x
icon-filter ค้นหาคอนโด
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

"วิภาวดีรังสิต" ประตูเชื่อมการค้าภูมิภาค ทำเลที่ตอบโจทย์ทั้งธุรกิจและการอยู่อาศัย

ข่าว icon 14 พ.ค. 62 icon 2,416
"วิภาวดีรังสิต" ประตูเชื่อมการค้าภูมิภาค ทำเลที่ตอบโจทย์ทั้งธุรกิจและการอยู่อาศัย


ลงทุนคอนโด-ออฟฟิศ อนาคตสดใส
ศูนย์กลางเศรษฐกิจของกรุงเทพมหานครกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป อันเป็นผลจากการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ และโครงข่ายคมนาคมที่มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น แน่นอนว่า พื้นที่ไข่แดงที่เรียกกันว่า CBD (Central Business District) จะยังคงเป็นพื้นที่ใจกลางเมืองซึ่งประกอบด้วย สีลม สาทร วิทยุ เพลินจิต สุขุมวิทตอนต้น และจะขยายไปที่พระราม 4 เมื่อการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่หลายโครงการมูลค่ารวมกันกว่า 2 แสนล้านบาท ไม่ว่าจะเป็น One Bangkok, ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค, สามย่านมิตรทาวน์ และเดอะ ปาร์ค เริ่มทยอยสร้างเสร็จและเปิดให้บริการ 
แต่ด้วยโครงข่ายรถไฟฟ้าที่เชื่อมโยงถึงกันมากขึ้น และได้ขยายออกสู่พื้นที่เมืองชั้นกลางและชานเมือง ได้เปิดพื้นที่รอยต่อให้มีศักยภาพในการเป็นพื้นที่เพื่อการพาณิชยกรรมมากยิ่งขึ้น เราจึงได้เห็น ว่าที่ CBD แห่งใหม่ในย่านรัชดาภิเษก-พระราม 9 ที่ขยายตัวมาจากการเชื่อมโยงด้วยรถไฟฟ้า MRT กลายเป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ และที่พักอาศัยที่หนาแน่นขึ้น รวมไปถึงการ refresh พื้นที่ย่านถนนวิภาวดีด้วยอานิสงส์ของศูนย์คมนาคมพหลโยธิน หรือที่เรียกกันว่าสถานีกลางบางซื่อ ศูนย์กลางในการเดินทางรถ-รางแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้พื้นที่ในย่านหมอชิต ห้าแยกลาดพร้าว และวิภาวดีรังสิต จะกลับมาดูดีมีราคามากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ทำธุรกิจทำไมต้องเลือก "วิภาวดีรังสิต"
ถนนวิภาวดีรังสิตถือเป็น superhighway เส้นทางหลักและเป็น gateway สู่หัวเมืองทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่ยุทธศาสตร์ด้านการค้าขายกับประเทศในกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม) ด้วยเส้นทางรถยนต์ รถไฟทางคู่ รวมไปถึงรถไฟความเร็วสูงในอนาคต ทั้งยังสามารถเชื่อมโยงกับทุกภูมิภาคทั้งในประเทศ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยการเดินทางโดยเครื่องบินที่สนามบินดอนเมือง ที่สำคัญยังสามารถเชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญในอนาคต อย่างเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ด้วยรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา) 
ทำเลวิภาวดีรังสิตจึงเป็นจุดเชื่อมต่อด้านการค้าการลงทุนที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพมหานคร หรืออาจจะกล่าวได้ว่าถนนวิภาวดีรังสิต กำลังยกระดับเป็นถนนธุรกิจแห่งใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด 

