ต้องบอกว่าครั้งนี้ GWM ทำถึงมาก ทั้งการจัดแสดงนวัตกรรมยานยนต์ เทคโนโลยีทันสมัย พร้อมเตรียมเปิดรถยนต์ใหม่หลายรุ่น นำโดย 5 แบรนด์ที่จะบุกตลาดโลก คือ WEY
HAVAL, TANK, ORA, POER ตามด้วยครั้งแรกกับ "SOUO" Motorcycle รถจักรยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์จากรถยนต์ และนับเป็นความชื่นชอบส่วนตัวของท่านประธาน เว่ย
สำหรับภายในบูธนี้ GWM ตอกย้ำว่า "GO WITH MORE" สร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ที่แข็งแกร่งและยกระดับรถยนต์จากประเทศจีนให้แข่งขันระดับโลกได้อย่างดี ด้วยการเผยเทคโนโลยีในการใช้ ออกแบบและผลิตยานยนต์ โดยเฉพาะระบบ "NOA" Coffee Intelligence เทคโนโลยีใส่เฉพาะรุ่นหรู เท่านั้น เทคโนโลยี เครื่องยนต์โฮบริด Hi4,H4-T ใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า
ในบูธจัดแสดงรถยนต์ทั้งใหม่และที่จำหน่ายในประเทศจีนปัจจุบัน บางรุ่นตกแต่งให้ดูเท่ สวยลงตัวมากขึ้น พร้อมกับการโชว์ระบบความสะดวกสบายต่าง ๆ มากมาย เช่น เบาะนั่งในรถ MPV อย่าง WEY 80 หรือ จอที่ให้ทดลองเล่นระบบปฎิบัติการณ์ Coffee Intelligence อีกด้วย
หรือแม้กระทั้งเปิดตัวขุมพลังเครื่องยนต์วี 8 สูบ 4.0 ลิตร เทอร์โบ และเสริมความมั่นใจด้วยการออกแบบรถยนต์พร้อมการโมดิฟายด์เพื่อใช้ลงแข่งขันอีกด้วย
เทคโนโลยี Hi4 / Hi4 Z / Hi4 T เหนือกว่าชาวบ้านเค้าอย่างไร?
GMW นำเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อใหม่ มาโชว์ความล้ำอนาคต แต่จะเป็นแค่ขับ 4 ล้อ ทั่วไปก็ออกจะธรรมดาเกินไป ไม่โดดเด่น ครั้งนี้จึงนำระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มาผสานกับระบบไฮบริด จึงออกมาเป็นเทคโนโลยี Hi4, Hi4 Z และ Hi4 T ในรถยนต์ในเครือของ GWM หลายรุ่น
การทำงาน Hi4
ระบบ Hi4 จะมีทั้งหมด 3 หลักการใหญ่ ใช้กับรถแต่ละประเภท
1.Hi4 เน้นขับขี่ปลอดภัยเกาะถนน
ใช้ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินความจุ 1.5 ลิตร เทอร์โบ, 2.0 ลิตร เทอร์โบ ฯลฯ แล้วแต่ตัวถังรถ ซึ่งจะผสานมอเตอร์ไฟฟ้าที่ชุดขับเคลื่อน 1 ตัว และเพิ่มชุดมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนที่ล้อด้านหลังอีก 1 ชุด รวมเป็น เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด (Dual Motor) พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สามารถชาร์จไฟฟ้าได้ (PHEV)
ระบบการทำงานก็เป็นการผสานเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ล้อหน้า พร้อมกับการขับเคลื่อนล้อหลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าไปด้วย นั่นคือ คล้ายกับระบบไฮบริดทั่วไป เพียงแต่ใช้มอเตอร์คู่หน้าและแยกไปขับล้อหลัง "โดยไม่มีเพลากลาง" ระบบนี้เน้นการขับขี่ใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ทางเรียบ ทาง ฝุ่นหรือดิน ลุยผ่านเส้นทางที่มีอุปสรรคได้แบบระบบไม่โหดมากนัก เหมือนกับรถยนต์ระบบ AWD หรือแบบ Full time ทั่วไป
สิ่งที่ทำให้ระบบ Hi4 แตกต่าง คือ เพิ่มพละกำลังของรถยนต์ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ส่งไปขับล้อหลังโดยตรง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน การควมคุมในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดีกว่าใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพียง 1 ตัว และในกรณีต้องการประหยัดพลังงานจะใช้เพียงการขับเคลื่อนล้อหน้า โดยสามารถตัดกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลัง ให้ล้อหมุนอิสระได้ด้วย
