- รถยนต์ใหม่
- รถมอเตอร์ไซค์ใหม่
- คอนโดใหม่
- บ้านโครงการใหม่
- ราคาทองคำ-หุ้น-น้ำมัน
- จองโรงแรม
- การเงิน-ธนาคาร
- โทรศัพท์มือถือ
- แท็บเล็ต
รีวิวคอนโดใหม่ : รีวิว-เยี่ยมชม คอนโด ไนท์บริดจ์ พหลโยธิน อินเตอร์เชนจ์ (Knightsbridge Phaholyothin Interchange)
รีวิว-เยี่ยมชม คอนโด ไนท์บริดจ์ พหลโยธิน อินเตอร์เชนจ์ (Knightsbridge Phaholyothin Interchange)
วันที่ : 4 ธ.ค. 61
เข้าดูทั้งหมด: 13,899 คน

รีวิว-เยี่ยมชม คอนโด "ไนท์บริดจ์ พหลโยธิน อินเตอร์เชนจ์ (Knightsbridge Phaholyothin Interchange)"
รอบนี้เราจะพาทุกคนไปรีวิวเยี่ยมชมคอนโดใหม่ใกล้จุดตัดรถไฟฟ้า 2 สาย ไนท์บริดจ์ พหลโยธิน อินเตอร์เชนจ์ (Knightsbridge Phaholyothin Interchange) เดินทางสะดวกใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ประมาณ 250 เมตร และรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีวงเวียนหลักสี่ ติดถนนพหลโยธิน ตรงข้าม Tesco Lotus หลักสี่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบจัดเต็มรวม 30 อย่าง บนพื้นที่กว่า 3700 ตร.ม. และรูปแบบห้องดีไซน์ใหม่ที่มีให้เลือกถึง 20 แบบด้วยกัน คอนโดนี้จะมีความน่าสนใจแค่ไหนตามไปชมกันเลยค่ะ

ข้อมูลโครงการ
- เจ้าของและผู้พัฒนาโครงการ : บริษัท ออริจิ้น แกรนด์ จำกัด
- ที่ตั้งโครงการ : ถนนพหลโยธิน (ตรงข้าม Tesco Lotus หลักสี่) แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ
- อาคารชุดพักอาศัย : สูง 15 ชั้น จำนวน 2 อาคาร จำนวนห้องพักอาศัย 726 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต
- ขนาดที่ดินทั้งโครงการ : 5-1-32 ไร่
- ลิฟต์โดยสาร : แต่ละอาคารจะมีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว และ ลิฟต์บริการ 1 ตัว
- ห้องชุด : มี 5 Type หลัก ได้แก่
- B1 : 1 Bedroom ขนาด 21.30 - 31.70 ตร.ม. จำนวน 81 ยูนิต
- B2 : 1 Bedroom ขนาด 28.20 - 29.80 ตร.ม. จำนวน 335 ยูนิต
- BP : 1 Bedroom Plus ขนาด 33.40 - 38.80 ตร.ม. จำนวน 193 ยูนิต
- C : 2 Bedrooms ขนาด 48.90 - 51.20 ตร.ม. จำนวน 75 ยูนิต
- D : Duplex ขนาด 33.00 - 62.00 ตร.ม. จำนวน 42 ยูนิต - ที่จอดรถ : ประมาณ 53% (รวมซ้อนคัน)
- ราคาเริ่มต้น : 2.49 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 6 ส.ค. 61)
- วันที่เข้าเยี่ยมชม-รีวิวคอนโด : 6 ส.ค. 61
ทำเลที่ตั้งและสภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการ
สำหรับตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน ก่อนถึงซอยพหลโยธิน 57 หรือจำง่ายๆ คืออยู่ตรงข้าม Tesco Lotus หลักสี่ แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร อยู่ใกล้กับวงเวียนหลักสี่ อยู่ในทำเล "พหลโยธิน" ที่ถือเป็นทำเลที่มีศักยภาพและมีแน้วโน้มในการขยายตัวสูง รองรับการขยายตัวของเมืองในอนาคต เป็นแหล่งเชื่อมต่อการเดินทางทั้งระบบรถและระบบราง อีกทั้งยังแวดล้อมไปด้วยแหล่งช้อปปิ้ง ทั้งศูนย์การค้าขนาดใหญ่ และตลาดนัดชื่อดังระดับโลกอย่างตลาดนัดจตุจักรอีกด้วย ใกล้ทางด่วน 2 สาย ได้แก่ ทางพิเศษศรีรัช และทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์)