ด้านของราคาที่ดินบริเวณ 2 ฝั่งถนนวิภาวดีรังสิต มีแนวโน้มปรับราคาขึ้นอีกหลายระดับในอนาคต หากการก่อสร้างโครงข่ายคมนาคมเสร็จสมบูรณ์ พร้อมเปิดให้บริการของศูนย์คมนาคมพหลโยธิน โดยราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์รอบปี 2559-2562 ถนนวิภาวดีรังสิตที่อยู่ในพื้นที่เขตห้วยขวาง พญาไท ดินแดง มีราคาอยู่ที่ 2.2 แสนบาท/ตร.ว. ถนนวิภาวดีรังสิต ในเขตจตุจักร ราคาอยู่ที่ 1.5-2.6 แสนบาท/ตร.ว. และถนนวิภาวดีรังสิต ในเขตดอนเมือง ราคาอยู่ที่ 1.2 แสนบาท/ตร.ว. 
ความต้องการออฟฟิศ-คอนโดเพิ่ม
ด้วยศักยภาพของทำเลที่จะถูกยกระดับเป็น gateway ด้านการค้าการลงทุนในอนาคต จะทำให้ความต้องการพื้นที่อาคารสำนักงานและคอนโดมิเนียมพักอาศัยมีเพิ่มขึ้นด้วย จากข้อมูลของบริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (เจแอลแอล) ระบุว่า ในกรุงเทพฯ มีพื้นที่อาคารสำนักงานรวม 8.9 ล้าน ตร.ม. โดยมีพื้นที่ว่างเหลืออยู่ไม่ถึง 9% และมีราคาค่าเช่าปรับขึ้นต่อเนื่องตลอด 7 ปีที่ผ่านมา
ส่วนในย่านวิภาวดีมีสำนักงานให้เช่าอยู่ประมาณ 24 อาคาร รวมพื้นที่ 580,000 ตร.ม. อัตราการเช่าอยู่ที่กว่า 90% มีค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ที่ 750 บาท/ตร.ม./เดือน ซึ่งตลาดยังมีความต้องการเช่าพื้นที่สำนักงานอยู่มาก ขณะที่คู่แข่งในตลาดมีอยู่น้อยมาก
ขณะที่ข้อมูลจากการสำรวจของสำนักวิจัย LPN (LPN Wisdom) ระบุว่า จากความต้องการพื้นที่สำนักงานที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีโครงการพัฒนาอาคารสำนักงานมากขึ้น แต่โดยส่วนใหญ่เป็นอาคารขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ต่อชั้นประมาณ 1,000 ตร.ม. ขึ้นไป
อย่างไรก็ดี รูปแบบพื้นที่สำนักงานที่เติบโตเร็วที่สุดประเภทหนึ่งตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบันคือ พื้นที่ทำงานร่วมกัน (Co-working Space) และออฟฟิศสำเร็จรูป (Serviced Office) ขนาดเล็ก ซึ่งเพิ่มจาก 20 แห่ง จนมีมากกว่า 100 แห่ง สอดคล้องกับแนวโน้มการทำงานแบบออนไลน์มากขึ้น และการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี และการเติบโตของธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อย โดยเฉพาะธุรกิจ E-commerce และ Trading รวมถึงธุรกิจการให้บริการทางวิชาชีพ (Professional Service) 
ดังนั้นอาคารสำนักงานที่มีพื้นที่ต่อหน่วยไม่ใหญ่มาก (ไม่เกิน 300 ตารางเมตร) ตั้งอยู่บนเส้นทางคมนาคมที่สะดวก ใกล้กับย่านพักอาศัย รวมถึงใกล้กับศูนย์กลางธุรกิจ ในอัตราค่าเช่าที่ไม่สูงเกินไป จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการสำนักงานที่ยังเป็นช่องว่างทางการตลาดได้
ออฟฟิศคอนโด ทางเลือกการลงทุน
ที่ผ่านมาเรามักจะคุ้นเคยกับอาคารสำนักงานหรือออฟฟิศที่ให้เช่าเป็นรายเดือน คิดอัตราค่าเช่าเป็นตารางเมตร/เดือน  ซึ่งในปัจจุบันราคาค่าเช่าออฟฟิศเกรดเอในย่านกลางเมืองสูงถึงกว่า 1,000 บาทต่อ ตร.ม. ต่อเดือน ขณะที่อาคารสำนักงานที่อยู่นอกเขต CBD จะมีอัตราค่าเช่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ 500-700 บาทต่อ ตร.ม. ต่อเดือน 
แต่ยังมีออฟฟิศอีกประเภทหนึ่งเป็นออฟฟิศที่พัฒนามาเพื่อขายในรูปแบบคอนโดมิเนียมออฟฟิศ พูดง่ายๆ ก็คือ เป็นออฟฟิศขายขาดที่มีนิติบุคคลบริหารโครงการแบบคอนโด ข้อดีของออฟฟิศแนวนี้ก็คือ ผู้ซื้อได้ออฟฟิศที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง มีสิทธิ์มีเสียงในการบริหารจัดการโครงการในฐานะเจ้าของร่วม โดยมีอัตราการผ่อนที่ใกล้เคียงกับการเช่ารายเดือน 
