รีวิว OPPO Reno 10x Zoom สมบูรณ์แบบที่สุดของการซูม 60x เป็นครั้งแรกของโลกบนสมาร์ทโฟน

OPPO Reno 10x Zoom เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด รวมทั้งเป็นสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยม ตระกูลใหม่ของ OPPO โดยมีคอนเซ็ปต์ว่า Creativity ซึ่งต้องบอกว่าสัมผัสแรก ผมประทับใจในสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มากๆ สวยงามไร้ที่ติ รูปทรงกระชับมือ หน้าจอไร้ขอบสมบูรณ์แบบ Panoramic full-screen ที่สวยงาม เรียบเนียนไม่มีทั้งเซ็นเซอร์ และลำโพงสนทนา หรือกล้องหน้า มาเกะกะสายตาเลยครับ รุ่นนี้ใช้กระจก Corning Gorilla Glass 6 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ออกแบบไล่ระดับเฉดสี โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Ocean Green และ Jet Black โดยเฉพาะ Ocean Green จะมีการไล่เฉดสีเขียวกับสีเขียวเข้มบนพื้นผิวด้าน ทำให้ไม่เป็นรอยนิ้วมือ และเป็นรอยขีดข่วนได้ยาก ที่ผมชอบมากๆ คือมีการใช้พื้วผิว 2 แบบบนฝาหลัง คือมีทั้งความด้านและเงางามตัดกันได้อย่างลงตัวมากๆ เป็นดีไซน์ที่สวยงามจนชวนตะลึงจริงๆ เรียกได้ว่าน่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้ตอน OPPO Find X เลยทีเดียว

OPPO Reno 10x Zoom มีความโดดเด่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสเปคที่มาพร้อมชิปเซ็ตตัวท็อป Qualcomm Snapdragon 855 จัดเต็ม RAM 8GB/ROM 256GB (UFS 2.1 Storage) รองรับ DRM L1 สามารถรับชม Netflix HD พร้อมฟีเจอร์สำหรับคนชอบเล่นเกม HyperBoost 2.0 และระบบระบายความร้อนถึง 3 รูปแบบในสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว แบตเตอรี่ความจุสูง ที่มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว VOOC 3.0 (20W) และทีเด็ดกล้องหน้าเลื่อนขึ้น-ลงแบบใหม่ Pivot-Rising ที่จะซ่อนทั้งกล้องหน้า, ลำโพงสนทนา, เซ็นเซอร์ และไฟแฟลชของกล้องหลัง ไว้ได้อย่างแนบเนียนและสวยงามมากๆ เลยครับ โดยได้แรงบัลดาลใจจากคลีบปลาฉลาม

OPPO Reno 10x Zoom มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 48MP + 8MP (wide angle) + 13MP (telephoto) ซึ่งเป็นจุดขายสำคัญของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ เพราะสามารถซูมได้มากถึง 10x hybrid zoom และ 60X Digital Zoom เป็นครั้งแรกของโลก มีระบบกันสั่น OIS ในเลนส์ 2 ตัว และมีการใช้ EIS เข้ามาช่วยอีกด้วย จะทำออกมาได้ดีขนาดไหนเดี๋ยวมาดูกันในส่วนของรีวิวกล้องนะครับ บอกเลยว่าจะต้องร้องว้าวกันอย่างแน่นอน

OPPO Reno 10x Zoom มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Ocean Green และ Jet Black ราคาเปิดตัว 28,990 บาท ถือว่าคุ้มค่ามากๆครับ กับความสวยงามพรีเมี่ยม สเปคระดับท็อป และกล้องคุณภาพยอดเยี่ยมขนาดนี้ เรามาอ่านรีวิวกันเลยครับ ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะน่าสนใจขนาดไหน ทำไมผมถึงได้ออกตัวแรงขนาดนี้

