15 ก.ค. 68
13,055
ฟังก่อนกระเป๋าฉีก! 'เสียงประหลาดของรถ' ส่งสัญญาณว่าอะไรพัง!
ขับรถกันอยู่เกือบทุกวัน ควรหมั่นสังเกตเสียงแปลกปลอมที่เกิดขึ้นบ้างนะครับ เพื่อป้องกันความสูญเสีย โดยเฉพาะเงินในกระเป๋าของคุณ หากปล่อยไปอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ เสียเงินบานปลายได้ครับ
เรามาดูพวกเสียงประหลาดเหล่านี้กันดีกว่า มีต้นเหตุมาจากส่วนไหน?!
ฟังดู! เสียงแบบไหน?
1. กรณีเกิดเสียงคล้ายกับเอี๊ยดอ๊าด หรือครืดๆ ขณะเบรก ไม่ว่าจะเบรกแรงหรือเบา ลองเช็คผ้าเบรกก่อนเป็นอันดับแรกครับ เพราะผ้าเบรกอาจหมด นอกจากนี้ ควรตรวจเช็คระบบเบรกทั้งหมดในคราวเดียว หากจานเบรกเป็นรอย หรือชิ้นส่วนอื่นๆ เสียหาย จะได้ทําทีเดียว เพราะถ้าปล่อยไว้งบบานปลายแน่นอน!
2. กรณีขณะเลี้ยวเกิดเสียงดัง เช็กดูช่วงล่างทั้งหมด เริ่มจากแร็กพวงมาลัย ลูกหมาก ปีกนก คันส่งคันชัก บุช ข้อต่อต่างๆ เพราะอาจหมดอายุการใช้งาน หรือเสียหายจากการ ใช้งาน
3. เสียงดังตรงซุ้มล้อเมื่อขับผ่านลูกระนาด หรือตกหลุม ลองเช็กที่โช้คอัพ เราะอาจเกิดจากโช้คไม่สามารถดูดซับแรงกระแทกได้อีกแล้ว หากอาการไม่หนักก็ซ่อมโดยอัดน้ำมันเข้าไปใหม่ แต่ถ้าโคม่า แนะนําให้เปลี่ยนใหม่คุ้มกว่าครับ
4. กรณีเกิดเสียงหอนขณะขับ ยิ่งเร่งความเร็วยิ่ง อาจเกิดจากยางรถยนต์ ลูกปืนล้อ แตก และเพลาขับพัง ถือว่าโคม่า ท่าจะงบบานอีกเช่นกัน
5. กรณีเกิดเสียงจากใต้ท้องรถด
6. กรณีเกิดเสียงที่พวงมาลัยคล้ายกับอะไรหลุดดังกึกกัก อาจเป็นเพราะลูกปืนแตก บริเวณคอพวงมาลัยจะมีลูกปืน ต้องระวังถ้าปล่อยไว้ ให้การควบคุมพวงมาลัยทําได้ไม่แม่นยํา ระวังเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย อาจเกิดอุบัติเหตุได้ครับ
7. กรณีเสียงดังเวลาเปลี่ยนเกียร์ลองเช็กน้ำมันเกียร์ก่อนว่าเปลี่ยนถ่ายบ้างหรือไม่ ยังมีน้ำมันเกียร์เพียงพอหรือไม่ หากพบว่ารั่วซึมควรซ่อมทันที แต่หากจําเป็นต้องเปลี่ยนเกียร์ยกชุด ขอให้เข้าใจว่าเรื่องใหญ่ เพราะเป็นระบบส่งกําลังรถยนต์ เตรียมงบไว้หนาๆ สักนิดครับ
8. ขณะสตาร์ตรถ เมื่อบิดกุญแจแล้วลากยาวกว่าปกติ เตรียมตัวได้ครับ แบตเตอรี่ใกล้หมดอายุการใช้งาน แต่ถ้าเพิ่งเปลี่ยนแบตเตอรี่มา ลองเช็คไดสตาร์ทอาจแค่ถ่านหมด ถ้าอาการหนักหน่อยก็คือตัวไดสตาร์ทหมดอายุขัย ต้องจ่ายแพงขึ้นอีก
9. บริเวณหน้าห้องเครื่อง หากเสียงดังเหมือนไอน้ำดันออกดังฟู่ๆ แสดงว่าหม้อน้้ำรั่ว หรือฝาหม้อน้ำเสื่อมสภาพ ทําให้น้ำในหม้อน้ำหายออกไป ต้องเช็คให้ดี เพราะอาจโคม่า ถึงขั้นยกเครื่องใหม่ หากไม่มีน้ำในระบบ ลองจอดรถหลังจากขับมาระยะหนึ่ง โดยไม่ต้องดับเครื่อง จากนั้นลองตั้งใจฟังด้านหน้าห้องเครื่อง หากมีเสียงให้รีบนํารถเข้าอู่ซ่อม หรือเปลี่ยนใหม่ทันที
10. ถ้าสตาร์ทรถแล้วมีเสียงเหมื
แท็กที่เกี่ยวข้อง
การดูแลรถยนต์
เขียนโดย
วโรดม อิ้วลันตา
CAR GURU
พูดคุยกับกูรูได้ที่
