ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที
กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

  • 10 อันดับ เศรษฐีหุ้นไทย 2557

    11 มี.ค. 58 19,311

    10 อันดับ เศรษฐีหุ้นไทย 2557

    ท่ามกลางกระแสหุ้นที่ขึ้นๆ ลงๆ ช่วงท้ายปี 2557 นี้ เรามาดูกันค่ะว่าโดยรวมทั้งปี 2557 นี้ ใครคือตัวจริงเสียงจริงในตลาดหุ้นเมืองไทย โดยอันดับเศรษฐีหุ้นไทย ประจำปี 2557 นี้ เกิดขึ้นจากการจัดอันดับของวารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับอาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 21 แล้ว โดยภาพรวมของเศรษฐีหุ้นไทยในปีนี้ วัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศที่ถือหุ้นสัดส่วน 0.5% ขึ้นไป ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดก่อนวันที่ 30 กันยายน 2557 จำนวน 6,473 ราย มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวมทั้งสิ้น 1,831,393 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2556 รวม 571,731 ล้านบาท หรือ 45.39% นอกจากนี้ ยังได้รับเงินปันผลรวมกันเป็นจำนวนเงินสูงถึง 51,830 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18,639 ล้านบาท หรือ 51.16% จากปี 2556 
    โดย 10 อันดับนี้ นำทัพด้วย "หมอเสริฐ" น.พ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ แห่งโรงพยาบาลกรุงเทพ รักษาตำแหน่งเศรษฐีหุ้นไทยได้อีกปี หลังจากก้าวเข้ามาเป็นแชมป์เมื่อปีที่แล้ว พร้อมโชว์ความมั่งคั่ง 5.8 หมื่นล้าน รวยเพิ่มขึ้นกว่า 2 หมื่นล้าน 

    น.พ. ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ แชมป์เศรษฐีหุ้นไทย 2557

    น.พ. ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ถือครองหุ้นสูงสุดเป็นอันดับ 1 รวมมูลค่า 57,909.48 ล้านบาท รวยขึ้น 21,313.28 ล้านบาท หรือ 58.24% สำหรับหุ้นที่ถือครอง ประกอบด้วย หุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BGH) หรือโรงพยาบาลกรุงเทพ รวมมูลค่า 57,866.71 ล้านบาท สัดส่วนการถือหุ้นได้เพิ่มขึ้นอีก 2.41% เป็น 20.19% นอกจากนี้ หมอเสริฐยังถือครองหุ้น บมจ.โรงพยาบาลนนทเวช (NTV) ในสัดส่วน 0.79% มูลค่า 42.77 ล้านบาท อีกด้วย

    ทองมา บิ๊กบอสพฤกษาหวนขึ้นเศรษฐีอันดับ 2

    ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ บิ๊กบอสพฤกษากลับขึ้นมาเป็นเศรษฐีอันดับ 2 โดยมีมูลค่าหุ้น PS ที่ถือครองในสัดส่วน 54.59% รวมมูลค่า 41,579.50 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 16,126.15 ล้านบาท หรือ 63.36% เนื่องจากราคาหุ้น PS ได้ปรับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 34.25 บาท ณ วันที่ 30 กันยายน 2557 ซึ่งเป็นวันที่ใช้คำนวณมูลค่าความมั่งคั่งของเศรษฐีหุ้นในปีนี้ จากที่หล่นไปแตะ 19.50 บาท เมื่อปีที่แล้ว โดยราคาปรับขึ้นมา 14.50 บาท หรือ 75.64%

    "เสี่ยคีรี" เจ้าของบีทีเอส หล่นไปอยู่อันดับ 3

    คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ร่วงลงมาจากอันดับ 2 เมื่อปีที่แล้ว หุ้นถือครองรวมมูลค่าทั้งสิ้น 39,200.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,980.24 ล้านบาท หรือ 14.55% ประกอบด้วย หุ้น BTS ในสัดส่วน 32.58% มูลค่า 38,811.65 ล้านบาท หุ้น บมจ.แสนสิริ (SIRI) 0.6% มูลค่า 129.92 ล้านบาท และหุ้น บมจ. วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย (VGI) 0.54% มูลค่า 258.46 ล้านบาท

    "สมโภชน์" มากับหุ้นพลังงาน EA กระโดดขึ้นอันดับ 4

    สมโภชน์ อาหุนัย เจ้าของกิจการธุรกิจพลังงาน EA กระโดดจากอันดับ 10 ในปีที่แล้ว มาอยู่ในอันดับ 4 จากความร้อนแรงของหุ้น EA ที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยถือครองหุ้นรวมมูลค่า 36,565.50 ล้านบาท รวมเพิ่มขึ้นถึง 26,429.71 ล้านบาท หรือ 260.76% ถือหุ้น EA ในสัดส่วน 40.47% มูลค่า 36,533.78 ล้านบาท และหุ้น บมจ. อีเทอเนิล เอนเนอยี (EE) อีก 0.94% มูลค่า 31.72 ล้านบาท

