
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เปิดตัวรถ All-New Mitsubishi Destinator เป็นรถเอสยูวีขนาดกลางรุ่นใหม่ในอินโดนีเซีย โดยจะมีการนำไปจัดแสดงในงาน GAIKINDO Indonesia International Auto Show ครั้งที่ 32 และจะเริ่มจำหน่ายในวันที่ 23 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้ ไม่เพียงเท่านี้รถคันนี้จะไปเปิดตัวในตลาดอาเซียนอื่น ๆ ได้แก่ เวียดนามและฟิลิปปินส์ รวมถึงเอเชียใต้ ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา

All-New Destinator ถือเป็นรถยนต์เชิงกลยุทธ์ระดับโลกรุ่นที่ 3 ที่ถือกำเนิดขึ้นในอินโดนีเซีย ต่อจาก Xpander และ Xforce ถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด Confidence Booster for Energetic Families ทำให้รถคันนี้มีพื้นที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับผู้ขับขี่และครอบครัวที่รักการออกเดินทางสู่จุดหมายปลายทางใหม่ ๆ ได้อย่างมั่นใจ โดยผสานดีไซน์ SUV ที่หรูหราและเป็นเอกลักษณ์เข้ากับการตกแต่งภายในระดับพรีเมียม
All-New Destinator มากับดีไซน์ SUV ที่หรูหรา เหนือระดับ
แนวคิดการออกแบบยึดหลักสองคำสำคัญ คือ Gravitas & Dynamism โดย Gravitas สื่อถึงความสง่างามและความแข็งแกร่ง แสดงออกผ่านสัดส่วนตัวรถและห้องโดยสาร 3 แถวที่กว้างขวางมอบความสะดวกสบาย ส่วนหน้ารถยังคงแนวคิด Dynamic Shield ที่ให้ความโฉบเฉี่ยวและมีมิติ กระจังหน้า ไฟ และกันชนได้รับการออกแบบด้วยองค์ประกอบที่แข็งแกร่งทั้งแนวนอนและแนวตั้ง
แนวคิดการออกแบบยึดหลักสองคำสำคัญ คือ Gravitas & Dynamism โดย Gravitas สื่อถึงความสง่างามและความแข็งแกร่ง แสดงออกผ่านสัดส่วนตัวรถและห้องโดยสาร 3 แถวที่กว้างขวางมอบความสะดวกสบาย ส่วนหน้ารถยังคงแนวคิด Dynamic Shield ที่ให้ความโฉบเฉี่ยวและมีมิติ กระจังหน้า ไฟ และกันชนได้รับการออกแบบด้วยองค์ประกอบที่แข็งแกร่งทั้งแนวนอนและแนวตั้ง


เส้นสายด้านข้างสะท้อนถึงความคล่องตัว ส่วนท้ายโดดเด่นด้วยแนวคิด Hexaguard Horizon รูปทรงหกเหลี่ยมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยางอะไหล่ด้านหลังรถ Pajero เด่นสะดุดตา ไฟ LED รูปทรงตัว T และไฟท้ายด้านหลัง และตัวล้อจะให้ขนาด 18 นิ้ว โดยมีมีมิติตัวถัง ความยาว 4,680 มม., ความกว้าง 1,840 มม. และความสูง 1,780 มม.
ภายใน All-New Destinator กว้างขวาง+พรีเมียม สะดวกสบายทุกที่นั่ง
ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง ออกแบบมาเพื่อรองรับผู้โดยสารได้ 7 คน เพื่อความสะดวกสบายจึงใช้วัสดุพรีเมียมเนื้อนุ่ม ช่วยเพิ่มความหรูหรา แผงหน้าปัดมีรูปทรงไดนามิกที่ทอดยาวไปถึงขอบประตู ให้ความรู้สึกกว้างขวาง ส่วนเบาะนั่งแถวแรกมีพื้นที่เหนือศีรษะค่อนข้างมาก ตัวเบาะดีไซน์ที่กระชับและรองรับสรีระเพื่อความสะดวกสบาย ส่วนเบาะนั่งแถว 2 และ 3 มีพื้นที่กว้างขวาง ช่วยเพิ่มพื้นที่วางขาเพื่อความสบายตลอดการเดินทางไกล
ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง ออกแบบมาเพื่อรองรับผู้โดยสารได้ 7 คน เพื่อความสะดวกสบายจึงใช้วัสดุพรีเมียมเนื้อนุ่ม ช่วยเพิ่มความหรูหรา แผงหน้าปัดมีรูปทรงไดนามิกที่ทอดยาวไปถึงขอบประตู ให้ความรู้สึกกว้างขวาง ส่วนเบาะนั่งแถวแรกมีพื้นที่เหนือศีรษะค่อนข้างมาก ตัวเบาะดีไซน์ที่กระชับและรองรับสรีระเพื่อความสะดวกสบาย ส่วนเบาะนั่งแถว 2 และ 3 มีพื้นที่กว้างขวาง ช่วยเพิ่มพื้นที่วางขาเพื่อความสบายตลอดการเดินทางไกล


