ธนาคารกรุงเทพครองแชมป์ Bank of the Year 2020

ข่าว icon 10 เม.ย. 63 icon 1,923
ธนาคารกรุงเทพครองแชมป์ Bank of the Year 2020


เผยผลจัดอันดับธนาคารแห่งปี Bank of the Year ธนาคารกรุงเทพ ครองแชมป์ ธนาคารแห่งปี 2563 Bank of the Year 2020 ธนาคารไทยพาณิชย์ นั่งอันดับ 2 ธนาคารกสิกรไทย รั้งอันดับ 3
การเงินธนาคาร ฉบับเดือนเมษายน 2563 ประกาศผลการจัดอันดับ ธนาคารแห่งปี 2563 หรือ Bank of the Year 2020 โดยใช้ผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์ 13 แห่ง ในรอบปี 2562 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2562 มาพิจารณาจัดอันดับ ปรากฏว่า ธนาคารกรุงเทพ ได้ครองแชมป์ธนาคารแห่งปี 2563

โดยในปี 2562 ธนาคารกรุงเทพสร้างกำไรสุทธิได้สูงเป็นอันดับ 3 ของระบบธนาคารพาณิชย์ โดย
  • มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 35,816.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.4% จากปีก่อน* 
  • มีกำไรต่อหุ้นสูงเป็นอันดับ 1 ที่ 18.76 บาท และ
  • มีมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (Book Value) 225.36 บาท สูงเป็นอันดับ 1 เช่นเดียวกัน
*ซึ่งกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากธนาคารมีรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น 3.3% จากค่าธรรมเนียมจากการอำนวยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการเติบโตของค่าธรรมเนียมจากบริการประกันผ่านธนาคารและบริการกองทุนรวม
นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อสูงเป็นอันดับ 1 ที่ 8.14% เพื่อเสริมสร้างระดับสำรองของธนาคารให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้นตามหลักความระมัดระวัง และรักษาระดับเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุน (BIS) ขั้นที่ 1 สูงเป็นอับดับ 3 ถึง 17.01%
สำหรับนโยบายของธนาคารกรุงเทพในปี 2563 ธนาคารยังคงยึดมั่นแนวทางการดำเนินธุรกิจที่มุ่งสนับสนุนลูกค้าให้เข้มแข็ง พร้อมรับมือการแข่งขันและความท้าทายรอบด้าน เพื่อให้ลูกค้าเจริญเติบโตได้อย่างยั่งยืน ในขณะเดียวกัน ธนาคารให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ พัฒนาระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพิ่มขีดความสามารถของบุคลากร และสร้างประโยชน์ต่อยอดจากเครือข่ายพันธมิตร เพื่อให้ธนาคารมีความพร้อมทุกด้านที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
ทั้งนี้ ก้าวสำคัญของธนาคารกรุงเทพในปี 2563 คือ การเข้าซื้อกิจการธนาคารเพอร์มาตา ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดของทรัพย์สินรวมอยู่ในลำดับที่ 12 ของภาคการธนาคารในประเทศอินโดนีเซีย มีสาขากว่า 300 แห่ง ใน 62 เมืองทั่วประเทศอินโดนีเซีย และมีบริการโมบายล์แบงกิ้งที่ได้รับความนิยมและกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
สำหรับสายลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ และกิจการธนาคารต่างประเทศ เป็น 2 หน่วยงานของธนาคารที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนลูกค้าที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ รวมถึงบริษัทข้ามชาติ โดยธนาคารสามารถสนับสนุนลูกค้าได้อย่างรอบด้าน ทั้งการดำเนินธุรกิจในประเทศ และการค้าและการลงทุนในต่างประเทศ รวมถึงการขยายกิจการเข้ามายังประเทศไทยของบริษัทข้ามชาติ นอกจากนี้ ธนาคารยังพัฒนาโซลูชั่นด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ที่สามารถเชื่อมโยงกับระบบนิเวศของลูกค้าทั้งในและนอกประเทศ เช่น โซลูชั่นที่มีทั้งบริการการชำระเงิน และบริการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในซัพพลายเชนของลูกค้า เป็นต้น
ในส่วนของลูกค้าบุคคล เนื่องจากการที่ลูกค้าในปัจจุบันทำธุรกรรมที่สาขาน้อยลง และหันมาใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เจ้าหน้าที่สาขาจึงได้รับการพัฒนาทักษะและเพิ่มพูนความรู้เพื่อทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษาทางการเงิน และนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า ขณะเดียวกัน ธนาคารยังปรับรูปแบบของสาขาให้เอื้ออำนวยต่อการใช้บริการของลูกค้าที่เปลี่ยนจากการทำธุรกรรมพื้นฐาน มาเป็นบริการด้านการให้คำปรึกษาแนะนำมากขึ้น
ธนาคารยังเพิ่มขีดความสามารถด้านข้อมูล ระบบไอที อุปกรณ์สื่อสารและเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า เพื่อสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่สาขา ทำให้พนักงานมีความพร้อมด้านข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งสามารถนำเสนอบริการที่ตรงใจและสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้า
ทั้งนี้ ธนาคารยังคงเดินหน้าสู่การเป็นธนาคารดิจิทัล โดยอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่ และวางรากฐานข้อมูลด้วยการพัฒนาที่เก็บข้อมูลส่วนกลาง (Data Lake) การนำปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) มาใช้ในการจัดการ จัดเก็บ วิเคราะห์ และนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้ธนาคารเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และสามารถนำเสนอบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละราย เช่น บริการเปิดบัญชีออนไลน์โดยใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าหรือข้อมูลทางชีวภาพอื่นๆ ซึ่งจะเปิดให้บริการในปี 2563 นี้ 

