ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 65 ได้อนุมัติโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ผู้ได้รับสิทธิจำนวนไม่เกิน 26.5 ล้านคน วงเงิน 21,200 ล้านบาท
สำหรับโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 จะสนับสนุนวงเงินค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป บริการนวดสปา ทำผม ทำเล็บ และบริการขนส่งสาธารณะ ยกเว้นสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ บัตรกำนัล บัตรเงินสด และบริการรูปแบบอื่นๆ ที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า และสินค้าหรือบริการที่กระทรวงการคลังกำหนด จากภาครัฐในอัตราร้อยละ 50 ทั้งนี้ ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 800 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน – 31 ตุลาคม 2565 ให้กับประชาชนผู้ได้รับสิทธิที่เข้าร่วมโครงการจำนวนไม่เกิน 26.5 ล้านคน
การลงทะเบียนและการใช้จ่ายโครงการคนละครึ่ง เฟส 5
- ประชาชนผู้ที่เคยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 สามารถยืนยันสิทธิเพื่อเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ได้ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2565 โดยจะต้องใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ในการซื้อสินค้าหรือบริการภายใต้โครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ครั้งแรกผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ภายในวันที่ 14 กันยายน 2565 เวลา 22.59 น. ซึ่งหากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว จะถูกตัดสิทธิการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เฟส 5
- สำหรับประชาชนทั่วไปนอกเหนือจากข้อ 1 ต้องดำเนินการ ดังนี้
2.1 กรณีเป็นประชาชนที่เคยได้รับสิทธิมาตรการ/โครงการอื่นของรัฐที่มีการใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" หรือผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2565
2.2 ประชาชนทั่วไป (นอกจากข้อ 2.1) สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2565
ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับการยืนยันสิทธิจากการลงทะเบียนตามข้อ 2 ก่อนวันที่ 1 กันยายน 2565 จะต้องใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 โดยการซื้อสินค้าหรือบริการในโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ครั้งแรกผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ภายในวันที่ 14 กันยายน 2565 เวลา 22.59 น. ซึ่งหากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว จะถูกตัดสิทธิในโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 และสำหรับประชาชนที่ได้รับการยืนยันสิทธิจากการลงทะเบียนตามข้อ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2565 เป็นต้นไป จะต้องใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 โดยการซื้อสินค้าหรือบริการในโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ครั้งแรกผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ได้รับข้อความผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" หรือข้อความสั้น (SMS) แจ้งยืนยันสิทธิในโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ซึ่งหากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว จะถูกตัดสิทธิในโครงการคนละครึ่ง เฟส 5
คุณสมบัติประชาชนที่จะเข้าร่วมโครงการ
- ประชาชนที่มีสัญชาติไทย
- มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันลงทะเบียน
- มีบัตรประจำตัวประชาชน
- ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามฐานข้อมูลกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2565 และไม่เป็นผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3
- ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ และ
- ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ หรือฝ่าฝืนมาตรการใด ๆ ของรัฐเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19
การยืนยันตัวตน ก่อนการใช้สิทธิครั้งแรก
ผู้ได้รับสิทธิตามโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 จะต้องยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนที่สาขาหรือตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) ยกเว้นผู้ที่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนกับธนาคารกรุงไทยฯ หรือผู้ที่มีแอปพลิเคชัน "Krungthai NEXT" ซึ่งผ่านการยืนยันตัวตนกับธนาคารกรุงไทยฯ แล้ว ไม่ต้องยืนยันตัวตนใหม่อีก
การเข้าร่วมโครงการของผู้ประกอบการร้านค้า
สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ได้ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป เวลา 06.00 – 22.00 น. จนกว่ากระทรวงการคลังจะประกาศปิดรับสมัคร โดยผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โครงการอื่นของรัฐที่มีแอปพลิเคชัน "ถุงเงิน" แล้ว และประสงค์จะเข้าร่วมโครงการต่อไปจะต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "ถุงเงิน" ส่วนผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โครงการอื่นสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือสาขาหรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทยฯ
ขอบคุณข้อมูลจาก www.dailynews.co.th