อยากลาออกจากงานประจำ ต้องเตรียมตัว หรือเตรียมความพร้อมทางการเงินอย่างไร

icon 6 พ.ค. 64 icon 45,729
Share
อยากลาออกจากงานประจำ ต้องเตรียมตัว หรือเตรียมความพร้อมทางการเงินอย่างไร

อยากลาออกจากงานประจำ ต้องเตรียมตัว หรือเตรียมความพร้อมทางการเงินอย่างไร

สวัสดีค่ะ วันนี้ P.B. (ชื่อเล่นของ Piggy Bank) ขอมาเป็นเพื่อนกับทุกคน เพื่อจัดการความเสี่ยงในชีวิตไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การเงิน ความสัมพันธ์ ชีวิต ได้ดียิ่งขึ้น 
มีเพื่อนของ P.B. หลายคนมาบ่นว่าอยากลาออกจากงานประจำ P.B. เชื่อว่าทุกคนมีเหตุผลที่ "อยากลาออก" ที่ไม่ซ้ำกัน ไม่ว่าเหตุผลนั้นคืออะไร เราอยากให้คุณได้เตรียมตัวให้ดีที่สุด โดยเฉพาะเรื่องการจัดการและวางแผนการเงินสำหรับทั้งตัวเอง และครอบครัว เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ ถ้าใจพร้อมลาออกแล้วก็เริ่มเช็กลิสต์กันเลย

 1 เช็กขั้นตอนและเงื่อนไขการลาออก
ก่อนอื่นเราควรกลับไปดูสัญญาจ้าง หรือ Employment Contract ที่เราเซ็นกับบริษัท หรือนายจ้างกันก่อน โดยไปดูในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการบอกเลิกสัญญา หรือ ลาออก นั่นเอง โดยทั่วไปแล้วสัญญาจะกำหนดระยะเวลาที่เราต้องบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษร เช่น อย่างน้อย 1 เดือน หรือ 2 เดือน แล้วแต่กรณี โดยที่เราสามารถทำจดหมายลาออกแบบ Free form ส่งให้ผู้บริหารทีมทรัพย์ยากรบุคคล หรือถ้าใครทำงานที่องค์กรใหญ่ๆมักจะมีให้ Download form ได้เลย ส่วนเรื่องของขั้นตอนว่าเราควรบอกเจ้านายก่อนยื่นซองขาว หรือยื่นซองขาวก่อนค่อยบอกเจ้านาย เป็นศิลปะที่ต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์ และความเหมาะสมเป็นหลัก เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน โดยควรคำนึงไว้เสมอว่า โลกของเรานั้นกลมมาก และเราอาจจะต้องกลับมาเจอกันอีกนะคะ

