ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

บทความรถยนต์

icon-filter ค้นหารถยนต์แบบละเอียด
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

รีวิว new Subaru Forester Eyesight4.0 SUV ตัวตึงทางเรียบทางลุยมีอะไรเปลี่ยนบ้าง?

icon 13 ก.ค. 68 icon 5,055
Share
รีวิว new Subaru Forester Eyesight4.0 SUV ตัวตึงทางเรียบทางลุยมีอะไรเปลี่ยนบ้าง?
new Subaru Forester รถอเนกประสงค์พลังเบนซินสูบนอน 2.0 ลิตร CVT ขับเคลื่อ 4 ล้อ Symmetrical All-Wheel Drive อับเกรดระบบ Eyesight4.0 ที่มีระบบความปลอดภัยเกือบครบเทียบเท่าใน Outback แถมติดตั้งมาให้ทุกรุ่นย่อยคือ 2.0i-L และ 2.0i-S แล้วในรุ่นใหม่นี้มีอะไรเปลี่ยนไปบ้างนอกจากหน้าตาดุดันขึ้น ทีมงานเช็คราคาได้ร่วมลองทดสอบระบบทั้งในทางเรียบและทางฝุ่น ซึ่งนับเป็นครั้งที่มีการไถ่ที่ดินข้าง ๆ สนามปทุมธานีสปีดเวย์แห่งเพื่อให้เจ้าป่าลุยโดยเฉพาะ!
 
 

ลอง ADAS - Eyesight4.0 ใหม่แตกต่างตรงไหน?

 
เริ่มต้นการทดสอบเน้นเรื่องระบบความปลอดภัยที่อับเกรดจากเดิม Eyesight3.0 เป็น 4.0 กับอีก 9 ระบบและ 3 ระบบใหม่ ซึ่งปรับปรุงรายละเอียดมากมายนั่นคือ
  1. กล้องคู่หน้าแปะแนบกับกระจกหน้าที่มีมุมที่กว้างขึ้นทั้งแนวนอนและแนวตั้ง และตรวจจับได้ระยะไกลขึ้นจากเดิม 110 เมตร เป็น 130 เมตร แม่นยำกว่าจากเดิมที่ติดลอยบนเพดาน 
  2. เพิ่มระบบควบคุมพวงมาลัยให้รถอยู่ในเลนหรือดึงกลับเมื่อออกนอกเลนเมื่อใช้งาน ACC หรือ อเดปทีฟครุซคอนโทรลจากเดิมไม่มี   
  3. X-MODE ใหม่ มีโหมดย่อยให้เลือก Snow/Dirt และ Deep Snow/Mud ที่เพิ่มความละเอียดในการทำงานมากขึ้น และมีโหมด Special เพียงเปิดลุย "X-MODE" ระบบก็จะเตรียมพร้อม Stand by ทำงานตลอดไม่ว่าจะขับผ่านทาง Off-Road แล้วขับบนทางเรียบ หากขับผ่านเส้นทางแบบ Off-Road อีกรอบที่ความต่ำกว่า 35 - 40 กม./ชม. ระบบจะเปิดใช้งานอัตโนมัติ (เว้นรุ่น 2.0i-L ที่ต้องเปิด-ปิดเอง) 
  4. Hill Descent Control ใน X-MODE ช่วยชะลอหรือควบคุมความเร็วขณะลงทางชันแบบเดียวกับในรถ Off-Road  
  5. รุ่น 2.0i-S ล้ออัลลอย 18 นิ้ว ลายใหม่ ส่วนรุ่น 2.0i-L ขนาด 17 นิ้วลายเดิมจากรุ่นก่อนหน้า   
  6. มี 3 สีใหม่ Brilliant Bronze Metallic / Cascade Green Silica / Magnetite Gray Metallic  
  7. ภายนอกชุดไฟหน้า กันชนหน้า ใหม่ จอกลางใหญ่ขึ้นเป็น 8 นิ้ว
  8. ขอเกี่ยวสัมภาระที่เพดานส่วนท้าย 
 

3 ระบบใหม่ใน Eyesight4.0 มีอะไรบ้าง?

