ส่องบิ๊กไบค์ใหม่และน่าจองในงาน Motor Show 2020
ตลาดบิ๊กไบค์ (Bigbike) ในปี 2020 จะมีตัวเลือกใหม่และมีความน่าสนใจให้เหล่าไบค์เกอร์ได้เลือกเป็นเนื้อคู่กันมากขึ้น ทั้งฝั่งญี่ปุ่นและยุโรปต่างมี่รุ่นใหม่ออกมาอวดโฉมกันทั้งนั้น นอกจากนี้ปี 2020 ยังมีแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาทั้งอินเดียและจีน หรือเป็นการกลับอีกครั้งของแบรนด์ยุโรปอย่าง KTM ซึ่งพร้อมมาจัดแสดงในมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ด้วย นับว่าตลาดบิ๊กไบค์จะเริ่มกลับมาคึกคัก เราจึงได้รวบรวมรุ่นเด่นและที่น่าสนใจในงานนี้มาให้ชมรายละเอียด พร้อมแล้วไปดูกันเลย
ยามาฮ่า SR400 รุ่นพิเศษ มาพร้อมลวดลายตัวถังเฉพาะตัว และการปรับครั้งสุดท้ายให้ได้เก็บเป็นตำนานกัน และคงความเป็นหนึ่งเดียวที่ครองหัวใจนักบิดได้เสมอ นับตั้งแต่วันเปิดตัวเมื่อ 30 ปีก่อน ยามาฮ่า SR400 ก็ได้กลายเป็นรถในดวงใจของนักบิดที่ชื่นชอบความเรียบง่าย คล่องตัว และผูกพันกับมอเตอร์ไซค์มายาวนาน ไม่ว่าจะกี่ปี ความนิยมในตัว SR ไม่เคยจางหาย ปัจจุบัน ยามาฮ่า SR400 พร้อมแล้วที่จะเป็นส่วนเติมเต็มชีวิตประจำวันของนักบิดรุ่นใหม่ผู้หลงในเสน่ห์เรทโทรที่อยู่เหนือกาลเวลา
บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ นับเป็นเจเนอเรชั่นที่สาม ติดตั้งเครื่องยนต์ 4 สูบและเทคโนโลยี BMW ShiftCam สมรรถนะโดยรวมของบีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ จึงได้รับการยกระดับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่ง BMW ShiftCam มีส่วนสำคัญในการเสริมความสมดุลของเพลาลูกเบี้ยว และจังหวะการทำงานของเครื่องยนต์ เสริมด้วยระบบส่งน้ำมันเชื้อเพลิงและระบบท่อไอเสียที่ได้รับการปรับปรุงให้มีน้ำหนักเบาลงถึง 1.3 กิโลกรัม นอกจากนี้ เครื่องยนต์ 4 สูบ 4 จังหวะ ขนาด 999 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำและน้ำมัน ยังส่งพละกำลังเพิ่มขึ้น 6 กิโลวัตต์ (8 แรงม้า) เป็น 152 กิโลวัตต์ (207 แรงม้า) ที่ 13,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 113 นิวตันเมตร ที่ 11,000 รอบต่อนาที ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการขับขี่และการเร่งขณะขับขี่ที่ความเร็วต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น และที่สำคัญ บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR ใหม่ ยังมีน้ำหนักเบาลงถึง 11 กิโลกรัม ลงจาก 208 กิโลกรัมในรุ่นก่อนหน้ามาอยู่ที่ 197 กิโลกรัม และสีใหม่ Hockenheim Silver Metallic มากับราคาใหม่ 910,000 บาท
บีเอ็มดับเบิลยู F 900 R ใหม่ ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบอิสระในการขับขี่และตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายในไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ จึงเหมาะสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าสำหรับนักบิดสายสปอร์ตมากประสบการณ์หรือนักบิดมือใหม่ . ขุมพลังติดตั้งเครื่องยนต์สองสูบแถวเรียงที่ได้รับการพัฒนาให้มีความทรงพลังยิ่งขึ้น หลังจากที่เปิดตัวไปพร้อมบีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS ในปี 2561 ให้กำลังสูงสุด 99 แรงม้า แรงบิด 88 นิวตันเมตรที่ 6,750 รอบต่อนาที โดดเด่นด้วยขนาดของเครื่องยนต์ที่เพิ่มขึ้นเป็น 895 ซีซี จาก 853 ซีซี พร้อมองศาการจุดระเบิดที่ 270/450 องศา และระบบเก็บเสียงแบบใหม่ ให้เสียงทรงพลังและเร้าใจยิ่งขึ้น พร้อมระบบคลัทช์แบบ anti-hopping และระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR) จากการชะลอตัวหรือลดเกียร์ เพื่อมอบความปลอดภัยยิ่งขึ้น สำหรับสี San Marino Blue Metallic ที่เห็นนี่จ่าย 525,000 บาท