การเชื่อมต่อของ OPPO Reno 10x Zoom มีรายละเอียดดังนี้

• GSM 850 / 900 / 1800 / 1900
• HSDPA 800 / 850 / 900 / 1700(AWS) / 1900 / 2100
• LTE band 1(2100), 2(1900), 3(1800), 4(1700/2100), 5(850), 7(2600), 8(900), 12(700), 13(700), 17(700), 18(800), 19(800), 20(800), 26(850), 28(700), 34(2000), 38(2600), 39(1900), 40(2300), 41(2500)
• HSPA 42.2/5.76 Mbps, LTE-A (5CA) Cat18 1200/150 Mbps
• Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, WiFi Direct, hotspot
• Bluetooth 5.0, A2DP, EDR, LE, aptX HD
• GPS (L1+L5 dual-frequency GPS), A-GPS, GLONASS, BDS, GALILEO, QZSS
• USB Type-C 3.0, USB On-The-Go

OPPO Reno 10x Zoom มีรายละเอียดสเปคดังต่อไปนี้

• ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 855
• CPU Octa-core (1x2.84 GHz Kryo 485 & 3x2.42 GHz Kryo 485 & 4x1.8 GHz Kryo 485)
• GPU Adreno 640
• RAM 8GB
• ROM 256GB (รองรับ MicroSD)
• เซ็นเซอร์ Face Unlock, Fingerprint (under display) ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยี Hidden Fingerprint Unlock 2.0, accelerometer, gyro, proximity, compass
• ทำงานบน Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6

• ทดสอบด้วยแอปพลิเคชั่น AnTuTu Benchmark ทำไปได้ 350,342 คะแนน
• ทดสอบ MultiTouch รองรับ 10 จุด
• ทดสอบด้วยแอปพลิเคชั่น AndroBench ทำความเร็วในการอ่านอยู่ที่ 777.99 MB/s (UFS 2.1 Storage)
• รองรับ DRM L1 สามารถรับชม Netflix HD
• ทดสอบสัญญาณ GPS จับสัญญาณได้อย่างรวดเร็วดีมาก

OPPO Reno 10x Zoom มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูง 4,065 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว VOOC 3.0 (20W) จากการทดสอบแบตเตอรี่อึดใช้ได้เลยครับ สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน แถมเครื่องยังไม่ร้อนอีกด้วย เพราะมีระบบระบายความร้อนถึง 3 อย่าง ได้แก่ กราไฟท์, เทคโนโลยีทำความเย็นด้วยท่อทองแดง และเจลระบายความร้อน

OPPO Reno 10x Zoom ดูพรีเมี่ยมหรูหราทั้งภายนอกและภายในจริงๆ กล่องสวยงามดูแข็งแรงมีราคา ฝากล่องและภายใน มีการไล่โทนแวววาวรับกับการดีไซน์ตัวเครื่องของสมาร์ทโฟน ภายในกล่องจะมีอุปกรณ์ดังต่อไปนี้

• ตัวเครื่อง OPPO Reno 10x Zoom (ติดกันรอยมาให้แล้ว)
• อะแดปเตอร์ VOOC 3.0 (20W)
• สาย USB Type-C
• หูฟังแบบ In-Ear แวววาวสวยงามมากๆ
• เข็มจิ้มซิม
• เคส (สวยมากๆ ไม่จำเป็นต้องซื้อเพิ่มเลย)
• คู่มือ

เคสเป็นแบบ Hard Case ผิวด้านดูหรูหรา สวยจนไม่จำเป็นต้องซื้อเพิ่มจริงๆ สามารถใช้เคสตัวนี้ได้เลย

OPPO Reno 10x Zoom มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงามในทุกรายละเอียด หน้าจอ Panoramic full-screen ชนิด AMOLED ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รองรับ DCI-P3 ความคมชัดสูงถึง 60,000:1, อัตราส่วน 19.5:9, อัตราส่วนหน้าจอสูงถึง 93.1% ขอบหน้าจอบางเฉียบ เรียกได้ว่าไร้ขอบอย่างสมบูรณ์แบบเลยครับ และมีเทคโนโลยีถนอมดวงตาลดแสงสีฟ้า ซึ่งได้รับการรับรองจากสถาบัน TUV Rheinland แถมไม่ต้องมีกล้องหน้า หรือติ่งหน้าจอมาเกะกะสายตาอีกด้วย

