรื้ด ๆ รองรับการใช้งาน 5G เต็มประสิทธิภาพ พร้อมรองรับ RAM Expansion ได้สูงสุดอีก 8GB
มีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอใช้งานสะดวกสบาย พร้อมจัดเต็มความบันเทิงทางด้านเสียงด้วยลำโพงคู่สเตอริโอ แบตเตอรี่ 4,800 mAh รองรับชาร์จไว 67W SUPERVOOCTM ชาร์เต็ม 100% ได้ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง และดีไซน์ฝาหลังแบบ OPPO Glow สวยเฉียบ ไม่เหมือนใคร โดยมีให้เลือก 2 สี คือ สีทอง Sunrise Gold และสีดำ Midnight Black
ทั้งนี้ ถึงจะใช้ชื่อ Reno8 แต่จริง ๆ แล้วต่างกับสมาร์ตโฟนในซีรีส์ Reno8 ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้พอสมควรเลยค่ะ ปรับโฉมค่อนข้างเยอะจนเหมือนเป็นรุ่นใหม่ (มโนเสมือนหนึ่งเป็นซีรีส์ Reno9 เลยน่าจะได้) สเปกให้มาแบบคุ้ม ๆ ใน Range ราคาเพียงหมื่นต้น ซึ่งโดยรวมของ OPPO Reno8 T 5G ถือเป็นสมาร์ตโฟน All New ที่มาพร้อมกับการปรับโฉมใหม่หลาย ๆ ด้าน สเปกครบเครื่อง แถมยังได้ฟีเจอร์การใช้งานของสมาร์ตโฟนแฟลกชิปมาใช้ ทั้งจอ - กล้อง - ชาร์จ แต่คาดว่าแฟน ๆ อาจจะขัดใจในเรื่องของชิปเซ็ต ที่อยากให้เปลี่ยนบ้างอ่ะนะ (ไม่ใช่ไม่ดี แต่ใช้มานานแล้วน้า) อีกข้อคือกล้อง Ultra Wide คอนเฟิร์มว่าอันนี้คนใช้เยอะ ถ้าใส่เสริมมาหน่อยละก็เพอร์เฟกต์เลย!
รายละเอียดสเปกของ OPPO Reno8 T 5G
- หน้าจอแสดงผลแบบ 3D Curved flexible OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ (2,412 x 1,080 พิกเซล), 394PPI, ความลึก 10-bit แสดงผลได้สูงถึง 1.07 พันล้านสี, รองรับขอบเขตสี 100% sRGB และ 100% DCI-P3 พร้อมค่าความสว่างสูงสุด 950 nits, อัตรา Refresh Rate สูงสุด 120Hz และอัตรา Touch Sampling Rate สูงสุด 360Hz บนอัตราส่วนหน้าจอต่อเครื่อง 93%
- หน่วยประมวลผล CPU Qualcomm Snapdragon 695 5G (6nm), Octa-core, Up to 2.2GHz
- หน่วยประมวลผล GPU Qualcomm Adreno 619
- หน่วยความจำ RAM 8GB (LPDDR4X)
- หน่วยความจำ ROM 128GB / 256GB (UFS 2.2)
- ช่องใส่ซิมการ์ด Hybrid Slot รองรับซิมการ์ดแบบ Nano-SIM 2 ช่อง หรือ 1 Nano-SIM + 1 MicroSD Card (สูงสุด 1TB)
- กล้องหลัง 108MP Portrait Camera ประกอบด้วย เลนส์หลักความละเอียด 108MP (f/1.7) + เลนส์ Depth ความละเอียด 2MP (f/2.4) + เลนส์ Microlens ความละเอียด 2MP (f/3.3)
- กล้องหน้าความละเอียด 32MP (f/2.4)
- การเชื่อมต่อ
-- 2G, 3G, 4G, 5G
-- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac
-- Bluetooth 5.1
-- NFC
-- GPS, A-GPS, BDS, GLONASS, Galileo, QZSS
-- พอร์ต USB Type-C - ลำโพงเสียง Dual Stereo Speakers พร้อม Ultra Volume Mode และเทคโนโลยี Real Original Sound
- รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอและสแกนใบหน้า
- ระบบเซ็นเซอร์ Geomagnetic Sensor, Ambient Light Sensor, Proximity Sensor, Accelerometer, Gravity Sensor, Gyroscope, Pedometer
- แบตเตอรี่ 4,800mAh รองรับชาร์จไว 67W SUPERVOOCTM และ OTG Reverse Charging
- ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบทับด้วย ColorOS 13
ราคาและการวางจำหน่าย (Price & Availability)
OPPO Reno8 T 5G สมาร์ตโฟนกล้องพอร์ตเทรตสวยคมชัดระดับ 108MP และดีไซน์หน้าจอโค้ง 3 มิติ 120Hz ระดับแฟลกชิปสุดพรีเมียม มีสีตัวเครื่องให้เลือก 2 สี คือ สีทอง Sunrise Gold และสีดำ Midnight Black พร้อมด้วยตัวเลือกความจุ 2 รุ่น คือ
รุ่น 8GB RAM + 128GB ROM ราคา 13,990 บาท และรุ่น 8GB RAM + 256GB ROM ราคา 14,990 บาท และยังมีโปรโมชันพิเศษ สำหรับลูกค้าที่ Pre-order ตั้งแต่วันที่ 9 - 16 กุมภาพันธ์ 2566 รับฟรี! ของสมนาคุณมูลค่า 7,599 บาท ประกอบด้วย (1) E-VIP Card มูลค่า 5,500 บาท (ประกันจอแตก 1 ครั้ง ภายในระยะเวลา 1 ปี และรับประกันตัวเครื่อง 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อเครื่อง) และ (2) Reno Gift Set มูลค่า 2,099 บาท ประกอบด้วย เคส, ที่วางมือถือ และลำโพงบลูทูธ มูลค่า 7,599 บาท
พร้อมเป็นเจ้าของสมาร์ตโฟน OPPO Reno8 T 5G ได้ง่ายขึ้น เมื่อสั่งจองกับผู้ให้บริการเครือข่าย
AIS,
dtac และ
Truemove H รับส่วนลดสูงสุด 8,000 บาท
ตั้งแต่วันนี้ - 16 กุมภาพันธ์ 2566OPPO reno8 T 5G พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป
ที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และ
ช่องทางออนไลน์ Lazada, Shopee, JD Central, TikTok @OPPOThailand และ Thisshop ดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3RiKQVM
28 มี.ค. 66
12,627
