ทดสอบ Toyota Camry 2.0 G Extremo 2015 ปรับใหม่ หรู หล่อ และทรงพลังขึ้นด้วยเครื่องยนต์ใหม่
เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เชิญสื่อมวลชนรวมถึงทีมงานเช็คราคา.คอมร่วมเดินทางทดสอบรถยนต์
โตโยต้า คัมรี่ ใหม่ ครบครัน 6 รุ่น 2 ขนาดเครื่องยนต์ (
2.5L Hybrid Premium,
2.5L Hybrid Navigator,
2.5L Hybrid CD,
2.5G,
2.0G Extremo และ
2.0G) โดยใช้เส้นทาง ภูเก็ต - ตรัง รวมระยะทางกว่า 250 กม.
โตโยต้า คัมรี่ ใหม่ ตัวรถได้ผ่านการปรับแบบไมเนอร์เชนจ์ในหลายจุดทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงการใช้เครื่องยนต์ใหม่ติดตั้งในรุ่น 2.0 ลิตร จึงเสมือนบิ๊กไมเนอร์เชนจ์ คณะสื่อมวลชนเริ่มออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิไปจังหวัดภูเก็ต จุดเริ่มต้นในการทดสอบ โดยถึงสนามบินภูเก็ตตอน 10.30 น. จากนั้นได้นั่งรถตู้ไปยังโชว์รูมโตโยต้า ภูเก็ต ที่ดำเนินงานโดย บริษัท โตโยต้า เน็กซ์ จำกัด เพื่อฟังการบรรยายสรุปข้อมูลผลิตภัณฑ์ และเส้นทางการทดสอบ โดยทราบว่าไฮไลท์เด่นอย่างหนึ่งคือ เครื่องยนต์ใหม่ในรุ่น 2.0 G และเอ็กซ์ทรีโม่ รหัส 6AR-FSE ขนาด 2 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบใหม่ VVT-iW & D-4S ให้กำลังสูงสุดมากกว่ารุ่น 2.0 ลิตร เดิม จาก 148 ขยับขึ้นเป็น 167 แรงม้า พร้อมส่งกำลังผ่านเกียร์ออโต้ 6 สปีด (Sequential Shift) ใหม่ ให้ความต่อเนื่องและนุ่มนวลระหว่างการเปลี่ยนเกียร์มากขึ้น
การแบ่งรถทดสอบ 14 คัน ผมกับสื่อมวลชนอีกท่านได้ขับรุ่น 2.0G Extremo ที่ใช้เครื่องยนต์ใหม่
ขบวนรถทดสอบ คัมรี่ ใหม่ ออกเดินทางจากโชว์รูมฯ ราว 11.00 น. โดยมุ่งหน้าไปร้านอาหารแดรี่ ฮัท จังหวัดพังงา เพื่อพักรับประทานอาหารกลางวัน โดยใช้ถนนหลวงหมายเลข 402 แล้วต่อด้วยเส้นทางหลักหมายเลข 4 เลี้ยวขวาไปจังหวัดสุราษฎร์ธานี คิดเป็นระยะทางประมาณ 68 กม. ความรู้สึกที่ได้จากการขับในช่วงแรก บนเส้นทางส่วนใหญ่อันเป็นถนนใกล้ชุมชน มีรถและสี่แยกไฟแดงมาก การขับจึงทำความเร็วไม่ได้มาก และต้องหักเปลี่ยนเลน หรือหยุดเดินเบาบ่อยครั้ง พอสรุปได้ว่า ช่วงล่างอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท-เหล็กกันโคลง/อิสระดูอัลลิงค์สตรัท พร้อมล้อแม็ก 17 นิ้ว ยางขนาด 215/55 ให้ความนุ่มนวลอย่างน่าพอใจ แม้ผ่านพื้นผิวเส้นทางขรุขระ การเบรกจนหยุดนิ่งตอบสนองดี ให้น้ำหนักง่าย
อัตราเร่งช่วงออกตัว จากพละกำลัง 167 แรงม้า ผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ใหม่ ทำให้ตัวรถสามารถดีดตัวออกได้อย่างกระฉับกระเฉงและเร่งความเร็วได้ราบรื่น ด้านระบบจ่ายน้ำมันช่วงเดินเบา-รอบต้นเป็นการจ่ายผ่านพอร์ตไอดี เมื่อเติมคันเร่งมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงช่วงรอบระดับ 2,500 รอบ/นาที ยังรู้สึกได้ถึงการดึงจากแรงบิด ส่วนการสั่งจ่ายน้ำมันในช่วงนี้ เป็นการยิงเข้าห้องเผาไหม้โดยตรงอย่างเดียว จากนั้นจึงลองใช้ Paddle Shift เพื่อลากรอบให้สูงขึ้นปรากฎว่าเสียงเครื่องยนต์แผดดังให้ได้ยินชัดเจน การจ่ายน้ำมันในช่วงรอบสูงเป็นการยิงทั้งที่พอร์ตและห้องเผาไหม้ เพื่อป้อนน้ำมันให้เพียงพอ นับเป็นจุดเด่นของเครื่องยนต์ยนต์ใหม่ 6AR-FSE ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพจากระบบ VVT-iW & D-4S