OPPO Reno 10x Zoom โดดเด่นด้วยกล้องหน้า Pivot-Rising ความละเอียด 16MP, F2.0 ที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจมากๆ สวยงามเต็มไปด้วยดีไซน์ แต่ก็พกพาเทคโนโลยีมาจนล้นเลยละ โดยใช้เวลาในการเรียกใช้งานเพียงแค่ 0.8 วินาทีเท่านั้น ทำมุม 11 องศา ดูแล้วคล้ายคลีบปลาฉลาม สามารถเลื่อนขึ้น-ลงได้อย่างนุ่มนวลและรวดเร็ว ทำงานได้เงียบมากๆ อีกด้วย แถมยังมีความทนทานสูง โดยได้มีการทดสอบมากกว่าสองแสนครั้งเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์ ถ้าเราเผลอทำมือถือหลุดมือ กล้องหน้า Pivot-Rising จะเลื่อนเก็บโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ในบริเวณ Pivot-Rising จะมีการติดตั้งลำโพงสนทนา และไฟแฟลชของกล้องหลัง รวมทั้งเซ็นเซอร์ต่างๆ เอาไว้ สำหรับคนที่กังวลเรื่องเสียง สบายใจได้ครับ เสียงดังชัดเจนและมีมิติดีมาก โดยรุ่นนี้จะเป็นลำโพงคู่ Stereo และมาพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos ถูกใจคนที่ชื่นชอบความบันเทิงแน่นอนครับ

OPPO Reno 10x Zoom หน้าจอรองรับ Fingerprint (under display) ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยี Hidden Fingerprint Unlock 2.0 เป็นการสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ ซึ่งมีความแม่นยำและรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิมถึง 20% - 30% เลยทีเดียว แถมมีการนำ AI มาช่วยในการวิเคราะห์ด้วยนะครับ จากการทดสอบให้ผลลัพธ์ที่ดีมากๆ รวดเร็วและแม่นยำ ผมไม่เคยสแกนพลาดเลย จุดนี้น่าประทับใจมากครับ รวมทั้งสวยงามด้วยเอฟเฟ็กต์ที่หลากหลาย และในรุ่นนี้ยังคงมี Face Unlock สแกนใบหน้ามาให้เหมือนเคย 

OPPO Reno 10x Zoom ฝาหลังสวยงามมากด้วยเทคนิคการออกแบบไล่ระดับเฉดสี และการออกแบบสมมาตร การไล่เฉดสีของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ได้รับแรงบัลดาลใจจากธรรมชาติ โดยในสี Ocean Green จะเป็นพื้นผิวด้าน เหมือนไอหมอกที่มีแสงสีเขียวลอดออกมาจากสีเขียวเข้ม โดยในรุ่นนี้จะมีทั้งพื้นผิวมันเงา และพื้นผิวด้านในชิ้นเดียวกัน และมีการเคลือบเงาอีกที ทำให้ไม่เกิดรอยนิ้วมือ และทนต่อรอยขีดข่วนได้ดีมากครับ ส่วนสี Jet Black จะเป็นสีดำเงาที่มีการซ้อนของชั้นสีเทาเข้มและสีดำได้อย่างสวยงามมากๆ ผมว่าสวยมากทั้งคู่เลยครับ จะเลือกซื้อสีไหนก็สวยหมดทั้ง 2 สีเลย

