Gusto "บ้านอร่อย" ปรุงยังไง ให้ขายดี
กัสโต้คือแบรนด์ทาวน์โฮมน้องใหม่ในเครือของควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) ที่เปิดโครงการใหม่ทีไร มักได้กระแสตอบรับที่ดีทุกที วันนี้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับหัวเรือใหญ่กัสโต้ 'คุณมาโนช เทพอาสน์' กรรมการบริษัท กัสโต้ วิลเลจ จำกัด ถึงเคล็ดลับเบื้องหลังการสร้างบ้านที่มักจะตอบโจทย์ลูกค้าที่กำลังมองหาทาวน์โฮมในราคาจับต้องได้กันค่ะ
ตอบโจทย์ลูกค้า กระแสตอบรับดีมาก
สัมผัสแรกที่ทีม Checkraka รู้สึกได้ตั้งแต่เริ่มสัมภาษณ์ก็คือคุณมาโนชเป็นผู้บริหารที่เป็นคนง่ายๆ ออกจะติดดินด้วยซ้ำ และดูจะเข้าอกเข้าใจชีวิตความต้องการของคนทั่วๆ ไปที่มองหาที่อยู่อาศัยในราคาที่จับต้องได้เป็นอย่างดี "วันนี้ผมขออนุญาตใส่ T-Shirt ให้สัมภาษณ์แบบง่ายๆ นะครับ" เท่าที่เราทราบมา โครงการในอดีตหลายๆ โครงการของกัสโต้ขายค่อนข้างดีมาก ตัวอย่างเช่น โครงการที่พระราม 2 เปิดตัววันแรกก็ขายหมดเฟสแรกเลย หรือโครงการที่สาทร-ตากสิน ก็ขายหมดแล้วเช่นกันในตอนนี้ "ผมคิดว่าการที่โครงการหลายโครงการเราได้รับกระแสตอบรับที่ดี น่าจะมาจากหลายปัจจัยครับ ทั้งในเรื่องของทำเล ราคา ความโปร่งโล่งของส่วนกลาง และในท้ายที่สุดความคุ้มค่าที่ลูกค้าจะได้รับกับเงินที่เสียไป"
เปรียบเทียบตัวเองเป็นลูกค้าเลย "เราอยากอยู่ตรงนี้มั้ย?"
คุณมาโนชเปรียบเทียบการพัฒนาโครงการให้โดนใจลูกค้ากับการทำอาหารให้ถูกปากคนกิน "ผมเป็นคนชอบทำอาหารครับ แล้วพอดีคำว่า "กัสโต้" แปลว่า ความเพลิดเพลินสนุกสนาน (Enjoyment) ถ้าเปรียบกับอาหารก็แปลได้ว่าอาหารที่รสชาติดี และอร่อย แบรนด์คิวเฮ้าส์ถูกถ่ายทอดมาทางความคิดที่ว่า ทำของดีเหมือนเชฟปรุงอาหารที่ดี ไม่ใช่แค่ทำโครงการขึ้นมาแล้วเอายี่ห้อไปแปะเฉยๆ แต่เราใส่ใจทุกขั้นตอนตั้งแต่การหาทำเลเลย" คุณมาโนชเป็นผู้บริหารที่ดูแลแต่ละโครงการตั้งแต่ขั้นตอนแรกไปจนถึงขั้นตอนสุดท้ายของทุกโครงการ และเป็นกรรมการบริหารที่ลงไปดูทำเลเองทุกโครงการ เพื่อให้แน่ใจว่าทำเลนี้เหมาะสมสำหรับสร้างบ้านจริงๆ คุณมาโนชเปรียบตัวเองเหมือนลูกค้าที่กำลังมองหาบ้านเลยค่ะ "เวลาหาทำเล ผมถามตัวเองง่ายๆ เลยครับว่า เราอยากอยู่ตรงนี้มั้ย? " สั้นๆ ง่ายๆ แต่ตรงประเด็นค่ะ
