ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

รีวิว Subaru Forester ใหม่ 2.0 ลิตร มั่นใจทุกการขับเคลื่อน

icon 30 มิ.ย. 60 icon 25,906
รีวิว Subaru Forester ใหม่ 2.0 ลิตร มั่นใจทุกการขับเคลื่อน

รีวิว ซูบารุ  ฟอเรสเตอร์ ใหม่ (Subaru Forester) 2.0 ลิตร มั่นใจทุกการขับเคลื่อน
ทีมงานเช็คราคา.คอม รับ ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ ใหม่ รุ่น 2.0i-P มาทดสอบแบบใช้งานจริง โดยใช้เดินทางแบบท่องเที่ยวสะท้อนไลฟ์สไตล์ของ ฟอเรสเตอร์ ที่พร้อมพาไปผจญภัยได้หลากหลายเส้นทาง และเราเลือกการเดินทางไปอัมพวา ด้วยระยะทางไป-กลับจากกรุงเทพฯ ไม่ไกลมาก ความน่าใช้ของ ฟอเรสเตอร์ ใหม่ เครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 2 ลิตร แบบไร้ระบบอัดอากาศ Subaru Forester 2.0i-P จากการขับทดสอบครั้งนี้ มีจุดเด่นและน่าพอใจด้านใดบ้างติดตามได้ในรีวิว

เส้นทางการทดสอบ
เราเลือกเส้นทางสู่แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่ใกล้กรุงเทพฯ โดยเริ่มสตาร์ตจากนอร์ธปาร์ค มุ่งหน้าขึ้นทางด่วนงามวงศ์วาน เพื่อไปลงถนนสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) ไปตามเส้นทางถนนพระราม 2 จนถึงแม่กลอง เจอทางตัดเข้าตลาดน้ำอัมพวา จึงยูเทิร์นไปเข้าถนนหมายเลข 325 สู่ตลาดน้ำอัมพวา คิดเป็นระยะทางประมาณ 105  กิโลเมตร ส่วนขากลับเราเดินทางไปคลองโคน - ชะอำ และวกกลับไปทางราชบุรี เข้าสู่นครปฐม ไปตามทางหลวงหมายเลข 4 แล้วตัดเข้าถนนหมายเลข 338 เพื่อไปขึ้นทางทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี และต่อไปยังวงศ์สว่าง - รัชดาภิเษก เข้าถนนประชาชื่น เพื่อไปสิ้นสุดที่นอร์ธปาร์ค

การขับบนถนนพระราม 2 ต้องระวังมากเป็นพิเศษจากรถบรรทุกและพื้นถนนลื่น

ธรรมชาติของอัมพวา และระยะทางที่ไม่ไกลมาก ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวรวมถึงเราเข้ามาสัมผัส

การขับฟอเรสเตอร์สู่บรรยากาศแบบฟอเรสต์เป็นความรู้สึกเหมือนอยู่ถูกที่
รูปลักษณ์ภายนอก

ฟอเรสเตอร์ ใหม่ รุ่นย่อย 2.0i-P ปรับเปลี่ยนภายนอกไม่มาก โดยรุ่นย่อย 2.0i-P โดดเด่นด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์ พร้อมระบบ SRH ปรับแสงตามทิศทางการเลี้ยว กันชนหน้าออกแบบใหม่ ดูทันสมัย ให้อารมณ์สปอร์ตมากขึ้น โดยเฉพาะการเสริมด้วยไฟเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ ด้านไฟท้ายออกแบบเป็นรูปตัว C โดยรวมให้อารมณ์สปอร์ตครอสโอเวอร์แบบเอสยูวีรุ่นใหญ่

ด้านท้ายโดยรวมไม่ต่างจากเดิม ไฟท้ายดีไซน์แบบภายในโคมใหม่

ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ที่ปรับแสงส่องสว่างตามพวงมาลัย นับเป็นไฮไลท์ของการปรับไมเนอร์เชนจ์ 