รูปแผนที่โครงการ ไนท์บริดจ์ พหลโยธิน อินเตอร์เชนจ์
(คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่)
- การเดินทางโดยรถยนต์
ในส่วนของการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวสามารถเดินทางเข้า-ออกโครงการได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนพหลโยธิน และถนนแจ้งวัฒนะ
เส้นทางที่ 1 ถนนพหลโยธิน : จากห้าแยกลาดพร้าวใช้ถนนเส้นพหลโยธินผ่านเซ็นทรัลลาดพร้าว และวัดพระศรีมหาธาตุบางเขน มุ่งหน้าวงเวียนหลักสี่ จากนั้นวิ่งอ้อมวงเวียนและตรงมาตามถนนพหลโยธินมาอีกประมาณ 250 เมตร จะเห็นที่ตั้งโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ
เส้นทางที่ 2 ทางยกระดับอุตรภิมุข : จากทางยกระดับอุตรภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์) ลงทางออกถนนแจ้งวัฒนะ แล้วกลับรถใกล้ที่ทำการไปรษณีย์หลักสี่ จากนั้นมุ่งหน้าวงเวียนหลักสี่ เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพหลโยธิน ขับตรงมาอีกประมาณ 250 เมตร จะเห็นที่ตั้งโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือเช่นกัน
- การเดินทางโดยรถไฟฟ้า
ความสะดวกสบายอย่างหนึ่งของโครงการเลยก็คือ ตั้งอยู่ใกล้จุดตัดของรถไฟฟ้า 2 สาย ทั้งรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ใกล้กับโครงการประมาณ 250 เมตร (คาดว่าจะสร้างเสร็จปี 2563) และรถไฟฟ้ามสายสีชมพู สถานีหลักสี่ ซึ่งตรงจุดนี้เป็นสถานีอินเตอร์เชนจ์ของรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย ในอนาคตหากสร้างเสร็จจะช่วยเชื่อมการเดินทางให้เข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกและใช้เวลาไม่นาน ทำให้การเดินทางเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น

ภาพแสดงตำแหน่งที่ตั้งโครงการ ห่างจากวงเวียนหลักสี่ประมาณ 250 เมตร

ภาพจำลองสถานีอินเตอร์เชนจ์ ระหว่างสายสีเขียวสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ กับสายสีชมพู สถานีหลักสี่
- สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

แผนที่แสดงสภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการในระยะใกล้
- ทิศตะวันออก : เป็นฝั่งด้านหน้าโครงการติดถนนใหญ่ถนนพหลโยธิน ฝั่งตรงข้ามเป็น Tesco Lotus หลักสี่
- ทิศเหนือ : ติดกับโชว์รูม Mitsubishi บ้านพักอาศัยสูง 1-2 ชั้น และโซนด้านหลังใกล้กับคอนโดสูง 8 ชั้น
- ฝั่งทิศตะวันตก : ติดกับบ้านพักอาศัยสูง 1-2 ชั้น และที่ดินเปล่า
- ทิศใต้ : ติดกับคอนโดสูง 15 ชั้น แต่ทางโครงการออกแบบผังอาคารเบี่ยงกับโครงการเพื่อนบ้านไม่บังวิวกันแบบตรงๆ

ทางโครงการวางผังอาคารโดยคำนึงถึงแสงแดดและทิศทางลม เพื่อให้ลูกบ้านสามารถรับลมได้ตลอดทั้งปี

ด้านหน้าสำนักงานขายโครงการ

บรรยากาศภายในสำนักงานขาย

ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็น Tesco Lotus หลักสี่

จากหน้าโครงการมองมาทางซ้ายจะเห็นสะพานลอยเดินข้ามไปยัง Tesco Lotus อยู่ใกล้มากๆ เลย

เดินมาหน่อยจะเป็นโชว์รูมรถยนต์ Mitsubishi

ถัดมาจะมีร้านบุฟเฟ่ต์ และอาหารจานเดียวสำหรับฝากท้องในยามหิวได้

ถัดมาจะเป็นปั๊มน้ำมัน ปตท.

