เปิดตัวกันไปเรียบร้อยสำหรับ
Huawei Nova 9 สมาร์ตโฟน "Nova Series" รุ่นใหม่ของ หัวเว่ย ประเทศไทย ซึ่งนับเป็นการกลับมาลุยตลาดมือถือในประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนานหลายเดือนเลยทีเดียว โดยรุ่นสุดท้ายก่อนห่างหายไปเท่าที่ผมจำความได้ก็น่าจะเป็น Nova Series อย่าง Huawei Nova 8i ด้วยเหมือนกัน สำหรับ Huawei Nova 9 ในรอบนี้ ทางหัวเว่ยมีการนำเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ RYYB ที่เคยถูกใช้บน Huawei P Series มาใช้งานบน Nova Series เป็นครั้งแรก พร้อมกับยกแนวคอนเซ็ปท์งานออกแบบจากฝั่ง P Series มาด้วยเช่นกัน จึงทำให้ Huawei Nova 9 ในรอบนี้ดูน่าสนใจมากขึ้นเลยทีเดียว และแน่นอนว่า "ราคา" ก็ขยับขึ้นด้วยเช่นกัน!!
Huawei Nova 9 รอบนี้มาพร้อมจุดเด่นหลักๆ อยู่ 3 ส่วน คือ หน้าจอแสดงผล Refresh rate 120Hz, กล้องถ่ายรูปความละเอียด 50MP เซ็นเซอร์ RYYB และสุดท้ายคือ เทคโนโลยีชาร์จไว Huawei Super Charge 66W โดยที่ยังคงใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 778G จาก Qualcomm เป็นหัวใจหลักในการประมวลผลบนเครื่องอยู่เช่นเดิม ซึ่งแน่นอนว่าทางหัวเว่ยยังคงไม่สามารถรองรับการใช้งาน 5G ได้ ดังนั้น Nova 9 จึงยังคงรองรับเพียงคลื่น 4G LTE ทุกคลื่นความถี่ในประเทศไทยแทนนั่นเอง
หลังจากที่ได้รับตัวเครื่อง Huawei Nova 9 จากทาง Huawei ประเทศไทยแล้ว ผมก็ไม่รีรอรีบจัดแจง แกะกล่องเปิดเครื่อง และตั้งค่าตัวเครื่องให้เรียบร้อย เพื่อเริ่มทดสอบและลองใช้งานเป็นมือถือหลักของตัวเองดูใน 1 วันทำงาน ดูซิว่าจะเป็นอย่างไรกันนะ? จำเป็นไหมที่เราต้องขยับไปรุ่นท็อปอย่าง P Series หรือ Mate Series เท่านั้น ตามผมไปหาคำตอบที่นี้ด้วยกันครับ
สัมผัสแรก : ดูเรียบหรู เข้ามือ แต่แอบแปลกตากับดีไซน์กล้องถ่ายรูป (FIRST IMPRESSION)
แรกสัมผัสตัวเครื่อง Huawei Nova 9 ส่วนตัวยอมรับเลยว่า มีอาการหวนคิดถึง Huawei P30 Series อยู่พอสมควร เพราะรูปทรง ดีไซน์ เกือบ 70% เหมือนกันมาก ๆ เลยล่ะ ด้านหน้าตัวเครื่องจะเป็นหน้าจอแสดงผล OLED แบบโค้งเข้ามุม ขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.57 นิ้ว มีความละเอียดอยู่ที่ 2340x1080 พิกเซล (FHD+) ตัวหน้าจอมีค่า Refresh rate 120Hz และมีค่าการตอบสนองต่อการสัมผัสที่ 300Hz และยังเป็นหน้าจอแสดงผลที่รองรับการแสดงขอบเขตของสีสันได้กว้างถึง 1.07 พันล้านสี หรือ 10Bits (P3) ด้วยนะครับ
