x
icon-filter ค้นหาโทรศัพท์มือถือ
product filter
product filter
product filter
product filter

รีวิว OnePlus Nord 2 5G มือถือ Mid-range ประสิทธิภาพเทียบเรือธง พลัง A.I. จอ 90Hz กล้องตัวท็อป 50MP

icon 1 ต.ค. 64 icon 5,802
รีวิว OnePlus Nord 2 5G มือถือ Mid-range ประสิทธิภาพเทียบเรือธง พลัง A.I. จอ 90Hz กล้องตัวท็อป 50MP
รีวิว OnePlus Nord 2 5G มือถือ Mid-range ประสิทธิภาพเทียบเรือธง พลัง A.I. จอ 90Hz กล้องตัวท็อป 50MP
OnePlus Nord 2 5G สมาร์ตโฟนซีรีย์ "Nord" เจเนอเรชั่นที่ 2 แต่เป็นรุ่นที่ 4 ในประเทศไทยของวันพลัสแล้วนะครับ เพราะก่อนหน้านี้มีการแตกไลน์ Nord ออกมาเป็น OnePlus Nord N10 5G และ Nord CE 5G ในบ้านเราไป แต่สำหรับรุ่นหลักพึ่งมีเพียง OnePlus Nord รุ่นเดียวเท่านั้น และ OnePlus Nord 2 5G ก็คือเจเนอเรชั่นที่ 2 ที่ทางวันพลัสนำมาต่อยอดความสำเร็จจากรุ่นแรก โดยมีการเปลี่ยนจุดเด่นหรือจุดขายแตกต่างออกไปจาก Nord รุ่นแรกที่จากเดิมจะวางให้เป็นสมาร์ตโฟน "Lite Flagship phone" ประจำแบรนด์ โดยมีจุดขายคือการมีสเปกและประสิทธิภาพตัวเครื่องในระดับน้องๆ สมาร์ตโฟนเรือธงในราคาเข้าถึงได้ง่าย
แต่ครั้งนี้มีการยกระดับให้มีความพรีเมี่ยมไม่แพ้เรือธง พร้อมกับเติมเรื่องราวของสมาร์ตโฟนสมาร์ตไลฟ์เข้ามาด้วย เพื่อยกระดับประสบการณ์การใช้งานให้แตกต่างละเข้าถึงใจของผู้ใช้งานมากขึ้น ดังนั้นจึงเลือกใช้นิยามของรุ่นในครั้งนี้ว่า "A.I. Lite Flagship" ที่ต้องการชูว่า OnePlus Nord 2 5G จะเป็นสมาร์ตโฟน "Lite Flagship" ที่รู้ใจ เรียบง่าย แต่ทรงพลังด้วยพลัง A.I. จากชิปประมวลผลรุ่นใหม่แต่หน้าเก่าอย่างชิป MediaTek Dimensity 1200-AI 
ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาร่วมกับ MediaTek ซึ่งทางวันพลัสเคลมว่าให้ประสิทธิภาพตัวเครื่องที่ดีขึ้นในทุกด้านเมื่อเทียบกับ OnePlus Nord รุ่นแรก และมีประสิทธิภาพที่เทียบเคียงกับสมาร์ตโฟนระดับเรือธงเลยทีเดียว เกริ่นมาขนาดนี้เชื่อว่า น่าจะทำให้หลายคนอยากรู้จักเจ้า OnePlus Nord 2 5G กันมากขึ้นบ้างแล้ว เพราะฉะนั้นก็อย่ารอช้าอยู่เลยครับ ตามผมไปทดสอบและลองใช้งานผ่านบทความรีวิวนี้พร้อมกัน!
งานออกแบบ (Design)
งานออกแบบตัวเครื่องของ OnePlus Nord 2 5G เลือกใช้โครงการออกแบบยกมาจากรุ่นพี่ OnePlus 9 Series เกือบทั้งหมดเลยก็ว่าได้ ซึ่งใช้หลักการ "Premium Design" ที่เน้นออกแบบให้ตัวเครื่องดูเรียบหรู ด้วยการเลือกใช้วัสดุตัวเครื่องคุณภาพดี พร้อมกับเลือกวางตำแหน่งของโมดูลกล้องให้ละหม้ายคล้ายคลึงกับ 9 Series ที่เป็นสมาร์ตโฟนเรือธงของแบรนด์จนรู้สึกว่าถอดด้ามกันมาเลย เพียงแต่ดีไซน์ของ Nord 2 5G จะดูสนุกสนาน มีความสดใสเข้ากับไลฟ์สไตล์น้องๆ ที่เป็นเจเนอเรชั่นใหม่มากกว่าทาง OnePlus 9 Series ที่จะดูมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าสักหน่อย
ด้านหน้าของตัวเครื่องจะเป็นหน้าจอแสดงผล Fluid AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด 2400x1080 พิกเซล มีค่า refresh rate 90Hz รองรับการแสดงขอบเขตของสีบนหน้าจอตามมาตรฐาน sRGB และ Display P3 ทำให้สีสันที่ถูกขับออกมาบนหน้าจอจะมีความเที่ยงตรงและใกล้เคียงกับของจริง 
ในขณะที่มุมซ้ายบนของหน้าจอจะเป็นตำแหน่งของกล้องหน้าความละเอียด 32MP (F2.45) เป็นกล้องหน้าที่มีความละเอียดสูงที่สุดของแบรนด์วันพลัสในเวลานี้ ตัวกล้องเป็นเลนส์มุมกว้างในตัวสามารถถ่ายเซลฟี่พร้อมกันได้ 2-5 คนในเฟรมเดียว ซึ่งใช่ตัวเซ็นเซอร์กล้องเป็นเซ็นเซอร์ Sony IMX615 และมีซอฟต์แวร์ "Group Shot 2.0" มาในตัว ทำให้ตัวกล้องรองรับการ Detect หรือตรวจจับใบหน้าขณะถ่ายของคนในภาพได้พร้อมกันสูงสุด 5 คน 
ด้านล่างตัวเครื่อง จะเป็นตำแหน่งของลำโพงเสียงตัวเครื่อง ซึ่งรอบนี้ทางวันพลัสใส่ลำโพงมาด้วยกัน 2 ตัวนะครับ (Dual Stereo speaker) ลำโพงอีกตัวจะอยู่ตรงบริเวณลำโพงสนทนา บอกเลยว่าเป็นชุดลำโพงคู่ที่ให้เสียงที่ดีและดังกังวาลมากๆ ถัดมาจะเป็นพอร์ต USB-C และช่องถาดซิมการ์ด ซึ่งรองรับการใช้งานซิมการ์ดพร้อมกันได้ 2 ซิม
ด้านซ้ายตัวเครื่อง มีปุ่มกดปรับระดับเสียงเพิ่ม-ลด (Volume sound) 