ภายในปั๊มมีร้าน 7-Eleven

จากปั๊มเดินมาอีกหน่อยจะเป็นสภาทนายความ

และปั๊มน้ำมัน Shell ภายในปั๊มมีร้าน KFC ที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชม.

ติดกับปั๊มน้ำมันจะเป็นร้านทำฟัน

เดินต่อมาอีกหน่อยจะถึงปากซอยพหลโยธิน 59 แถวนี้มีร้านขายอาหารให้เลือกทานหลายร้านอยู่ค่ะ
โดยรวมถือว่าทำเลโซนพหลโยธินแวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ โรงพยาบาล สถานศึกษา หรือจะเดินทางไปต่างประเทศก็สะดวกเพราะใกล้สนามบินดอนเมือง และสถานีที่สำคัญๆ อีกหลายแห่ง อาทิ

Tesco Lotus หลักสี่ ห่างจากโครงการประมาณ 100 เมตร

Central รามอินทรา ห่างจากโครงการประมาณ 1.2 กม.

บิกซี สะพานใหม่ ห่างจากโครงการประมาณ 1.7 กม.

ตลาดยิ่งเจริญ ห่างจากโครงการประมาณ 2 กม.

มหาวิทยาลัยเกริก ห่างจากโครงการประมาณ 1 กม.

มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ห่างจากโครงการประมาณ 1.1 กม.

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ห่างจากโครงการประมาณ 5.3 กม.

IT Square หลักสี่ ห่างจากโครงการประมาณ 2.4 กม.

สนามบินดอนเมือง ห่างจากโครงการประมาณ 6 กม.
รูปแบบตึก และตัวโครงการโดยรวม
ตัวอาคารเป็นคอนโดมิเนียม High-rise สูง 15 ชั้น อยู่บนพื้นที่ 5-1-32 ไร่ ประกอบด้วย 2 Tower คือ Tower A รูปทรงตัว I และ Tower B รูปทรงตัว C มีห้องพักอาศัยรวมทั้งหมด 726 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ "EVOLUTE (วิวัฒนาการ)" รูปแบบงานสถาปัตยกรรมตะวันตกที่มากกว่าคำว่า Modern วัสดุที่นำมาใช้ในโครงการเป็นโทนสี Pink Gold และหินอ่อนให้ความรู้สึกหรูหรา

ห้องพักอาศัยเริ่มต้นตั้งแต่ชั้น 4 โดยตั้งแต่ชั้น 8 เป็นต้นไปเกือบทุกทิศจะค่อนข้างได้วิวแบบเปิดโล่ง รูปแบบห้องพักอาศัยมีให้เลือกตั้งแต่แบบ 1 Bedroom - Duplex สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางจัดไว้ที่ชั้น ชั้น Ground, ชั้น 4, ชั้น 5 และชั้น Rooftop มีลิฟต์ 3 ตัว และลิฟต์บริการ 1 ตัว อัตราส่วนการใช้ลิฟต์เฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ที่ 121 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ถือว่าเป็นตัวเลขที่พอใช้ได้ไม่หนาแน่นจนเกินไป

การเดินรถภายในโครงการบางช่วงจะเป็นแบบเดินรถทางเดียว แต่บางช่วงก็สามารถวิ่งสวนเลนกันได้ โดยจากประตูทางเข้าโครงการขับตรงเข้ามาสามารถวนมาจอดที่จุด Drop off ด้านหน้าล็อบบี้ของ Tower A และขับวนออกอ้อมด้านหลัง Tower A เพื่อไปยังพื้นที่บริเวณด้านหลัง หรือจะขับผ่านจุด Drop off เข้ามาก็จะเจอไม้กระดกกั้นอยู่ ให้ขับตามลูกศรเพื่ออ้อมไปยังทางเข้าที่จอดรถบริเวณใต้อาคาร B ส่วนพื้นที่จอดรถสามารถจอดได้ที่ Tower A บริเวณชั้น Ground และ Tower B ที่ชั้นใต้ดิน ชั้น Ground และชั้น 1-3 ทั้งโครงการสามารถจอดรถได้ 53% (รวมจอดซ้อนคัน) ระบบจอดรถหมุนเวียนไม่ฟิกซ์ที่จอด