อันดับ 2 ธนาคารไทยพาณิชย์ ในปี 2562 ธนาคารไทยพาณิชย์ โดย
  • มีกำไรสุทธิสูงเป็นอันดับ 1 รวม 40,436.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 368.80 ล้านบาท หรือ 0.92%
  • มีรายได้สูงเป็นอันดับ 2 ที่ 174,900.49 ล้านบาท
ทั้งนี้ เป้าหมายหลักของธนาคารไทยพาณิชย์ คือ การสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยการพัฒนาไปสู่การเป็น Tech Company โดยการนำเสนอแพลตฟอร์มที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ ผ่านการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใช้ Artificial Intelligence / Machine Learning อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับปี 2563 ธนาคารไทยพาณิชย์ยังใช้กลยุทธ์ "กลับหัวตีลังกา" ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยให้ความสำคัญกับการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่ยังมีความอ่อนแอ ซึ่งต้องดำเนินการพร้อมไปกับการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
1. การเติบโตในธุรกิจหลักของธนาคาร ธนาคารมุ่งหวังที่จะเป็นธนาคารหลักในการทำธุรกรรมที่ดียิ่งขึ้น (The better main bank) โดยการค้นหาตัวตนของธนาคาร (Brand Identity) และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง (Differentiation) เพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนในการทำธุรกิจ ธนาคารจะมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าจากการลงทุนในช่วงที่ผ่านมาโดยจะเน้นการเติบโตธุรกิจผ่านการเชื่อมต่อขีดความสามารถใหม่เพื่อสร้างประสบการณ์ดิจิทัลที่มีคุณค่าให้กับลูกค้า
2. การลงทุนสำหรับอนาคตเพื่อสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด ตั้งขึ้นเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวของกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์โดยมุ่งเน้นการสร้างธุรกิจที่มีขีดความสามารถทางเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Blockchain Solutions และบริการที่มีการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้หรือบริการที่เกี่ยวเนื่องกับ 5G รวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยีหรือแผนธุรกิจ (Business Model) และสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ ที่สร้างผลตอบแทนและเพิ่มขีดความสามารถให้แก่ธนาคารเพื่อนำมาต่อยอดปรับใช้กับธุรกิจธนาคารได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้น ยังให้ความสำคัญกับการสร้างรากฐานและวัฒนธรรมองค์กรรูปแบบใหม่ที่เหมาะกับการดำเนินธุรกิจในยุดดิจิทัลเพื่อดึงดูดผู้ที่มีความสามารถ (Talents) และสามารถลองผิดลองถูกเพื่อสร้างนวัตกรรมที่ไม่เคยมีมาก่อนที่จะสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อธนาคาร