ในส่วนของกล้อง OPPO Reno 10x Zoom มาพร้อมกล้อง 3 ตัวความละเอียด 48MP + 8MP (wide angle) + 13MP (telephoto) และมีการออกแบบ O-Dot เป็นปุ่มขนาดเล็กที่ผลิตจากเซรามิก ช่วยในการยกฝาหลังให้ไม่สัมผัสกับพื้นโดยตรงเมื่อวางเครื่องบนโต๊ะ และเพื่อความสวยงาม เพราะกระจกกล้องรุ่นนี้จะเป็นหนึ่งเดียวกับฝาหลังเลยครับ ทำให้บริเวณกล้อง OPPO ทำการเคลือบผิวเป็นพิเศษเพื่อให้ทานต่อรอยขีดข่วน ต้องบอกว่าดูสวยงามและพรีเมี่ยมอย่างที่สุดจริงๆ รับรองว่าคุณจะต้องชอบกันอย่างแน่นอน

OPPO Reno 10x Zoom ด้านบนมีกล้องหน้าเลื่อนขึ้น-ลงแบบใหม่ Pivot-Rising และไมค์ตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างมีถาดใส่ซิมแบบ Nano SIM1+ hybrid card slot (Nano SIM2+Micro SD card) ไมโครโฟน พอร์ท USB Type-C และลำโพง (รุ่นนี้มีลำโพงคู่นะครับ รองรับระบบเสียง Dolby Atmos) ด้านซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียง และด้านขวามีปุ่ม Power

OPPO Reno 10x Zoom ทำงานบน Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6 ด้วยสเปคระดับ Qualcomm Snapdragon 855, RAM 8GB/ROM 256GB ความรวดเร็วและความลื่นไหลทำได้ดีมาก ลื่นติดนิ้วจริงๆ หน้าตา UI ดูสวยงามและสะอาดตา แต่ก็จัดลูกเล่นต่างๆ มาให้อย่างครบถ้วนเลยครับ โดยเฉพาะเมื่อใช้งานบนหน้าจอไร้ขอบสมบูรณ์แบบ Panoramic full-screen ยิ่งทำให้ดูสวยงามน่าใช้มากจริงๆ โดยเฉพาะการรับชมคลิปวีดีโอ และการเล่นเกมผ่านหน้าจอแบบนี้ ยิ่งทำให้ได้รับอรรถรสอย่างเต็มอิ่มถึงขีดสุด ไม่ต้องมีอะไรมารบกวนสายตาอีกต่อไป 

ในหน้า Home ด้านซ้ายสุดจะเป็นระบบผู้ช่วยอัจฉริยะ Smart Assistant เป็นในส่วนของการตั้งค่าด่วนต่างๆ แอปพลิเคชั่น, สภาพอากาศ, โปรแกรมนับก้าว, นัดหมายและแจ้งเตือน, รายชื่อติดต่อด่วน และมาพร้อมฟีเจอร์แถบด้านข้างอัจฉริยะ รวมเอาเครื่องมือต่างๆ อย่างเช่น การจับภาพหน้าจอ, การบันทึกภาพหน้าจอแบบวีดีโอ หรือการเปิดใช้งานแอปพลิเคชั่นต่างๆ สะดวกสบาย และหน้าจอสมารถปรับโทนสีได้ครับ

ปุ่มนำทางด้านล่างสามารถซ่อนได้ และเลือกใช้ Gesture ในการควบคุมการทำงานแทนได้อย่างสมบูรณ์แบบ รวมทั้งลูกเล่น Gesture ต่างๆ นั้นก็ยังคงใส่เข้ามาให้อย่างเต็มที่เหมือนเคย ทั้งแตะหน้าจอเพื่อเปิดใช้งาน วาดตัวอักษรที่หน้าจอในขณะที่หน้าจอปิดอยู่ เพื่อเปิดใช้งานแอปพลิเคชั่นต่างๆ หรือใช้ 3 นิ้วลากจับภาพหน้าจอเป็นต้น รวมทั้งฟีเจอร์ Assistive Ball เป็นคำสั่งลัดในการเข้าถึงการทำงานในส่วนต่างๆ

