กระแสรถอีวีหรือพลังไฟฟ้าล้วนกำลังถาโถมเข้ามาในปีนี้ ซึ่งตลาดส่วนใหญ่ยังเป็นระดับพรีเมียม แต่เมื่อผู้เล่นบิ๊กเนมอย่างโตโยต้าที่เปิดตลาดไฮบริดในไทยมาก่อนใคร ได้เวลาเหมาะสมขยับผลิตและจำหน่ายรถพลังไฟฟ้าย่อมเป็นที่จับตา และ bZ4X คือรหัสรุ่นที่ส่งออกมาเปิดตัวในตลาดยุโรปเป็นที่เรียบร้อย ส่วนในไทยจะมีโอกาสจำหน่ายจริงให้ได้สัมผัสกันด้วยราคาที่จับต้องของผู้ใช้ส่วนใหญ่หรือเปล่า ยังเป็นเรื่องที่ได้แต่คาดเดากัน 

อย่างไรก็ตามเรามาเจาะลึกรายละเอียดที่น่ารู้เกี่ยวกับ โตโยต้า bZ4X กันก่อน นี่คือโมเดลที่ 5 ของโตโยต้าที่เป็น BEV และเป็นรุ่นแรกภายใต้แบรนด์ bZ ที่สำคัญโตโยต้าจะใช้แพลตฟอร์มนี่้กับอีกหลายโมเดลที่จะผลิตตามมา !

หลายคนรู้ว่าระดับโกลบอลแบรนด์อย่างโตโยต้า จะผลิตรถไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายใช้จริงคงไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรง หรือต้องใช้เวลาคิดค้นใหม่ แต่เป็นเรื่องของจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการปลดล็อคให้ลูกค้าได้ใช้ประโยชน์จากรถไฟฟ้าได้แบบครบวงจรจริงๆ มากกว่า และ bZ4X ก็พร้อมบุกลุยทุกตลาด

โตโยต้า หมายมั่นปั้นมือทำตลาด bZ4X ให้กับกลุ่มผู้ใช้ที่เปิดใจรับรถไฟฟ้าและตลาดประเทศที่มีการจัดสเตชั่นชาร์จรองรับดีพอ หลายคนเห็นภาพอาจนึกว่า bZ4X เหมือนรถโปรโตไทป์ไฟฟ้า แต่นี่เป็นรุ่นรถที่ไว้รองรับผู้ใช้ทุกคนที่คิดเปลี่ยนจากการใช้รถเครื่องยนต์สันดาปเดิมๆ มาเป็นรถไฟฟ้า ทั้งการออกแบบ, สมรรถนะ และประสบการณ์ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันและเดินทางท่องเที่ยว

ในด้านการออกแบบตามหลัก eTNGA ช่วยให้รถรุ่นนี้ดูเป็น BEV ล้ำสมัยกว่าใคร และคงคาแรคเตอร์สำคัญของเอสยูวีไว้ครบถ้วน โดยรวมก็ดูสเลนเดอร์พริ้วไหว ด้านหน้ารถออกแบบได้อย่างชาญฉลาดมีแต่ส่วนจำเป็น ดูเหมือนหัวค้อนพร้อมไฟหน้าทรงเพรียวบาง ล้อขนาด 20 นิ้ว ว่างตำแหน่งกระจาย 4 มุมตัวถังได้เหมือนเอสยูวีจริงๆ ไฟท้ายแบบเชื่อมต่อกันซ้ายขวา.

ด้านสมรรถนะการออกแบบให้แชสซีส์โอบล้อมแบตเตอรี่ ทั้งยังมีความแข็งแกร่งที่ยอดเยี่ยม และเพิ่มไดนามิคส์เวลาขับเคลื่อน bZ4X มีทั้งหมด 2 รุ่น คือ ขับเคลื่อนล้อหน้าใช้มอเตอร์เดียวขนาด 150 กิโลวัตต์ และขับเคลื่อน awd มี 2 เครื่องยนต์พร้อมมอเตอร์ขนาด 160 กิโลวัตต์ ทำหน้าที่แยกตามเพลา ซึ่งระบบขับเคลื่อนแบบ awd เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่างซูบารุกับโตโยต้า ทำให้รถรุ่นนี้เหนือชั้นขึ้นไปอีก และความสามารถด้านออฟโรดไม่ได้จำกัดแค่การขับลุยบนทางขรุขระ แต่ยังลุยน้ำลึกระดับ 500 มม. ได้ด้วย