ด้านขวาตัวเครื่อง จะเป็นตำแหน่งของ "Alert Slider" เป็นปุ่มสไลด์สำหรับปรับรูปแบบเสียงแจ้งเตือนบนเครื่องทั้งหมด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของสมาร์ตโฟนแบรนด์วันพลัสเลย ถัดมาจะเป็นปุ่มกดเปิด-ปิด ตัวเครื่อง (Power)
ด้านหลังตัวเครื่อง พื้นผิวฝาหลังจะเป็นแบบ Glossy มีความวาวและเหลือบแสงในตัว รวมทั้งยังมีคุณสมบัติกันรอยนิ้วมือในตัว ที่มุมซ้ายบนจะเป็นตำแหน่งของกล้องถ่ายรูป รอบนี้จะใช้กล้องแบบ Triple camera ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 50MP (F1.88), กล้องมุมกว้างความละเอียด 8MP (F2.25) และกล้อง Mono Lens ความละเอียด 2MP (F2.4) พร้อมไฟแฟลช Dual LED ส่วนตัวฐานกรอบโมดูลกล้องทางวันพลัสเลือกใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียม ดังนั้นเมื่อโดนแสงตกกระทบพร้อมกับฝาหลังที่มีความวาวอยู่แล้ว ตัวเครื่องจะดูพรีเมี่ยมมากๆ เลยล่ะครับ
ขนาดตัวเครื่อง : กว้าง 73.31 x สูง 159.12 x หนา 8.25 มิลลิเมตร | น้ำหนักตัวเครื่องรวม 189 กรัม
อุปกรณ์ภายในกล่อง 
  • OnePlus Nord 2 5G
  • เคสตัวเครื่องแบบด้าน (Soft case)
  • คู่มือการใช้งานเริ่มต้น
  • เข็มจิ้มถาดซิม
  • สายชาร์จ USB-C
  • อแดปเตอร์ชาร์จไฟ Warp Charge 65
รายละเอียดสเปกตัวเครื่องของ OnePlus Nord 2 5G
  • หน้าจอแสดงผล Fluid AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด 2400x1800 พิกเซล (refresh rate 90Hz, 410ppi)
  • CPU Octa-core MediaTek Dimensity 1200-AI ความเร็ว 3.0GHz (Support 5G, ขนาด 6nm.)
  • GPU Mali G77 MC9
  • RAM 8GB (LPDDR4X)
  • ROM 128GB (UFS 3.1)
  • OxygenOS 11.3 Base on Android 11
  • กล้องถ่ายรูป Triple camera
    • กล้องหลัก ความละเอียด 50MP (F1.88)
    • กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 8MP (F2.25)
    • กล้อง Mono lens ความละเอียด 2MP (F2.4)
  • กล้องหน้า ความละเอียด 32MP (F2.45)
  • รองรับเครือข่าย 5G ในไทย
  • รองรับการใช้งานซิมการ์ด Dual SIM
  • WiFi 802.11 a/b/g/n/ac/ax 2.4/5G, 2*2 MIMO
  • Bluetooth 5.2
  • รองรับ NFC
  • รองรับสแกนนิ้วมือบนหน้าจอ
  • ลำโพง Dual Stereo speaker
  • USB-C 2.0
  • แบตเตอรี่ 4,500 mAh (รองรับ Warp Charge 65)
มือถือ "Smart Life" รู้ใจ เรียบง่าย และลื่นไหล (highlights)
เท่าที่ผมได้สัมผัสและใช้งาน OnePlus Nord 2 5G มาเกือบ 1 สัปดาห์ ก็ทำให้มีความรู้สึกว่า Nord 2 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่ทางวันพลัสตั้งใจรังสรรค์ให้ตัวสมาร์ตโฟนนั้น ไม่ได้มีจุดเด่นหรือจุดขายที่หวือหวาอะไร แต่เลือกที่จะมุ่งเน้นไปที่การมอบประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้งานให้ประทับใจหรือชื่นชอบเป็นหลัก จึงได้เลือกพิถีพิถันเลือกใส่เทคโนโลยีที่สำคัญต่อการใช้งานอย่าง "ระบบ A.I." และ "ฮาร์ดแวร์" ระดับใกล้เคียงกับมือถือเรือธงของค่ายมาให้ทั้งหมดในตัวเครื่อง ดังนั้นจุดเด่นหรือจุดขายของรุ่นนี้จึงอยู่ที่คำว่า "A.I." ที่จะเป็นคีย์แมนที่เชื่อมต่อความสมาร์ตของมือถือระหว่างซอฟต์แวร์ที่ดีกับฮาร์ดแวร์ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมเข้าด้วยกัน
"A.I. Lite Flagship" ด้วย A.I. Technology
เทคโนโลยี A.I. อย่างที่ได้เกริ่นไปครับว่า ผมมองว่านี้คือจุดขายหลักของ OnePlus Nord 2 5G ในครั้งนี้เลย เพราะทางวันพลัสดูจะตั้งใจใช้คำว่า "A.I." ในทุกส่วนตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ไปจนถึงนิยามทางการตลาดทั้งหมด ประกอบกับครั้งนี้ทางวันพลัสได้ร่วมมือกับทาง MediaTek นำชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 1200 ที่เราคุ้นเคยในมือถือบางรุ่นในตลาดตอนนี้ มาปรับปรุงประสิทธิภาพใหม่ด้วยการอัปเกรด A.I. Technology เข้ามา จนกลายเป็นชิปประมวลผลที่ชื่อว่า Dimensity 1200-AI ซึ่งเป็นแบรนด์เดียวที่ได้รับเอกสิทธิ์ในการใช้งานชิปตัวนี้ และยังร่วมมือกันพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อให้ทำงานร่วมกับชิปตัวนี้ได้อย่างลงตัวด้วยเช่นกัน
