ความเสียหายของรถยนต์ที่ทำประกันภัยนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น รถชน, รถโดนน้ำท่วม แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือ รถไฟไหม้ ซึ่งก็มีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะเป็น ระบบน้ำมันเชื้อเพลิงรั่ว, ระบบไฟฟ้ามีปัญหา ฯลฯ บางทีอาจเกิดเหตุไฟไหม้ได้จากอุบัติเหตุรถชนที่ได้รับความเสียหายหนักจนเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ ที่แย่ที่สุดคือไฟไหม้ที่จุดอื่นแล้วลามมาถึงรถยนต์ของคุณ แล้วการทำประกันภัยรถยนต์ของคุณนั้น มีชั้นไหนที่ให้ความคุ้มครองเรื่องรถไฟไหม้บ้าง ไปดูกัน
ประกันภัยรถยนต์มีหลายชั้นแบ่งตามความคุ้มครอง โดยในประเทศไทยก็จะแบ่งออกเป็น 3 ชั้น (แต่ในปัจจุบันมีการเพิ่มชั้น 2+ และ 3+ เข้ามา) ให้เข้าใจง่าย ๆ
- ประกันชั้น1 : เป็นชั้นประกันภัยที่มีความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น อุบัติเหตุรถชน, โจรกรรม และ รถไฟไหม้ และรวถึงสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้รถยนต์ของคุณได้รับความเสียหาย
- ประกันชั้น 2 : เป็นชั้นประกันภัยที่มีความคุ้มครองต่ำกว่า และค่าใช้จ่ายถูกกว่า โดยยังให้ความคุ้มครองในกรณีรถไฟไหม้ แต่ด้วยความคุ้มครองที่ต่ำกว่า และอาจมีเงื่อนไขบางข้อที่เป็นเงื่อนไขเพิ่มเติมในการเรียกร้องค่าชดเชยจากบริษัทประกัน
- ประกันชั้น 3 : ประกันชั้นนี้จะเป็นประกันที่เรียกได้ว่าเป็นชั้นที่ประหยัดที่สุด แต่จะให้ความคุ้มครองแค่กรณีที่เกิดอุบัติเหตุกับคู่กรณี แต่ไม่ครอบคลุมค่าความเสียหายของรถตนเอง
ดังนั้น! ถ้าคุณต้องการทำประกันภัยให้คุ้มครองในกรณีที่ไม่คาดฝันต่าง ๆ รวมถึงไฟไหม้ ก็ควรเลือกที่จะทำประกันภัยชั้น 1 และ 2 เพราะจะเป็นประกันที่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณ แต่อย่างไรก็ดีควรตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยเพื่อความแน่ใจก่อนจะชำระค่าเบี้ยครับ
แล้วอะไรคือเหตุผลที่เราควรเลือกทำประกันรถยนต์ที่คุ้มครองเหตุรถไฟไหม้กันล่ะ ซึ่งเราขอสรุปออกมาได้เป็น 5 เหตุผล
- เหตุไม่คาดคิด : การเกิดเหตุไฟไหม้กับรถยนต์นั้นเป็นเหตุที่ไม่คาดคิด ถึงแท้จะระมัดระวังอย่างไรก็อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นการที่รถของคุณมีประกันภัยที่คุ้มครองจากเหตุไฟไหม้ก็จะช่วยบรรเทาความเสียหายที่คุณะต้องได้รับจากเหตุดังกล่าว
- ค่าซ่อมบำรุงมีราคาสูง : การที่รถเกิดอุบัติเหตุชนกันขึ้นมาก็มีมูลค่าความเสียหายแตกต่างกันไปในแต่ละครั้ง อาจมีบ้างที่มูลค่าความเสียหายมากหรือน้อย แต่ถ้าเป็นเหตุรถไฟไหม้ก็อาจจะมีมูลค่าความเสียหายที่สูงมากจนเกินจะรับได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงคุณจุงควรมีปรกันที่จะช่วยค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่หรือทั้งหมดในกรณีแบบนี้
