ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

รีวิว Chevrolet Sonic Sonic So You

icon 22 พ.ย. 56 icon 55,123
รีวิว Chevrolet Sonic  Sonic So You
CHEVROLET SONIC LTZ 5 DOOR 
Chevrolet Sonic LTZ 5 Door รีวิวรูปลักษณ์ภายในภายนอก เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง อุปกรณ์อำนวยความสะดวก รุ่นและราคาค่าตัวบนเรือนร่างแบบ 5 ประตูที่พกพาสมรรถนะของรถเล็กมาแบบครบๆ...


ตลาดรถเล็กในประเทศไทยไม่เคยหยุดความร้อนแรง ล่าสุด Chevrolet เปิดตัว Sonic รถ Sub-Compact รุ่น 5 ประตู เครื่องยนต์ 1.4 ลิตร ECO-TEC 95 แรงม้า มาพร้อมกับรูปลักษณ์แนวเอาใจวัยโจ๋โดยเฉพาะ ยนตรกรรมแฮตช์แบ็ก 5 ประตูรุ่นใหม่ล่าสุดของค่ายโบว์ไทคันนี้ ยังมีพื้นที่ห้องโดยสารใหญ่โตกว้างขวาง บนเรือนร่างที่กะทัดรัด ใช้โครงแชสซีเดียวกันกับรุ่นซีดาน 4 ประตูที่เปิดผ้าคลุมไปก่อนหน้านี้ ทำให้คู่แข่งทั้ง Mazda 2 และ Ford Fiesta รวมถึง Honda Jazz และ Toyota Yaris ถึงกับอยู่ไม่ติดกันเลยทีเดียว


Chevrolet Sonic 5 Door ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแข่งขันกับรถยนต์ขนาดเล็กในตลาดทั่วโลก ภายนอกมีเส้นสายรอบคันที่เฉียบคม บนงานประกอบตัวถังที่มีความประณีตถึงแม้จะเป็นรถยนต์ราคาประหยัด 5-6 แสนบาท แต่รูปแบบและอุปกรณ์ภายนอกที่ติดตั้งมาให้จากโรงงานก็ยังคงอยู่ในระดับมาตรฐาน ดีไซน์ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ประจำค่ายด้วยหน้ากระจังสองชั้นแบบ Dual Port แปะตราสัญลักษณ์โบสีทองขนาดใหญ่ ไฟหน้าไม่มีกรอบพลาสติกใสเหมือนรถทั่วไป ดีไซน์แบบใหม่ของไฟหน้าที่ได้แรงบันดาลใจมาจากจักรยานยนต์แบบซุปเปอร์ไบค์ กรอบของไฟหน้าใช้พลาสติกโครเมียมกับโครงที่ทำมาจากพลาสติกสีดำให้มุมมองที่ดุดันแปลกตา สปอยเลอร์หน้าชิ้นใหญ่คลุมทับด้านหน้าทั้งหมดของ Sonic มุมชายล่างของสปอยเลอร์ยังมีไฟตัดหมอกติดตั้งมาให้จากโรงงานในรุ่น LTZ มันคือรูปทรงด้านหน้าที่ใช้ร่วมกันกับรุ่น 4 ประตู รวมถึงฝากระโปรงที่มีเส้นคมๆ ไล่เรียงมาจากแนวสันของแก้มข้าง บริเวณกึ่งกลางของฝากระโปรงหน้าก็ยังถูกยกขึ้นเป็นเส้นกลางเพื่อเน้นแสงเงา