ดังนั้นชิป MediaTek Dimensity 1200-AI จึงเป็นเหมือนจุดขายและหัวใจหลักของ OnePlus Nord 2 5G ในครั้งนี้ ที่นอกจากเสริมประสิทธิภาพให้ดีขึ้นด้วยการใส่ระบบตรรกะความคิดของ A.I. หรือปัญญาประดิษฐ์เข้ามาด้วยแล้ว ยังเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของตัวเครื่องได้อย่างฉลาดและรู้ใจยิ่งขึ้น เพราะข้อดีการเสริมคุณสมบัติ A.I. เข้ามาก็คือ การทำให้ตัวชิปประมวลผลมีความสามารถในการเรียนรู้และจดจำพฤติกรรมการใช้งานของเจ้าของเครื่องด้วย A.I. Logic เพื่อนำไปใช้คิด วิเคราะห์ ประมวลผล เพื่อนำเสนอรูปแบบการใช้งานที่ดีที่สุดให้กับเจ้าของเครื่อง ถ้าจะเปรียบเปรยผมก็คงจะเปรียบเสมือนการที่เรามี Conductor หรือวาทยกรเก่งๆ คนหนึ่ง ที่สามารถรวมเครื่องดนตรีต่างๆ ของวงให้เล่นเป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างลงตัว และเมื่อทุกอย่างลงตัวเราก็จะได้รับฟังดนตรีที่ไพเราะไปด้วยนั่นแหละครับ 
ดังนั้นการมีชิป A.I. และซอฟต์แวร์ A.I. ที่ดีที่ทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว ก็เปรียบเสมือนการมีมือถือที่ "รู้ใจ" และเข้าใจคุณมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ก็ว่าได้ครับ เพราะทุกๆ การใช้งานตัวระบบ A.I. จะจดจำและเรียนรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่คุณชอบ และอะไรคือสิ่งที่คุณไม่ชอบ จากนั้นก็จะนำไปปรับใช้ทำให้ตลอดเวลาที่คุณใช้งานมือถือเครื่องนี้ทุกอย่างบนเครื่องจะถูกนำเสนอผ่าน "ความชอบ" ของคุณให้อัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องไปตั้งค่าอะไรด้วยตัวเองบ่อยๆ นั่นเอง ซึ่งทางวันพลัสได้นำระบบ A.I. Technology เข้าไปอยู่ในทุกส่วนของการใช้งานบนตัวเครื่องร่วมกับซอฟต์แวร์ ทำให้ไม่ว่าคุณจะใช้งานอะไรบนตัวเครื่อง จะมีเพื่อนรู้ใจอย่าง A.I. Technology ช่วยเลือก ช่วยคิด และช่วยแนะนำในทุกๆ การใช้งานเลยก็ว่าได้ ยกตัวอย่างเช่น
  • A.I. Enhanced Gameplay : เป็นการจัดการทรัพยากรบนตัวเครื่องขณะเล่นเกมให้มีความเหมาะสมและตรงความต้องการของเจ้าเครื่องมากที่สุดด้วยระบบ A.I. ซึ่งนอกจากจะจัดสรรทรัพยากรให้แล้ว ตัว A.I. ยังช่วยนำเสนอคุณสมบัติ ฟีเจอร์ ที่ช่วยให้เจ้าของเครื่องเล่นเกมได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ่นให้ด้วยนะ เป็นอะไรที่ดีมากๆ เลยสำหรับสายเกม
  • A.I. Camera : ระบบ A.I. Camera น่าจะเป็นระบบ A.I. ที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีที่สุดแล้วล่ะครับ เพราะสมาร์ตโฟนในยุคนี้นิยมนำมาใช้งานกันอย่างแพร่หลายเลย บน OnePlus Nord2 5G ก็เช่นกัน ทางวันพลัสได้นำระบบ A.I. เข้ามาช่วยวิเคราะห์ ประมวลผล และนำเสนอการถ่ายภาพที่เหมาะสมที่สุด ณ เวลานั้นๆ ให้กับผู้ใช้งานผ่านซอฟต์แวร์กล้องถ่ายรูปบนตัวเครื่อง ซึ่งความพิเศษที่มากกว่าก็คือ นอกจากตัวซอฟต์แวร์กล้องถ่ายรุปแล้ว ทางวันพลัสยังใส่ระบบ A.I. เข้าไปช่วยในเรื่องของหลังกล้อง อย่างเช่น การปรับพื้นหลังของวีดีโอที่ถ่ายมาให้ดีขึ้น, การปรับคุณสมบัติ HDR ของภาพให้เหมาะสม เป็นต้น 
  • A.I. Optimized Display : เป็นการนำระบบ A.I. เข้ามาช่วยปรับแต่งค่าการแสดงผลบนหน้าจอให้เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานของเจ้าของบนตัวเครื่อง เช่น ค่าความสว่างของหน้าจอตามสภาพแสงต่างๆ , การปรับโทนสี พื้นหลัง และเร่งแสง HDR ให้เหมาะสมกับวีดีโอหรือคอนเทนท์ที่เรารับชมอยู่ เป็นต้น
  • A.I. Always On Modes : คล้ายกับ A.I. Display เลยครับ โดยตัว A.I. จะแนะนำข้อมูลที่คุณใช้งานหรือเรียกดูบ่อยๆ ให้ขึ้นไปแสดงผลบนหน้าจอ Always on Display หรือโหมดหน้าจอพักขณะเครื่องเข้าสู่โหมด Hibernate รวมทั้งยังแนะนำการปรับแต่งหน้าตาของหน้า Always on display ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คุณได้ด้วยนะ เช่น แนะนำสีที่เหมาะสม, รูปแบบการจัดเรียง 
5G Ready Technology รองรับไลฟ์สไตล์ในยุคใหม่ตั้งแต่แกะกล่อง