All New Forza350 ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Only For The Greatest เพราะที่สุด มีเพียงหนึ่งเดียว ติดตั้งเครื่องยนต์ eSP+ ขนาด 330 ซีซี 4 วาล์ว ให้การเผาไหม้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แรงเสียดทานต่ำลง ให้สมรรถนะสูงและแรงส่งที่ต่อเนื่อง พร้อมกระเดื่องวาล์วแบบโรลเลอร์ยูนิแคม ให้อัตราเร่งติดมือ เพิ่มเพลาบาลานเซอร์เพื่อสร้างสมดุลให้เพลาข้อเหวี่ยง หม้อกรองอากาศมีขนาดใหญ่ถึง 5.5 ลิตร เพิ่มประสิทธิภาพในการอัดอากาศเข้าสู่ห้องเครื่องยนต์ พร้อมหม้อน้ำที่ย้ายตำแหน่งมาอยู่ที่ด้านหน้ารถ ส่งผลให้การระบายความร้อนเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น และยังช่วยในการกระจายน้ำหนักมาทางด้านหน้าทำให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น ตัวรถยังติดตั้งท่อไอเสียใหม่ที่คายไอเสียออกได้อย่างรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม ช่วยรักษากำลังตั้งแต่ช่วงออกตัวจนถึงช่วงเร่งแซง All New Forza350 มาพร้อมฟังก์ชันใหม่ที่เหนือชั้น ไม่ว่าจะเป็นกระจกบังลมหรือวินด์สกรีนหน้าที่ปรับระดับได้สูงถึง 150 มม. ช่วยลดแรงลมปะทะขณะขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น ระบบไฟฉุกเฉิน ESS เพิ่มความปลอดภัย สะดวกสบายด้วย In-Console USB Charger & Bottle Holder ช่องชาร์จไฟผ่าน USB Port ขนาดใหญ่ที่สามารถวางขวดน้ำได้ในตัว พร้อมด้วยฟังก์ชันล้ำสมัยมากมาย เช่น แผงหน้าปัดแบบดิจิทัลสไตล์ Cockpit Area แสดงข้อมูลการขับขี่ครบครัน รีโมทอัจฉริยะฮอนด้าสมาร์ทคีย์ระบุตำแหน่งพร้อมกันขโมย ระบบเบรก ABS หน้า-หลัง สะดวกสบายด้วยกล่องเก็บของขนาดใหญ่ใส่หมวกกันน็อกได้ถึง 2 ใบ โดยเปิดตัวและราคากันในงานนี้ค่าตัวสุดคุ้มเพียง 173,500 บาท
ซูซูกิ BURGMAN 400 สปอร์ตสกู๊ตเตอร์ เมด อิน เจแปน เบิร์กแมน 400 เวอร์ชันปี 2020 จากญี่ปุ่นนำเข้าโดยซูซูกิ ยังคงได้รับความนิยมข้ามปีอย่างต่อเนื่อง ด้วยขุมพลังขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1 สูบ 399 ซีซี DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 31 แรงม้า ที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 36 นิวตันเมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที ระยะสูงเบาะ 755 มม. น้ำหนักตัวรถอยู่ที่ 215 กิโลกรัม
ระบบกันสะเทือนด้านหลังของ
Burgman 400 เป็นแบบ เป็นโช๊คอัพเดี่ยว แบบ LINK TYPE ให้เสถียรภาพในการขี่ดีเยี่ยมและนุ่มนวล สามารถปรับพรีโหลดได้ถึง 7 ระดับ ส่วนระบบเบรกหยุดสั่งได้กับดิสก์เบรกหน้าจานคู่ขนาด 260 มม. และหลังขนาด 210 มม. พร้อม ABS หน้า-หลัง
Ninja ZX-25R ขุมพลังสี่สูบเรียงที่สุดแห่งความเร้าใจ โมเดลซูเปอร์สปอร์ต 250 ซีซี รุ่นใหม่แบบ All-new เปิดตัวและราคากันในงานนี้ รายละเอียดเริ่มจาก ระบบไฟส่องสว่าง LED, เรือนไมล์เกรดไฮเอนท์ ระบบ Traction control และควิกชิพเตอร์สองทิศทาง มีความปราดเปรียวสไตล์เรซซิ่งและมีศักยภาพอันยอดเยี่ยมในสนามแข่งขัน ตอกย้ำให้เห็นถึงสมรรถนะชั้นเลิศของรถในตระกูล Ninja ZX ด้วยความพิเศษของคลาส 250 ตัวแรงก็เลยทำให้ราคาขยับตามไปด้วยโดยค่าตัวรุ่นนี้อยู่ที่ 269,000 บาท
Ninja 400 ใหม่ มาพร้อมรูปลักษณ์สไตล์นินจาที่มีความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ล้ำยุค ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก Ninja H2 รุ่นพี่ มิติของตัวรถที่ดูโออ่า เช่นเดียวกับแฟริ่งที่ถูกออกแบบมาให้มีเส้นสายดุดันนำสายตาคือสิ่งที่เติมเต็มอารมณ์ให้นึกถึงรถสปอร์ตพิกัดใหญ่ เสริมให้ดูดียิ่งขึ้นไปอีกด้วยดีไซน์การเก็บงานที่เหนือระดับ ไฟหน้า LED คู่ถูกออกแบบให้มีรูปทรงปราดเปรียว (แต่ละฝั่งมีไฟสูง ไฟต่ำ เช่นเดียวกับไฟหรี่ LED) ให้ทัศนวิสัยที่ดีในเวลากลางคืนพร้อมความสว่างที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก สีดำ 210,400 บาท รุ่น SE 216,200 บาท รุ่น HG 226,800 บาท
Triumph Bobber TFC เป็นรถ TFC รุ่นที่ 3 ที่ไทรอัมพ์เปิดตัวพร้อมจอง โดย Bobber TFC เคาะราคาที่ 869,000 บาท โดยผลิตเพียง 750 คันทั่วโลก ในไทยได้มาไม่กี่คัน ใครที่ชอบ Bobber TFC ที่มีรายละเอียดสุดพรีเมียม และมีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม รวมถึงแรงบิดของเครื่องยนต์ขนาด 1200 ซีซี มีน้ำหนักเบากว่าเดิม รวมไปถึงอุปกรณ์และเทคโนโลยีเฉพาะรุ่นตามแบบฉบับ TFC ต้องรีบไปจองในงานนี้แล้ว