 
ระบบที่เพิ่มเติมจาก Eyesight เดิมมี 3 ระบบด้วยกันได้แก่ 
1.Autonomous Emergency Steering ระบบบังคับพวงมาลัยฉุกเฉินอัตโนมัติ ช่วยหักหลบรถหรือวัตถุด้านหน้าเลี่ยงการชน ที่ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม.
2.Adaptive Cruise Control (ACC) with Lane Centering Function ควบคุมความเร็วตามคันหน้าจนถึงจุดหยุดนิ่งและไปต่อได้ และเพิ่มระบบตรวจจับเส้นขอบทางและควบคุมทิศทางรถให้อยู่กลางเลนพร้อมยังช่วยเลี้ยวโค้งในกรณีที่เป็นโค้งกว้าง ๆ และตรวจจับและเลี้ยวตามรถคันในกรณีไม่มีเส้นถนน 
3.Lane Departure Warning include Lane Departure Prevention สั้น ๆ คือ เตือนรถออกนอกเลนพร้อมดึงกลับที่ 60 กม./ชม.ขึ้นไปนั่นล่ะฮ่ะท่านผู้ชม 
 

สมรรถนะดีเช่นเคยทั้งทางเรียบและลุย

 
การทดสอบขับแบ่งเป็น 3 ส่วนคือ ทดลองใช้ระบบ Eyesight ใหม่, ทดลองระบบควบคุมการทรงตัว และลุยทางโคลนแบบ Off-Raod ซึ่งต้องบอกก่อนครับว่าการลองระบบขับขี่ของ Eyesight4.0 นั้นอาจเห็นไม่ชัดเจนนักเพราะเป็นระยะทางสั้น ๆ ส่วนการขับสลาลอมและหักหลบนั้นยังพอสัมผัสได้ถึงความหนึบของช่วงล่างและระบบช่วยควบคุมในรถฟอร์เรสเตอร์ แต่ที่น่าสนใจคือการได้ลองลุยบนโคลนลื่น ๆ แบบออฟโร้ด ที่ต้องบอกว่า "ระบบเค้าดีจริงในรถระดับนี้และอาจลุยได้สะดวกกว่ารถ PPVด้วยซ้ำไปครับ"
 

ลองระบบหักหลบวัตถุอัตโนมัติ..เกือบไป!

 
หนึ่งในการทดลองระบบ Eyesight นั้นคือ การขับตรง ๆ พุ่งใส่หุ่นเป่าลมความเร็วไม่เกิน 40 กม./ชม.เพื่อลองระบบหักหลบวัตถุอัติโนมัติ ในช่วงรอบแรก ๆ ที่อินทรักเตอร์ขับสาธิตนั้น สามารถหลบได้จริง ๆ ครับ โดยระบบเบรก พวงมาลัยและระบบควบคุมการทรงตัว ทำงานได้อย่างดีและรถไม่มีอาการไถล 
 
ส่วนในรอบหลัง ๆ ระบบเกิดอาการตรวจจับวัตถุไม่ได้ เนื่องจากมีลมแรงทำให้หุ่นเป่าลมเอนไปมา และหากระบบนี้ทำงานเกิน 3 ครั้ง รถจะเตือนว่าควรจอดและต้องดับสตาร์ทเครื่องใหม่เพื่อรีเซต เมื่อถึงคราวที่ทีมงานเช็คราคาลองขับ ระบบจึงเอ๋อ ๆ ไม่หับหลบให้ แต่ระบบเบรกก่อนชนด้านหน้าทำงาน และเมื่อหักพวงมาลัยหลบด้วยตัวเอง ก็มีระบบควบคุมการทรงตัวช่วยเอาไว้อีก จึงทำให้รถไม่เสียอาการมากนัก อย่างน้อยก็ยังมีความปลอดภัยให้อยู่ครับ
 
นอกจากนี้ยังมีทดลองระบบ Eyesight อีก 2 - 3 ระบบ เช่น ควบคุมความแปรผันตามคันหน้าพร้อมบังคับทิศทางอัตโนมัติ แม้ว่าจะมีไม่เส้นขอบถนนแต่ระบบก็จับตามรถคันหน้าและเลี้ยวตามได้ แต่มีข้อจำกัดคือ ต้องเป็นโค้งกว้าง ๆ หากมีการเลี้ยวมาก ๆ กล้องก็จับไม่เจอ ซึ่งตรงนี้ผู้ขับขี่ต้องเป็นผู้ควบคุมทั้งหมดอยู่แล้ว ระบบนี้ทำมาเพื่อป้องกันกรณีหลับใน เหมอลอย เม้ามอย หรือก้นหยิบของ ยังอย่างคนขับต้องมีสมาฺะในการควบคุมรถตลอด 100% ด้วยครับ ต่อมาลองขับระบบเตือนออกนอกเลนพร้อมดึงกลับซึ่งไม่ค่อยว้าวเท่าไหร่ เพราะรถหลาย ๆ ค่ายในระดับนี้ก็มีกันเกือบหมดแล้ว
 