จุดเด่นกัสโต้ "บ้านเหมือนอาหาร จะอร่อยได้ ... เชฟต้องเก่ง"
กัสโต้เป็นบริษัทลูกของกลุ่มควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) ซึ่งโดยปกติ QH จะเป็นผู้ประกอบการที่ทำโครงการส่วนใหญ่ในเกรดราคาที่สูง เมื่อโจทย์เปลี่ยนไปว่าจะเป็นอีกตลาดหนึ่งที่ราคาไม่แพง แต่ก็ยังต้องเป็นสินค้าที่ดี จึงกลายมาเป็นทาวน์โฮมภายใต้แบรนด์ "กัสโต้" ในฐานะคนชอบทำอาหาร คุณมาโนชใช้คอนเซปต์ทำอาหารมาอธิบายถึงแนวคิดการพัฒนาโครงการอีกครั้ง "เปรียบเทียบเหมือนก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ซึ่งเป็นอาหารพื้นๆ มีขายกันเยอะแยะ แต่ถ้าจะทำให้ได้อร่อยเนี่ย หัวหน้าเชฟต้องใส่ใจลงมาดูแล ผมมีพื้นฐานโดยตรงทางด้านวิศวกรรมและการก่อสร้าง ดังนั้น ผมจึงให้ความสำคัญกับคุณภาพการก่อสร้าง เสาเข็มเราจะเคาะทุกต้น เวลาที่เชฟ หรือผู้บริหารอย่างผมใช้เวลาลงไปกับแต่ละโครงการ แม้จะต้องใช้เวลาเยอะ แต่เพื่อแลกกับคุณภาพที่ได้มา ผมถือว่าคุ้มค่ามากทั้งต่อตัวสินค้าเราเอง และต่อความเป็นอยู่ที่ดีของลูกค้าเรา นอกจากนี้ ผมเองก็ไม่ได้ใส่ใจแค่เรื่องความแข็งแรง หรือคุณภาพสินค้า แต่ผมใส่ใจในเรื่องบรรยากาศด้วย เพราะบรรยากาศในโครงการทาวน์โฮมไม่สามารถเกิดขึ้นเองได้ แต่ต้องเกิดจากการคิดแล้วสร้างขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการใส่ต้นไม้ ดอกไม้ และจัดวางให้เป็นธรรมชาติ น่าอยู่ และมีการจัดผังให้ลงตัว เช่น ทาวน์โฮม 1 โครงการ ถ้าสร้าง 150 หลังจะคุ้มค่าการลงทุนที่สุด แต่กัสโต้มองว่า ให้มี 148 หลังก็พอ ไม่อยากให้ลูกบ้านรู้สึกอึดอัด"
ทาวน์โฮมของเรา "QC (Quality Control) กันทุกขั้นตอน ไม่ใช่รวบยอดครั้งเดียวในตอนท้าย"
จุดเด่นอย่างหนึ่งของกัสโต้คือ ผู้บริหารมีความรู้ด้านวิศวกรรม และการก่อสร้างเป็นอย่างดี ไม่ได้โตมาจากมาร์เก็ตติ้ง หรือไฟแนนซ์ และสิ่งที่เหนือกว่าบริษัทอื่นอีกอย่างก็คือ มีการอบรมปลูกฝังระบบ QC เข้าไปในคนทำงาน ในแนวคิดที่ว่า "ทุกขั้นตอนที่ทำคือการตรวจคุณภาพในตัวเอง" คือ การตรวจเช็คตัวเองตลอดเวลา และเมื่องานเสร็จแล้วให้พนักงานตรวจการทำงานตัวเองด้วย นอกจากนั้นยังมีทีมงานเข้าไปตรวจดับเบิ้ลเช็คในทุกๆ ขั้นตอนการทำงานที่ลูกค้ามองไม่เห็นด้วย คุณมาโนชกล่าวว่า "อาจจะเหนื่อยในตอนแรกๆ เวลาฝึกคน หลักการคือฝึกคนให้มีวินัยในการทำงานแต่ละชิ้น