พรีวิว realme 7 Pro มือถือชาร์จไว 65W จอ AMOLED มาตรฐาน TUV Rheinland กล้อง Quad cam 64MP

realme 7 Pro เป็นอีกหนึ่งมือถือตัวจบของตลาด Entry-mid เลยก็ว่าได้ ซึ่งครั้งนี้มาพร้อมจุดเด่น 8 ด้าน ที่ทางเรียลมีใส่มาให้แบบคุ้มค่าและคุ้มราคาเหมือนรุ่นก่อน ไม่ว่าจะเป็นจุดขายหลักของรุ่นนี้กับเทคโนโลยีชาร์จไว SuperDart Charge 65W ที่ปกติไม่น่าจะมาอยู่ในมือถือราคาเรทนี้ได้เลย หรือจะเป็นหน้าจอแสดงผล AMOLED มาตรฐาน TUV Rheinland รุ่นแรก รวมไปถึงด้านเสียงที่ให้ลำโพงเสียงสเตอริโอพร้อมระบบ Hi-Fi และ Dolby Atmos มาให้ในตัว และดีไซน์ตัวเครื่องที่ทำออกมาดูดีสมราคา ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมารวมเข้าไว้บน realme 7 Pro รุ่นนี้ทั้งหมดเลย ทำให้กลายเป็นสมาร์ทโฟนในพิกัดราคานี้ที่น่าสนใจอีกรุ่นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้เลยล่ะครับ 

realme 7 Pro รอบนี้มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์หรือตำแหน่งวางของกล้องถ่ายรูปด้านหลังใหม่ ใช้วิธีการวางแบบเรียงแถวที่มุมซ้ายด้านหลังตัวเครื่อง พร้อมกับออกแบบกรอบฐานของโมดูลกล้องเป็นทรงสี่เหลี่ยม ด้านในมีไฟแฟลช LED ในตัวและกล้องถ่ายรูปพลัง AI 4 ตัว ซึ่งประกอบด้วย

• กล้องหลัก ความละเอียด 64 MP (F1.8) ใช้เซ็นเซอร์ SONY IMX 682 
• กล้องเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 MP (F2.3) มีค่า FOV 119 องศา
• กล้อง Portrait Black & White (F2.4) ความละเอียด 2MP
• กล้อง Macro (F2.4) ความละเอียด 2MP

ฝาหลังของ realme 7 Pro รอบนี้ได้รับไอเดียมาจากพื้นผิวสะท้อนของแผ่น CD จึงนำมาผ่านกระบวนการผลิต AG จนนำมาสู่ฝาหลังตัวเครื่องที่มีความมันวาวไปพร้อมๆ กับพื้นผิวด้านแบบ 2 in 1 ซึ่งดูแปลกตาและแฟชั่นนิสต้าสุดๆ เลยล่ะ

ด้านหน้าตัวเครื่อง มีหน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ มีอัตราส่วนหน้าจอแบบ 20:9 และมีค่าความสว่างอยู่ที่ 600 nits ซึ่งทาง realme เคลมว่าหน้าจอแสดงผลตัวนี้ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก TUV Rheinland องค์กรจากเยอรมันด้วย การันตีถึงคุณภาพได้เลย 

ขยับขึ้นไปมุมซ้ายบนของหน้าจอ จะพบกับกล้องหน้าแบบฝังใต้หน้าจอ (In-display selfie) 1 ตัว ความละเอียด 32MP (F2.5) มีค่า FOV 85 องศา พร้อมฟีเจอร์ถ่ายรูปเด่นๆ Time-lapse Photography, HDR, Front Panorama, Beauty, Flip Selfie, Nightscape, Portrait Mode

ด้านขวาของตัวเครื่อง มีปุ่มกดเปิด-ปิดตัวเครื่อง (ปุ่ม Power)

ด้านซ้ายของตัวเครื่อง มีปุ่มกดปรับระดับเสียงเพิ่ม-ลด (ปุ่ม Volume) และช่องถาดซิมการ์ดแบบ 3 in 1 รองรับการใช้งานซิมการ์ดสองซิมพร้อมกับ MicroSD Card พร้อมกัน

ด้านล่างของตัวเครื่อง มีพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C, ลำโพงเสียงแบบสเตอริโอทำงานคู่กับลำโพงอีกตัวที่ซ่อนอยู่บริเวณลำโพงสนทนาด้านหน้าตัวเครื่อง และรูเสียบชุดหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร 

• หน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด 2400x1080 พิกเซล (FullHD+)
• CPU Snapdragon 720G
• GPU Adreno 618
• RAM 8GB (LPDDR4x)
• ROM 128GB (UFS 2.1)
• Support MicroSD Card
• กล้องถ่ายรูป Quad camera ประกอบด้วย กล้องหลัก 64MP + กล้องมุมกว้างพิเศษ 8MP + กล้องขาว-ดำ 2MP + กล้อง Macro 2MP
• กล้องหน้าความละเอียด 32MP
• Android OS 10 with realme UI
• WiFi 802.11 a/b/g/n/ac
• Bluetooth 5.1
• ถาดซิมการ์ด 3 in 1
• ลำโพงสเตอริโอ Hi-Res + Dolby Atmos
• แบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จไว Super Dart Charge 65W 