- ความสบายใจ : อย่างน้อยที่สุดการที่เรารู้ว่ารถของเรานั้นมีประกันภัยที่ให้ความคุ้มครอง ไม่ว่าจะเป็นเหตุรถชน, โจรกรรม รวมถึงไฟไหม้ (แต่ก็ขึ้นอยู่กับชั้นประกันภัยที่คุณเลือกทำด้วยนั่นเอง)
- สถานที่จอดรถ : สำหรับท่านที่จอดรถไว้ในพื้นที่ของบ้านพักอาศัยถึงแม้จะเป็นพื้นที่ส่วนตัว แต่ก็มีหลายครั้งที่เกิดเหตุไฟไหม้ภายในบ้านจนเกิดความเสียหายมาถึงรถยนต์ แต่สำหรับบางคนที่ไม่สามารถจอดรถไว้ที่บ้านได้จำเป็นต้องไปจอดไว้ไว้ที่ลานจอดรถซึ่งห่างจากบ้าน เหตุผลพวกนี้ก็ดูจะเพียงพอสำหรับการที่จะมีประกันภัยที่คุ้มครองเหตุไฟไหม้
- ระบบไฟฟ้าในรถยนต์ : รถในปัจจุบันนี้มีระบบไฟฟ้าเข้ามามากขึ้น ถึงขนาดที่หลายบ้านหันไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV สิ่งเหล่านี้ก็เป็นหนึ่งในความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายจากไฟไหม้ได้ในอนาคต การมีประกันเพื่อรองรับเหตุการณ์เช่นนี้จึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณา แต่ก็อาจจะมีเงื่อนไขสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เช่น สาหตุจากแบตเตอรี่ หรือระบบไฟฟ้า ซึ่งอาจต้องทำด้วยเงื่อนไขที่เฉพาะเจาะจงสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
.jpg.webp)
รวมไปถึงรถยนต์ที่ติดตั้งระบบแก๊ส ไม่ว่าจะเป็น LPG, NGV, CNG การรับทำประกันภัยสำหรับรถแบบนี้บางบริษัทฯ อาจมีเงื่อนไขเพิ่มเติม เช่น ต้องติดตั้งระบบกับร้านหรือบริษัทที่ได้รับการรับรอง หรือต้องมีการตรวจสภาพระบบแก๊สประจำปี, ถ้ารถคันนั้นๆ มีการติดตั้งระบบแก๊สในภายหลังโดยที่ไม่ได้มาจากโรงงาน การต่อประกันต้องมีการส่งเอกสาร (ตรวจสภาพ, แจ้งกรมขนส่งทางบก) เพื่อยืนยันการติดตั้งแก๊สให้แก่ทางบริษัทประกันภัยทราบ
ส่วนรถที่ได้รับความเสียหายจากเหตุไฟไม้ที่พักอาศัย แล้วลามมาถึงรถยนต์นั้นประกันจะให้ความคุ้มครองหรือไม่ ก็ต้องมานั่วดูเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ที่คุณเลือกไว้ โดยประกันชั้น 1 จะครอบคลุมทุกความเสียหายไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากสาเหตุใดก็ตาม รวมถึงไฟไหม้จากเหตุการณ์ไฟไหม้บ้านด้วย ส่วนประกันชั้น 2, 2+ และ 3 ก็จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันจึงควรศึกษากรมธรรม์ เพราะบางกรมธรรม์อาจไม่มีการคุ้มครอง
ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดเหตุรถไฟไหม้ด้วยเหตุใดก็ตาม การทำประกันภัยรถยนต์นั้นจะช่วยใหเคุณได้รับการดูแล ไม่ว่าจะเป็นค่าเสียหาย, สินไหมทดแทน ฯลฯ ท่านก็จะได้รับตามที่ระบุไว้ในเงื่อนไขกรมธรรม์ และอย่างที่เราเคยย้ำอยู่ตลอดว่า ให้อ่านก่อนซื้อ ไม่ใช่ว่าจ่ายแล้วจบเพราะใครจะไปรู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับรถคุณจะได้รับความคุ้มครองจริงหรือไม่ และควรสอบถามความคุ้มครองจากบริษัทประกันมากกว่า 1 เจ้าเพื่อเปรียบเทียบราคา และความคุ้มครองที่เหมาะสมกับคุณที่สุด
2 พ.ย. 66
1,194
.jpg.webp)
.jpg.webp)
.jpg.webp)