OnePlus Nord 2 5G รองรับการใช้งานเครือข่าย 5G ในประเทศไทยตั้งแต่เปิดเครื่องครั้งแรกเลย ขอแค่ตัวซิมการ์ดและแพ็กเกจที่คุณใช้รองรับก็สามารถใช้งานเครือข่าย 5G ได้ทันที ซึ่งตัวชิปโมเด็ม 5G ที่ติดมากับชิปประมวลผล Dimensity 1200-AI บนตัวเครื่องนั้น จะรองรับการดาวน์โหลดผ่านเครือข่าย 5G ได้สูงสุด 2.5Gbps รองรับการจับสัญญาณทั้ง FDD และ TDD และสามารถใช้งานซิมการ์ด 5G ได้พร้อมกันสองซิมแบบ SA ทั้งสองซิมเลย (True Dual 5G) 
ซึ่งจากที่ได้ลองใช้งาน 5G บน Nord 2 5G มานั้น ในเรื่องของการรับ-ส่งสัญญาณทำได้ปกติไม่มีปัญหาอะไร และสามารถจับสัญญาณได้ไวและค่อนข้างนิ่งมากๆ เลย ซึ่งแน่นอนว่าหากใช้งานต่อเนื่องนานๆ สักชั่วโมง แบตเตอรี่ก็มีลดฮวบเอาเหมือนกัน แต่ถ้าหากเราไม่ได้ใช้งานดาต้าเลย ระบบ A.I. บนเครื่องจะทำการสวิงไปสแตนบายบนเครือข่าย 4G ให้แทน ก็สะดวกดีเหมือนกันและช่วยควบคุมเรื่องพลังงานบนตัวเครื่องได้ดีเลย
ทดสอบความเร็วใช้งานเครือข่าย 5G บน OnePlus Nord 2 5G
จอแสดงผล Fluid AMOLED สีสด คมชัด เนียนตาด้วย refresh rate 90Hz และลำโพงคู่ที่ดัง-เสียงดี
ในเรื่องของจอแสดงผลเป็นอีกสิ่งที่ผมมองว่านี่คือ จุดเด่นที่สืบทอดกันมาในแต่ละรุ่นของสมาร์ตโฟนวันพลัสเลยล่ะครับ และในรุ่นนี้ก็ถือว่าทำได้ดีมากๆ สำหรับหน้าจอของ OnePlus Nord 2 5G รอบนี้จะใช้เป็นหน้าจอแสดงผล Fluid AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ และมีค่า refresh rate 90Hz ตัวหน้าจอจะรองรับการแสดงสีสันตามมาตรฐานขอบเขตสี sRGB และ P3 รวมทั้งยังมีลูกเล่นด้าน A.I. อย่าง A.I. Color Boost และ A.I. Resolution Boost ที่เข้ามาช่วยวิเคราะห์ ปรับแต่งสีสันและความละเอียดให้คุณภาพดีขึ้นจากแอปพลิเคชั่นที่เรารับชมคอนเทนท์อยู่ ไปพร้อมกับซอฟต์แวร์ช่วยด้านการแสดงผลให้ดีขึ้นอย่าง HDR Remapping, Smart on Display HDR, Super Resolution ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มขีดความสามารถของจอแสดงผลให้ก้าวกระโดดยิ่งขึ้น
และเมื่อจอดีพอได้ระบบเสียงที่ดีอย่างลำโพงคู่สเตอริโอและระบบ A.I. Dirac ที่ช่วยปรับจูนรูปแบบเสียงให้เหมาะสมกับคอนเทนท์ที่เรารับชม-ฟังอยู่ บอกเลยว่าเจ้า OnePlus Nord 2 5G ในด้านความบันเทิงไม่เป็นรองใครในพิกัดราคาเดียวกันแน่นอนเพราะจากที่ผมได้ลองใช้ฟังเพลง รับชมมิวสิควีดีโอบน Youtube ตลอดจนใช้รับชมภาพยนตร์ผ่าน Netflix ภาพจากคอนเทนท์ที่แสดงออกมาบนหน้าจอ 
นอกจากเราจะรู้สึกว่ามันสมูธด้วยค่า refresh rate ระดับ 90Hz แล้ว พอได้ระบบ A.I. และซอฟต์แวร์อื่นๆ ที่ทางวันพลัสใส่เข้ามาช่วยปรับจูนโทนสีต่างๆ ให้เหมาะสมกับคอนเทนท์ที่เรารับชมอยู่ ไปพร้อมกับเสียงที่ถูกขับออกมาจากลำโพงคู่ของตัวเครื่องที่ดังและมีมิติเสียง ทำให้พอเรารับชมและรับฟังเสียงไปพร้อมๆ กัน มันรู้สึกได้อรรถรสในการเสพย์คอนเทนท์ ณ เวลานั้น มากๆ เลยล่ะครับ ซึ่งส่วนตัวไม่คิดว่ามือถือระดับ Mid-range ทางวันพลัสจะใส่ของดีมาให้ขนาดนี้ ซึ่งถ้าให้เป็นคะแนนในด้านนี้ส่วนตัวคงให้คะแนน 8 เต็ม 10 เลยล่ะครับ
OxygenOS Base on Android 11 (Look like Pure Android)
มากันส่วนของซอฟต์แวร์กันบ้าง โดย OnePlus Nord 2 5G ยังคงทำงานบน OxygenOS เวอร์ชั่น 11.3 โดยใช้ Android OS 11 เป็นพื้นฐานในการพัฒนา ซึ่งในเวอร์ชั่น 11 ได้มีการปรับปรุงให้ตัวโอเอสมีการจัดสรรทรัพยากรบนตัวเครื่องให้ดีขึ้นจากเดิม โดยเฉพาะประสบการณ์การเล่นเกมที่มีการใส่ "Game space" แยกออกมาเป็นตัวแอปฯ ให้บนเครื่องเลย รวมถึงการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานในภาพรวมให้ดีขึ้นด้วย เช่น การเน้นออกแบบให้ UI รองรับกับการใช้งานมือเดียวมากขึ้น, การเพิ่มลูกเล่นการปรับแต่งหน้า Always on display ให้หลากหลาย
ในขณะที่เรื่องของประสบกาณ์การใช้งานที่จะได้รับกลับไปจาก OxygenOS ก็ยังคงเหมือนเดิม คือ ความเรียบง่าย และลื่นไหลที่หลายคนชมว่านี้คือหนึ่งในรอมแอนดรอยด์ที่ดีที่สุดบนมือถือแอนดรอยด์ในตลาด ณ เวลานี้ ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานคล้ายกับการใช้งานสมาร์ตโฟน Pure Android อย่าง Google Pixel Series นั่นแหละครับ เพราะนอกจากประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลแบบคลีนๆ แล้ว ทางวันพลัสยังการันตีการอัปเดทซอฟต์แวร์ให้ 2 ปี หรือ 2 เวอร์ชั่นแอนดรอยด์ และแพทความปลอดภัยอีก 3 ปีต่อเนื่องด้วย สามารถใช้งานกันได้ยาวๆ เลย 