ฟีเจอร์โคลนแอปฯ สำหรับการใช้งานแอปฯ Social พร้อมกัน 2 แอคเคาท์ และรองรับการใช้งาน 2 หน้าจอพร้อมกัน App Split-Screen วิธีเปิดใช้งานทำได้หลายวิธีเลยครับ เช่น ใช้นิ้วมือ 3 นิ้วลากหน้าจอขึ้นไปด้านบน, แตะค้างที่ปุ่ม Multitasking, เข้าไปในหน้า Multitasking แล้วเลือกแอปฯ ที่เราต้องการใช้งานแบบแบ่งหน้าจอ และแน่นอนครับว่า OPPO มี Theme Store และ App Store ของตัวเองด้วย สามารถเข้าไปใช้บริการกันได้นะครับ

OPPO Reno 10x Zoom มาพร้อมฟีเจอร์ HyperBoost 2.0, Frame Boost และ Touch Boost ช่วยในการวิเคราะห์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม รวมทั้ง ฟีเจอร์ Game Space ช่วยอำนวยความสะดวกในการเล่นเกม ช่วยในการปรับแต่งการแจ้งเตือนต่างๆ เพื่อให้คุณไม่ถูกขัดจังหวะให้เสียอารมณ์ ทดสอบด้วยเกมอย่าง ROV สามารถเล่นได้ 60-61 FPS แบบนิ่งๆ จนจบเกมเลยครับ ยอดเยี่ยมมากๆ และเกม PUBG สามารถปรับภาพ HDR HD และเฟรมเรทระดับ Ultra ได้สบายๆ รวมทั้งเกมใหม่อย่าง Cyber Hunter ภาพสวยขนาดนี้แต่ลื่นไหลสุดยอดเลย รวมทั้งเกม Marvel Contest of Champions ก็เล่นได้อย่างเนียนตามากๆ เอาเป็นว่าสเปคขนาดนี้เล่นเกมไหนก็เหมาะไปหมดเลยครับ ไม่มีเกมที่เล่นแล้วไม่ลื่นจริงๆ เหมาะกับคนที่ต้องการซื้อสมาร์ทโฟนมาเล่นเกมมากๆ และจุดเด่นเลยคือเล่นแล้วเครื่องไม่ร้อนด้วยนะครับ

อย่างที่ทราบกันก่อนหน้านี้ในงาน Mobile World Congress 2017 ทาง OPPO เป็นแบรนด์แรกที่เปิดตัวการพัฒนา 5x Zoom บนสมาร์ทโฟนเป็นครั้งแรกของโลก และสมาร์ทโฟนรุ่นนี้คือดอกผลจากการพัฒนามาอย่างยาวนานครับ OPPO Reno 10x Zoom มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera และกล้องหน้าเลื่อนขึ้น-ลงแบบใหม่ Pivot-Rising ที่จะซ่อนทั้งกล้องหน้า, ลำโพงสนทนา, เซนเซอร์ และไฟแฟลชของกล้องหลัง มีรายละเอียดดังนี้

• 48MP, F1.7, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2 นิ้ว, ระบบกันสั่น OIS, Laser/PDAF
• 8MP, F2.2
• 13MP, F3.0, (telephoto), 2x และ 5x optical zoom, 10x hybrid zoom, 60X Digital Zoom, ระบบกันสั่น OIS, Laser/PDAF
• กล้องหน้า Pivot-Rising 16MP, F2.0
• บันทึกวีดีโอ 4K 60FPS, มาพร้อมระบบกันสั่น OIS + EIS

สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะมีระยะ 2x และ 5x optical zoom และ 10x hybrid zoom เทียบเท่าเหมือนกับว่าเรามีเลนส์ช่วง 16-160 มม. เอาไว้ใช้งาน โดยไม่ต้องพกกล้องและเลนส์ขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมี 60X Digital Zoom ซึ่งมากที่สุดในโลกตอนนี้อีกด้วย รวมทั้งมีระบบกันสั่น OIS ทั้งในกล้องหลัก และกล้อง telephoto รวมทั้งมี EIS มาช่วย สำหรับวีดีโอบันทึกได้ที่ 4K 60FPS รองรับ 2x Zoom (รองรับกันสั่น OIS + EIS) รองรับการบันทึกเสียง 360 องศา