รุ่น 5 ประตูจะมีส่วนท้ายที่ค่อนข้างทึบและตัน เกิดจากการออกแบบโดยเน้นไปที่สัดส่วนขนาดใหญ่ของบานประตู เสาหน้าลาดเอียงลงเพื่ออากาศพลศาสตร์ที่ดี กระจกหน้าบานโต ขอบกระจกบานข้างประตูในรุ่น LTZ เดินเส้นด้วยโครเมียมสีเงิน ส่วนแนวหลังคาจะค่อยๆ ลาดเอียงลงไปที่ด้านหลัง ซุ้มโป่งล้อขนาดใหญ่ทำออกมาเพื่อรองรับล้อขนาด 16 นิ้ว หรือ 17 นิ้วได้อย่างสบาย สำหรับล้อของ Sonic 5 Door รุ่น LTZ ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุด ใส่ล้ออัลลอยลายสปอร์ตขนาด 16 นิ้ว ยาง Continental รุ่น ContiComfort Contact ไซส์ 205/55/R16 เมื่อมองดูด้านข้างตัวรถจะพบเส้นที่ลากจากซุ้มล้อหน้าทแยงขึ้นบนไปจนถึงเสา C ซึ่งเป็นเสาท้ายรถ ประตูบานท้ายย้ายตำแหน่งมือจับที่เปิดประตูทำจากพลาสติกสีดำ โดยยกขึ้นไปติดไว้บริเวณขอบประตูด้านบน ดีไซน์ของที่เปิดบานประตูหลังดังกล่าวยังคล้ายกับ Alfa Romeo 156 เพียงแต่มือจับที่เปิดประตูของ Sonic 5 Door มีขนาดที่โตกว่ามาก
บั้นท้ายออกแบบได้อย่างลงตัวด้วยกระจกฝาท้ายที่โค้งรับกับฝากระโปรงท้ายซึ่งเป็นประตูบานที่ 5 กระจกฝาท้ายติดตั้งขดลวดละลายฝ้า ใบปัดน้ำฝนหลังและไฟเบรกดวงที่สาม ฝาท้ายยังเปิดออกได้ด้วยมุมที่สูงกว่าปกติเพื่อความสะดวกในการขนสัมภาระ ส่วนที่เก็บสัมภาระภายในมีพื้นที่สองชั้นไว้ให้สาวๆ เก็บรองเท้ากับของกระจุกกระจิกที่ไม่ต้องการให้ไปปะปนกับสิ่งของอื่นๆ เบาะหลังแบบพับเอนราบได้ยังเข้ามาช่วยเพิ่มพื้นที่ให้กับพวกชอบขนได้อย่างจุใจ แม้จะมีขนาดตัวถังที่กะทัดรัด แต่พื้นที่ส่วนหลังซึ่งเกิดจากการออกแบบที่คำนึงถึงประโยชน์ของการใช้สอยได้เข้ามาต่อเติมคุณลักษณะของรถยนต์แบบ 5 ประตูได้อย่างครบถ้วน ไฟท้ายทรงกลมแตกต่างจากตัว 4 ประตูซีดานและมีรูปแบบที่สวยงามเข้ากับสัดส่วนที่โค้งมนของบั้นท้าย สปอยเลอร์หลังมีเซ็นเซอร์สัญญาณถอยหลังที่เชื่อมโยงการทำงานทันทีที่ผู้ขับขี่เข้าเกียร์ถอย เนื่องจากทัศนวิสัยมุมมองด้านหลังที่ค่อนข้างอับทึบจากรูปแบบแฮตช์แบ็กของตัวรถ




กลุ่มเป้าหมายของ Chevrolet Sonic คือ คนเจเนอเรชั่น วาย (Generation Y) ประกอบไปด้วยผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ทั่วโลก ผู้บริหารระดับเริ่มต้นที่ต้องการพาหนะราคาประหยัด และมีรูปทรงกะทัดรัด กลุ่มคนที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าทำงาน ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งคน Generation Y กลุ่มนี้ชื่นชอบการเข้าร่วมสังคม เกาะติดแฟชั่น รักการแสดงออก ชอบเป็นจุดสนใจ และที่สำคัญที่สุดคือรักความสนุก ขณะเดียวกัน คนกลุ่มนี้ยังรักการเปลี่ยนแปลง และชื่นชอบในความแปลกแยกแตกต่างไม่เหมือนใคร ด้วยแนวคิดนี้ Sonic จึงถูกออกแบบมาเพื่อแสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึกของลูกค้ากลุ่มนี้ โดยมุ่งเน้นไปที่ความสนุกของการขับขี่ อารมณ์ความรู้สึกดังกล่าวจึงถูกบรรจุอยู่ในรถคันนี้อย่างครบครัน เครื่องยนต์ให้สมรรถนะที่ดีในการใช้งาน ทั้งการขับขี่เดินทาง ช่วงล่างและระบบส่งกำลังออกแบบให้รองรับการขับที่เน้นความปราดเปรียว ภายในตกแต่งด้วยแนวทางการออกแบบที่ทิ้งความซ้ำซากจำเจลงอย่างสิ้นเชิง และ Sonic กล้าหาญพอที่จะนำเอารูปแบบใหม่ๆ ของห้องโดยสารในอนาคตมาปรับใช้ และทำให้มีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับคนสี่คนพร้อมสัมภาระ (ที่ไม่มากนัก) งานตกแต่งภายในของ Sonic รุ่น 5 ประตู คล้ายกับรุ่น 4 ประตูทุกอย่าง คอนโซลกลางทรงสปอร์ต วางตำแหน่งของชุดเครื่องเสียงอยู่ด้านบน เครื่องเสียงใน Chevrolet Sonic เป็นแบบดิจิตอล รองรับการเล่น MP-3 / CD / AM / FM และระบบโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth ที่สามารถเชื่อมต่อการทำงานกับโทรศัพท์เคลื่อนที่จากภายนอกได้ สำหรับภายในของรถทดสอบใช้คอนโซลสีเทาดำแทนที่จะเป็นแบบทูโทนสีส้ม-ดำ เหมือนรุ่น 4 ประตู พวงมาลัยแบบสามก้านหุ้มด้วยไวนิลจับกระชับมือ ให้สัมผัสที่นิ่มมือไม่แตกต่างจากหนังแท้เท่าใดนัก พวงมาลัยยังติดตั้งสวิตช์มัลติฟังก์ชั่นไว้ปรับตั้งเครื่องเสียงและควบคุมการใช้งานของระบบโทรศัพท์อีกด้วย