หน้าตาอินเทอร์เฟซ (UI) ของ OxygenOS 11.3 Base on Android OS 11
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจบน OxygenOS 11.3
  • Zen mode : เป็นโหมดที่ทำมาเพื่อช่วยให้เจ้าของลดระยะเวลาการใช้สมาร์ตโฟนในแต่ละวันให้น้อยลง ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่รู้สึกว่าอยากมีเวลาว่างโดยไม่ต้องมีสมาร์ตโฟนกับเขาบ้างเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อเปิดใช้งานโหมดนี้แล้วตัวเครื่องจะปิดกั้นการเข้าใช้มือถือของคุณทุกกรณีเลย กดปุ่มอะไรก็ไม่ติด ปิดเครื่องก็ไม่ได้ จนกว่าจะถึงเวลาที่คุณตั้งไว้ ซึ่งในช่วงระหว่างรอจะมีเสียงดนตรีผ่อนคลายให้ฟังด้วยน้า ใครที่เป็นโรคติดมือถือและอยากฝึกให้ตัวเองสามารถออกห่างจากมือถือได้ ผมว่าโหมดนี้น่าจะช่วยคุณได้มากๆ เลยล่ะ
  • RAM Boost & Fingerprint on Display : RAM Boost เป็นฟีเจอร์ที่ตัว A.I. จะเข้ามาคำนวณ วิเคราะห์การใช้งานแอปพลิเคชั่นต่างๆ บนตัวเครื่องให้อัตโนมัติ ซึ่งถ้าหากเราใช้งานแอปพลิเคชั่นที่ต้องการพื้นที่ของ RAM ในการประมวลผลมาก ตัวระบบก็จะทำการจัดสรรพื้นที่โดยอาจปิดหรือปรับลดการใช้พื้นที่ RAM ของแอปพลิเคชั่นอื่นลง เพื่อให้มีพื้นที่พอกับแอปพลิเคชั่นที่ใช้ในปัจจุบันนั่นเอง และแน่นอนว่า OnePlus Nord2 5G รองรับการสแกนนิ้วมือบนหน้าจอด้วย ตัวระบบสามารถสแกนได้เร็วและแม่นยำพอสมควร ซึ่งผมลองเอานิ้วแตะน้ำหมาดๆ มาสแกนก็ยังสแกนได้อยู่นะ
  • Dark mode & Clone Application : โหมดมืดหรือโหมดกลางคืน เมื่อเปิดโหมดนี้ตัวระบบจะเปลี่ยนพื้นสีที่ส่วนของสีขาวทั้งหมดให้เป็นสีดำ เพื่อลดความสว่างของหน้าจอเมื่อต้องใช้งานในตอนกลางคืน ส่วน Clone Application จะเป็นโหมดสำหรับโคลนแอปพลิเคชั่นโซเชียลหรือแอปฯ แชทต่างๆ ให้สามารถล็อกอินบัญชีได้พร้อมกันสองบัญชีบนเครื่องเดียว
Performance & Gaming
Performance - ประสิทธิภาพการทำงาน
ในด้านของประสิทธิภาพการทำงาน OnePlus Nord 2 5G ใช้ชิปประมวลผลตัวแรง MediaTek Dimensity 1200-AI ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่ทางวันพลัสร่วมมือกับ MediaTek จับ Dimensity 1200 เดิมมาปรับปรุงใหม่ เพื่อนำมาใช้สำหรับสมาร์ตโฟน OnePlus โดยเฉพาะ ซึ่งในด้านของประสิทธิภาพการทำงาน เมื่อได้ตัวกลางอย่างชิปประมวลผลที่มี A.I. Logic ที่ดีทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ดีๆ อย่าง OxygenOS แล้ว 
ความรู้สึกส่วนตัวคือ "มันลงตัว ราบรื่น และสมูธ" มากๆ ครับ ตัวเครื่องสามารถรองรับทุกความต้องการในการใช้งานได้ตั้งแต่ระดับพื้นฐาน เช่น เล่นโซเชียล, ดูหนัง, ฟังเพลง, ส่งอีเมล์, เปิดไฟล์เอกสาร ฯ ไปจนถึงระดับแอดวานซ์อย่าง เปิดแอปฯ ตัดต่อวีดีโอ, ตกแต่งภาพถ่าย, แอปฯ ดราฟงาน ได้อย่างสบายและไร้ปัญหา ในขณะที่การประมวลผลแบบ Multi ก็ตอบสนองได้เร็วและดีเยี่ยม สามารถสลับแอปพลิเคชั่นไป-มา หลายๆ แอปฯ พร้อมกันเพื่อใช้งานได้เนียนและไม่มีปัญหา App clash หรือแอปฯ ปิดตัวเองให้เห็น 
ในขณะที่เรื่องของความร้อนหรืออุณหภูมิขณะใช้งาน จากประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยได้รีวิว OnePlus Nord รุ่นแรก และสมาร์ตโฟนที่ใช้ชิป Dimensity Series มาบ้าง ส่วนตัวถือว่า OnePlus Nord 2 5G มีการจัดการเรื่องระบายความร้อนได้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นแรก และดีในระดับหนึ่งเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านที่ใช้ชิปซีรีย์มาก่อนนะครับ เพราะนอกจากอุณหภูมิจะสูงขึ้นช้ากว่าหน่อยแล้ว พอขึ้นจุดพีคตัวเครื่องก็จะแค่อุ่นๆ เท่านั้น ไม่ถึงกับร้อนเลย 
Gaming - การเล่นเกม
ในด้านการเล่นเกม ถึงแม้ว่าครั้งนี้ทางวันพลัสจะหมดสัญญากับ Fnatic ไปแล้ว แต่โหมดเกมพิเศษที่เป็นซอฟต์แวร์ช่วยในการเล่นเกมโดยเฉพาะยังคงมีอยู่นะครับ แค่เปลี่ยนชื่อมาเป็น "Pro Gaming" เท่านั้น คุณสมบัติในการปรับแต่งการเล่นเกมต่างๆ ยังคงมีให้ใช้งาน แถมยังมีเพิ่มเติมในส่วนของลูกเล่นและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเล่นเกมเข้ามาให้ด้วย ในขณะที่ด้านการประมวลผลด้วยชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 1200-AI จะใช้ GPU เป็น Mali G77 MC9 ทำงานร่วมกับ RAM 8GB (LPDDR4x) และ ROM 128GB (UFS3.1) ซึ่งจากสเปกฮาร์ดแวร์ก็เพียงพอที่จะบ่งบอกได้เลยว่า ตัวเครื่องสามารถรองรับการประมวลผลด้านกราฟฟิกของเกมระดับสูงได้อย่างสบายเลยล่ะครับ