มาถึงหัวใจสำคัญของ bZ4X นั่นคือ แบตเตอรี่ เป็นแบบลิเธียม-ไอออน HD ที่ให้ระยะทางการขับได้ไกลไม่ต่ำกว่า 450 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และอย่างที่เกริ่นมาก่อนหน้าคือ แบตเตอรี่ยังเก็บไฟได้มากกว่า 90% แม้ผ่านการใช้งานนานกว่า 10 ปี ทีมพัฒนาส่วนนี้มอนิเตอร์การทำงานของแบตเตอรี่ยังจริงจังไม่ว่าอุณหภูมิหรือกระแสไฟที่ผิดปกติ จึงเชื่อมั่นได้ในคุณภาพ ความทนทาน และความแน่นอนของเทคโนโลยี มั่นใจได้ว่าขับใช้งานแบตเตอรี่ได้เกินล้านกิโลเมตร ซึ่งคิดแล้วต้องชาร์จทั้งหมดกว่า 2,200 ครั้ง  หรือคิดง่ายๆ เป็นการใช้งานที่ต้องชาร์จเต็มทุก 2 วัน 10 ปีติดต่อกัน นอกจากนี้ยังสามารถชาร์จแบบเร็วได้โดยไม่ต้อกังวลจะมีผลกระทบใดๆ ซึ่งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าที่ใช้กำลังมอเตอร์ 160 กิโลวัตต์จะชาร์จแบบเร็วได้ 80% ด้วยเวลาครึ่งชั่วโมง 

ความโดดเด่นในคลาสของ bZ4X ไม่ใช่แค่คุณภาพของแบตเตอรี่, ระบบแอโรไดนามิค, น้ำหนักเบา และมอเตอร์ทรงสมรรถนะเท่านั้น ยังมีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ไม่เคยติดตั้งในรถโตโยต้ารุ่นใดมาก่อน เช่น ออโตเมติคปาร์คกิ้ง จากนอกรถ เหมาะกับการจอดในลานที่มีระยะห่างช่องจอดไม่มาก ทำให้สามารถลงจากรถก่อนจอดได้สบาย, วันโมชั่น กริ๊ป เป็นสเตียร์ บาย ไวร์ ที่ใช้พวงมาลัยทรงผีเสื้อหมุนได้เนียนและง่ายโดยไม่ต้องสาวมือมาซ้อนเวลาเลี้ยว, หลังคาโซลาร์เซลที่ช่วยเติมพลังไฟฟ้าฟรี อย่างน้อยปีหนึ่งก็ช่วยเติมระยะทางได้กว่า 1,800 กม.

รู้ข้อมูลดีๆ ขนาดนี้แล้วหลายคนที่ยังไม่มั่นใจในรถอีวีหรือพลังไฟฟ้าน่าจะเปลี่ยนใจได้เลย โอเคสำหรับหลายคนการซื้อรถอีวีใช้งานดูเป็นเรื่องที่ตัดสินใจยาก แต่ bZ4X ทำให้ทุกอย่างดูง่ายกับการใช้งานที่ไม่ต่างไปจากชีวิตประจำวันเดิมๆ ช่องทางการจำหน่ายก็เป็นแบบดิจิตอลเต็มรูปแบบคือ สั่งจองผ่านเว็บพร้อมรับรถหน้าบ้าน แต่ถ้าอยากลองขับก่อนก็ไปที่โชว์รูมเพื่อขอคำปรึกษาเพิ่มเติมได้เหมือนทั่วไป นอกจากนี้ซับแบรนด์อย่าง bZ ก็จะมีฮับแยกเป็นกลุ่มแยก มีผู้ช่วยลูกค้าเฉพาะส่วน การบริการแบบวันสต็อปไม่ว่าเรื่องการเช่าซื้อ, ดูแลรักษา, ประกันภัย, เครือข่ายการบริการ, ตู้ชาร์จทั้งที่บ้านและที่ทำงาน และโร้ดไซด์ แอสซิแทนซ์ นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการชาร์จก็ปรับให้ใช้การด์ใบเดียวเข้าถึงได้ทุกเครือข่าย ช่วยให้สะดวกขึ้นมาก โดยเน้นให้ลูกค้ามีความสุขเต็มที่กับการใช้รถ

 

ส่วนตลาดอีวีเมืองไทยกำลังเติมโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทั้งตลาดบนพรีเมียมและตลาดแมสที่มีรถแบรนด์จีนทยอยเปิดมากขึ้นเรื่อยๆ การเปิดตลาดอีวีของแบรนด์หลักอย่างโตโยต้าด้วยรุ่น bZ4X อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ตลาดโลกพร้อมแล้ว ส่วนตลาดเมืองไทยศูนย์บริการโตโยต้าทั่วประเทศย่อมมีบทบาทสำคัญ เพราะสามารถเพิ่มส่วนในการเป็นสเตชั่นชาร์จรองรับได้ เติมความสะดวกให้กับลูกค้าในการเดินทางไกล แต่ก็ต้องมาพร้อมกับการลงทุนไม่น้อย ส่วนราคาค่าตัวอาจไม่ได้ไปไกลมากจนผู้ใช้ส่วนใหญ่จับต้องไม่ได้ เพราะเป็นการพัฒนากันระหว่างโตโยต้า ซูบารุ และบีวายดี แชร์เทคโนโลยีร่วมกัน