Sonic มีการออกแบบภายในที่ดีและให้อารมณ์สปอร์ตทันทีที่เข้าไปนั่ง หน้าปัดวัดรอบแบบทรงกลมดีไซน์ใช้เข็มสีแดงบนพื้นดำแบบเรืองแสงในตอนกลางวัน หน้าปัดของ Sonic ใช้การออกแบบมาจากหน้าปัดของมอเตอร์ไซค์แข่ง ให้ความรู้สึกคล้ายกับเป็นยานยนต์ล้ำสมัยที่ทรงพลัง (ถึงแม้จะไม่แรงเท่าที่ควรก็ตาม) ส่วนกรอบวัดความเร็วใช้ทรงสี่เหลี่ยม จอแจ้งความเร็วแบบดิจิตอลสีฟ้า คอยแจ้งระดับของความเร็วที่แท้จริงเป็นสัญลักษณ์ตัวเลขขนาดใหญ่ที่อ่านค่าได้ง่าย Redline เริ่มจาก 6,500 รอบ ไปจนถึง 8,000 รอบ ใช้เส้นสัญลักษณ์สีแดง มาตรวัดลักษณะดังกล่าวพบเห็นได้ในรถสปอร์ตหรือรถมอเตอร์ไบค์สมรรถนะสูง ที่นิยมให้ความสำคัญกับวัดรอบเครื่องยนต์มากกว่ามาตรวัดความเร็วของรถ เคียงข้างมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ คือหน้าจอที่แสดงผลเป็นตัวเลขดิจิตอล บอกข้อมูลความเร็วของตัวรถในแบบตัวเลขขนาดใหญ่ที่ชัดเจนทุกมุมมอง ทั้งความเร็วรถ ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง และตำแหน่งเกียร์ ตลอดจนข้อมูลที่สำคัญอื่นๆ แทนที่จะออกแบบให้แผงมาตรวัดฝังอยู่ในแดชบอร์ดเหมือนรถทั่วไป แต่นักออกแบบได้สร้างสรรค์มาตรวัดทั้งชุดให้แยกออกจากกัน แต่มีการผสมกลมกลืนด้วยรูปแแบบที่ไม่จำเจ เพิ่มกลิ่นอายความสปอร์ตและล้ำสมัยให้แก่ห้องโดยสาร เบาะนั่งในรุ่น LTZ หุ้มด้วยผ้าสีดำ โดยใช้การปรับตั้งตำแหน่งของการนั่งด้วยมือ ส่วนชุดควบคุมอุณหภูมิแบบสามปุ่ม ใช้รูปแบบของการหมุนเช่นปรับความเร็วของพัดลมแอร์ ปุ่มเร่งหรือลดน้ำยาทำความเย็น รวมถึงปุ่มควบคุมทิศทางของการกระจายลมเย็น ที่สามารถปรับตั้งได้หลากหลายไม่แตกต่างจากรถเล็กของญี่ปุ่นแม้แต่น้อย ซุ้มเกียร์ออโต้ 6 สปีดวางตัวอยู่ต่ำลงไปเล็กน้อยจากชุดควบคุมอุณหภูมิ ในรุ่นสูงสุดติดตั้งสวิตช์เปลี่ยนตำแหน่งเกียร์เอาไว้บริเวณหัวเกียร์ด้านบนที่มีการใช้งานได้ค่อนข้างยาก แทนที่จะเป็นแป้นแพดเดิ้ลชิฟหลังพวงมาลัย ช่องเก็บของกระจุกกระจิก ช่องวางแก้วน้ำและกล่องใส่แว่นมีมาให้ครบ สำหรับพื้นที่ในการวางเท้า และพื้นที่เหนือศีรษะก็มีให้อย่างพอเพียงจนทำให้การนั่งโดยสารไปบน Chevrolet Sonic ไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใดแม้จะเดินทางไกล ภายในและตำแหน่งของการจัดวางเบาะและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ




Chevrolet Sonic วางเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร DOHC รุ่นล่าสุดในสายการผลิตต้นกำลังของค่าย GM ให้กำลัง 100 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที และมีแรงบิด 13.3 กิโลกรัมเมตร ที่ 3,400 รอบต่อนาที จ่ายเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีดแบบมัลติพอยต์ MPFI พร้อมด้วยกลไกแคมชารฟต์แบบแปรผัน แบบ Continuously Variable Cam-Timing ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยส่งแรงบิดจากเครื่องยนต์ไปยังเกียร์ได้อย่างหมดจด ออกซิเจนเซ็นเซอร์รุ่นล่าสุดที่ปรับตั้งมาเพื่อการใช้เชื้อเพลิงอย่างคุ้มค่า รถ Chevrolet Sonic ใช้โซ่ราวลิ้นเพื่อความแข็งแกร่งทนทาน มีอายุการใช้งานที่เหนือกว่าสายพานราวลิ้นแบบผ้าใบผสมยาง ซึ่งอาจขาดได้ในระหว่างทำงานที่รอบสูงเมื่อใช้งานไปนานๆ ระบบส่งกำลังหรือเกียร์ มีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดทอร์กคอนเวอร์เตอร์ ชุดเกียร์มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา แต่ถูกออกแบบมาให้มีความคงทนต่อการส่งถ่ายแรงบิดไปยังเพลาหน้า ส่วนกลไกเปลี่ยนอัตราทดในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ใช้การกดไปที่สวิตช์ข้างคันเกียร์ ซึ่งมีรูปแบบการใช้งานที่ต้องอาศัยความคุ้นเคยอยู่บ้าง ระบบรองรับหรือช่วงล่าง ด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท สปริง โช้คอัพ เหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังใช้ระบบรองรับแบบทอร์ชั่นบีมโช้คอัพ ระบบบังคับเลี้ยว พวงมาลัยแรคแอนพิเนียนพร้อมปั๊มพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรง ระบบห้ามล้อ ด้านหน้าดิสเบรกแบบมีครีบระบายความร้อน ด้านหลังดรัมเบรก



ระบบความปลอดภัย โครงสร้างของแชสซีส์ และตัวถังผลิตจากโลหะคุณภาพสูง ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ถุงลมนิรภัยด้านคนขับในรุ่นปกติ ส่วนรุ่น LTZ มีถุงลมนิรภัยคู่หน้าสำหรับคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า โครงสร้างหลังคารับน้ำหนักได้ถึง 4 ตัน จากการคำนวณในขั้นตอนของการทดสอบและพัฒนา เข็มขัดนิรภัยแบบ ELR ช่วยลดแรงกระชากเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ระบบ Load Limited เฉพาะรุ่น LTZ จะถูกติดตั้งยังตำแหน่งของผู้โดยสารตอนหน้าและผู้ขับขี่ ระบบพวงมาลัยแบบยุบตัวได้ เพื่อป้องกันการกระแทกกับสรีระของผู้ขับเมื่อเกิดการชนปะทะ