โลโก้ AWD บ่งบอกว่านี่คือ เอกลักษณ์ซูบารุหลายรุ่นสืบทอดกันมานาน
รูปลักษณ์ภายใน

ฟอเรสเตอร์ ใหม่ รุ่นย่อย 2.0i-P เสริมระบบอินโฟเทนเม้นต์ให้ทันสมัยมากขึ้น แต่ตำแหน่งอุปกรณ์ต่างๆ ภายในไม่ต่างไปจากเดิมนัก แต่สำหรับรุ่น 2.0i-P นับว่า ภายในเปี่ยมไปด้วยอุปกรณ์ที่ดูดีทันสมัยกว่ารุ่น 2.0i โดยเฉพาะหน้าจออเนกประสงค์บนแผงคอนโซลหน้าที่ปรับดูข้อมูลได้หลากหลาย ถ่ายถอดผ่านกราฟิก สวยงาม ชัดเจน เช่นเดียวกับเฮดยูนิทจอสัมผัสตรงกลางก็ใช้งานง่าย ด้านเบาะหนังใช้สีโทนเข้มงานเย็บดูเรียบร้อย โชว์การเดินตะเข็บสีตัดกับหนังเสริมความเป็นสปอร์ตได้ไม่น้อย พร้อมเสริมด้วยวัสดุซาตินโครมในหลายจุดให้อารมณ์พรีเมียมมากขึ้น

ภายในบุด้วยหนังสีเข้ม ตัดด้วยด้ายสีสด งานดูประณีตเรียบร้อยดีมาก

เบรกมือเป็นเป็นแบบไฟฟ้า เพื่อการใช้งานสะดวกขึ้นและออกแบบให้สวยง่าย


การขับเคลื่อน

ฟอเรสเตอร์ ใหม่ 2.0i-P ติดตั้งเครื่องยนต์ BOXER ที่โดดเด่นด้วยการวางตำแหน่งลูกสูบนอนทำมุมกัน 180 องศา จึงทำให้เครื่องยนต์วางตำแหน่งได้สมดุลกว่าเครื่องยนต์เบนซินสูบวีหรือเรียงทั่วไป และนับเป็นเอกลักษณ์ของรถซูบารุ โดยสเปกของ 2.0i-P มีความจุขนาด 2.0 ลิตร DOHC ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 198 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบต่อนาที ส่งถ่ายกำลังด้วยระบบเกียร์แปรผันอัตราทดต่อเนื่อง - Lineartronic CVT ซึ่งใช้โซ่แทนสายพาน จึงทำให้มีช่วงอัตราทดกว้างขึ่้น เมื่อทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อกระจายแรงบิดระหว่างล้อคู่หน้าและหลังตลอดเวลา จึงทำให้ตัวรถมีสมรรถนะและประสิทธิภาพดี พร้อมบุกตะลุยได้มากกว่า
การขับทดสอบ

เราเริ่มต้นเดินทางจากย่านนอร์ธปาร์ค โดยมีผู้โดยสารนั่งไป 6 คน แบ่งเป็นผู้ใหญ่ 4 เด็ก 2 คน ด้วยพื้นที่รองรับภายในห้องโดยสาร 2+3 ของเบาะคู่หน้าและหลัง พบว่าพื้นที่ภายในห้องโดยสารรู้สึกได้ตั้งแต่แรกเลยว่ากว้างขวาง มีพื้นที่รอบตัวมากกว่าเอสยูวีทั่วไปที่เคยขับ สามารถนั่งไปกันได้สบายๆ นอกจากนี้พื้นที่หลังเบาะยังสามารถรองรับกระเป๋าเดินทางและสัมภาระได้มากพอสมควร ส่วนใครที่อยากบรรทุกอุปกรณ์ทำกิจกรรมเวลาไปท่องเที่ยวด้านบนหลังคาก็มีราวไว้ให้ติดตั้งแร็คเพิ่มเติม ในส่วนของเบาะแถวหลังที่มีผู้ใหญ่นั่ง 2 คน เด็ก 2 คน ด้วยตำแหน่งเบาะที่ยกสูงและเพดานสูงทำให้นั่งได้สบายไม่อึดอัด ไม่เมื่อยล้าแม้ต้องขับทางไกล