    อนันต์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ หล่นมาอยู่อันดับ 5

    อนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ หล่นจากอันดับ 4 ลงมาอยู่อันดับ 5 โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 24,788.62 ล้านบาท ลดลง 952.14 ล้านบาท หรือ 3.70% ประกอบด้วย หุ้น บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) 22.07% มูลค่า 24,779.45 ล้านบาท และบมจ.แมนดาริน โฮเต็ล (MANRIN) 1.36% มูลค่า 9.16 ล้านบาท

    นิติ ทายาทอาณาจักรโอสถสภา ขึ้นมานั่งในอันดับ 6

    นิติ โอสถานุเคราะห์ ขยับขึ้นจากอันดับ 7 เมื่อปีที่แล้ว มาอยู่ในอันดับ 6 ด้วยการถือครองหุ้นมูลค่ารวม 24,020.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,396.59 ล้านบาท หรือ 28.98% นอกจากนิติจะเป็นทายาทของอาณาจักรโอสถสภาแล้ว ยังเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่มีพอร์ตการถือหุ้นมากถึง 14 บริษัท ซึ่งราคาหุ้นส่วนใหญ่ในพอร์ตได้ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อนแทบทั้งสิ้น

    วิชัย เจ้าพ่อเคเบิลยักษ์ใหญ่ ร่วงตกมาอยู่อันดับ 7

    วิชัย ทองแตง ประธานกรรมการบริษัท เคเบิ้ล ไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) CTH ร่วงจากอันดับ 6 เมื่อปีที่แล้ว มาอยู่ในอันดับ 7 ในปีนี้ ถือครองหุ้นรวมมูลค่า 20,294.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 165.46 ล้านบาท หรือ 0.82% ประกอบด้วยหุ้น BGH ในสัดส่วน 6.71% มูลค่า 19,235.87 ล้านบาท หุ้น บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) 7.23% มูลค่า 454.59 ล้านบาท หุ้น บมจ.ปุ๋ยเอ็นเอฟซี (NFC) 8.04% มูลค่า 272 ล้านบาท และหุ้น บมจ.อาร์พีซี (RPC) 21.40% มูลค่า 332.31 ล้านบาท

    หทัย บิ๊กน้ำตาล KTIS เศรษฐีหุ้นหน้าใหม่อันดับ 8

    หทัย ศิริวิริยะกุล เจ้าของอาณาจักรน้ำตาลที่มีโรงงานใหญ่ที่สุดในโลก ในชื่อ บมจ.เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น (KTIS) ถือครองหุ้น KTIS สูงสุดเป็นอันดับ 1 ในสัดส่วน 42.82% รวมมูลค่า 18,678.85 ล้านบาท

    พิชญ์ MONO-JAS ตกมาอยู่ในอันดับ 9

    พิชญ์ โพธารามิก ทายาทคนเดียวของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อดิศัย โพธารามิก ผู้ก่อตั้ง บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ร่วงจากอันดับ 3 เมื่อปีที่แล้ว มาอยู่อันดับ 9 ในปีนี้ โดยถือครองหุ้นรวมมูลค่าทั้งสิ้น 16,560.72 ล้านบาท ประกอบด้วย หุ้น บมจ.โมโน เทคโนโลยี (MONO) ในสัดส่วน 71.87% มูลค่า 4,205.60 ล้านบาท และหุ้น JAS 25.84% มูลค่า 12,355.11 ล้านบาท

    เจ้าของอาณาจักร ไมเนอร์ กรุ๊ป ร่วงมาอยู่ในอันดับ 10

    วิลเลี่ยม เอ็ลล์วู้ด ไฮเน็ค หรือ บิล ไฮเนกี้ เจ้าของอาณาจักร ไมเนอร์ กรุ๊ป ร่วงมาจากอันดับ 8 เมื่อปีที่แล้ว มาอยู่ในอันดับ 10 ในปีนี้ โดยมีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 13,061.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,860.74 ล้านบาท หรือ 16.61% ประกอบด้วย หุ้น บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) 8.55% มูลค่า 12,660.44 ล้านบาท และหุ้น บมจ.คริสเตียนี และนีลเส็น (ไทย) (CNT) ในสัดส่วน 6.61% มูลค่า 400.90 ล้านบาท

    บทความเกี่ยวกับหุ้นอื่นๆ

เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)