ราคาจำหน่ายรถยนต์ Chevrolet Sonic ทุกรุ่น 

1 NB 1.4 MT LS 548,000 บาท

2 NB 1.4 AT LA 578,000 บาท

3 NB 1.4 MT LT 588,000 บาท

4 NB 1.4 AT LT 615,000 บาท

5 NB 1.4 AT LTZ 679,000 บาท

6 HB 1.4 MT LT 601,000 บาท

7 HB 1.4 AT LT 632,000 บาท

8 HB 1.4 AT LTZ 687,000 บาท

*NB = 4 ประตู (ซีดาน)

*HB = แฮตช์แบ็ก 5 ประตู

*MT = เกียร์ธรรมดา 5 สปีด

*AT = เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด


วันที่สามของภารกิจทดสอบ Chevrolet Sonic LTZ 5 Door หลังจากทดลองวิ่งใช้งานในเมืองสองวันเต็มๆ ก็ถึงเวลาที่จะนำมันออกวิ่งทางไกล รถทดสอบ Sonic คันนี้เป็นรุ่น LTZ 5 ประตูทรงกล่องขนาดกะทัดรัด แต่กลับมีพื้นที่ห้องโดยสารกว้างกว่าที่คิดเอาไว้ตั้งแต่แรก พื้นที่วางเท้าและพื้นที่เหนือศีรษะที่ยังคงเหลืออีกเพียบ แม้ท้ายรถจะสั้นกุด แต่เบาะหลังที่พับเอนราบได้กับพื้นที่เก็บสัมภาระแบบสองชั้นเข้ามาช่วยให้ปริมาตรในการขนของเพิ่มขึ้นอีกพอสมควร ตำแหน่งท่านั่งปรับให้สูงหรือต่ำได้ตามใจชอบ เบาะหุ้มผ้าสีดำแนวสปอร์ต กับงานพลาสติกภายในรวมถึงสีสันของหน้าปัดมาตรวัด ชุดคอนโซลกลางมีเครื่องเสียงและปุ่มควบคุมอุณหภูมิที่ให้แสงสีฟ้าสบายตาน่าใช้งาน แม้กระจกบานหน้าที่ใหญ่โตกว่ารถเล็กทั่วไปจะเอนราบในองศาที่มากกว่าปกติ การออกแบบคอนโซลและการแบ่งพื้นที่ของการใช้สอยทำออกมาได้น่าประทับใจสำหรับรถยนต์แฮตช์แบค 5 ประตูที่มีเรือนร่างไม่ใหญ่โตนัก ขนาดของมันพอฟัดพอเหวี่ยงกับ Jazz / Yaris / Fiesta / Mazda2 / Suzuki Swift ซึ่งเป็นรถเล็ก 5 ประตูที่กำลังแข่งกันสร้างยอดขายอย่างเข้มข้น โดยมีน้องใหม่อย่าง Sonic เข้ามาแทรกกลางด้วยราคา 6.8 แสนบาทในรุ่น LTZ ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุด




ถนนรังสิต องครักษ์ นครนายก ปราจีนบุรี วนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ คือเส้นทางที่ผมจะใช้วิ่งทดสอบทางไกลหลังจากเคยควบรุ่นตัวถัง 4 ประตูไปที่ชลบุรีเมื่อเดือนก่อน รถ Sonic นั้นมีแฮนด์ลิ่งที่ดีเท่าที่รถยนต์ขนาดเล็กควรจะมี การทรงตัวบนทางตรงยาวที่จะมุ่งหน้าไปยังจังหวัดนครนายกให้ความมั่นใจในระดับที่น่าพอใจ คันเร่งไฟฟ้าและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดแบบล็อกอัพทอร์คคอนเวอร์เตอร์ รวมถึงพวงมาลัยแบบเพาเวอร์สายพานคือจุดเด่นของรถคันนี้ แม้จะมีเรี่ยวแรงเพียงแค่ 100 แรงม้า บนเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียงขนาดเล็กความจุ 1.4 ลิตร อาการช่วงออกตัวก็ยังมีความกระฉับกระเฉงแสดงออกมาให้เห็นเมื่อผมเดินคันเร่งลงลึก การพุ่งตัวจากจุดหยุดนิ่งแบบออกตัวเป็นคันแรกจากสัญญาณไฟจราจร ช่วงต้นๆ จะมีอาการทอร์คสเตียร์ปรากฏให้เห็นบ้างแต่ก็เพียงแค่นิดเดียวเมื่อเดินคันเร่งลงลึกแบบฉับพลันทันที หลังจากนั้นเพียงเสี้ยววินาที มันจะเร่งตัวเองออกจากจุดหยุดนิ่งทันที และทำได้ดีเกือบเท่ารถคู่แข่งทุกคันที่มีปริมาตรความจุสูงกว่า อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรใน 10.7 วินาที ในรุ่นเกียร์ออโต้ เป็นตัวเลขที่พอรับได้ แรงบิด 13.3 กิโลกรัมเมตร มาในลักษณะที่แบนและกว้าง โดยที่รอบเครื่องยนต์สามารถลากไปได้ถึง 6,500 รอบก่อนที่สมองกลเกียร์จะสั่งให้เปลี่ยนตำแหน่งของอัตราทดให้สูงขึ้นไปตามจังหวะของรอบสูงสุดในแต่ละเกียร์ที่ประสานไปกับความเร็วของตัวรถ เกียร์ของ Sonic ไหลลื่นคล้ายกับเกียร์ CVT และให้ความรู้สึกที่ไม่มีอาการของการกระตุกกระชากให้เห็น มีเพียงการการเข้าเกียร์จากตำแหน่ง P ไปที่ D หรือ M เท่านั้นที่ยังคงให้ความรู้สึกแบบกลไกและขาดความนิ่มนวลไปหน่อย