การทรงตัวดีเหมือนเคย

 
โซนทดสอบต่อมาเป็นการลอง การควบคุมรถ พวงมาลัย การทรงตัวในสลาลอมที่ความเร็ว 45 กม./ชม. และการหักหลบแบบ "Moose test" ที่ความเร็ว 45 - 50 กม.ชม. (บางรอบเกินไป 60 กม./ชม.) โดยให้สื่อขับ 2 รอบ แต่หากเวลาเหลือสามารถเบิ้ลได้ส่วนผมเองจัดไป 4 รอบเลยครับ 
 
 
ในการสลามลอมหลบไพล่อน แน่นอนว่าเคยได้ทดสอบขับรุ่นก่อนหน้านี้มาหลายเจนฯ แล้ว ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Symmetrical เค้าดีจริง บวกกับเครื่องนอนยันวางต่ำเกือบติดพื้น แม้ว่าตัวรถจะดูโปร่งโย่งสูงกว่าชาวบ้านแต่กลับมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้การทรงตัวดี การบังคับพวงมาลัยนับว่ากระชับแม่นยำและเบามือ ขับง่าย โดยที่ไม่ต้องมีทักษะใด ๆ ก็สามารถลองขับขี่ในรูปแบบนี้ได้อย่างสบายเลยครับ
 
"Moose test"
"หักหลบน้องกวาง" หรือการเปลี่ยนเลนอย่างกระทันหันนิ่งมากโยกพวงมาลัยให้ไปตามช่องทางเท่านั้นไม่ต้องแก้อาการใด ๆ รถจะช่วยควบคุมและทำให้ขับต่อไปได้แบบง่าย ๆ เลยครับ นี่คือ ข้อดีของการมีระบบควบคุมการทรงในรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ในหลาย ๆ รุ่น แต่ในฟอร์เรสเตอร์เพิ่มระบบ AWD เข้ามาช่วยเสริมอีกก็ยิ่งปลอดภัยขึ้นครับ
 
Off-Road ของชอบเลย
โดยทั่วไปนั้นรถ SUV ระดับนี้ที่มีระบบ AWD ที่อาจจะเผื่อเอาไว้ว่าในการเดินทางอาจพบเจอเส้นทางที่เป็นอุปสรรคหรือทางลูกรัง ดินโคลน ทราย ฝนตกถนนเปียกลื่น โดยเฉพาะในการโค้งหรือขึ้น-ลงทางชัน หากมีระบบ AWD ก็จะช่วยให้ขับขี่ได้อย่างราบรื่นปลอดภัย แต่ถ้าหากว่าในการท่องเที่ยวบางเส้นทางต้องการจะ "ลุยทางออฟโร้ด" หรือจำเป็นต้องผ่านเส้นทางดินโคลน หิน หรือร่องที่ลึกมาก ๆ บางครั้งก็เกิดข้อจำกัดในการลุยได้ หากใต้ท้องหรือระบบการกระจายกำลังไปยังล้อทั้ง 4 ไม่แม่นยำพอหรือทำงานไม่ฉับไวก็อาจทำให้ไปต่อไม่ได้หรืออาจจะต้องใช้รถคันอื่นช่วยดึง
 
 
ในโซนการลุยนั้น อาจเป็นอุปกสรรคที่ดูไม่ยากนักเพราะจำลองให้ได้สัมผัสความรู้ของการปรับกำลังและแปรผันของล้อทั้ง 4 ให้ขับผ่านอุปสรรคไปได้ ความจริงแล้วจากสนามจำลองนี้ก็นับว่ารถที่มีระบบ AWD ผ่านได้หมดครับไม่แปลกอะไร แต่สิ่งที่ Forester ใหม่ ทำให้ประทับใจคือ การตอบสนองของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ การควบคุมพวลมาลัย ระบบช่วงล่างและกำลังเครื่องยนต์ที่ทำงานได้รวดเร็ว เงียบไม่สะดุด นุ่มนวล และไม่ยุ่งยากอีกด้วย 
 