อันดับ 3 ธนาคารกสิกรไทย ในปี 2562 ธนาคารกสิกรไทย โดยมีสินทรัพย์รวมรวม 3,293.89 ล้านบาท 
  • มีรายได้รวม 185,002.38 ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 1 ของระบบธนาคารพาณิชย์ และ
  • มีกำไรสุทธิ 38,726.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 268 ล้านบาท หรือ 0.70%
  • กำไรสุทธิต่อหุ้น 16.18 บาท มูลค่าหุ้นทางบัญชี 167.57 บาท สูงเป็นอันดับ 2
สำหรับการทำธุรกิจของธนาคารกสิกรไทยในปี 2563 ธนาคารได้กำหนดยุทธศาสตร์ใหม่ ที่ยังคงยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และกำหนดเป้าหมายสำคัญคือ การเพิ่มอำนาจให้ทุกชีวิตและธุรกิจของลูกค้า (To Empower Every Customer's Life and Business)
การดำเนินธุรกิจภายในประเทศ ธนาคารยังคงให้ความสำคัญกับความหลากหลายของช่องทางหรือแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ลูกค้าใช้บริการ เพื่อให้ลูกค้าของธนาคารได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด ตั้งเป้าทำให้บริการของธนาคารไปอยู่ในทุกที่ที่ลูกค้าต้องการใช้บริการทางการเงินต่างๆ โดยร่วมมือกับพันธมิตรรายใหญ่ทั้งในระดับโลกและระดับประเทศในการสร้าง Ecosystem เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ต่างๆ ของลูกค้า
การดำเนินธุรกิจข้ามประเทศ ธนาคารใช้กลยุทธ์ Asset-Light Regional Digital Expansion ในการขยายตลาดในภูมิภาคเพื่อสร้างช่องทางการเข้าถึงตลาดลูกค้าต่างประเทศและนำเสนอบริการรองรับการทำธุรกรรมและธุรกิจข้ามประเทศของลูกค้าอย่างต่อเนื่องผ่านความสามารถของธนาคาร
ด้านเทคโนโลยี จะขับเคลื่อนแกนกลางความสามารถทางเทคโนโลยีของธนาคารกสิกรไทย ในแกนสำคัญ 3 ด้าน ดังนี้
  1. วางรากฐานสถาปัตยกรรมและโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยียุคใหม่ เพื่อรับมือกับการขยายตัวของการให้บริการแก่ลูกค้าของธนาคาร 20 ล้านคน
  2. เสริมบทบาทธนาคารในการเป็นเครื่องจักรขับเคลื่อนนวัตกรรมและเทคโนโลยี AI และ
  3. สนับสนุนการพัฒนาบริการของพันธมิตร ด้วยการเปิด API รับการเชื่อมต่อเข้ากับระบบบริการของธนาคาร (Open Banking API) 
อันดับ 4 ธนาคารธนชาต อันดับ 5 ธนาคารทิสโก้ อันดับ 6 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา อันดับ 7 ธนาคารเกียรตินาคิน อันดับ 8 ธนาคารกรุงไทย อันดับ 9 ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) อันดับ 10 ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ อันดับ 11 ธนาคารทีเอ็มบี อันดับ 12 ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย และ อันดับ 13 ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

การเงินธนาคาร ข่าวการเงิน

ข่าวและอีเว้นท์การเงินล่าสุด



เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)