Floor Plan ชั้น Ground : ประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และพื้นที่จอดรถ
Floor Plan ชั้น 1-2 เป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด

Floor Plan ชั้น 3 : Tower A จะมีห้องพักอาศัย ส่วน Tower B จะเป็นพื้นที่จอดรถ

Floor Plan ชั้น 4 : มีทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกและห้องพักอาศัย
โดยออกแบบมาแยกส่วนพื้นที่พักอาศัยกับพื้นที่ส่วนกลางออกจากกันเป็นสัดส่วน

Floor Plan ชั้น 5 : เป็นชั้นที่มีทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกบางส่วนและห้องพักอาศัย

Floor Plan ชั้น 6-13 : เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด

Floor Plan ชั้น 14 : เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดซึ่งเป็นห้องขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยเป็นแบบ 2 ห้องนอน

Floor Plan ชั้น Rooftop : เป็นสิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมจุดชมวิว และมีสะพานเชื่อมระหว่าง Tower A กับ Tower B

มุมมองโดเดลจำลองฝั่งทิศตะวันออกด้านหน้าโครงการติดพหลโยธิน

มุมมองโมเดลจำลองอาคารฝั่งทิศเหนือ ติดกับโชว์รูม Mitsubishi บ้านพักอาศัยสูง 1-2 ชั้น

โมเดลจำลองอาคารด้านหลังฝั่งทิศตะวันตก จะติดกับบ้านพักอาศัยสูง 1-2 ชั้น และคอนโดสูง 8 ชั้น

มุมมองโมดเดลจำลองอาคารฝั่งทิศใต้ ติดกับคอนโดสูง 15 ชั้น

โมเดลจำลองพื้นที่บริเวณจุด Drop off ซึ่งจะอยู่ใกล้กับ Grand Lobby ของ Tower A

โมเดลจำลองตำแหน่งร้านค้าตั้งอยู่ที่ Tower A

โมเดลจำลองสนามเด็กเล่นตั้งอยู่ด้านหลัง Tower A

โมเดลจำลองสระว่ายน้ำบนชั้น 4 พร้อมพื้นที่ Sun bed แบบ Semi-outdoor
จากชั้น 4 มีบันไดเดินขึ้นไปยังห้องฟิตเนส และห้องโยคะบนชั้น 5 ได้

โมเดลจำลองสวนและจุดชมวิวบนชั้น Rooftop
ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวก
Facilities ขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 3,500 ตร.ม. เรียกว่าจัดเต็มเลยทีเดียว มอบมาให้ลูกบ้านมากถึง 30 รายการด้วยกัน ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ Tower B ซึ่งถือว่ามากที่สุดเท่าที่ทางออริจิ้นเคยให้มา แบ่งพื้นที่กระจายไว้ที่ชั้น Ground, ชั้น 4, ชั้น 5 และชั้น Rooftop ซึ่งข้อดีของการจัดว่างสิ่งอำนวยความสะดวกกระจายตามชั้นแบบนี้คือช่วยลดความหนาแน่นเวลาที่ลูกบ้านมาใช้บริการพร้อมกัน และลูกบ้านยังได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นอีกด้วย หากลูกบ้าน Tower A จะมาใช้บริการพื้นที่ส่วนกลางที่ Tower B ต้องลงลิฟต์ที่ชั้น 4 จะมีทางเชื่อมเพื่อเดินข้ามมายัง Tower B ได้ โดยแต่ละชั้นประกอบด้วย
ชั้น G
- Grand Lobby (Tower A) พื้นที่ขนาด 144 ตร.ม.
- Business room
- Co-working space พื้นที่ขนาด 170 ตร.ม.
- Private Lobby (Tower B) พื้นที่ขนาด 195 ตร.ม.
- ร้านค้า 3 ยูนิต
- Rolling Hill garden ออกแบบเป็นสวนเล่นระดับ
- Pocket Garden
- Playground อยู่ด้านหลัง Tower A เป็นสนามทรายแต่ไม่มีเครื่องเล่นมาให้