ในส่วนของเทคนิคที่สามารถวางเลนส์ได้โดยที่ตัวเครื่อง OPPO Reno 10x Zoom มีความบางเพียง 9.3 มม. เท่านั้น ก็เพราะว่าทาง OPPO ใช้โครงสร้างแบบกล้องปริทรรศน์ โดยเปลี่ยนการจัดกลุ่มเลนส์จากแนวตั้งเป็นแนวนอน และแก้ไขปัญหาความหนาของกล้องด้วยปริซึมสะท้อนแสงแบบพิเศษ และมีการตัดรูปทรงแบบพิเศษ D-cut ทำให้สามารถประหยัดพื้นที่ และสามารถสร้างรูรับแสงของชิ้นเลนส์ Telephoto ให้มีรูรับแสง F3.0 ได้ในส่วนของกล้องหลัก และกล้อง ultrawide ใช้มอเตอร์โฟกัสเดียวกัน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบการออกแบบมอเตอร์แบบคู่ การใช้พื้นที่ของเลนส์ โครงสร้างแบบกล้องปริทรรศน์ของเลนส์ telephoto จะใช้พื้นที่น้อยกว่า 2.95 มม. ทำให้ได้ตัวเครื่องที่บางขึ้น เหลือเพียง 9.3 มม. จากตอนแรกที่ตัวเครื่องอาจจะต้องหนาถึง 15.6 มม. เลยทีเดียว

นอกจากฟีเจอร์การ Zoom ที่น่าทึ่งแล้ว OPPO Reno 10x Zoom ยังมาพร้อม Dazzle Color Mode 2.0 เป็นการชดเชยสีสันของภาพให้สวยสดงดงามมากยิ่งขึ้น โดยใช้ AI เข้ามาช่วยในการคำนวน ช่วยชดเชยสีสันของภาพให้สวยงามในทุกรูปแบบ และ Ultra Night Mode 2.0 ช่วยในการถ่ายภาพกลางคืน ใช้เวลาในการประมวลผลของภาพเพียงแค่ 2-3 วินาทีเท่านั้นเอง และรองรับ Artistic Portrait ช่วยในการถ่ายภาพบุคคลได้อย่างสวยงาม ช่วยปรับแต่งโทนสีผิวให้สวยสดใสได้ถึง 5 รูปแบบที่คัดมาแล้วว่าดีที่สุด และเทคโนโลยี AI beauty รุ่นใหม่มีการนำ AI มาใช่ในการประมวลผลอย่างชาญฉลาดยิ่งกว่าที่เคย และในส่วนของการ Selfie ต้องบอกว่ายอดเยี่ยมสมเป็น OPPO ครับ คุณภาพดีมากเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ มาชมตัวอย่างภาพถ่ายกันได้เลยครับ

ตัวอย่างภาพถ่าย Selfie ด้วย OPPO Reno 10x Zoom (กลางวัน)

ตัวอย่างภาพถ่าย Selfie ด้วย OPPO Reno 10x Zoom (กลางคืน)

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วย OPPO Reno 10x Zoom

OPPO Reno 10x Zoom (ultrawide)

OPPO Reno 10x Zoom (ปกติ)

OPPO Reno 10x Zoom (2x)

OPPO Reno 10x Zoom (6x)

OPPO Reno 10x Zoom (10x)

OPPO Reno 10x Zoom (60x)

OPPO Reno 10x Zoom (ultrawide)

OPPO Reno 10x Zoom (ปกติ)

OPPO Reno 10x Zoom (2x)

OPPO Reno 10x Zoom (6x)

OPPO Reno 10x Zoom (10x)