ด้านบนตรงกลางรอบนี้วางกล้องหน้าความละเอียด 32 MP (F2.0) ซึ่งตำแหน่งของตัวกล้องจะขยับออกมาจากขอบตัวเครื่องด้านบนเยอะอยู่เหมือนกัน
ด้านข้างตัวเครื่อง ปุ่มกดทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ปุ่มปรับระดับเสียง (Volume) และ ปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง (Power) จะถูกยุบไปอยู่ที่ด้านขวาทั้งหมดเลย
ด้านล่างตัวเครื่อง จะเป็นตำแหน่งของพอร์ต USB-C, ลำโพงเสียง และช่องถาดซิมการ์ด ซึ่งตัวเครื่องที่ได้มาจะเป็นรุ่นสองซิมนะครับ โดยถาดซิมการ์ดจะรองรับการใช้งานแบบ Hybrid Slot (หน้า-หลัง)
ด้านหลังตัวเครื่องพื้นผิวสัมผัสจะมันวาวเป็นรอยนิ้วมือง่ายมาก ๆ อาจต้องคอยพกผ้าเช็คกันหน่อย ในขณะกล้องถ่ายรูปรอบนี้ออกแบบได้แปลกตาเลยล่ะ เพราะเล่นยกงานออกแบบของ P50 Series มาเลย ดังนั้นโมดูลกล้องก็จะมีการแยกชุดทำงานด้วยฐานวงกลมสองชุด โดยชุดแรกด้านบนสุดจะเป็นตำแหน่งของกล้องหลัก Ultra Vision ความละเอียด 50MP ใช้เซ็นเซอร์ RYYB ขนาดใหญ่ ทำหน้าที่เป็นกล้องซูมภาพแบบ 2X ในตัวด้วย ส่วนอีกชุดจะเป็นชุดกล้องเลนส์ Ultrawide ความละเอียด 8MP (F2.2) , กล้องเลนส์ Depth camera ความละเอียด 2MP (f2.4), กล้องเลนส์มาโครความละเอียด 2MP (F2.4) และมีไฟแฟลช LED ติดตั้งมาด้วย
รายละเอียดสเปกตัวเครื่อง Huawei Nova 9
- จอแสดงผล OLED ขนาด 6.57 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 1080 พิกเซล (Refresh rate 120Hz)
- CPU Qualcomm Snapdragon 778G 4G LTE
- GPU Adreno 642L
- RAM 8GB
- ROM 256GB
- EMUI 12 Base on Android 11 (Android Open Source Project) with HMS Core
- กล้องถ่ายรูป Quad camera ประกอบด้วย
- กล้องหลัก ความละเอียด 50MP (F1.9, Sensor RYYB)
- กล้องเลนส์มุมกว้าง Ultrawide ความละเอียด 8MP (F2.2)
- กล้อง Depth camera ความละเอียด 2MP (F2.4)
- กล้องเลนส์มาโครความละเอียด 2MP(F2.4)
- กล้องหน้า ความละเอียด 32MP (F2.0)
- รองรับ WiFi 2.4 GHz และ 5 GHz, 802.11a/b/g/n/ac/ax, 2 x 2 MIMO, HE160, 4096 QAM, 8 Spatial-stream Sounding MU-MIMO
- รองรับ Bluetooth 5.2
- เชื่อมต่อตัวเครื่องด้วย USB-C Port
- รองรับการสแกนนิ้วมือบนหน้าจอ, สแกนใบหน้า
- รองรับซิมการ์ด 2 ซิม (Nano SIM)
- แบตเตอรี่ขนาด 4300 mAh (ชาร์จไว Huawei SuperCharge 66W)
- ให้อแดปเตอร์และชาร์จไว 66W มาให้ในกล่อง
Lifestyle with HMS Core : ประสบการณ์ใช้งานกับ HMS Core ใน 1 วัน เป็นอย่างไร?