หลังจากผู้เขียนขับปรับตำแหน่งเบาะไฟฟ้าจนได้ระยะเหมาะสมแล้ว การเดินทางก็เริ่มต้นขึ้น โดยมุ่งหน้าขึ้นทางด่วนขั้นที่ 2 ที่ด่านงามวงศ์วานในช่วงบ่าย การขับในเมืองมักใช้ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. ผู้เขียนใช้ความเร็วในการเดินทางแบบปกติ และให้เหมาะสมกับประเภทของรถที่เป็นเอสยูวี ในช่วงแรกที่ขับอยู่บนทางด่วน สิ่งที่ประทับใจคือ ทัศนวิสัยของฟอเรสเตอร์ ให้มุมมองที่ดีรอบคันจริงๆ จนรู้สึกได้อย่างชัดเจน แต่ก็ต้องแลกด้วยการรับแสงแดดและความร้อนผ่านกระจกมากขึ้นไปด้วย ข้อแนะนำคือ ต้องติดฟีล์มที่ดีมีคุณภาพแล้วชีวิตในฟอเรสเตอร์จะยิ่งสมบูรณ์แบบขึ้น 
ด้านสมรรถนะการขับ จากเส้นทางด่วนสู่ถนนพระราม 2 มุ่งหน้าอัมพวา ตัวรถให้การควบคุมที่ดี ระบบบังคับเลี้ยวให้ความแม่นยำ ขับอย่างมั่นใจเมื่อต้องเปลี่ยนเลนซ้าย-ขวาในการแซงรถช้า อัตราเร่งของขุมพลัง 2.0 ลิตร 150 แรงม้า ให้พลังที่ดีพอต่อการเร่งและทำความเร็วแบบใช้ขับทั่วไป แม้บรรทุกผู้โดยสารเต็มคัน 
เมื่อผู้เขียนต้องการพลังมากขึ้นก็ปรับโหมดเป็นแบบ SPORT ซึ่งให้แรงบิดที่ต่อเนื่องดี แต่ที่ประทับใจจริงๆ คือ ช่วงล่างที่ตอบสนองได้อย่างลงตัว นุ่มหนึบแบบที่หาไม่ได้จากเอสยูวีทั่วไป ไม่โยนย้วย ไม่แข็งกระด้าง แต่นุ่มกำลังพอดี และหนึบแบบไม่กระด้าง นับเป็นการเซ็ตอัพจากระบบช่วงล่างใหม่ทั้งองศาและบูทยางต่างๆ ด้านระบบเบรกก็สามารถชะลอและหยุดได้อย่างดีเยี่ยม ให้น้ำหนักตอบกลับดี และไม่ต้องปรับตัวมาก 
ส่วนที่พบว่าน่ากังวลระหว่างขับมาอัมพวา เป็นช่วงจากจังหวัดสมุทรสาคร-สมุทรสงครามที่ถนนเปิดกว้างและสองข้างทางมักเป็นทางโล่ง ถ้ามีลมข้างพัดผ่าน ตัวรถมักเกิดอาการเซจนรู้สึกได้ ทำให้ต้องมีสมาธิกับการขับมากขึ้น ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากตัวถังรถที่เป็นทรงตั้งและมีความสูง โดยเฉพาะพื้นที่ใต้ท้องรถที่เว้าไว้เยอะกว่าทั่วไป เพื่อให้ลุยอุปสรรค สิ่งกีดขวางได้มากขึ้น ส่วนการขับในช่วงเวลากลางคืนในขากลับ ไม่รู้สึกเครียดหรือเหนื่อยล้าเท่ากับขับเอสยูวีรุ่นอื่น ทั้งยังรู้สึกดีกับไฟส่องสว่างด้านหน้าที่ชัดเจนและปรับได้ตามการเลี้ยว นับเป็นเอสยูวีที่ขับแล้วประทับใจจริงๆ
อัตราสิ้นเปลือง

ฟอเรสเตอร์ ใหม่ 2.0i-P ด้วยน้ำหนักตัว 1,510 กก. พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และมีพลัง 150 แรงม้า ในการแบกตัวรถบุกตะลุย ทำให้หลายคนคิดว่า ฟอเรสเตอร์ ต้องมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่มากแน่ๆ โดยรุ่น 2.0i-P มีตัวเลขเคลมจากโรงงานไว้ 7.9 ลิตร/100 กม. แต่จากการขับทดสอบแบบใช้งานจริงผสมการขับทั้งในและนอกเมืองเป็นระยะทางรวม 670 กม. พบว่าตัวเลขบนหน้าจอแสดงข้อมูลอยู่ที่ 7.6 ลิตร/100 กม. หรือ 13.15 กม./ล. นับว่าน่าพอใจ

การขับใช้งานในเมืองช่วง 140 กม. แรก พบว่าอัตราสิ้นเปลืองอยู่ระดับ 9.0 กม./ล.
เทคโนโลยีและความสะดวกสบาย