การไต่ระดับความเร็วจาก 120 ไปยัง 140 กิโลเมตรต้องใช้เวลากันพอสมควรเนื่องจากขนาดความจุที่เล็กของเครื่องยนต์ ระบบวาล์วแปรผันแบบ Double CVC มีวาล์วไอดีและไอเสียฝั่งละสอง ทำงานร่วมกับหัวฉีดไฟฟ้าที่มีเซ็นเซอร์คอยตรวจจับปริมาณของไอดีเพื่อควบคุมอัตราส่วนของการจ่ายเชื้อเพลิงให้มีประสิทธิภาพ เครื่องยนต์ ECOTEC รหัส A14XFR ที่ไม่มีระบบอัดอากาศมาให้ยุ่งยากในการดูแลรักษา ตัดปัญหาเรื่องความร้อนที่มักเกิดขึ้นในรถติดเทอร์โบซึ่งมีห้องเครื่องยนต์ที่มีอุณหภูมิสูงกว่า เครื่อง ECOTEC ตัวนี้ถูกพัฒนามาเพื่อให้กำลังที่ดีในรอบต้นๆ ส่วนรอบกลางๆ ถึงปลายจะออกอาการไหลแบบต่อเนื่อง เป็นไปตามลักษณะของเครื่องยนต์ที่เน้นอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ลดลงแทนที่จะเน้นไปในด้านกำลังแรงบิดแบบเครื่องยนต์ติดเทอร์โบ




ผมขับมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก ผ่านเขื่อนขุนด่านปราการชล และลัดเลาะไปตามเส้นทางลัดที่จะตัดเข้าสู่วนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นานนับชั่วโมงที่เจ้า Sonic รุ่น 5 ประตูจะต้องวิ่งผ่านทั้งทางตรง ทางคดเคี้ยวที่ตัดผ่านหมู่บ้านเล็กๆ ในเขตจังหวัดนครนายกที่เชื่อมต่อกับจังหวัดปราจีนบุรี บนทางหลวงจังหวัดหมายเลข 3077 (ถนนปราจีนบุรี-เขาใหญ่) ตรงเข้าสู่ด่านตรวจเนินหอม ระยะทางประมาณจากกรุงเทพฯ ถึงปากประตูของด่านตรวจเนินหอมในเขตปราจีนบุรีประมาณ 160 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่วิ่งเข้าไปยังใจกลางของป่าเขาใหญ่ก่อนจะไปโผล่อีกทางที่อำเภอปากช่องตรงกิโลเมตรที่ 58 เข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2090 (ถนนธนะรัชต์) ที่นี่คือถนนที่มีสองข้างทางเขียวครึ้มมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย การวิ่งผ่านป่าฝนเขตร้อนด้วยพาหนะขนาดเล็กแบบ City Car สร้างความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่คุ้นเคยทันทีที่ผ่านด่านเนินหอม ถนนบนเขาใหญ่กับรถขับเคลื่อนสี่ล้อคันโต ดูจะเหมาะสมและเข้ากันได้ดีกับภูมิประเทศในแถบนี้ มากกว่าที่จะนำเอาเจ้า Sonic รถยนต์รูปทรงกล่องสี่เหลี่ยมห้าประตูที่ดูเหมือนอยู่ผิดที่ผิดทางยังไงชอบกลมาวิ่งอยู่ท่ามกลางป่าเขาลำเนาไพรที่ีเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์ ช้างป่าและลิงจ๋ออีกนับสิบนับร้อยตัว ยังไม่รวมกระทิงอีกฝูงที่แผงม้า ฝรั่งหลายคนในรถปิกอัพยกสูงที่กำลังถ่ายภาพสองข้างทางหันมาทำหน้าแปลกใจที่อยู่ๆ ก็มี Chevrolet คันเล็กน่ารักแซงผ่านไป มันค่อนข้างขัดแย้ง แต่โค้งบนเขาใหญ่ก็ยั่วยวนให้เจ้า Sonic วิ่งทดสอบระบบรองรับกับเสถียรภาพของตัวรถ มากกว่าที่จะเอามาวิ่งอยู่แต่ในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นจนทำได้เพียงแค่คำว่าคลานเท่านั้น