สิ่งแรกที่ต้องแนะนำไว้ทุกครั้งที่ได้ทำบทความของหัวเว่ยถึงแม้จะผ่านมานาน แต่ก็ยังคงเป็นคำถามที่มักจะมีคนถามเข้ามาอยู่เสมอเลยก็คือ เรื่องของการที่ต้องปรับตัวใหม่กับการใช้งาน "HMS Core" (Huawei Mobile Service) เป็นหัวใจหลักด้านซอฟต์แวร์แทน Google Mobile Service ซึ่งยังมีผู้ใช้งานหลายคนเป็นกังวลในเรื่องนี้อยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับคำถามนี้เนื่องจากผมตอบมาแทบจะทุกบทความแล้ว ดังนั้นเลยขอตอบแบบรวบให้เลยแล้วกันครับว่า...
- ถ้าคุณไม่ได้ซีเรียส หรือ กังวลเรื่องความปลอดภัยต่อข้อมูลบนเครื่องมากนัก เพราะบางครั้งเรายังจำเป็นต้องหาดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น และติดตั้งลงบนสมาร์ตโฟนด้วยไฟล์ APK จากผู้ให้บริการ Third Party Store หรือใช้ Petal Search เครื่องมือค้นหาแอปพลิเคชั่นที่ทาง Huawei ทำมาอำนวยความสะดวกให้ก็ได้เช่นกัน ทำให้ยังคงมีโอกาสเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมข้อมูลบนตัวเครื่องผ่านตัวไฟล์แอปพลิเคชั่นที่เราดาวน์โหลดมาติดตั้งเองอยู่นั่นเอง (แต่ถ้าหากดาวน์โหลดผ่าน Huawei Gallery จะมีระบบสแกนตรวจสอบจากหัวเว่ยป้องกันให้อยู่แล้วนะครับ)
- คุณเป็นคนที่ไม่ได้ยึดติดรูปแบบการใช้งานในรูปของ Mobile Application ที่ช่วยทำให้เราสามารถใช้บริการแพลตฟอร์มหรือบริการออนไลน์ต่างๆ ได้อย่างสะดวก โดยสามารถใช้งานในรูปแบบไหนก็ได้ เพราะแอปพลิเคชั่นที่คนไทยคุ้นเคยอย่าง Youtube, Facebook หรือ Twitter จะถูกโยกไปใช้งานบน Web Browser หมดเลยนั่นเอง ถ้าเป็นคนง่ายๆ คุณก็สามารถใช้สมาร์ตโฟนของหัวเว่ยในปัจจุบันได้ทุกรุ่นแน่นอนครับ!
ส่วนในด้านไลฟ์สไตล์การดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม จากที่ได้ใช้งานตัวเครื่องบอกได้เลยว่า ในด้านของประสิทธิภาพการประมวลผลต่างๆ บนตัวเครื่อง หัวเว่ยไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย Huawei Nova 9 สามารถขับเคลื่อนการทำงาน หรือตอบสนองต่อการใช้งานบนตัวเครื่องได้อย่างลื่นไหล ราบรื่นมากๆ ด้วยชิปประมวลผลระดับ 700 Series อย่าง CPU Snapdragon 778G ด้วยแล้วหายห่วง แถมยังมีหน่วยความจำทั้ง RAM และ ROM ให้มาเยอะยิ่งทำให้การประมวลผลหรือจัดเก็บข้อมูลบนตัวเครื่องทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ในเรื่องของแอปพลิเคชั่นนิซิ! ยังเป็นจุดที่ผมมองว่ายังต้องพัฒนากันต่อไปอีกเยอะเลย