หน้าอินเทอร์เฟซโหมด Pro Gaming - โหมดเล่นเกมเฉพาะบน OnePlus Nord 2 5G
ซึ่งผมลองทดสอบด้วยเกมแนว Open world ที่ต้องใช้ทรัพยากรบนตัวเครื่องในการเรนเดอร์สิ่งแวดล้อมภายในเกมเยอะอย่าง ROX (Ragnarok X next generation) หรือเกมปราบเซียนที่ถ้าเครื่องไม่แรงก็ดับไปเลยอย่าง Genshin Impact ดู ปรากฏว่า OnePlus Nord 2 5G สามารถเล่นสบายๆ ส่วนการทัชจอเพื่อลากเคอเซอร์คุมตัวละคร หรือเพื่อกดโจมตีหรือใช้สกิล ตัวหน้าจอตอบสนองได้ไวและสมูธเลยนะ แตะแบบลงน้ำหนักหนึ่งในสามก็ตอบสนองแล้ว 
นอกจากนี้อาการเบลอจากการหมุนมุมกล้องเร็วๆ ก็แทบไม่มีให้เห็นด้วย (ก็เล่นบนจอ 90Hz นินะ) รวมถึงการโหลดฉาก โหลดมอนเตอร์ ก็ทำได้สมูธจนเราสามารถเล่นได้เพลินเลยครับ ส่วนเรื่องความร้อนจากที่ได้ลองลากยาวไป 1 ชั่วโมงกว่าๆ ตัวเครื่องก็มีความร้อนในระดับ "อุ่น" เท่านั้นครับ ยังสามารถถือเล่นต่อไปได้สบายๆ ดังนั้นในด้านการเล่นเกม OnePlus Nord 2 5G "เล่นได้ทุกเกม ทุกระดับแบบสบายๆ " นอกนั้นคงอยู่ที่ความชอบของโทนสีหน้าจอแล้วล่ะครับ เพราะจอของ OnePlus Nord 2 5G จะเป็นโทนออกฟ้าสดใส ดังนั้นถ้าใครที่ชอบจอติดส้มสไตล์ AMOLED สมัยก่อนก็อาจจะรู้สึกไม่ชินตาสักหน่อย
ผลการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานด้วยคะแนน Benchmark 
  • ทดสอบประสิทธิภาพการทำงานด้วย Antutu Benchmark ได้คะแนนทดสอบ 508,274 คะแนน 
  • ทดสอบประสิทธิภาพการเขียน-อ่าน หน่วยความจำ (ROM, UFS 3.1) ได้ค่าการอ่าน 1603.16 MB/s และค่าการเขียน 959.94 MB/s 
  • ทดสอบประสิทธิภาพทำงานของ CPU ด้วย Geekbench ได้คะแนนการทำงาน Single core 808 คะแนน และแบบ Multi-core 2510 คะแนน 
  • ทดสอบการรองรับการแสดงผล High Definition บนสตรีมมิ่ง VDO (Netflix) ผลเป็น Security Level L1 (รองรับการแสดงผล) 
  • ทดสอบการจับสัญญาณดาวเทียมอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
แบตเตอรี่และการชาร์จ Warp Charge 65
ด้านพลังงานบนตัวเครื่อง OnePlus Nord 2 5G ใส่แบตเตอรี่เซลล์คู่ขนาด 4,500mAh พร้อมด้วยเทคโนโลยีการชาร์จไวแบบ Warp Charge 65 ซึ่งสามารถชาร์จไฟกลับเข้าสู่ตัวเครื่องได้จาก 0-100% ด้วยระยะเวลาประมาณ 30-40 นาทีเท่านั้น และยังมีซอฟต์แวร์คอยควบคุมการชาร์จไฟในช่วงตอนกลางคืนที่เรามักจะเสียบชาร์จทิ้งไว้ตอนนอน ให้ตัวเครื่องค่อยๆ ชาร์จพลังงานกลับเข้าตัวเครื่องด้วยกระแสไฟที่เหมาะสมจนเต็ม 100% ในตอนเช้า เพื่อรักษาคุณภาพแบตเตอรี่ให้ไม่ให้เสื่อมไว
กล้องเซ็นเซอร์ตัวระดับท็อป Triple camera 50MP 
ปิดท้ายก็ด้วยเรื่องราวของกล้องถ่ายรูปที่เชื่อว่าหลายคนให้สนใจเป็นพิเศษ สำหรับ OnePlus Nord 2 5G รอบนี้ทางวันพลัสติดตั้งกล้องถ่ายรูปแบบ Triple camera มาให้ ซึ่งประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 50MP (F1.88) มีระบบกันสั่น OIS ในตัวและใช้ระบบโฟกัสภาพแบบมัลติ PDAF + CAF ด้านเซ็นเซอร์รอบนี้เลือกใช้เซ็นเซอร์กล้องเป็นตัวระดับท็อปจากค่าย Sony นามว่า SONY IMX 766 ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์ที่ทางวันพลัสเอาไปใช้บน OnePlus 9 Series ด้วยนะครับ ดังนั้นเรื่องของคุณภาพน่าจะการันตีได้เลยว่าไม่ธรรมดาแน่นอน ส่วนกล้องตัวที่สองจะเป็นกล้องมุมกว้างความละเอียด 8MP (F2.25) มีค่า FoV อยู่ที่ 119.7 องศา และมีระบบกันสั่น EIS และกล้องตัวสุดท้ายคือ กล้อง Mono Lens ความละเอียด 2MP (F2.4) 
นอกจากฮาร์ดแวร์ระดับท็อปแล้ว ในส่วนของซอฟต์แวร์ทางวันพลัสได้นำซอฟต์แวร์ A.I. Camera ใส่เข้ามาให้ด้วย อย่างที่ได้เกริ่นไปในช่วงต้นว่าทุกๆ ส่วนการใช้งานบนตัวเครื่องจะมีระบบ A.I. ค่อยเข้ามาช่วยทำงานด้วย ดังนั้นในด้านซอฟต์แวร์กล้องถ่ายรูปบน OnePlus Nord 2 5G จึงมีชิปประมวลผล Dimensity 1200-AI เป็นตัวกลางในการผสานการทำงานระหว่างเซ็นเซอร์กล้องระดับท็อป กับซอฟต์แวร์ A.I. Camera เข้าด้วย เพื่อช่วยยกระดับการใช้งานให้ผู้ใช้งานมือใหม่สามารถถ่ายรูปออกมาสวยได้ง่ายๆ ด้วยการประมวลผลและดึง Scene ที่เหมาะสมที่ขึ้นมาปรับแต่งให้อัตโนมัติ