นอกจากนี้ยังมีซันรูฟแบบพาโนรามาช่วยเพิ่มความรู้สึกโล่งสบาย ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า (บนชุดไฟอ่านแผนที่)
และอีกหนึ่งนวัตกรรมใหม่สำหรับรถยนต์มิตซูบิชิ ที่นำเสนอไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารให้เลือกถึง 64 สี ซึ่งสามารถควบคุมผ่านระบบ SDA ให้เข้ากับอารมณ์ของผู้ใช้ สามารถตั้งค่าให้ไฟติดสว่างตลอดเวลา เปลี่ยนสีทุกๆ 2 วินาที หรือค่อยๆ หรี่ลงอย่างนุ่มนวล เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายตามความต้องการ
และอีกหนึ่งนวัตกรรมใหม่สำหรับรถยนต์มิตซูบิชิ ที่นำเสนอไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารให้เลือกถึง 64 สี ซึ่งสามารถควบคุมผ่านระบบ SDA ให้เข้ากับอารมณ์ของผู้ใช้ สามารถตั้งค่าให้ไฟติดสว่างตลอดเวลา เปลี่ยนสีทุกๆ 2 วินาที หรือค่อยๆ หรี่ลงอย่างนุ่มนวล เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายตามความต้องการ



พื้นที่เก็บของกว้างขวางและฟังก์ชันการใช้งานที่สะดวกสบายทุกที่นั่ง ทำให้การเดินทางในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกลเพลิดเพลินยิ่งขึ้น เพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้นโดยแต่ละแถวมีพอร์ต USB ทั้งแบบ Type A และ Type C ช่วยให้ผู้โดยสารทุกคนเชื่อมต่อได้อย่างสะดวกสบายตลอดเดินทางไกล เบาะแถว 2 สามารถพับแยกได้แบบ 40:20:40 และเบาะแถว 3 สามารถพับแยกได้แบบ 50:50 สามารถปรับตำแหน่งเบาะได้หลากหลายรูปแบบ

แผงหน้าปัดผสานรวมระบบ SDA และจอแสดงผลสำหรับผู้ขับขี่ไว้ในจอแสดงผลขนาดใหญ่ขนาด 12.3 นิ้ว รวมถึงรูปแบบการแสดงผลแบบมัลติมิเตอร์ที่สะท้อนถึงมาตรวัดสามชั้นอันเป็นเอกลักษณ์ของ Pajero จอแสดงผลยังให้การเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ ขณะเดียวกัน จอแสดงผลดิจิทัลขนาด 8 นิ้วสำหรับผู้ขับขี่จะแสดงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญอย่างชัดเจน ส่วนระบบเสียง Dynamic Sound Yamaha Premium ที่มากับลำโพง 8 ตำแหน่ง ที่ได้รับการปรับโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงของ Yamaha

All-New Destinator ยังมากับอัตราเร่งที่ทรงพลัง เร้าใจ และการควบคุมถนนที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ในทุกสภาพถนนและสภาพอากาศ
ด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบ MIVEC 1.5 ลิตร ที่พัฒนาต่อยอดจากเครื่องยนต์เทอร์โบ 4B40 มาพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า และแรงบิด 250 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งที่นุ่มนวลและตอบสนองฉับไวผ่านเกียร์ CVT และโหมดการขับขี่ 5 โหมดช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานตามสภาพถนนที่แตกต่างกัน ซึ่งรวมถึงระบบ Active Yaw Control: AYC ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ให้เหมาะกับสภาพพื้นผิวถนนที่แตกต่างกัน ประกอบด้วย Wet, Tarmac, Normal, Gravel และ Mud ส่วนช่วงล่างของ All-New Destinator ไก้รับการปรับแต่งเพื่อความสบายบนถนนอาเซียน

ส่วนระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายของ All-New Destinator เพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงจาก Mitsubishi Motors Safety Sensing ซึ่งประกอบด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC), ระบบป้องกันการชนด้านหน้า (FCM), ระบบเตือนจุดบอด (BSW), ระบบเตือนการจราจรขณะถอยหลัง (RCTA), ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB), ระบบแจ้งเตือนรถนำหน้าขณะออกนอกเลน (LCDN) และระบบแสดงภาพรอบคัน (Multi Around Monitor) มาพร้อมกับถุงลมนิรภัย SRS 6 ตำแหน่ง ยิ่งไปกว่านั้นยังมาพร้อมฟีเจอร์การเชื่อมต่อเพื่อยกระดับความปลอดภัยและความสะดวกสบาย เพื่อปกป้องผู้โดยสารในกรณีฉุกเฉิน ระบบนี้ยังมีระบบสนับสนุนจากศูนย์บริการที่ปรับปรุงใหม่ ซึ่งรวมถึงการแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน และระบบโทรฉุกเฉินแบบสัมผัสเดียวที่ร้องขอความช่วยเหลือฉุกเฉินในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือรถเสีย เพื่อความสะดวกยิ่งขึ้น ผู้ขับขี่สามารถใช้สมาร์ทโฟนเพื่อตรวจสอบระดับน้ำมันเชื้อเพลิงและตำแหน่งของรถ รวมถึงเปิดใช้งานเครื่องปรับอากาศ





All-New Mitsubishi Destinator เปิดตัวมาด้วยสีตัวถัง 5 สี Quartz White Pearl, Lunar Blue Mica, Graphite Grey Metallic, Jet Black Mica และ Blafe Silver Metallic และมีด้วยกัน 3 รุ่นย่อย ประกอบด้วย Ultimate, Exceed และ GLS ซึ่งมีแผนที่จะทำตลาดในประเทศไทย ซึ่งจะวางตัวให้อยู่ระหว่าง XForce กับ Pajero Sport คาดการณ์ราคาจำหน่ายในไทยโดยอ้งอิงจากราคาในอินโดนีเซีย และรุ่นรถในไทย (XForce HEV ราคา 0.9–1.1 ล้านบาท) อาจตั้งราคาขายในไทยระหว่าง 1.2 – 1.3 ล้านบาท (ขึ้นกับรุ่นย่อยและระบบขับเคลื่อน)

เขียนโดย
วโรดม อิ้วลันตา
CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่