ถึงแม้ทางหัวเว่ยได้พยายามอย่างหนักในการแก้ปัญหาตรงนี้มาอย่างต่อเนื่อง จนตอนนี้มีแอปพลิเคชั่นเข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์มเพิ่มมากขึ้นเยอแล้วก็ตาม ซึ่งแอปพลิเคชั่นบางตัวมีให้โหลดใน Huawei Gallery ก็จริง แต่พอเรียกใช้งานแอปฯ บางตัวก็ยังเรียกร้อง GMS อยู่ ทำให้ในบางครั้งเรายังจำเป็นต้องไปหาดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นจากข้างนอกเพิ่มเติมเอาเองอยู่ ผ่านระบบค้นหา "Petal Search" ที่ใช้สืบค้นแอปฯ จาก Third Party Store แทน ซึ่งถ้ามองในมุมผู้ใช้งานทั่วไปแล้ว ผมรู้สึกว่าในจุดนี้เรื่องของการใช้งานยังมีความยุ่งยากเกินไปสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ที่ต้องการความง่ายในการใช้อยู่นะ
แอปฯ นำทางใช้ "Petal Maps" สามารถใช้นำทางไปยังสถานที่สำคัญ หรือ เป็นที่รู้จักได้อยู่นะครับ แต่ถ้าใช้เดินทางต่างจังหวัดส่วนตัวยังไม่แนะนำ
สุดท้ายคือ เรื่องของการใช้ทำงานด้านเอกสาร ส่งอีเมล์ รวมถึงฝากไฟล์ที่บริษัท ซึ่งส่วนใหญ่องค์กรหรือบริษัทในประเทศไทยมักจะเลือกใช้บริการ Google Suite กัน ดังนั้นจึงทำให้มีอุปสรรคอยู่บ้างครับ อย่างเช่น การฝากไฟล์ผ่าน Google Drive ที่ต้องไปเปิดผ่านเว็บเบราเซอร์ เพื่อดูไฟล์แทน รวมถึงพวก Gmail ที่เราต้องหมั่นเข้ามาเช็คดูเองบ่อยๆ ด้วยเช่นกัน ส่วนไฟล์เอกสารอย่าง Word, Exel หรือสไลด์พรีเซ็นต์ Powerpoint ไม่มีปัญหาอะไรสามารถเรียกดูหรือแก้ไขได้เลย
แอปฯ Huawei VDO นอกจากเขาไปดูไฟล์วีดีโอที่เราถ่ายด้วยกล้องสมาร์ตโฟนได้แล้ว ยังมีบริการสตรีมมิ่งวีดีโอสำหรับดูคอนเทนท์ซีรีย์ ภาพยนตร์ ละคร หรือรายการย้อนหลังได้ด้วย!
Huawei SuperCharge : ชาร์จไว 66W ปลอดภัย ชาร์จได้ไวไม่แพ้ใคร
ในส่วนของพลังงาน Huawei Nova 9 ถือว่าไม่แพ้ใครในคู่แข่งราคานี้เลยครับ เพราะทาง Huawei จัดหนักใส่เทคโนโลยีชาร์จไว Huawei SuperCharge 66W มาให้ในตัวพร้อมกับแถมอแดปเตอร์และสายชาร์จที่รองรับมาให้ในกล่องเลยด้วย และจากที่ผมลองชาร์จดูตอนใช้งานจากแบตเตอรี่ 1% ชาร์จให้เต็ม 100% ใช้เวลาประมาณ 40-45 นาที เท่านั้นครับ ถือว่าทำได้เร็วมากๆ อาจเป็นเพราะแบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh ด้วย จึงทำให้บูธพลังเข้าสู่แบตเตอรี่ได้ไว และใช้หลักการชาร์จไวเหมือนกับรุ่นอื่นๆ ของหัวเว่ย คือ เมื่อพลังงานกลับสู่แบตเตอรี่ได้ประมาณ 70-80% ตัวชิปควบคุมก็จะเริ่มลดกำลังไฟลง และค่อยๆ ปล่อยจนชาร์จเต็มนั่นเอง ดังนั้นเรื่องของความปลอดภัยหายห่วงครับ