นอกจากนี้ยังสามารถขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าล้วน (EV Mode) ได้ระยะทางประมาณ 120 - 150 กม. ขึ้นกับรุ่นรถและความจุแบตฯ นั้น
Hi4 จะเน้นรถยนตใช้งานทั่วไปไม่เน้นลุยงานหนัก เช่น Haval H7, H9, WEY80, WEY05, WEY07 เป็นต้น
2.Hi4 Z ลุยได้มากขึ้น
ขุมพลังแบบเบนซินความจุขึ้นกับตัวรุ่นรถ หลักการคล้ายกับในระบบ Hi4 แตกต่างที่ เน้นการใช้งานหนัก ๆ มากขึ้น ทั้ง ลุย โคลน หิน ดิน ทราย แบบ Off Road ซึ่งจะใช้กับรถที่มีตัวถังแบบ "chassis on frame" เครื่องยนต์จะวางตามยาว แบบ รถกระบะทั่วไป ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าร่วมกับชุดเกียร์ขับเคลื่อนล้อหน้า และเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 1 ชุดขับเคลื่อนล้อหล้ง โดย "ไม่มีเพลากลาง" และแบเตอรี่จะมีขนาดเล็กลง เนื่องจากเน้นการใช้งานแบบ Off-Road มากขึ้น กว่าระบบ Hi4 พร้อมเพิ่มระบบล็อคเฟืองท้ายเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการลุยได้มากขึ้นอีกระดับ
นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตฯ ได้อีกด้วย (PHEV) โดยสามารถใช้ EV Mode วิ่งได้ระยะทางประมาณ 120 กม. แล้วแต่รุ่นและลักษณะการใช้งาน และระบบนี้สำหรับจะอยู่ในรถคันใหญ่ตระกูล TANK ต่าง ๆ หรือในกระบะไฮบริด POER SARHA เป็นต้น
3.Hi4 T ลุยหนัก ๆ โหด ๆ Off-Road 100%
ขุมพลังอาจมีทั้งดีเซลและเบนซิน ความแตกต่างคือ เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ความจะมากขึ้น อาจเป็น 4 สูบ V6 หรือ V8 ที่ความสูง ๆ โดยมีชุดมอเตอร์ขับเคลื่อนขนาดใหญ่ติดตั้งในชุดเกียร์ เพียง 1 ตัว ส่งกำลังผ่านชุดขับเคลื่อนแยกเพลาล้อหน้าและล้อหลัง สังเหตุว่าระบบนี้ต้องการความทนทาน ลุยแบบไท้ต้องเกรงใจใคร จึงใส่เพลาขับเคลื่อนมาให้ถึง 2 แท่ง!! ส่งไปล้อหน้าและที่หลังด้านไม่ต้องพึ่งมอเตอร์ไฟฟ้าแล้ว สรุปคือ มีเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 1 ชุด
ระบบนี้สามารถลุยผ่านอุปสรรคได้แบบขั้นสุด จะเป็นหินโคลน ร่องลึก หรือ ในทุ่งทะเลทรายของประเทศจีนหรือแบบฝั่งตะวันออกกลางเอง ก็สบาย พร้อมระบบล็อคเฟืองท้ายได้ทั้ง หน้า-หลัง แถมยังเสียงปล้๊กชาร์จได้ด้วย แต่ระบบนี้อาจจะวิ่ง EV Mode ได้น้อยกว่าเพื่อน เพราะแบตฯ ลูกเล็กลง เน้น เพื่มพลังไม่เน้นระยะทาง
GWM SOUO มอเตอร์ไซค์คันแรกที่มีพร้อมความเหมือนที่แตกต่าง!!
GWM SOUO (อ่านว่าโซลนะ) เป็นความชอบส่วนตัวของท่่นประธาน ที่ชอบรถมอเตอร์ไซค์เป็นทุนเดิม ประกอบกับ เป้นเจ้าของแบรนด์รถยนต์ระดับชาติ จึงต้องการสร้างมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ สไตล์ทั่งริ่งให้เหมาะสมกับ ภาพลักษณ์แบรนด์รถยนต์ GWM ด้วย จะมาเป็นคันเล็กธรรมดาได้อย่างไร!
GWM SOUO เรียกว่าเป็น Touring Bike คันใหญ่ ที่ทรงคุ้มตา ซึ่งไม่แปลกครับ เพราะเค้าคุยกับต้นฉบับเรียบร้อย และยังจ้างโรงงานเดียวกันในประเทศจีนผลิตให้! แต่ในความเหมือน ย่อยมีความแตกต่าง เริ่มที่ ขุมพลังแบบ Flat-8 หรือ 8 สูบ นอนยัน BOXER ความจุ 2,000 ซีซี เสียงหวานนุ่มดุดันในตัว พร้อมเทคโนโลยีต่าง ๆ มากมาย เรียกได้ว่า แทบจะยกมาจากรถยนต์มาใส่ในรุ่นนี้แบบจัดเต็ม
เผยรุ่นใหม่ รุ่นไหนเข้าไทยรอชมเลย!