พื้นที่ป่าเขาใหญ่ในแถบทิศเหนือเป็นเหมือนการแสดงความหลากหลายทางชีวภาพที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ มันจะค่อยๆ ไล่ระดับของความสูงชันขึ้นเมื่อเข้าเขตทิศใต้ของวนอุทยานซึ่งเต็มไปด้วยหุบเขาสูงก่อตัวเป็นแนวเขตของที่ราบสูงโคราช มีเขาร่มเป็นยอดเขาสูงที่สุด 1,351 เมตร เขาแหลมสูง 1,326 เมตร เขาเขียวสูง 1,292 เมตร เขาสามยอดสูง 1,142 เมตร เขาฟ้าผ่าสูง 1,078 เมตร เขากำแพงสูง 875 เมตร เขาสมอปูนสูง 805 เมตร และเขาแก้วสูง 802 เมตร ซึ่งวัดความสูงจากระดับน้ำทะเลเป็นเกณฑ์ และยังประกอบไปด้วยทุ่งกว้างสลับกับป่าไม้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ด้านทิศเหนือและตะวันออกพื้นที่จะลาดลง ทางทิศใต้และตะวันตกเป็นที่สูงชันไปเรื่อยๆ จากการสำรวจด้านธรณีวิทยา เขาใหญ่มีพื้นที่รวมทั้งสิ้นราว 3,874,863 ไร่ หรือ 6,155 ตารางกิโลเมตร กว้างใหญ่ไพศาลมากพอที่จะทำให้คนเดินเท้าที่ไม่คุ้นชินกับเส้นทางถึงกับหลงป่าเอาได้ง่ายๆ ส่วนถนนหนทางที่ตัดผ่านมีสภาพดีแม้จะเป็นทางลาดยางสองเลนสวนกันที่ค่อนข้างคับแคบ ทางโค้งบนเขาใหญ่จึงมักเกิดอุบัติเหตุจากรถยนต์ที่วิ่งกินเลนสวนกันกลางโค้ง ผิวทางแม้จะเรียบแต่อุดมไปด้วยโค้งวกไปวนมา กับโค้งลึกๆ ที่ทอดตัวไปตามหุบเขา รถขับเคลื่อนล้อหน้าอย่างเจ้า Sonic กับช่วงล่างแมคเฟอร์สันสตรัทที่มักส่งตรงสภาพผิวถนนสู่ข้อมือคนขับเมื่อพบเจอกับทางที่ไม่เรียบ พวงมาลัยเพาเวอร์สายพานแม้จะกินกำลังเครื่องยนต์อยู่บ้าง แต่ให้สัมผัสที่ดีและเฉียบคมใช้ได้ ผมหักพวงมาลัยด้วยความเร็วที่เหมาะสมกับสภาพของโค้ง โดยเพิ่มความระมัดระวังและขับให้รถวิ่งกินซ้ายนิดๆ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น หากมีรถวิ่งสวนลงเขาแล้ววิ่งกินเลนเข้ามา หลายต่อหลายครั้งผมพบกับรถขับเคลื่อนสี่ล้อคันโตที่ใช้ความเร็วสูงบริเวณกลางโค้ง แล้ววิ่งทับเลนเข้ามาและหากไม่ระวังหรือเตรียมพร้อมให้ดีแล้ว มีหวังตัวถังด้านขวาของเจ้า Sonic อาจจะต้องโดนเฉี่ยวชนอย่างแน่นอน