OPPO Reno 10x Zoom (25x)

OPPO Reno 10x Zoom (60x)

ตัวอย่างภาพถ่าย OPPO Reno 10x Zoom (กลางคืน)

OPPO Reno 10x Zoom เป็นสมาร์ทโฟนระดับท็อปที่สมบูรณ์แบบมากๆ เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์และวัสดุระดับพรีเมี่ยม หน้าจอ Panoramic full-screen ที่สวยงามเต็มตา กล้องหน้าเลื่อนขึ้น-ลงแบบใหม่ Pivot-Rising สุดล้ำและงดงาม สเปคเครื่องระดับสูง Qualcomm Snapdragon 855 + RAM 8GB/ROM 256GB (UFS 2.1 Storage) และกล้อง 3 ตัว ความละเอียด 48MP + 8MP (wideangle) + 13MP (telephoto) ที่มอบประสบการณ์ 10x hybrid zoom และ 60X Digital Zoom ที่น่าประทับใจ ไม่รวมแบตเตอรี่ความจุสูงใช้งานได้ทั้งวันสบายๆ แถมยังชาร์จเร็วด้วย VOOC 3.0 อีก ผมยกให้เป็นสมาร์ทโฟนที่แฟนๆ OPPO ไม่ควรพลาด และสำหรับหน้าใหม่ที่สนใจอยากมาใช้ OPPO Reno 10x Zoom คุณจะชอบและประทับใจในสมาร์ทโฟนรุ่นนี้อย่างแน่นอนครับ เป็นอีกครั้งที่ OPPO สร้างความประหลาดใจครั้งใหญ่ให้กับวงการสมาร์ทโฟนจริงๆ 

สำหรับลูกค้าที่สั่งจอง OPPO Reno 10x Zoom ในช่วง Pre-Order ตั้งแต่ 4-14 มิถุนายนนี้ รับชองแถมสุดพรีเมี่ยม ได้แก่ Diamond Card มูลค่า 9,000 บาท ด้วย International warranty service พร้อมทั้ง Replacement Service บริการเปลี่ยนเครื่อง เมื่อเครื่องมีปัญหา และ ขาตั้งกล้อง มูลค่า 2,000 บาท และหากสั่งจอง OPPO Reno ลูกค้าจะได้รับ Premier Card มูลค่า 5,000 บาท สำหรับลูกค้า AIS และ True ที่สั่งจอง OPPO Reno 10x Zoom ในช่วง Pre-Order ตั้งแต่ 4-13 มิถุนายนนี้ ราคาเริ่มต้นที่ 8,990 บาท และดีแทคราคาเริ่มต้นที่ 14,990 บาท (ตามเงื่อนไขที่กำหนด)

1. ดีไซน์พรีเมี่ยมสวยงามมากๆ ชุดกล้องเรียบเนียนไปกับตัวเครื่อง ออกแบบไล่ระดับเฉดสีสวยงาม
2. หน้าจอไร้ขอบสมบูรณ์แบบ Panoramic full-screen สวยงามและไม่มีอะไรมารบกวนสายตา
3. สเปคสูงมาก Qualcomm Snapdragon 855 + RAM 8GB/ROM 256GB (UFS 2.1 Storage)
4. Hidden Fingerprint Unlock 2.0 สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ ซึ่งมีความแม่นยำและรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม
5. กล้องหน้า Pivot-Rising สุดพรีเมี่ยม และเปี่ยมด้วยเทคโนโลยี รวมทั้งความทนทานสูง
6. 2x และ 5x optical zoom, 10x hybrid zoom, 60X Digital Zoom (เป็นครั้งแรกของโลก)
7. บันทึก 4K 60FPS รองรับ 2x Zoom รองรับการบันทึกเสียง 360 องศา
8. แบตเตอรี่ความจุสูง 4,065 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว VOOC 3.0 (20W) ใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน

1. ไม่มีพอร์ทหูฟัง 3.5 มม.