ยกตัวอย่าง ถ้าจะเช่าออฟฟิศขนาด 50 ตร.ม. ในอัตราค่าเช่า 750 บาท/ตร.ม./เดือน จะต้องเสียค่าเช่าเดือนละ 37,500 บาท แต่ถ้าซื้อออฟฟิศคอนโด 50 ตร.ม. ราคา ตร.ม. ละ 100,000 บาท เท่ากับได้กรรมสิทธิ์ออฟฟิศในราคา 5 ล้านบาท ผ่อนธนาคาร 20 ปี ในอัตราดอกเบี้ย 7% จะผ่อนต่อเดือน 42,000 บาท ต่างกันไม่กี่พันแต่ได้กรรมสิทธิ์เป็นทรัพย์สินของตัวเอง ถือว่าคุ้มค่ากว่าในระยะยาว
นอกจากนี้ ออฟฟิศคอนโดยังมีราคาถูกกว่าโฮมออฟฟิศที่วันนี้ขายกันในหลัก 10 ล้านบาทอัพ หรือถ้าถูกลงมาหน่อยก็ไม่ได้อยู่ในทำเลที่สะดวกต่อการทำธุรกิจ และถ้าจะลงทุนสร้างเองยิ่งไม่ต้องพูดถึงเงินลงทุน 5-10 ล้านบาท อาจจะยังไม่พอออฟฟิศคอนโด จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจให้กับเจ้าของธุรกิจขนาดกลางที่ต้องการมีออฟฟิศเป็นของตัวเอง หรือนักลงทุนที่ซื้อไว้ปล่อยเช่า ซึ่งจากการศึกษาเบื้องต้นผลตอบแทนจากค่าเช่าจะอยู่ที่ประมาณ 7% ต่อปี 
ตอบโจทย์ทั้งธุรกิจและการอยู่อาศัย
เมื่อกลางปี 2561 ที่ผ่านมา บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) ได้เปิดตัวโครงการลุมพินี พาร์ค วิภาวดี จตุจักร อาคารชุดพักอาศัย สูง 21 ชั้น 1 อาคาร รวมห้องชุดจำนวน 736 ยูนิต มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท    โดยราคาเปิดขายเฉลี่ยที่ 110,000 บาทต่อ ตร.ม. ขนาดเริ่มต้นที่ 24 ตร.ม. ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มียอดขายแล้วกว่า 90% และในบริเวณเดียวกัน บริษัทได้เตรียมพัฒนาโครงการลุมพินี ทาวเวอร์ วิภาวดี จตุจักร (A และ B) โดยมุ่งเน้นจับกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs และนักลงทุนที่ต้องการซื้อเพื่อปล่อยเช่า ทำให้พื้นที่ทั้งหมดกลายเป็นโครงการมิกซ์ยูสที่มีทั้งคอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ขณะที่อาคารสำนักงานจะเปิดให้เช่าพื้นที่และขายในเร็วๆ นี้ โดยจะแบ่งเป็น อาคาร A สูง 21 ชั้น มีพื้นที่ประมาณ 16,000 ตร.ม. โดยราคาเปิดขายเฉลี่ยที่ 125,000 บาทต่อ ตร.ม. เบื้องต้นจะมีอัตราค่าเช่าเฉลี่ย 800-850 บาทต่อ ตร.ม. ส่วนอาคาร B สูง 18 ชั้น เป็นอาคารสำนักงานในรูปแบบออฟฟิศคอนโด ขนาดพื้นที่ 60 ตร.ม. ขึ้นไป เป็นขายกรรมสิทธิ์ขาดในราคาเฉลี่ย 100,000 บาทต่อ ตร.ม. 
นอกจากโครงการจะตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูงแล้ว การออกแบบโครงการยังเป็นไปออกแบบตามมาตรฐานอาคารเขียวที่คำนึงถึงการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม มีการส่งเสริมประสิทธิภาพและสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้งานอาคาร ผ่านการออกแบบ การเลือกใช้วัสดุที่มีมลพิษต่ำ และการก่อสร้างที่มีมาตรฐาน เพิ่มความปลอดภัย ประสิทธิภาพ ความสบายในการทำงาน และช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน เป็นการประหยัดต้นทุนทางธุรกิจได้อีกทางหนึ่งด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

lpn ลุมพินี คอนโดลุมพินี คอนโดรังสิต วิภาวดีรังสิต ลุมพินี ทาวเวอร์ วิภาวดี-จตุจักร

ข่าวและอีเว้นท์คอนโดล่าสุด




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)