บีทีเอส กรุ๊ป มั่นใจแนวโน้มธุรกิจเติบโตสุดแกร่ง คาดปี 63 ทำรายได้จากกลุ่มขนส่งมวลชนเติบโตเท่าตัว

ข่าว icon 5 มิ.ย. 60 icon 1,954
บีทีเอส กรุ๊ป มั่นใจแนวโน้มธุรกิจเติบโตสุดแกร่ง คาดปี 63 ทำรายได้จากกลุ่มขนส่งมวลชนเติบโตเท่าตัว


บีทีเอส กรุ๊ป มั่นใจแนวโน้มธุรกิจเติบโตสุดแกร่ง คาดปี 2563 ทำรายได้จากกลุ่มขนส่งมวลชนเติบโตเท่าตัว บอร์ดไฟเขียวจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายของปี 59/60 อีก 0.175 บาทต่อหน่วย
บีทีเอส กรุ๊ป ประเมินธุรกิจระบบขนส่งมวลชนทำรายได้เติบโตเท่าตัวภายในปี 2563 หลังเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้และสายสีเขียวเหนือครบทุกสถานี มั่นใจแนวโน้มผู้โดยสารใช้บริการเพิ่มขึ้นทุกปี คาดปี 2560/61 มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 3-5% ขณะที่ธุรกิจสื่อโฆษณาในปีนี้มั่นใจทำรายได้ 4,000 ล้านบาท จากปัจจัยการผสมผสานความแข็งแกร่งระหว่างธุรกิจปัจจุบันและธุรกิจใหม่รับการเติบโตของอุตสาหกรรมสื่อโฆษณานอกบ้าน ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เล็งเปิดคอนโดมิเนียมใหม่อีก 4 โครงการ รวมมูลค่าขายกว่า 12,000 ล้านบาท ด้านบอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายจากการดำเนินงานในปี 2559/60 อีก 0.175 บาทต่อหุ้น
นายดาเนียล รอสส์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการลงทุน บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส กรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประเมินรายได้จากการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจระบบขนส่งมวลชน ที่คาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากบริษัทฯ บรรลุข้อตกลงในการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-คูคต) และใต้ (แบริ่ง-สมุทรปราการ) ระยะทาง 30.8 กิโลเมตร รวม 25 สถานี โดยคาดว่า หลังจากเปิดให้บริการรถไฟฟ้าทั้ง 2 โครงการจะส่งผลดีต่อรายได้กลุ่มธุรกิจระบบขนส่งมวลชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2563 ที่รถไฟฟ้าทั้งสองสายจะเปิดให้บริการตลอดทั้งสายเต็มปี รายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงจะเพิ่มขึ้นอีก 4,000-5,000 ล้านบาท หรือเติบโต 1 เท่าตัว จากปัจจุบันที่มีรายได้จากกลุ่มธุรกิจดังกล่าวอยู่ที่ 4,237 ล้านบาท
ทั้งนี้ การเติบโตดังกล่าวจะปรับตัวดีขึ้นตามการทยอยเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายทั้ง 2 โครงการ โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ได้เต็มรูปแบบภายในปี 2561 ซึ่งจะส่งผลดีต่อจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าในรถไฟฟ้าสายหลัก หลังจากได้เริ่มให้บริการเดินรถสถานีสำโรง ซึ่งเป็นสถานีแรกของส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้เรียบร้อยแล้ว จึงประเมินว่าอัตราผู้โดยสารในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 3-5% จากปีก่อนที่มีจำนวนผู้ใช้บริการ 238 ล้านคนเที่ยว โดยเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เปิดให้บริการ และคาดว่าอัตราค่าโดยสารจะเพิ่มขึ้น 1% 
"จากการที่เราเริ่มให้บริการเดินรถไฟฟ้าได้ครบทั้งเส้นทางเป็นโครงข่าย จะทำให้จำนวนผู้โดยสารและอัตราค่าโดยสารในรถไฟฟ้าสายหลักเพิ่มขึ้น รวมถึงการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการเดินรถส่วนต่อขยายสายสีเขียวใหม่ จะทำให้รายได้จากธุรกิจขนส่งมวลชนจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอีก 3 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม รายได้ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวยังไม่นับรวมรายได้ค่าโดยสารจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2563" นายดาเนียล รอสส์ กล่าว
ผู้อำนวยการใหญ่สายการลงทุน บีทีเอส กรุ๊ป กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจสื่อโฆษณาซึ่งดำเนินการโดย VGI จะเติบโตได้อย่างโดดเด่นเช่นกัน โดยมีปัจจัยจากพื้นที่โฆษณาตามสถานีรถไฟฟ้าและจำนวนรถไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคต จากปัจจุบันที่มีพื้นที่โฆษณาในสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสจำนวน 30 สถานี รวม 10,000 ตารางเมตร และจำนวนรถไฟฟ้า 52 ขบวน นอกจากนี้ ยังมาจากแพลตฟอร์มพื้นที่สื่อโฆษณาที่หลากหลาย ทำให้การขายโฆษณามีลักษณะเป็นแพ็คเกจ พร้อมนำเทคโนโลยีและพฤติกรรมของลูกค้ามาใช้วิเคราะห์เพื่อวางแผนสื่อโฆษณา  ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดี รวมถึงการเข้าลงทุนใน MACO, แรบบิท กรุ๊ป, แอร์โรมีเดีย สื่อโฆษณาในสนามบินและเดโม เพาว์เวอร์ ส่งผลให้สามารถเก็บเกี่ยวรายได้จากเม็ดเงินโฆษณาได้มากขึ้น ซึ่งในปีนี้ คาดว่า VGI จะทำรายได้ 4,000 ล้านบาท และเราคาดว่าจะมีจำนวนผู้ใช้บัตรแรบบิทในระบบกว่า 9.2 ล้านใบ
ขณะที่กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการคอนโดมิเนียมร่วมทุนกับ บมจ.แสนสิริในปีหน้า โดยแผนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆ ของเรานั้น จะเกิดขึ้นทั้งตามแนวรถไฟฟ้าสายปัจจุบัน ส่วนต่อขยาย และโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ โดยมีแผนพัฒนาโครงการรวม 25 โครงการ มูลค่าขายกว่า 100,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี จากปัจจุบันที่พัฒนาโครงการไปแล้วจำนวน 8 โครงการ รวม 4,382 ยูนิต มูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้จะเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมอย่างน้อย 4 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้มากขึ้นในอนาคต
ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2559/60 (เมษายน 2559-มีนาคม 2560) บริษัทฯ มีรายได้ 9,618.3 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,235.7 ล้านบาท โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดประจำปี 2559/60 งวดสุดท้ายในอัตรา 0.175 บาทต่อหุ้น ซึ่งกำหนดปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลในวันที่ 4 สิงหาคม 2560 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 18 สิงหาคม 2560 หลังจากก่อนหน้านี้ BTS ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตรา 0.165 บาทต่อหุ้น รวมทั้งปีได้จ่ายเงินปันผลทั้งสิ้น 4,716.4 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทนประจำปีอยู่ที่ 4%
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2273-8623, 0-2273-8637

แท็กที่เกี่ยวข้อง

รถไฟฟ้า เงินปันผล บีทีเอส กรุ๊ป ขนส่งมวลชน

ข่าวและอีเว้นท์เศรษฐกิจล่าสุด



เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)