ผลงานก็จะออกมาดี และผมให้ความสำคัญกับการตรวจงานในแต่ละทุกขั้นตอนเลย ไม่ใช่แค่ไปตรวจงานรวบยอดครั้งเดียวในตอนท้าย" นอกจากนี้ การที่จำนวนโครงการทาวน์โฮมของกัสโต้ที่พัฒนาในแต่ละครั้ง มีจำนวนไม่ได้มากมายเหมือนเจ้าของโครงการรายใหญ่บางราย ทำให้ "ทีมงาน QC ของกัสโต้มีเวลาที่จะให้ความใส่ใจในแต่ละโครงการ เป็นโครงการไป ไม่ใช่รีบๆ ทำ รีบๆ ตรวจ ให้เสร็จๆ ไป"
บรรยากาศต้องน่าอยู่ "เดินเข้าโครงการต้องรู้สึกว่า 'ใช่เลย' "
กัสโต้ใส่ใจทุกรายละเอียด เริ่มตั้งแต่ซุ้มโครงการ จะเน้นให้เกิด "First Impression" เข้ามาแล้วต้องรู้สึกอยากอยู่ "ต้องการให้ลูกค้าเข้าไปแล้วรู้สึกว่า 'ใช่เลย' บรรยากาศอารมณ์นี้แหละที่ชอบ" นอกจากนี้ ภายในตัวบ้าน เราก็ให้ความสำคัญกับฝ้าเพดานที่ทำให้สูงขึ้น ทำให้รู้สึกโปร่งโล่ง และไม่อึดอัดเวลาอยู่จริง วัสดุการก่อสร้างบางอย่างที่อยู่ข้างใต้ หรืออยู่ด้านหลังที่ลูกค้ามองไม่เห็น และราคาอาจแพงกว่า แต่เพื่อคุณภาพที่ดีกว่า กัสโต้ก็เลือกสรรมาใช้ "เราพยายามทำให้เห็นว่ามีเงินสองล้านบาทก็สามารถอยู่ในบ้านที่มีคุณภาพได้"
จากการเก็บข้อมูลของกัสโต้ กลุ่มลูกค้าของกัสโต้จะมีอายุประมาณ 30 ปีเศษๆ ซึ่งคนในช่วงอายุนี้ เป็นวัยสร้างครอบครัว หรือสร้างฐานะ และใช้อินเทอร์เน็ตเป็นปัจจัยที่ 6 ดังนั้น จึงไม่แปลกที่ลูกค้าของกัสโต้จึงรับรู้ และศึกษาข้อมูลโครงการกัสโต้ผ่านทางสื่อออนไลน์เป็นจำนวนที่ไม่น้อย (ประมาณ 20-25% ของลูกค้าทั้งหมด) ซึ่งคุณมาโนชก็บอกทิ้งท้ายกับเราว่า หลายๆ โครงการทาวน์โฮมของกัสโต้ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดี และขายดีพอสมควร ปัจจุบัน วางแผนไว้ว่าจะเปิดโครงการใหม่ๆ เพื่อรองรับกำลังซื้อตรงนี้อีกกว่า 20 โครงการ
ปัจจุบัน กัสโต้มีโครงการที่พัฒนา และขายอยู่ทั้งสิ้น 10 โครงการ หากใครสนใจลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
www.gusto.co.th นะคะ และหลังจากจบสัมภาษณ์ ทางกัสโต้ได้กระซิบแนะนำโครงการใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ คือ "คาซ่า ซิตี้ ดอนเมือง" ซึ่งมีรูป Perspective โครงการเบื้องต้นให้ดูตามรูปข้างล่างนี้ แล้วพบกันใหม่คราวหน้ากับบทสัมภาษณ์ผู้บริหารเบอร์ 1 ของผู้ประกอบการชั้นนำของประเทศรายอื่นๆ ต่อไปนะคะ สวัสดีค่ะ