
AION UT รถยนต์ไฟฟ้า 100% จากแบรนด์ GAC AION ที่ทำตลาดด้วยขนาดตัวถังแบบแฮทช์แบ็กขนาดเล็ก วันนี้ กูรูช้าง-สินธนุ จำปีศรี จะมารีวิวให้ทราบกันว่า AION UT ในรุ่น 500 Premium โดยสามารถวิ่งได้ 500 กม. ในราคา 649,900 บาท ยังน่าใช้แค่ไหนหลังจากได้ลองขับจริงทั้งในเมืองและนอกเมือง
อ่านบทความและข่าว GAC AION ที่เกี่ยวข้อง
- รถไฟฟ้า 2 รุ่นกระแสแรงมากในตอนนี้ ระหว่าง AION UT กับ DEEPAL SO5 ราคาประหยัด น่าใช้จริงไหม?
- AION UT รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว สเปคคุ้มไหม วิ่งไกล 500 กิโลเมตร กูรูช้าง จะมาพูดให้ฟัง
- GAC AION เปิดตัว HYPTEC HT เอสยูวีไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ที่ขับได้ถึง 620 กม. ในราคาเริ่มต้น 1.449 ลบ.
- ทัวร์โรงงาน GAC Aion พร้อมชม Aion V เจเนอเรชั่นที่ 2 ครั้งแรกในโลก
- GAC Group ประกาศราคา AION UT ที่ 499,900-649,900 บาท จนถึง 31 ก.ค. นี้ จากนั้นปรับเพิ่ม 20,000 บาท พร้อมที่จะส่งมอบประสบการณ์ใหม่ในวงการยานยนต์ไฟฟ้าในไทย
- AION UT ลอตแรกถึงไทยแล้ว พร้อมเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 มิถุนายนนี้
- GAC เผยโฉม AION UT และ M8 PHEV ครั้งแรกในไทย พร้อมนโยบาย ONE GAC ใน Motor Show 2025
.jpg.webp)
สมรรถนะและการขับขี่
Aion UT 500 Premium ใช้มอเตอร์ขนาด 204 แรงม้า แรงบิด 210 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. ในราว 7.3 วินาที และมี ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. ซึ่งถือว่า “เกินพอ” สำหรับรถในกลุ่มนี้ แบตเตอรี่ขนาด 60 kWh ตามมาตรฐาน NEDC วิ่งได้ สูงสุดราว 500 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง แต่จากการใช้งานจริง ผมพบว่าอยู่ที่ประมาณ 450 กม. บวกลบ แล้วแต่พฤติกรรมขับขี่ แต่ก็ทอแทนด้วยจุดเด่นคือแรงบิดมาไว แต่ถ้าขับแบบเร่งบ่อยหรือซิ่งบ่อย จะเปลืองไฟขึ้นเล็กน้อย
.jpg.webp)
ช่วงล่างและการทรงตัว
จุดเดียวที่รู้สึก “ยังไม่ลงตัวนัก” คือ ช่วงล่างที่นุ่มเกินไป เมื่อใช้ความเร็วสูง หรือเจอถนนคอนกรีตที่มีรอยต่อ หลุม คลื่น หรือขอบสะพาน จะรู้สึกว่ารถ “โยน” และ “ลอยตัว” มากกว่าที่ควร
- สำหรับคนชอบขับเร็ว อาจไม่ถูกใจนัก
- แต่ถ้าใช้งานในเมืองทั่วไป ขับเรื่อย ๆ ไม่ซิ่ง ถือว่า “โอเคเลยครับ” ระดับความนุ่มสบายใกล้เคียงกับรถญี่ปุ่นในคลาสเดียวกัน
หากใครชอบแนวขับมัน ๆ อาจเปลี่ยนช่วงล่างเพิ่มได้ เพราะแรงม้าและมอเตอร์ “เหลือเฟือ” อยู่แล้ว
.jpg.webp)
.jpg.webp)
.jpg.webp)
.jpg.webp)
พื้นที่ภายในและความสบาย
- ภายในห้องโดยสาร “กว้างเกินคาด” โดยเฉพาะเบาะหลัง เมื่อเทียบกับรถในคลาสเดียวกัน เช่น Good Cat, Corolla Cross, Yaris Cross หรือ HR-V Aion UT กลับให้ความรู้สึก “โปร่งและนั่งสบายกว่า”
- เบาะนั่งใหญ่นุ่ม รองรับดี แต่เบาะค่อนข้างต่ำ ทำให้ “ขาลอย” นิดหน่อย
- ด้านหน้าอาจไม่กว้างมาก แต่เบาะหลังนั่งสบายและโปร่งสุด ๆ
- พื้นเรียบทั้งคัน ช่วยให้นั่งได้ไม่อึดอัดแม้นั่งเต็มคัน
.jpg.webp)
.jpg.webp)
ฟังก์ชันและอุปกรณ์ภายใน
แม้จะเป็นรถราคาไม่ถึง 7 แสน แต่ให้ฟังก์ชันมา “เกินราคา” เช่น
- กระจกตัดแสงอัตโนมัติ (ที่รถไฟฟ้าราคาหลักล้านบางรุ่นยังไม่มี)
- แผ่นม่านบังแดดด้านหลัง
- ช่องแอร์แยกซ้ายขวา
- ช่องวางของหลายจุด + ตะขอแขวนของ/ถุงแกง
- ช่องชาร์จ USB-A และ USB-C (แต่ตำแหน่งเสียบลึก ต้องก้มมองตอนใช้)
- Wireless Charger, ช่องวางแก้วน้ำใหญ่ และกล่องเก็บของหลายตำแหน่ง
.jpg.webp)
ระบบสั่งงานด้วยเสียง “Hello Baby”
ฟีเจอร์น่ารักที่หลายคนชอบ — ระบบสั่งงานด้วยเสียง “Hello Baby” สามารถสั่งเปิด-ปิดกระจก หรือม่านบังแดดได้ด้วยเสียง ถือว่า “ล้ำ” และเพิ่มความสนุกให้กับการขับขี่ไม่น้อยเลยครับ
ระบบเสียงและความบันเทิง
ระบบเสียงถือว่าอยู่ในระดับ “ดีเกินราคา” เสียงชัด เบสพอมี หน้าจอใช้งานไม่ซับซ้อน ฟังก์ชันตอบสนองไว
.jpg.webp)
สรุปความคุ้มค่า
Aion UT 500 Premium คือรถไฟฟ้าที่ให้ “ความแรง + ความคุ้มค่า” ในราคาที่จับต้องได้จริง
รายละเอียด | ข้อมูล |
ราคา | 649,900 บาท |
กำลังสูงสุด | 204 แรงม้า |
แบตเตอรี่ | 60 kWh |
ระยะทางสูงสุด | 500 กม. (NEDC) |
จุดเด่น | แรงบิดจัด ฟังก์ชันครบ ดีไซน์น่ารัก |
จุดสังเกต | ช่วงล่างนุ่มเกินไปเวลาใช้ความเร็วสูง |
.jpg.webp)
สรุป...จากกูรูช้าง
“Aion UT 500 Premium” ยังเป็นรถที่น่าใช้มาก โดยเฉพาะคนที่ขับในเมืองหรือเดินทางไม่ไกล ดีไซน์น่ารัก ฟังก์ชันครบ ขับง่ายและสบาย ถ้าปรับช่วงล่างให้แน่นขึ้นอีกนิด จะเป็นหนึ่งในรถไฟฟ้าที่คุ้มค่าที่สุดในงบไม่ถึง 7 แสนบาทแน่นอน!

เขียนโดย
วโรดม อิ้วลันตา
CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่