ภาพจำลองบรรยากาศ Grand Lobby แบบ Double Volume เพดานสูง 7 เมตร ตกแต่งในสไตล์ Modern Luxury

ภาพจำลองบรรยากาศภายในห้อง Co-Working Space
ชั้น 4
- Game pool
- Laundry
- Coin operate vending machine
- Private nook (มีโต๊ะพูล และ Wifi)
- Sunken lounge โซนนั่งเล่นแบบหลุมลดระดับลงจากพื้น
- Bean bag zone
- Sun bed
- สระว่ายน้ำแบบ L-shape ความยาว 35 เมตร
- Cuve Jacuzzi
- Reflecting pond
- Multipurpose lawn
- Secret Garden
- Semi Outdoor Terrace

ภาพจำลองบรรยากาศสระว่ายน้ำ ระบบเกลือแบบ L-Shape บนชั้น 4 ขนาด 35 x 6 เมตร ลึก 1.2 เมตร
พร้อมอ่างจากุซซี่ และระบบบับเบิ้ลเจ็ทสำหรับนวดตัว

มีสวนล้อมรอบสระ สามารถมองเห็นวิวรถไฟฟ้าได้

ภาพจำลองบรรยากาศโซนนั่งเล่นบนชั้น 4
ชั้น 5
- Yoga room
- Fit club (ห้องฟิตเนส พร้อมเครื่องเล่น 14 ชิ้น) บนเนื้อที่ 135 ตร.ม.
ชั้น Rooftop
- The Excited Sky bridge
- Sky lounge
- Sky sunset party
- Sky rolling Garden
- Sky BBQ area
- Sky Social deck
- จุดชมวิว 360 องศา

ภาพจำลองบรรยากาศจุดรับลมชมวิวและพื้นที่นั่งเล่นบนชั้น Rooftop มีเนื้อที่ 649 ตร.ม. มองเห็นวิวสนามบินดอนเมืองลูกบ้านแต่ละอาคารถ้าจะขึ้นมาบนนี้ต้องลงลิฟต์ที่ชั้น 14 และเดินขึ้นบันไดหนีไฟมายังชั้น Rooftop ค่ะ
สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ
- ที่จอดรถประมาณ 53% (รวมจอดซ้อนคัน) Tower A (รอบอาคาร), Tower B (ชั้นใต้ดิน และชั้น 1-3)
- ลิฟต์โดยสาร 6 ตัว แบบล็อคชั้น และลิฟต์บริการ 2 ตัว
- กล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
- ควบคุมการเข้าออกด้วยระบบ Access Card
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
- พื้นที่สวนกว่า 2,700 ตร.ม.
ภาพห้องตัวอย่างและ Lay out
ห้องพักของโครงการนี้ส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ส่วนที่เหลือเป็นห้องแบบ 2 Bedroom และ 2 Duplex มีให้เลือก 5 Type ด้วยกัน โดยใน 5 Type หลักนี้ยังแยกย่อยออกไปอีกมากถึง 20 สไตล์ สามารถรองรับทุกไลฟ์สไตล์ของการอยู่อาศัยไม่ว่าจะอยู่คนเดียว หรือจะอยู่กันเป็นครอบครัวขนาดใหญ่
- B1 : 1 Bedroom ขนาด 21.30 - 31.70 ตร.ม. จำนวน 81 ยูนิต
- B2 : 1 Bedroom ขนาด 28.20 - 29.80 ตร.ม. จำนวน 335 ยูนิต
- BP : 1 Bedroom Plus ขนาด 33.40 - 38.80 ตร.ม. จำนวน 193 ยูนิต
- C : 2 Bedrooms ขนาด 48.90 - 51.20 ตร.ม. จำนวน 75 ยูนิต
- D : Duplex ขนาด 33.00 - 62.00 ตร.ม. จำนวน 42 ยูนิต
ห้องของโครงการนี้ขายแบบ Fully Fitted จัดเต็มเฟอร์นิเจอร์มาให้ครบ ทั้งตู้เสื้อผ้า Built-in, เตียง, โซฟา, ชั้นวางทีวี, ชุดครัว Built-in และเครื่องปรับอากาศ ยี่ห้อ Daikin Inverter ยกเว้นเพียงแค่ผ้าม่าน ฟูกที่นอน และเครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างเท่านั้นที่ไม่ได้ให้มา เรียกว่าซื้อเพิ่มอีกนิดหน่อยแค่นี้ก็หิ้วกระเป๋ามาอยู่ได้เลย คุณภาพวัสดุที่จัดให้เกรดค่อนข้างดีที่ออกแบบโดยออริจิ้น พิเศษเฉพาะโครงการนี้เท่านั้น ภายในห้องตกแต่งมาในโทนสี Pink Gold/Rose Gold เช่นกัน
ที่สำนักงานขายจัดห้องตัวอย่างมาให้ชมด้วยกัน 2 แบบ เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 28.00 ตร.ม. และ 1 Bedroom ขนาด 30.00 ตร.ม. ตามไปชมกันทีละห้องเลยค่ะ เริ่มจากห้องแรก
1) ห้องแบบ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยขนาด 28 ตร.ม.