คุณสมบัติการถ่ายภาพวีดีโอบนกล้อง OnePlus Nord 2 5G
  • ความละเอียดระดับ 4K@30fps 
  • ความละเอียดระดับ 1080p@30fps, 1080p@60fps
  • ความละเอียดระดับ 720p@30fps, 720p@60fps 
  • Super Slow Motion: 1080@120 fps, 720p@240fps 
  • Time-Lapse: 1080p | 720p 
  • Video editor 
  • AI Photo Enhancement 
  • AI Video Enhancement 
  • Dual View Video
Dual mode VDO | ถ่ายวีดีโอด้วยกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกัน
A.I. Camera เป็นซอฟต์แวร์กล้องของ OnePlus Nord 2 5G ในครั้งนี้ ซึ่งหน้าที่หลักนอกจากเป็นแอปฯ กล้องถ่ายรูปที่คอยประสานเซ็นเซอร์กล้องกับซอฟต์แวร์ให้ทำงานร่วมกันแล้ว ยังคอยเข้ามาช่วยเหลือและปรับแต่งให้ภาพถ่ายของเราออกมาสวยงามด้วยนะ เพราะตัวระบบ A.I. จะมีการนำภาพไปวิเคราะห์และทำการดึงสีสันของพื้นหลังอย่าง ท้องฟ้า แม่น้ำ ต้นไม้ และอื่นๆ ออกมาให้เด่นขึ้นตามความเหมาะสมของ Scene ถ่ายภาพนั้นๆ ด้วยระบบ A.I. Photo Enhancement ที่จะทำให้ตัวกล้องสามารถระบุสถานการณ์ตรงหน้าให้ได้ว่าควรใช้ซีนไหนในการถ่ายเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หรือจะเป็น A.I. Video Enhancement ที่ A.I. จะเข้าไปช่วยปรับปรุงความสว่าง สี และคอนทราสต์ของภาพวิดีโอขณะถ่ายได้แบบเรียลไทม์
ซึ่งส่วนตัวผมรู้สึกว่า ตัวซอฟต์แวร์ยังจำเป็นต้องเรียนรู้จากการใช้งานบ่อยๆ ของเจ้าของนะครับ ถึงจะเริ่มจดจำและมีความเก่งในการแนะนำเจ้าของเวลาใช้งาน เพราะตอนแรกๆ ที่ผมใช้ตัวซอฟต์แวร์จะยังดูงงๆ ไปหมด ถ่ายรูปปั้นก็จะไปดึง Scene สัตว์เลี้ยงมาถ่ายให้บ้าง แต่พอใช้ไปสักพักก็เริ่มแม่นยำขึ้น 
ใช้งานจริงกล้องของ OnePlus Nord 2 5G เป็นอย่างไรบ้าง? ตามความรู้สึกส่วนตัวผมรู้สึกว่า หากเทียบกับ OnePlus Nord รุ่นแรกที่ผมเคยได้รีวิวแล้ว ตัวกล้องมีความเก่งกาจขึ้นเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การโฟกัสภาพที่ทำได้แม่นยำและไวกว่ามาก การเก็บรายละเอียดวัตถุต่างๆ ในภาพก็สามารถเก็บมาได้ครบถ้วนกว่า และสุดท้ายคือ การถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือ low light ที่เคยเป็นจุดอ่อนของ OnePlus Nord รุ่นแรก พอมาในรุ่นที่สองนี้รู้สึกได้เลยว่าตัวกล้องและซอฟต์แวร์โหมดถ่ายภาพกลางคืนของวันพลัสทำมาได้ดีขึ้นมากๆ สามารถเก็บแสงไฟได้ดีขึ้น และคอนโทลสีที่มักจะเร่งให้สดเกินจริงได้ ถึงแม้จะยังมีโอเวอร์ให้เห็นบ้างก็ตามแต่ถ้าเทียบกับรุ่นแรกแล้วพัฒนาขึ้นแบบเด่นชัดมากๆ 
แต่เอาเป็นว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ลองไปชมภาพตัวอย่างจากกล้องของ OnePlus Nord 2 5G ด้านล่างนี้กันครับว่า จะทำผลงานได้ดีตามที่ผมชมไว้หรือไม่!
ภาพตัวอย่างจากกล้อง A.I. Triple camera 50MP ของ OnePlus Nord 2 5G
Portrait 
  
  
  
Mood Filter
  
Ultra low light Photography
  
  
HD Camera 50MP
  • ภาพถ่ายโหมด HD Camera ที่ระยะ 1x
  • ภาพถ่ายโหมด HD Camera ที่ระยะ 2x
  • ภาพถ่ายโหมด HD Camera ที่ระยะ 5x
ระยะซูมของเลนส์กล้องที่ 0.6 (Wide) | 1x | 2x | 5x | 10x
  • ระยะซูม 0.6x (Wide)
  • ระยะซูม 1x (ปกติ)
  • ระยะซูม 2x
  • ระยะซูม 5x
  • ระยะซูม 10x (Digital Zoom)
High Resolution front camera 32MP
กล้องหน้าของ OnePlus Nord 2 5G เป็นกล้องหน้าความละเอียดสูง 32MP (F2.45) ใช้เซ็นเซอร์คุณภาพดี Sony IMX615 มีระบบกันสั่นด้วยซอฟต์แวร์ EIS ให้ในตัว ตัวเลนส์กล้องจะเป็นเลนส์มุมกว้างในตัวทำให้รองรับการถ่ายเซลฟี่แบบกลุ่มได้หลายคน รวมทั้งยังมีซอฟต์แวร์ A.I. ที่จะช่วยตรวจจับใบหน้าขณะถ่ายภาพเซลฟี่กลุ่มให้ด้วย ส่วนลูกเล่นอย่างโหมดบิ้วตี้หรือฟิลเตอร์ทางวันพลัสก็ใส่มาด้วยเช่นกันครับ ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่าเป็นกล้องหน้าคุณภาพดีอีกรุ่นของตลาดเลยนะ เราลองไปชมภาพตัวอย่างจากกล้องกัน!