• realme 7 Pro
• สายชาร์จ USB-C
• อแดปเตอร์ชาร์จไฟ รองรับ Super Dart Charge 65W 
• คู่มือการใช้งานเริ่มต้น
• เข็มจิ้มซิมการ์ด
• เคสตัวเครื่องแบบใส (Soft case)

สำหรับไฮไลท์เด่นของ realme 7 Pro ที่ทาง เรียลมี ประเทศไทย ชูเป็นจุดขายของรุ่นนี้เลย มีด้วยกัน 3 จุด ประกอบด้วย

• ชาร์จไว Super Dart Charge 65 W : เทคโนโลยีชาร์จไวของทางเรียลมี ที่ใช้หลักการแบ่งแบตเตอรี่ออกเป็นสองก้อนในการชาร์จประจุไฟเข้าด้วยอแดปเตอร์ 10V6.5A พร้อมกับมีชิปควบคุมการทำงานเพื่อความปลอดภัย และควบคุมความร้อนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างชาร์จได้ โดยทางเรียลมี เคลมว่า 30 นาที ชาร์จเต็ม 100% จาก 0% และชาร์จไฟเข้า 42% ในระยะเวลา 10 นาที เท่านั้น ซึ่งจากที่ผมลองทดสอบดูได้เวลาใกล้กันเลยครับ ของดีเลยล่ะ

• หน้าจอแสดงผล AMOLED ที่ผ่านมาตรฐาน TUV Rheinland : realme 7 Pro ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของเรียลมีเลยนะครับ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานหน้าจอแสดงผลของ TUV Rheinland องค์กรอิสระด้านการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมจากเยอรมัน ดังนั้นการรันตีได้ว่าหน้าจอแสดงผลของ realme 7 Pro จะมีค่าสี การแสดงผล และถนอมสายตาตามมาตรฐานระดับโลกแน่นอน

• กล้องถ่ายรูป Quad camera 64MP : กล้องถ่ายรูปเป็นไฮไลท์เด่นรองลงมาของ realme 7 Pro ในครั้งนี้เลยก็ว่าได้ เพราะทางเรียลมีเลือกใช้เซ็นเซอร์กล้อง IMX 682 ซึ่งเป็นเซ็นเซฮร์รุ่นอัปเกรดใหม่ของ SONY ที่ปรับปรุงเรื่องของรายละเอียดของภาพให้เก็บได้เนียนและคมมากขึ้น การถ่ายภาพในที่แสงน้อยที่ทำได้ดีแบบชัดเจน ดังนั้นจึงส่งผลกับคุณภาพหลังกล้องของ realme 7 Pro ด้วยนั่นเอง

สำหรับรายละเอียดอื่นๆ อดใจรอกันอีกนิดนะครับ ขอเวลาได้ลองนำตัวเครื่องไปใช้งานจริงและทดลองในข้อสงสัยต่างๆ ให้ก่อน และจะกลับมาบอกเล่าถึงประเด็นต่างๆ ให้ฟังกันอีกครั้งผ่านบทความรีวิวตัวเต็มของเรา ส่วนความประทับใจครั้งแรกหลังที่ได้ลองจับเครื่องจริง realme 7 Pro ผมบอกได้เลยว่า "น่าซื้อและคุ้มค่า" เพราะไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบ งานประกอบตัวเครื่องในจุดต่างๆ ทำได้เนียนกริบทุกรายละเอียด ด้านสเปกตัวเครื่องถึงแม้จะมีข้อติอยู่บ้างในบางจุด แต่พอถอยออกมามองภาพรวมทั้งหมด ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนตัวจบของเรทราคานี้อีกรุ่นได้เลยนะ เพราะฉะนั้นใครที่เป็นแฟนคลับของแบรนด์ realme อยู่แล้ว และกำลังมองหามือถือในเรทราคานี้ ก็คงไม่ต้องคิดมากแล้วล่ะครับ กดซื้อได้เลย! คุ้มซะขนาดนี้

realme ประกาศวางจำหน่าย realme 7 Pro ด้วยกันทั้งหมด 2 สีคือ สีฟ้า Mirror Blue และ สีเงิน Mirror Silver ในราคา 10,990 บาท โดยเปิดพรีออเดอร์ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 24 กันยายน 2563 พร้อมรับของแถมพิเศษสำหรับคนสั่งจองในช่วงพรีออเดอร์ (แต่ละช่องทางจำหน่ายของแถมจะแตกต่างกัน) และจะวางจำหน่ายผ่านทุกช่องทางอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 กันยายน 2563 เป็นต้นไป

ของแถมช่วงพรีออเดอร์เป็น

• หูฟัง Marshall Major III Bluetooth Black มูลค่า 5,490 บาท สำหรับ 1-7 ออเดอร์แรก 
• ส่วนออเดอร์ 8 เป็นต้นไปจะได้รับเป็น realme Buds Air สีขาว มูลค่า 1,999 บาท (พิเศษเฉพาะ Lazada) และ realme Backpack มูลค่า 1,890 บาท
• นอกจากนี้ทุกออเดอร์จะได้รับ VIP Card ฟรี! มูลค่ากว่า 4,000 บาท