กล้องถ่ายรูป เซ็นเซอร์ RYYB ความละเอียด 50MP ที่ดูเหมือนจะไม่เก่งเท่ารุ่นพี่ แต่เก่งพอที่จะให้ภาพสวยคมชัดกับเราได้
มากันที่ด้านกล้องถ่ายรูปกันบ้าง Huawei Nova 9 มาพร้อมกล้องถ่ายรูปแบบ Quad camera ประกอบด้วย กล้องหลักความละเอียด 50MP (F1.9) ใช้เซ็นเซอร์กล้องถ่ายรูปที่ใช้เทคโนโลยีการจัดเรียงเม็ดพิกเซลแบบ RYYB แบบเดียวกับ P Series ทำให้เพิ่มขีดความสามารถในการรับแสงได้ดีขึ้น 40% เมื่อเทียบกับเซ็นเซอร์ที่ใช้การจัดเรียงแบบ RGGB ทั่วไป และมีระบบกันสั่น AIS ที่ใช้การวิเคราะห์และคำนวณของ AI เข้ามาช่วย โดยตัวกล้องหลักจะทำงานร่วมกับชุดกล้องอีก 3 ตัว ที่ประกอบด้วย กล้องเลนส์มุมกว้าง Ultrawide ความละเอียด 8MP (F2.2), กล้อง Depth camera ความละเอียด 2MP (F2.4) และกล้องเลนส์มาโครความละเอียด 2MP (F2.4)
เพื่อให้ได้ข้อมูลในด้านการถ่ายรูปที่แน่นขึ้น นอกจากตัวผมแล้วผมได้ขอความคิดเห็นจากช่างภาพประสบการณ์สูงประจำออฟฟิตของ Checkraka "คุณบิ๊ก" ที่ได้ร่วมไปทดสอบและลองใช้งานกล้องของ Huawei Nova 9 พร้อมกับผม ณ สถานที่จริงด้วยกันมาแนะนำด้วยครับ ซึ่งทางพี่เขาได้ลงความเห็นในเรื่องของคุณภาพและประสบการณ์การถ่ายรูปด้วยกล้อง Huawei Nova 9 ไว้ว่า "ถ้าเทียบกับ P30 Pro ที่ใช้งานอยู่ ก็คือว่ายังมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร แต่ถ้ามองที่ผลลัพธ์หลังกล้อง ก็ถือว่าเป็นกล้องที่เก่งในสภาพแสงกลางคืน สามารถให้รายละเอียดภาพที่คมชัด และดีไซน์การวางกล้องไม่เหมือนใคร"
ส่วนตัวผมเองหลังจากที่ลองถ่ายดูก็คิดว่า เป็นกล้องถ่ายรูปที่เราสามารถคาดหวังผลลัพธ์ได้อยู่ และตัวกล้องทำได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อยไปจนถึงมืด ซึ่งก็น่าจะมาจากการเลือกใช้เซ็นเซอร์ RYYB แต่ก็แลกกับโทนสีของภาพถ่ายที่จะออกเหลืองตุนๆ หน่อย เหมือนที่หลายคนบ่นบน P30 และ P40 Series มาก่อนหน้านี้ แต่ที่ต้องขอชมเลยก็คือ การที่หัวเว่ยใส่ซอฟต์แวร์ "Petal Clip" สำหรับการปรับแต่งภาพวีดีโอมาให้ด้วย ทำให้เราสามารถที่จะปรับแต่ง แก้ไขตัวไฟล์วีดีโอจนออกมาเป็นคลิปพร้อมแชร์ได้เลย อันนี้กดเลิฟให้เลยชอบมากๆ
Petal Clip แอปพลิเคชั่นแก้ไข-ตัดต่อไฟล์วีดีโอจากกล้อง Huawei Nova 9
มีโหมดตกแต่งภาพถ่ายมาให้ในตัวด้วยนะ