 2 เช็กผลประโยชน์กองทุน ประกันสังคม และอื่นๆ
นอกจากเงินเดือนที่เราได้รับแล้ว ถ้าคุณมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ Provident Fund ที่ส่งทุกเดือนอยู่ด้วยแล้ว อย่าลืมเช็กให้ละเอียด ว่ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้น เราส่งเงินไปเท่าไหร่ นายจ้างสมทบเท่าไหร่ และผลประโยชน์ที่ได้รับจากกองทุน โดยแบ่งเป็นผลประโยชน์ของเงินที่เราสะสม กับผลประโยชน์ของเงินที่นายจ้างสมทบ โดยที่นายจ้างอาจกำหนดเงื่อนไขของเงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินสมทบไว้แตกต่างกันออกไปเพื่อดึงดูดให้พนักงานทำงานที่บริษัทนานขึ้น ตัวอย่างเช่น 
 อายุสมาชิก  เงินสมทบและผลประโยชน์ของเงินสมทบ
 < 5 ปี  ร้อยละ 50
 ครบ 5 ปี หรือมากกว่า  ร้อยละ 100
ตามตัวอย่าง ถ้าคุณทำงานมาใกล้ครบ 5 ปี อยากให้คุณเช็กวันที่เริ่มต้นสมาชิกของกองทุนกับวันที่ครบกำหนด 5 ปีให้แน่ใจเสียก่อน เพราะเงินก้อนนี้เยอะพอไปทำทุนต่อได้เลย โดยเมื่อลาออกแล้วคุณสามารถเลือกได้ว่าคุณอยากทำอย่างไรกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของคุณ สรุปโดยหลักแล้วสามารถเลือกได้ 3 อย่าง ดังนี้ 
1) ขอรับเงินกองทุนทั้งก้อน โดยเป็นการลาออกจากระบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ทั้งนี้เงินที่ได้มาในส่วนของเงินสมทบของนายจ้างและผลประโยชน์ ถือเป็นเงินได้ที่ต้องมาคำนวณภาษี โดยคุณอาจจะได้รับการยกเว้นภาษีหากคุณมีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป และเป็นสมาชิกกองทุนไม่ต่ำกว่า 5 ปี โดยกฎหมายใหม่อนุญาตให้คุณรับเงินเป็นรายเดือนได้หากไม่ต้องการบริหารเงินก้อนเอง 
2) ขอคงเงินในกองทุนนั้นไว้ก่อน โดยที่ทั้งนายจ้างและคุณไม่ต้องส่งเงินเข้ากองทุนอีกต่อไป แต่เสียค่าคงสถานะสมาชิกปีละ 500 บาท
3) โอนย้ายไปยังกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกับนายจ้างใหม่ หรือ โอนไปยังกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) สำหรับ Provident Fund (RMF for PVD) ไม่ใช่ RMF ทั่วไป ทั้งนี้อย่าลืมว่าคุณยังต้องถือ RMF นี้ต่อจนถึงอายุ 55 ปีตามเงื่อนไข จะได้ไม่ต้องเสียภาษี 
(ถ้าอยากได้ข้อมูลแบบละเอียดไปที่นี่เลย https://www.thaipvd.com)
ทีนี้มาเช็กกันต่อ ถ้าหากคุณเป็นผู้ประกันตนกับประกันสังคม แล้วยังไม่ได้งานใหม่ คุณสามารถขอรับเงินทดแทนในระหว่างการว่างงาน โดยได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานปีละไม่เกิน 90 วัน ในอัตราร้อยละ 30 ของค่าจ้างเฉลี่ย สูงสุดไม่เกินเดือนละ 4,500 บาท โดยผู้ประกันตนต้องขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานและรายงานตัวผ่านระบบอินเตอร์เน็ต (เว็บไซต์ https://empui.doe.go.th/auth/index) ของสำนักงานจัดหางานของรัฐภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ลาออก หรือยื่นแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส. 2-01/7) ได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัด (ยกเว้น สำนักงานใหญ่ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 1694 ได้เวลาทำการ (Source: www.sso.go.th)

 3 เช็กครอบครัว
การลาออกไม่ใช่เรื่องผิด แต่อาจเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนในครอบครัว ไม่ว่าคุณจะมีงานใหม่มารออยู่แล้ว หรือ ยังขอเวลาพักก่อนออกรบอีกครั้ง เราอยากให้คุณเปิดใจ คุยกับคนในครอบครัว อย่างน้อยทุกคนจะได้เข้าใจ และพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น หากรายได้ประจำของคุณขาดช่วงจากการลาออก ขอแนะนำให้คุณ คำนวณสิ่งเหล่านี้
เงินเก็บ - เงินที่คุณสะสมมาตลอดการทำงานของคุณ
รายได้เสริม - ถ้าหากคุณมีรายได้อื่นเช่นรายได้จากการขายขนม ขายประกัน เงินปันผล รายได้จากค่าเช่า
รายได้ของคนในครอบครัว - เช่นรายได้ของสามี หรือภรรยาของคุณ ถ้าเราเป็นกระเป๋าตังค์เดียวกัน
ค่าใช้จ่ายต่อเดือน - รวมค่าใช้จ่ายที่คุณต้องรับผิดชอบทั้งหมด เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเทอมลูก ค่ารักษาพยาบาลของคุณพ่อคุณแม่ 
ถ้าคำนวณแต่ละหัวข้อแล้ว ไปเช็กเป้าหมายต่อกันเลย

