15 ก.ค. 68
5,181
เปลี่ยนความคิดใหม่! "ยกที่ปัดน้ำฝน" เมื่อจอดรถกลางแดด ส่งผลเสียมากกว่าที่คิด!
"ยางใบปัดน้ำฝน" เป็นอุปกรณ์เล็กๆ ที่ช่วยให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ดีขึ้น หากยางปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ จะทําให้การปัดทําความสะอาดบานกระจกบังลมหน้า ไม่สะอาดอาจทําให้กระจกมีร่องรอยความสกปรกมากกว่าเดิม หรือในกรณีฉีดน้ำใส่กระจกพร้อมกับปัดทําความสะอาดตอนรถกําลังวิ่ง แต่ถ้ายางปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพ คราบสกปรกจะกระจายไปทั่วบานกระจก จะยิ่งเป็นอันตรายมากขึ้น
ผู้ใช้รถบางคนจึงหาวิธีการช่วยถนอมยางใบปัดน้ำฝนให้มีอายุยืนยาวด้วยการ "ยกก้านปัดน้ำฝนขึ้น" เมื่อจอดรถกลางแดดจัด เพราะเชื่อว่าช่วยลดการเสื่อมสภาพของยางได้
แต่ขอบอกว่าวิธีนี้ไม่ได้ผลครับ! แถมยังมีผลเสียตามมาอีกด้วย เพราะถึงแม้ว่าจะยกยางปัดน้ำฝนขึ้นไม่ให้ถูกความร้อนจากกระจกเวลาที่จอดรถตากแดด แต่ด้วยสภาพอากาศและคุณสมบัติของตัวยาง เมื่อถูกความร้อน ถูกแสงแดด ย่อมเสื่อมสภาพไปตามเวลาอยู่แล้ว
ดังนั้น การยกก้านใบปัดน้ำฝนขึ้น ไม่ได้ช่วยยืดอายุของยางปัดน้ำฝน แต่กลับจะส่งผลให้เกิดความเสียหายคือ อาจทําให้สปริงก้านใบปัดน้ำฝนล้า ส่งผลให้แรงกดยางปัดน้ำฝนแนบสนิทกับบานกระจกไม่มีประสิทธิภาพเหมือนเดิม นอกจากจะทําให้ยางปัดน้ำฝนไม่สามารถกวาดน้ำและสิ่งสกปรกออกจากกระจก ได้หมดแล้ว การเปลี่ยนสปริงก้านใบปัดยังยุ่งยากและมีราคา ค่าใช้จ่ายสูงกว่าค่า เปลี่ยนยางปัดน้ำฝนด้วยครับ
วิธีดูแลรักษาและเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนรถยนต์
เราควรยกก้านใบปัดน้ำฝนขึ้นทุกเดือนละ 1-2 ครั้ง และใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดทําความสะอาดยาง เพื่อชําระเศษฝุ่นที่ติดค้างอยู่กับยางออกให้หมด เพียงแค่นี้ก็ช่วยให้ใบปัดน้ำฝนทํางานได้ดีเมื่อเวลาต้องใช้งาน
อายุใช้งานยางปัดน้ำฝน
ยางปัดน้ำฝนของแท้มียี่ห้อราคาจะแพงกว่าแบบที่มีวางขายทั่วไป แต่สามารถใช้งานได้หลายปี หากมีเงินพร้อมจ่ายก็เลือกซื้อได้เลยครับ
ส่วนใบปัดน้ำฝนรถยนต์แบบทั่วไป ที่มีขายตามปั๊มน้ำมันจะมีราคาถูกกว่ามาก ก็อายุการใช้งานสั้นลงคือประมาณ 1 ปี แต่ทุกหน้าฝนก็เปลี่ยนใหม่ได้ทุกปี ประหยัดและคุ้มค่าเหมือนกันครับ
เขียนโดย
เช็คราคา.คอม
CAR GURU
พูดคุยกับกูรูได้ที่