 
เริ่มจากกดเปิดระบบ X-MODE ที่แป้นกลม ๆ คอนโซนกลางจากนั้นก็ลุยได้เลยครับ เส้นทางจะทำให้ขับสลาลอมหลบไพล่อนไปมาความเร็วไม่เกิน 35 กม./ชม. (หากเกินระบบ X-MODE จะตัดชั่วคราว) ซึ่งการบังคับพวงมาลัยนั้นง่าย ๆ เลี้ยวตามมือโดยแทบไม่มีอาการไถลเลย เหมือนขับบนทางดำปกติ เช่น ขับบนถนนเรียบอยู่แล้วผ่านทางแบบออฟโร้ดก็กดใช้งาน X-MODE ขับผ่านไปแล้วเจอถนนเรียบก็ไม่ต้องสนใจระบบจะตัดออกเองเมื่อความเร็วเกิน 35 กม./ชม. และเมื่อขับมาเจอถนนแบบออฟโร้ดอีกเมื่อความเร็วต่ำกว่า 35 กม./ชม. ระบบ X-MODE ก็จะทำงานให้ทันที่ไม่ต้องคอยกดเปิด-ปิดให้เสียสมาธิเลยครับ (มีเฉพาะรุ่น 2.0i-S) 
 
หลังจากนั้นก็ขับขึ้นแท่นจำลองเนินเอียงสลับที่พื้นผิวเป็นโครงเหล็กเปียก ๆ ก็ยิ่งลื่น และขับขึ้นไปจอดค้างเอาไว้ให้ล้อถูก "แขวน" หรือลอย 2 ล้อพร้อมกัน และเดินคันเร่งไปต่อ ระบบ X-MODE ก็ทำงานรวดเร็วและไปต่อได้โดยล้อแทบไม่หมุนฟรีเลยและทำงานได้เงียบมาก จนเหมือนขับทางเรียบปกติ นี่นับเป็นจุดที่แตกต่างกว่าระบบ AWD จากรุ่นอื่น ๆ หลาย ๆ รุ่นที่จะใช้เวลาในการ "หมุนฟรี" ก่อนล้อจึงจะถอยกำลังให้รถเคลื่อนตัวไปได้ครับ 
 
ในช่วงทางที่เป็นดินโคลนแฉะและเละมาก การคุมทิศทางจะยากขึ้น เมื่อขับผ่านตรงจุดนี้ แน่นอนว่ายังมีอาการไถลไปตามร่องของโคลนอยู่ แต่เมื่อเดินคันเร่งและบังคับทิศทางพวงมาลัย รถก็พยายามเคลื่อนที่ไปตามทิศทางได้อยางไม่ยากนัก และระบบก็ทำงานได้เงียบมาก นอกจากนี้เมื่อขับผ่านหลุมบ่อและร่องลึก ๆ ช่วงล่างกลับไม่เด้ง และไม่เขย่าตัวผู้โดยสารนับว่ายังให้ความสบายได้ระดับหนึ่งเมื่อต้องลุยป่า 
 

สรุปความคุ้มค่า Subaru Forester Eyesight4.0 ซื้อดีไหม?

 
ถ้าคุณชอบการเดินทางทั้งเดี่ยว คู่หรือกับครอบครัวที่มีผู้ใหญ่ รถคันนี้ให้ความโปร่งโล่งสบาย ไม่สูงมากนักขึ้นลงสะดวก หรือว่ามีกิจกรรม Extreme ขับลุยป่าเขาทางโหดแบบ Off-Road สามารถไปได้ทุกทุกที่ถ้าไม่ติดใต้ท้องรถ แต่เมื่อขับทางเรียบก็ยังต้องการความสบายหรูหรา ปลอดภัย ขับแล้วไม่เหนื่อยหรือเมื่อยล้า และยังดูภูมิฐานจบในคันเดียว new Forester น่าจะตอบสนองการใช้งานได้ครบมากที่สุด โดยในวันที่ทดสอบนั้นยังไม่เปิดราคา...รอเปิดเผยในงานมอเตอร์เอ็กซ์โบ 2022 ช่วง 1 - 12 ธ.ค.2022  
 
Subaru Forester 2.0i-L Eyesight ราคา 1,550,000 บาท
Subaru Forester 2.0i-S Eyesight ราคา. 1,450,000 บาท 
(เป็นราคามโนล้วน ๆ ครับ) 
แท็กที่เกี่ยวข้อง subaru forester Subaru Forester Eyesight4.0
CAR GURU
เขียนโดย สินธนุ จำปีศรี CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่

ตารางผ่อนดาวน์ Subaru Forester

คำนวณสินเชื่อเพื่อออกรถยนต์
ตัวช่วยให้คุณพิจารณาข้อมูลเบื้องต้นก่อนตัดสินใจซื้อรถ
ดาวน์ ยอดเงินดาวน์
(บาท)
จำนวนงวดผ่อน (เดือน)
48 60 72 84

รถยนต์เปิดตัวล่าสุด

ดูทั้งหมด

บทความรถยนต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)