 4 เช็กเป้าหมาย และเงินสำรองช่วงไม่มีงานทำ
ทีนี้เช็กขั้นตอนสุดท้ายคือ การเช็กเป้าหมายว่าคุณอยากหางานใหม่ได้ภายในกี่เดือน โดยทั่วไปแล้ว คนส่วนมากมักจะห่วงเรื่องการขาดรายได้ และจะหางานใหม่ให้ได้ก่อนที่จะลาออกจากที่เดิม แต่ถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์ที่ต่างออกไป อยากให้คุณตั้งเป้าหมาย เช่น จะหางานใหม่ให้ได้ภายใน 3 เดือน หรือ 6 เดือนหรือ ออกไปเริ่มธุรกิจใหม่โดยคาดว่าจะมีรายได้เข้ามาภายใน 6 เดือน แล้วลองคำนวณสมการง่ายๆ ดู 
สมการ P.B. คือ (เงินเก็บหารจำนวนเดือนที่คุณคาดว่าจะขาดรายได้หลัก + รายได้เสริมต่อเดือน + รายได้ของคนในครอบครัวต่อเดือน + เงินทดแทนระหว่างการว่างงานต่อเดือนจากประกันสังคม) - ค่าใช้จ่ายต่อเดือน
สมมุติว่า คุณมีเงินเก็บ 360,000 บาท คาดว่าจะพัก 6 เดือน รายได้เสริมต่อเดือน 5,000 บาท ได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงาน 4,500 บาท (ได้สูงสุด 3 เดือนเท่านั้น) มีค่าใช้จ่าย เดือนละ 40,000 บาท 
(360,000/6) + 5,000 + 4,500 - 40,000 = 29,500 บาท นั่นแปลว่าคุณมีเงินเพียงพอที่จะใช้จ่ายในช่วงลาออกได้อย่างสบาย
แต่สิ่งที่คุณควรคำนึงถึงคือ หากให้ทุกอย่างคงที่ แต่เปลี่ยนจำนวนเดือนที่คุณขาดรายได้เป็น 12 เดือน สมการของเราจะเป็น
(360,000/12) + 5,000 + 4,500 - 40,000 = -500 บาท หรือหมายถึงคุณมีเงินไม่พอค่าใช้จ่ายต่อเดือนนั่นเอง
ถ้าผลของสมการ P.B. เป็นบวก คุณอุ่นใจได้ว่าคุณมีเงินเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่าย แต่ถ้า ผลของสมการเป็นลบ คุณอาจจะต้องรีบหารายได้หลักให้เร็วขึ้น หรือหารายได้เสริมเพิ่มเติม หรือพยายามลดค่าใช้จ่ายต่อเดือน มาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมถึงไม่ให้นำเงินที่ได้จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมาใช้คำนวณด้วย เพราะทางเราอยากให้เงินในกองทุนเป็นเงินเพื่อการเกษียณอายุ หรือเป็นเงินสำรองฉุกเฉินเผื่อให้คุณไว้ใช้ยามจำเป็นจริงๆ เท่านั้นเอง 

เช็กมาถึงตรงนี้แล้ว ถ้าหากคุณพร้อมในทุกๆ ข้อ เราว่าคุณพร้อมแล้วที่จะลาออกไปหาสิ่งใหม่ๆที่คุณตามหา P.B.ขอให้คุณโชคดีและประสบความสำเร็จ แต่ถ้าหากคุณยังไม่พร้อม ด้วยเศรษฐกิจและ สถานการณ์ COVID-19 ในปัจจุบัน เราอยากให้คุณคิดให้รอบคอบก่อนการตัดสินใจ อย่าลืมติดตาม Page ของ P.B. ได้ในตอนหน้า เพราะเราอยากให้คุณจัดการกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ :)
แท็กที่เกี่ยวข้อง การวางแผนทางการเงิน งานประจำ การเตรียมความพร้อมทางการเงิน
Money Guru
เขียนโดย Piggy Bank (นักเขียนอิสระ) Money Guru

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)