ได้ Digital Door Lock ของ Hafele สามารถใช้งานได้ 3 ระบบ ทั้ง Password, การ์ด และกุญแจ
ประตูเป็นบาน MDF กรุผิวเมลามีน ขนาด 0.90x2.20 เมตร หรือเทียบเท่า

พื้นลามิเนตขนาด 8 มม. ตัวจบพื้นเป็นลามิเนต

ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.55 เมตร ห้องส่งมอบจริงไม่ได้ Drop ฝ้าเพดานนะคะ ผนังได้แบบฉาบเรียบทาสีขาว
เข้ามาจะเป็นห้องรับแขกก่อน วางโซฟาได้ขนาด 2 ที่นั่ง แต่ไม่ใช่แบบนี้

ได้ชั้นวางทีวี พร้อมตู้ลอยด้านบน หน้าบานสามารถเลื่อนซ้ายขวาได้ ตัดขอบด้วยโทนสี Pink Gold

ช่องขวาสุดของตู้ด้านล่างออกแบบเป็นตู้สำหรับเก็บรองเท้ามาให้

ระยะดูทีวีประมาณ 170 ซม.

มุมนี้มองย้อนกลับไปที่ประตูทางเข้าห้อง

ห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอน ขนาดใหญ่สูงจรดฝ้า กระจกสีเขียวตัดแสง กรอบอลูมิเนียม Anodized สีดำ

เปิดได้กว้างเดินเข้าออกสะดวก
ในห้องนอนได้ไฟ 2 ดวง และแอร์ 1 ตัว

ตัวล็อกมาตรฐาน

เข้ามาจะเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in แบบานเลื่อน 2 ตอน สูงจรดฝ้า
หน้าบานฝั่งหนึ่งเป็นบานทึบโทนสี Pink Gold นิดๆ และอีกฝั่งเป็นกระจกเงาบานใหญ่เต็มบาน

หน้าบานสามารถเลื่อนซ้ายขวาได้

วางเตียงขนาด 5 ฟุตชิดหน้าต่าง จากประตูถึงเตียงมีระยะห่าง 130 ซม. สามารถยืนแต่งตัวได้แบบสบายๆ
ปลายเตียงเหลือระยะเดิน 35 ซม.

จากเตียงถึงหน้าต่างมีระยะเดิน 45 ซม.

หน้าต่างแบบบาน Fix และบานกระทุ้งสำหรับเปิดระบายอากาศ

ระหว่างห้องครัวกับห้องน้ำทางโครงการออกแบบเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงาน
หรือจะตั้งเป็นโต๊ะเครื่องแป้งสำหรับแต่งตัวที่มุมนี้ก็ได้

ได้โต๊ะทำงานพร้อมชุดตู้ Built-in ยกเว้นเก้าอี้สตูและกระจกเงาที่ไม่ได้ให้มา

ยกธรณีห้องน้ำสูง 15 ซม. ประตูห้องน้ำวัสดุเป็นไม้ยางอัดชิดกันชื้น แบบบานผลักเข้าด้านใน
พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิก ขนาด 40x40 ซม.

ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่ใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้งแยกออกจากกันชัดเจน
ติดกระจกเงาบานใหญ่มาให้ตามแบบนี้

อ่างล้างหน้าของ Mogen สีขาวขนาดใหญ่ ด้านล่างมีช่องสำหรับเก็บของหรือวางผ้าขนหนูได้

โถสุขภัณฑ์ของ Mogen

ฉากกั้นอาบน้ำกระจกเทมเปอร์ มือจับรูปตัว U จับได้ถนัดมือ

ชุดฝักบัวทรงกลมของ VRH ขนาดไม่ใหญ่มาก พร้อมที่วางสบู่ทรงสี่เหลี่ยมของ VRH

บนเพดานติดตั้งพัดลมดูดอากาศมาให้

ห้องครัวกั้นเป็นสัดส่วนด้วยประตูบานเลื่อน 2 ตอน ช่วยป้องกันกลิ่นอาหารลอยไปยังพื้นที่อื่นๆ ของได้ดี
เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหารบ่อยๆ

พื้นปูด้วยลามิเนตทนน้ำและความชื้นได้ในระดับนึงเท่านั้น

พื้นที่วางตู้เย็นกว้าง 65 ซม. ทางโครงการวางตู้เย็นได้ขนาด 7.4 คิว มาให้ดูเป็นตัวอย่าง วางตู้ติดประตูบานเลื่อน

ได้ชุดครัว Built-in พร้อมช่องเก็บของด้านบนและด้านล่าง
ระยะทำครัวระหว่างผนังกับเคาน์เตอร์ครัวกว้างประมาณ 70 ซม.

ตำแหน่งเครื่องซักผ้า และไมโครเวฟวางไว้ใต้เคาน์เตอร์ครัว วางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าขนาด 8 กิโลกรัม

ช่องสำหรับเก็บของด้านบน บานพับตู้เป็นแบบ Soft Close

ได้เตาไฟฟ้า 2 หัวของ Hafele สามารถปรับได้ 9 ระดับ

ได้เครื่องดูดควันของ Hafele แบบระบบหมุนเวียน และจะส่งอากาศบริสุทธิ์ออกมาด้านบน สามารถปรับได้ 2 ระดับ
ได้ที่ราวแขวนครัวติดผนังมาให้แบบนี้ แต่ไม่ได้ Backsplace ห้องจริงเป็นฉาบเรียบทาสี

อ่างล้างจานหลุมเดียว พร้อมก๊อกน้ำหัวโค้งของ Haffele ออกแบบให้มีความลึกเป็นพิเศษเพื่อความสะดวกในการล้างจาน และช่วยป้องกันน้ำกระเด็นออกมาด้านนอก

ช่องเก็บของด้านล่างใต้เคาน์เตอร์ครัว

ประตูระเบียงเป็นบานเลื่อน 2 ตอน เปิดจากซ้ายไปขวา กรอบอลูมิเนียมสีดำ อยู่ติดกับเคาน์เตอร์ครัว
สามารถเปิดประตูเพื่อช่วยระบายกลิ่นเวลาทำอาหารได้ดี

ธรณีระเบียงยกสูง 13 ซม. พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิกกันลื่น ขนาด 30x30 ซม.

คอมเพรสเซอร์ยกลอยไว้ที่ผนังฝั่งขวาของระเบียงทำให้สามารถใช้พื้นที่ตรงระเบียงได้อย่างเต็มพื้นที่
ติดตั้งระแนงสำหรับบังสายตามาให้เรียบร้อย
ราวระเบียงสูงประมาณ 120 ซม. สูงกว่ามาตรฐานทั่วไป

ปลั๊กไฟ และ สวิตซ์ไฟสีขาวของ Siemens
2) ห้องแบบ 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอยขนาด 34 ตร.ม.