GWM ภายในงานนี้ จัดแสดงรถยนต์มากมายหลายรุ่น แบ่งเป็นโซนแสดงเทคโนโลยี, โซน Off-Road และรถยนต์ที่จำหน่ายในตลาดโลก เช่น WEY07, WEY05, WEY80, H6, H6GT, H7, ORA03, ORA07, TANK300 400 500 700 POER
ส่วนรุ่นที่เตรียมจำหน่ายในไทยนั้น ได้แก่ WEY 80 รถ MPV ระบบ PHEV เทคโนโลยี Hi4 ช่วงปลายปีนี้ นำร่องรถยนต์ WEY ในเครือของ GWM ก่อน หลังจากนั้น อาจจะตามมาด้วย TANK300 Hi4T และตระกูล TANK อีกหลายรุ่น ที่จะนำเทคโนโลยี Hi4 ที่มาใช้
ทิศทางการตลาดของ GWM เน้น PHEV มากขึ้น EV ได้ไปต่อ แต่...
GWM เน้นย้ำว่า แม้ว่าปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นที่ต้องการในตลาดประเทศจีนและโลกอยู่ ฉต่โอกาสการเติบโตนั้น เริ่ม นิ่ง และคงตังมากขึ้น เรียกว่า อาจจะถึงจุดสูงสุดแล้ว เพียงในตอนนี้ จะแข่งขันกันในเรื่องเทคโนโลยี ใครมีมากกว่า ใคร แรง กว่า หรือ ว่า ทำราคาได้ ต่ำกว่า ก็จะได้เปรียบ GWM มองว่า เป็นการแข่งขันที่สุดท้ายอาจไม่คุ้มค่าในระยะยาว จึงกลับมาเน้นย้ำขุมพลังที่คนเองถนัดไม่ปพ้กันนั่นคือ เครื่องยนต์เบนซินไฮบริด โดยพัฒนาระบบ Hi4 เข้ามาร่วมกับรถยนต์ของ GWM หลายรุ่น
นอกจากนี้ยังร่วมถึงการนำเครื่องยนต์ดีเซลที่ได้คิดค้นและพัฒนามานานกว่า 30 ปี มาติดตั้งในรถยนต์ SUV หลายรุ่น เพื่อตอบโจทย์ทางการตลาดของต่างประเทศมากขึ้น และเน้นระบบเทคโนโลยีที่ชาญฉลาดอย่าง ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ระบบความปลอดภัย ระบบ SoftWare ของรถให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ รถยนต์ไฟฟ้าก็คงพัฒนาต่อไปเช่นเดียวกัน และยังคงมีรุ่นใหม่ และเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น ในสัดส่วนที่ปรับให้รถยนต์แบบไฮบริด มากขึ้น ใครที่เล็งรถยนต์ไฟฟ้าของ GWM ไม่ต้องกังวล แม้เทรนด์โลกจะเปลี่ยนไป แต่ว่า GWM ยังคงไม่ทิ้งและจะพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า เพิ่มขึ้น
เทคโนโลยี REEV / EREV ไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด ได้แค่บ้างส่วน!
หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วทาง GWM จะมีรถยนต์ประเภท วิ่งไกล ๆ เพิ่มระยะทางในการเดินทาง อย่าง REEV หรือ EREV แล้วแต่ค่านไหนจะเรียก บ้างหรือไม่? ผู้บริหาร GWM ตอบเพียงว่า เทคโนโลยีนี้ เป็นเพียงการช่วยเพิ่มระยะทางวิ่งให้ไกลขึ้น โดยพื้นฐานการขับเคลื่อนแบบรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งอาจมีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป ตามลักาณืการใช้งานหรือความต้องการของผู้ใช้รถ
ส่วนตัวมองว่า เทคโนโลยี Hi4 นั้น เน้นมาใช้งานที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น กว่าการที่จะใช้เครื่องยนต์ปั่นไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว และ GWM ยังได้เพิ่มเติมระบบพลังขับเคลื่อนเป็น 2 มอเตอร์เข้าไปให้รถยนต์ที่พละกำลังทั้งแรงและประหยัด วิ่งได้ไกลไม่แตกต่างกัน เพราะใช้ระบบ Plug-in Hybrid เหมือนกัน ซึ่ง การใช้เครื่องยนต์ผสานมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนนั้น ย่อมได้รับความคุ้มค่ามากกว่าการใ้เพียงปั่นกระแสไฟฟ้ากลับเข้าแบตฯ
สรุปคือ GWM ไม่มองเทคโนโลยี REEV / EREV เป็นเรื่องใหญ่ แต่เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ PHEV ที่ให้พลังขับเคลื่อนที่ดีกว่า ประหยัดน้ำมันได้มากกว่าและระยะทางไม่แตกต่างกันมากนัก