ภาพตัวอย่างจากกล้องของ Huawei Nova 9
ภาพตัวอย่างจากกล้องหน้าของ Huawei Nova 9
ในส่วนของกล้องหน้าผมขอเปลี่ยนตัวแบบมาเป็น GURU เจน ของเราแทนผมนะครับ จะได้ดูสาวๆ กันบ้าง
บทสรุป : คุ้มค่า น่าใช้ แต่ยังไม่พอดีกับไลฟ์สไตล์คนทำงาน
หลังจากที่ได้ลองใช้งานจริงจังใน 1 วันทำงาน ส่วนตัวผมรู้สึกว่า Huawei Nova 9 เป็นสมาร์ตโฟนที่ทำออกมาได้ดีมากๆ ไล่ตั้งแต่งานออกแบบตัวเครื่อง งานประกอบ ตลอดจนซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่ตอบรับกันอย่างลื่นไหล ถ้านำไปใช้งานทั่วไปก็สามารถใช้ได้สบายๆ เลย จะติก็ตรงแค่รู้สึกเสียดาย! ถ้าได้พลัง Google มาเหมือนเดิม คงจะเป็นสมาร์ตโฟนที่ลงตัวมากๆ อีกรุ่นของตลาดในปีนี้เลยครับ เพราะเมื่อนำมาใช้ทำงานจริงจากประสบการณ์ส่วนตัวที่เจอตอบได้เลยว่า "ยังไม่ไหลลื่น" เหมือนตอนใช้งานสมาร์ตโฟนแอนดรอยด์แบบที่เราคุ้นชินกัน แต่ก็ไม่ได้เจอทางตันจนใช้ทำงานไม่ได้นะครับ แค่ความสะดวกและความลื่นไหลของโปรเซสการใช้ทำงานมันยังไม่ Flow เท่านั้นเอง
ในขณะที่เรื่องของกล้องถ่ายรูป เป็นอีกจุดที่ผมกลับรู้สึกว่ามันยังเก่งไม่เท่ารุ่นพี่ P Series เฮะ แปลกใจเหมือนกันทั้งๆ ที่ใช้เซ็นเซอร์แบบเดียวกัน ไม่แน่ใจว่าถ้าได้รับการอัปเดทซอฟต์แวร์ตอนวางจำหน่ายจริงแล้วจะเก่งขึ้นหรือไม่ แต่ตอนที่ผมนำมาทดสอบถ่ายดูตัวซอฟต์แวร์กล้องดูจะมีการปรับค่าแสงและโทนสีที่เพี้ยนอยู่ และมีอาการแพ้แสงกลางแจ้ง เพราะถ้าถ่ายภาพย้อนแสงจะเห็นชัดเจนเลยว่า หน้ามืด!! แต่พอตกกลางคืนกลับแสดงงานออกมาได้ดีที่เดียว ดึงความสว่างของภาพออกมาได้ดีและค่อนข้างเนียนอยู่นะ ไม่เว่อร์เท่าไร
ดังนั้นถ้าสรุปเรื่องราวของประสบการณ์ทั้งหมดที่ผมได้ลองใช้ Huawei Nova 9 ในหนึ่งวันดู ก็แนะนำว่า นี้คือสมาร์ตโฟนที่ดูจะเหมาะสำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์ใช้งานทั่วไปได้อย่างลงตัว และเป็นสมาร์ตโฟนที่ประสิทธิภาพดีอีกรุ่นของในตลาดตอนนี้ เพียงแต่!! เจ้า Nova 9 อาจเป็นมือถือที่ต้องเลือกนายสักหน่อย เพราะจากที่ใช้งานมาผมว่า คนที่เป็นเจ้าของอาจต้องเป็นยูสเซอร์ที่มีประสบการณ์ใช้งานหรือแอดวานซ์สักหน่อยนะครับ สำหรับใครที่สนใจอยากเป็นเจ้าของ Huawei Nova 9 ก็สามารถไปซื้อหรือทดลองใช้งานกันได้เลยที่ Huawei Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ตัวเครื่องวางจำหน่ายในราคา 16,990 บาท
ขอขอบคุณ Huawei ประเทศไทย
29 พ.ย. 64
2,839