ภาพตัวอย่างจากกล้องหน้า 32MP 
  
  
สรุป (Conclusion)
มาถึงบทสรุปกันแล้วนะครับ ซึ่งสำหรับตัวผมที่ได้ลองทดสอบใช้งาน OnePlus Nord 2 5G มาประมาณ 4-5 วัน ก็รู้สึกว่า OnePlus Nord 2 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่มีความเป็น "Lite Flagship" ชัดเจนมากขึ้นจากรุ่นแรก เพราะดูเหมือนทางวันพลัสจะพยายามจัดสรรตัวเครื่องให้มีความใกล้มือถือเรือธงมากขึ้น ด้วยการนำจุดเด่นบางส่วนจากเรือธงของค่ายมาใส่ให้ และบางอย่างก็มาจากฮาร์ดแวร์ที่ให้ประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับคำว่า "มือถือเรือธง" จนสมกับคำว่า "Lite Flagship" มากขึ้นนั่นเอง 
ในขณะที่ภาพรวมตัวเครื่องก็ถือว่าเป็นต่อยอดจากรุ่นแรกได้ดีมากๆ ทั้งเรื่องของดีไซน์ที่พรีเมี่ยมมากขึ้น, ระบบชาร์จไว Warp Charge 65 ที่ช่วยการชาร์จให้เร็วขึ้นจากรุ่นก่อน, การนำระบบ A.I. และชิปประมวลผลประสิทธิภาพดี รองรับการทำงานร่วมกับ A.I. เข้ามาช่วยทำงานในทุกส่วนของตัวเครื่อง ทำให้ตัวสมาร์ตโฟนมีความสมาร์ตและรู้ใจเจ้าของมากขึ้น ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ได้ลงตัว นอกจากนี้กล้องถ่ายรูปยังเป็นอีกจุดที่พัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งผลลัพธ์ที่ดีก็น่าจะมาจากการเลือกใช้เซ็นเซอร์กล้องระดับท็อปมาผสานเข้ากับซอฟต์แวร์ที่เป็นจุดเด่นของแบรนด์ได้อย่างลงตัวนั่นเอง
ถ้าให้ผมแนะนำว่า OnePlus Nord 2 5G เหมาะกับใคร? ผมต้องถามกลับล่ะครับว่า ในราคานี้คุณสามารถยอมรับสมาร์ตโฟนที่มีเพียงแค่ "ความรู้ใจ เรียบง่าย ลื่นไหล" ได้หรือไม่? ในเมื่อในตลาดมีความหวือหวามากมายรออยู่ ถ้าเอาให้เห็นภาพมากขึ้นอีกสักหน่อย ก็ลองจินตนาการว่า ถ้าเราจะเลือกทานอาหารในร้านสักร้านหนึ่ง คุณจะเลือกทานในร้านอาหารแบบไหนระหว่าง ร้านที่ตกแต่งแบบเรียบง่าย แต่พอเข้าไปในร้านเจ้าของร้านก็รู้ใจคุณว่าชอบทานเมนูอะไร รสชาติแบบไหน และทานคู่กับอะไร กับเลือกเข้าอีกร้านที่มีการตกแต่งหวือหวา และแน่นอนว่าทุกอย่างภายในร้านคุณต้องเป็นคนเริ่มต้นเองทั้งหมด! 
การวางจำหน่าย (Price & Promotion)
วันพลัส ประเทศไทย วางจำหน่าย OnePlus Nord 2 5G ด้วยกัน 2 รุ่นโมเดล และสีตัวเครื่องทั้งหมด 2 สี คือสีฟ้า Blue Haze ที่เราได้มารีวิวกันในครั้งนี้ และอีกสีคือสีดำเทา Grey Sierra โดยสีทั้งสองจะแบ่งตามรุ่นโมเดลนะครับ โดยที่รุ่น RAM 8GB | ROM 128GB ทางวันพลัสวางจำหน่ายในราคา 17,990 บาท สีตัวเครื่องจะเป็นสีฟ้า Blue Haze ซึ่งช่องทางวางจำหน่ายยังไม่ประกาศออกมา
และรุ่นท็อปสุดรุ่น RAM 12GB | ROM 256GB ตัวเครื่องจะเป็นสีดำเทา Grey Sierra วางจำหน่ายในราคา 18,990 บาท โดยรุ่นท็อปจะวางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ Lazada, Shopee และ ThisShop เท่านั้น
ส่วนของแถมรอบนี้จะได้รับเป็นบัตรประกันจอแตกและชุด Gift Box มูลค่ารวม 5,999 บาท โดยจะแถมให้กับผู้ที่ซื้อ OnePlus Nord 2 5G ในช่วงวันที่ 26 สิงหาคม - 5 กันยายน 2564 เท่านั้น สำหรับศูนย์บริการหลายคนอาจยังไม่ทราบว่าทาง OnePlus ได้ร่วมมือกับ OPPO อย่างเป็นทางการแล้วนะครับ เพราะฉะนั้นลูกค้าของ OnePlus สามารถนำเครื่องเข้ารับบริการหลังการขายผ่านศูนย์บริการของ OPPO ได้ทุกสาขาทั่วประเทศเลย สะดวกขึ้นมากๆ 
แท็กที่เกี่ยวข้อง review oneplus oneplus nord2 5g
Mobile Guru
เขียนโดย วินระพี นาคสวัสดิ์ Mobile Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)