เข้ามาเป็นโซนห้องนั่งเล่นวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง

ระยะดูทีวี 230 ซม. กว้างกว่าห้องที่แล้ว

ได้ชั้นวางทีวี Built-in

ห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอน

จากห้องนอนมองย้อนกลับไปยังประตูทางเข้าห้อง

จากประตูถึงเตียงเหลือพื้นที่กว้างประมาณ 110 ซม. และปลายเตียงเหลือพื้นที่เดินประมาณ 40 ซม.

ปลายเตียงติดตั้งปลั๊กไฟสำหรับติดตั้งทีวีไว้ให้แล้ว
แนะนำให้ติดทีวีแบบแขวนผนังเพื่อให้เหลือทางเดินบริเวณปลายเตียงได้สะดวก

ติดกับห้องนอนจะเป็นห้อง Plus หรือห้องอเนกประสงค์

สามารถทำเป็นห้องแต่งตัว ห้องทำงาน หรือจะใส่เตียง 3.5 ฟุตทำเป็นห้องนอนก็ได้
โดยห้องนี้จะอยู่ติดกับระเบียง

พื้นที่ระเบียงห้องนี้จะเล็กกว่าห้องที่แล้ว ติดคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ทางขวา พร้อมที่บังสายตา

Type นี้จะได้เป็นครัวเปิด แยกส่วนเตรียมอาหารออกจากเคาน์เตอร์ครัว
เครื่องซักผ้าอยู่ใต้พื้นที่เตรียมอาหาร

โดยพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารสามารถเปิดขึ้นเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้งานเวลาที่ต้องเตรียมอาหาร

และพับเก็บได้เวลาที่ไม่ได้ใช้งานแล้วเป็นการประหยัดพื้นที่ไปในตัว

ตำแหน่งห้องน้ำจะอยู่ใกล้กับเคาน์เตอร์ครัว

สุขภัณฑ์ในห้องน้ำเป็นของ Mogen เหมือนกัน แต่พื้นที่ใช้สอยจะขนาดใหญ่กว่าห้องที่แล้วเล็กน้อย
ราคาและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยประมาณ (ณ 6 ส.ค. 2561)
ราคาเริ่มต้น
- ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท สำหรับห้อง 1 Bedroom ขนาด 23.60 ตร.ม.
- ราคาเริ่มต้น 2.95 ล้านบาท สำหรับห้อง 1 Bedroom ขนาด 28.40 ตร.ม.
- ราคาเริ่มต้น 3.25 ล้านบาท สำหรับห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.90 ตร.ม.
- ราคาเริ่มต้น 5.01 ล้านบาท สำหรับห้อง 2 Bedrooms ขนาด 51.20 ตร.ม.
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
- เงินกองทุน 500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
- ค่าบำรุงส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม. (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
- ผู้จะซื้อเป็นผู้ชำระค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า/ประปา/ และค่าติดตั้ง ณ วันโอนกรรมสิทธิ์
- ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุด ผู้ซื้อและผู้ชายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าจดจำนอง 1% ของวงเงินกู้ ผู้จะซื้อเป็นผู้ชำระ
โปรโมชั่น
- ฟรี iPhone X 64 Gb
- จอง + ทำสัญญา 100,000 ผ่อน 0% นาน 6 เดือน
สถานะปัจจุบันของโครงการ (ณ 6 ส.ค. 2561)
ไนท์บริดจ์ พหลโยธิน อินเตอร์เชนจ์ เตรียมเปิด Pre sales อย่างเป็นทางการ 15-16 ก.ย. นี้ ณ สำนักงานขายโครงการ ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการขอ EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) เปิดขายทุกชั้นทุกห้องมียอดขายไปแล้วกว่า 50% จะเริ่มก่อสร้างประมาณ Q2 ปี 2561 และคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณ Q1 ปี 2563
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Call Center 020 300 000 หรือ สำนักงานขาย 061-401-8000 หรือ www.knightsbridge.origin.co.th
ดูรายละเอียดโครงการ ไนท์บริดจ์ พหลโยธิน อินเตอร์เชนจ์
แก้ไขล่าสุด : 4 ธ.ค. 61

โดย
:
ดวงพร คล้ายมี
กองบรรณาธิการ เช็คราคา.คอม