เมื่อถึงร้านอาหาร เติมพลังกันเรียบร้อย บ่ายโมงขบวนก็ทยอยออกเดินทางต่อ จุดหมายต่อไปเป็นปั๊ม ปตท. อยู่ห่างออกไป 84.5 กม. โดยขบวนยังขับแบบคาราวาน แต่สามารถแยกออกไปทำความเร็วได้ตามความเหมาะสม การขับทดสอบใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 4311 สภาพเส้นทางเริ่มเปิดโล่งมากขึ้นในหลายช่วง ทำให้สามารถทำความเร็วกลาง-สูงได้ต่อเนื่อง ซึ่งคัมรี่ 2.0 เอ็กซ์ทรีโม่ ให้การทรงตัวที่ดีและนิ่ง จนไม่คิดว่ากำลังใช้ความเร็วระดับ 150 กม./ชม. หรือมากกว่านั้น ช่วงทางโค้งที่พอทำความเร็วได้ ก็ลองเข้าด้วยความเร็วที่มากกว่าการใช้งานทั่วไป เพื่อจับอาการของรถ พร้อมสังเกตการทำงานของระบบควบคุมการทรงตัว (VSC) แต่ด้วยพื้นฐานการทรงตัวที่ดี และความเร็วอาจไม่สูงพอ (เพื่อความปลอดภัย) ทำให้การควบคุมรถเข้า-ออกโค้งทำได้สบายๆ ไม่เกินลิมิตของรถถึงขั้นต้องแก้ หรือให้ระบบเข้ามาช่วย
ขบวนมาถึงจุดพักภายในปั๊ม ปตท. ตอนบ่ายสอง เพื่อหยุดพักและเปลี่ยนคนขับทดสอบ ผมย้ายมานั่งเบาะข้างคนขับ เพื่อเดินทางสู่จุดหมายสุดท้ายคือ โรงแรมอนันตราสิเกา ในจังหวัดตรัง การได้นั่งสบายๆ ในรถหรูอย่าง คัมรี่ นับเป็นประสบการณ์อันสุนทรีย์ไม่น้อย ภายในห้องโดยสารสามารถเก็บเสียงได้ดี ทำให้เพลิดเพลินไปกับระบบเครื่องเสียงอันโดดเด่นของรุ่นเอ็กซ์ทรีโม ประกอบด้วย เครื่องเล่นดีวีดี 1 แผ่น แบบหน้าจอสัมผัส พร้อมระบบนำทาง และลำโพง JBL Green Edge Tech 10 ตำแหน่ง โดยได้ลองเล่นเพลงจากสมาร์ทโฟนผ่านทางระบบบลูทูธ เสียงที่ได้นับว่าน่าพอใจและไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปเปลี่ยนอุปกรณ์ใดๆ ให้คอนโซลบอบช้ำ เว้นแต่อยากได้เสียงเบสหนักขึ้นก็อาจใส่ Sub Box ใต้เบาะสักตัวก็น่าช่วยได้เยอะ
ผ่านไป 96.9 กม. ขบวนทดสอบทยอยมาถึงโรงแรมอนันตราสิเกา จุดหมายปลายทางตอน 16.15 น. เป็นอันจบการทดสอบด้วยความพึงพอใจที่มีต่อรูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งปรับให้มีความหรูและสปอร์ตขึ้นด้วยชุดแต่งรอบคันพร้อมกระจังหน้าพื้นสีดำ ระบบไฟส่องสว่างแบบ LED Daytime Running Lights (DRL) ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/55/R17 และสัญลักษณ์ "Extremo" บริเวณฝากระโปรงหลัง และสเกิร์ตด้านข้างเฉพาะรุ่นเอ็กซ์ทรีโม่ ส่วนภายในห้องโดยสารให้อารมณ์หรูขรึมด้วยโทนสีดำพร้อมเดินด้ายสีเงินที่เบาะนั่ง พวงมาลัย และที่พักแขน พร้อมเพลินไปกับเครื่องเล่น DVD หน้าจอสัมผัส เสริมด้วยระบบนำทางรองรับ Smart G-Book ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) พร้อมปุ่มรับ-วางโทรศัพท์ที่พวงมาลัย กล้องมองหลัง ขณะถอยรถ และไฟส่องสว่างตรงประตูคู่หน้าพร้อมสัญลักษณ์ Extremo และพรมปูพื้นสีดำ ดีไซน์พิเศษเอกลักษณ์เฉพาะ Extremo
ด้านประสิทธิภาพจากเครื่องยนต์ 2.0 ใหม่ ก็นับว่ายอดเยี่ยม เพียงพอต่อการใช้งานทั้งในเมืองและทางไกล โดยเฉพาะการเร่งแซงรถช้า ส่วนการทรงตัวขณะเข้าโค้งก็น่าพอใจ เพราะตัวรถนิ่งจนคนนั่งข้างสามารถนั่งหลับได้สนิท ด้านระบบเบรก พบว่าการตอบสนองและชะลอความเร็วทุกระดับความเร็วให้ความมั่นใจและเบรกได้อย่างราบรื่น
ด้วยราคา 1,429,000 บาท แลกกับการได้เป็นเจ้าของ คัมรี่ 2.0 G Extremo ที่ยกระดับความหรูและประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ใหม่ จึงเป็นทางเลือกที่ยากจะปฎิเสธจริงๆ
- ความจุ : 1,998 ซีซี 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT-iW & D-4S กำลังสูงสุด 167 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 199 นิวตันแมตร ที่ 4,600 รอบ/นาที
- ระบบขับเคลื่อน : ขับเคลื่อนล้อหน้า
- ระบบเกียร์ : เกียร์ออโต้ 6AT (Sequential Shift)
- ประเภทเชื้อเพลิง : เบนซิน 95/แก๊สโซฮอล์ 95 (E10)/เบนซิน E20
*ขอขอบคุณบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ที่เอื้อเฟื้อการทดสอบ
ข่าว
23 พ.ค. 59
56,710