ฟอเรสเตอร์ ใหม่ 2.0i-P เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ตอบรับการใช้งานตามระดับราคารถอย่างเหมาะสม เช่น ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ DUAL ZONE แยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาได้, เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง, ระบบสมาร์ทเอนทรี่เปิดรถโดยไม่ต้องใช้กุญแจ, ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์, ช่องจ่ายไฟ 12 โวลต์ 3 จุด ซึ่งผู้เขียนชอบมาก คิดว่ารถยุคใหม่ ควรมีระบบจ่ายไฟที่หลากหลายและมีในหลายตำแหน่ง เพราะบางคนมักติดอุปกรณ์พึ่งระบบไฟฟ้ากัน นอกจากนี้ยังชอบพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันที่ออกแบบได้สวยงามและมีปุ่มควบคุมการใช้งานต่างๆ เยอะกว่าทั่วไป

การพกแค่กุญแจรีโมทแล้วเดินมาเปิดประตู หรือเขี่ยร่องตรงมือจับเพื่อล็อค นับเป็นสุดยอดของความสะดวกสำหรับผู้ใช้รถ

ระบบนำทางในฟอเรสเตอร์มีความทันสมัย ดูและเข้าใจง่าย ส่วนตำแหน่งปุ่มควบคุมระบบแอร์ก็ใกล้มือ ใช้งานง่าย
ระบบความปลอดภัย

ฟอเรสเตอร์ ใหม่ 2.0i-P มีระบบความปลอดภัยที่ดี ตั้งแต่ตัวรถที่ออกแบบให้มองเห็นทัศนวิสัยได้ชัดเจนรอบด้าน ช่วยให้ขับในที่แคบสะดวกขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งระบบช่วยเหลือมาก จุดเด่นด้านเซฟตี้ของฟอเรสเตอร์คือ ตัวรถผ่านการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัย Euro NCAP ด้วยคะแนนสูงสุด 5 ดาว และระบบช่วยเหลือควบคุมการลงทางลาดชัน X-MODE โดยมีปุ่มอยู่เหนือตำแหน่งเกียร์ ระบบนี้จะควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ เกียร์ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และอุปกรณ์อื่นๆ ช่วยให้มั่นใจมากขึ้นเมื่อต้องขับลงทางลาดชันมากๆ โดยเฉพาะเวลาออกไปลุยทางออฟโรด



ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา
ฟอเรสเตอร์ ใหม่ 2.0i-P คันที่ผู้เขียนขับ ตอบสนองการขับใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี และท่องเที่ยวยิ่งสุดยอด ด้วยพลังของเครื่องยนต์เบนซิน BOXER ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังพอเพียง ผสานกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และช่วงล่างที่มีการเซ็ตองศาและบูทยางบางจุดใหม่ทำให้การขับฟอเรสเตอร์ เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจในทุกเส้นทาง มีเพียงตัวรถออกอาการเซบ้างเวลาเจอลมข้างแรงๆ และเชื้อเพลิงที่ใช้รองรับต่ำสุดเป็นแก๊สโซฮอลล์ 95 แต่โดยรวมก็รู้สึกประทับใจกับการปรับเปลี่ยนครั้งนี้  ด้วยราคาระดับ 1.5 ล้านบาท อาจมีตัวเลือกเอสยูวี และพีพีวีหลากหลายรุ่น แต่ฟอเรสเตอร์เป็นพรีเมียมเอสยูวี มาดขรึมที่ให้ความแตกต่างในภาพลักษณ์และการใช้งานอย่างน่าพึงพอใจ ยิ่งถ้าได้ลองขับผู้เขียนเชื่อว่าฟอเรสเตอร์จะชนะใจหลายคน 
 
ราคา ซูบารุ ฟออเรสเตอร์ ใหม่ 2016
  • 2.0i     ราคา 1,398,000 บาท
  • 2.0i-P ราคา 1,538,000 บาท
  • 2.0i-S ราคา 1,598,000 บาท
  • 2.0XT ราคา 2,290,000 บาท

แท็กที่เกี่ยวข้อง subaru ซูบารุ forester subaru forester ซูบารุ ฟอเรสเตอร์
CAR GURU
เขียนโดย เช็คราคา.คอม CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)