Toyota bZ4X AWD รถยนต์ไฟฟ้า BEV อเนกประสงค์ D-Segment เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่กำลังมองหารถ SUV ขนาดใหญ่ โดย bZ4X รุ่นแรกเนื่องจากขีดจำกัดด้านการจัดสรรจำนวนรถในเวลานั้น ทำให้ขายเพียงแค่ 132 คันเท่านั้น แต่สำหรับ bZ4X ใหม่ จะนำเข้าจากญี่ปุ่นในรูปแบบ CBU และเข้าร่วมมาตรการ EV3.5 ด้วยเป้าหมายยอดขายที่ มากกว่าเดิม ถึง 6,000 คันในช่วงปีแรก
และเปิดรับจองสิทธิ์ เพื่อเป็นเจ้าของ NEW bZ4Xผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ https://stores.toyota.co.th/register/bz4x ในราคาเริ่มต้น 1,6xx,xxxx บาท พิเศษ รับทันทีส่วนลดเงินสด 20,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% เฉพาะ 2,000 สิทธิ์แรก สำหรับลูกค้าที่จองสิทธิ์ตั้งแต่ 21 สิงหาคม -19 ตุลาคม 2568 หรือจนกว่าสิทธิ์จะหมด (อัตราดอกเบี้ยคำนวณที่ดาวน์ 25% ขึ้นไป นาน 48 เดือน สำหรับผู้ซื้อที่ผ่านการอนุมัติจาก โตโยต้าลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด โดยคำนวณจากดอกเบี้ยต้นงวดและส่วนลดดอกเบี้ยรถไฟฟ้า)
Toyota bZ4Xจะเป็นรถไฟฟ้า 100% ที่จะมาสร้างบรรทัดฐานใหม่ ออกแบบภายนอกภายใต้แนวคิด Hi tech & Emotion ที่เน้นความโฉบเฉี่ยว ล้ำสมัย มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ 0.279 ห้องโดยสารแบบ Open space มอบความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนกับอยู่ที่บ้าน ด้วยหลังคา Panoramic sunroof, หน้าจอสัมผัสแบบ Full HD ขนาดใหญ่ถึง 12.3 นิ้ว รองรับ AppleCarPlay และ Andriod Auto เครื่องเสียง และลำโพง JBL 9 ตำแหน่ง ขุมพลังเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มาจากชุดมอเตอร์อิสระ 2 ชุด จากมอเตอร์หน้า 80 กิโลวัตต์ และหลัง 80 กิโลวัตต์ รวมให้กำลังสูงสุด 218 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 337 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม/ชม ภายใน 6.9 วินาที การขับขี่แบบ X-Mode ใหม่ ช่วยเพิ่มเสถียรภาพ และการยึดเกาะของรถบนทุกพื้นผิวถนน ควบคุมการกระจายแรงขับที่ล้อ เบรก และคันเร่ง เพื่อใช้กับถนนลื่น และเนินเขาสูง และยังมีระบบ Regenerative Braking Mode ที่จะช่วยนำพลังงานไฟฟ้ากลับมาทุกครั้งที่ยกคันเร่ง สำหรับแบตเตอรี่ผ่านการทดสอบหลายรูปแบบ ทั้งมีขบวนการกำจัดสิ่งแปลกปลอมตลอดกระบวนการผลิต ที่สำคัญยังได้รับการปกป้องภายใต้โครงสร้างตัวรถที่ออกแบบมาอย่างแข็งแกร่ง พร้อมแผ่นรองรับกันกระแทกที่มีน็อตยึดเพิ่มความแข็งแรงมากถึง 56 จุด พร้อมฉนวนหุ้มระบบไฟฟ้าแรงดันสูงกันน้ำถึง 3 ชั้น และระบบล็อคที่ข้อต่อสายไฟ 2 ชั้น ป้องกันอย่างแน่นหนาไม่ให้น้ำรั่วซึมเข้าถึงระบบไฟฟ้าแรงดันสูงได้
เทคโนโลยีระบบส่งกำลัง e-Axle ครั้งแรกของโตโยต้า ส่งแรงขับไปยังเพลารถโดยตรง จากมอเตอร์ไฟฟ้าชุดใหม่ 224 แรงม้า ระบบระบายความร้อนแบตเตอรี่ โดยใช้ระบบหล่อเย็นร่วมกับระบบปรับอากาศ โดยมีวงจรแยกจากกันกับระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสาร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม. /ชม. ใน 5.1 วินาที ประเภทหัวชาร์จ 2 แบบ และกระแสไฟ 2 ระบบ TYPE 2 (AC กระแสสลับ) รองรับการชาร์จแบบ AC กำลังสูงสุด 22kW ระยะเวลาในการชาร์จประมาณ 3.5 ชั่วโมง* (10-100%) และ CCS2 (DC กระแสตรง) และการชาร์จแบบ DC กำลังสูงสุด 150kW ระยะเวลาในการชาร์จประมาณ ภายใน 28 นาที (10-80%)