ชุดส่งกำลังใน Sonic LTZ 5 ประตู คันทดสอบใช้ระบบคลัตช์แบบมัลติ โดยมีตำแหน่งเปลี่ยนเกียร์ด้วยมือของคนขับเอง เป็นสวิตช์เล็กๆ ข้างคันเกียร์ เมื่อดึงคันเกียร์ลงมาที่ตำแหน่ง M สวิตช์+ / - จะทำหน้าที่ปรับอัตราทดไปตามจังหวะที่ผู้ขับกด โดยแจ้งเตือนตำแหน่งเกียร์ที่หน้าจอใกล้กับตัวเลขของมาตรวัดความเร็ว และเมื่อจะใช้งานต้องละมือซ้ายจากพวงมาลัยมาจับที่คันเกียร์ ทำให้การเปลี่ยนเกียร์ในโค้งค่อนข้างยุ่งยากอยู่พอสมควร ตำแหน่ง M ในเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดของ Sonic เกียร์จะไม่เปลี่ยนให้จนกว่าผู้ขับจะกดเปลี่ยนเกียร์เอง มันสาแก่ใจพวกที่ชอบขับแบบลากรอบ แถมเครื่อง ECOTEC ตัวนี้ ยังมีระบบวาล์วแปรผัน Double CVC คอยสร้างแรงบิดในรอบกลางๆ ไม่ให้ห้อยจนเกินไป ถึงจะเป็นเครื่องยนต์ที่มีความจุเพียงแค่ 1.4 ลิตร แต่เมื่อนำมาวางอยู่ในรถที่มีน้ำหนักตัวเพียงแค่ 1,253 กิโลกรัมในรุ่น LTZ ทำให้ไม่เกินเชื้อเพลิงมากนักเมื่อวิ่งใช้งานในเกียร์ 6 ซึ่งเป็นเกียร์ Overdrive ที่ช่วยลดรอบเครื่องยนต์ไม่ให้สูงจนเกินไป การขับขี่เดินทางที่ความเร็ว 120-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเฉลี่ย 10.7 กิโลเมตรต่อลิตร แต่หากใช้ความเร็วต่ำกว่านั้นจะอยู่ประมาณ 13 กิโลเมตรต่อลิตร ช่วงล่างของ Sonic ก็ให้ความมั่นใจได้ในระดับที่ดีไม่แตกต่างจาก Ford Fiesta / Mazda2 แม้แต่น้อย มีเพียงแค่ย่านของกำลังแรงบิดเท่านั้นที่ด้อยกว่า เนื่องจากมีเครื่องยนต์เล็กกว่าคู่แข่งทั้งสองคัน



17.45 น. แสงเริ่มหมดลงอย่างรวดเร็ว ผมวกรถกลับมายังจุดทางออกบริเวณด่านตรวจเนินหอม แล้วใช้เส้นทางเดิมเพื่อมุ่งหน้าไปยังจังหวัดนครนายกด้วยความเร็วที่มากกว่าตอนขามา จุดเด่นของ Sonic 5 Door อยู่ตรงรูปแบบของห้องโดยสาร การเก็บเสียงและการขับขี่ที่ให้ความรู้สึกมั่นใจในระดับที่ดีสำหรับรถเล็ก แม้พวงมาลัยจะเป็นรอง Fiesta แต่โดยภาพรวมแล้ว มันค่อนข้างใกล้เคียงกันมากในบางจุด เครื่องยนต์ 1.4 ลิตร จะกระฉับกระเฉงขึ้นหากลดน้ำหนักส่วนเกินที่เป็นพวกอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ความแข็งแกร่งของตัวถังจากการออกแบบโครงรถทำให้เครื่องยนต์ของมันต้องแบกน้ำหนักกว่า 1.2 ตันสำหรับการออกตัวอย่างรวดเร็วแบบฉับพลันทันที เครื่องยนต์ 1.4 ลิตร รองรับเชื้อเพลิง E20 ใช้วาล์วที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงเสียดทาน เพลาลูกเบี้ยวที่เชื่อมกับเพลาข้อเหวี่ยงใช้โซ่แทนสายพานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ามาก บล็อกเครื่อง เสื้อสูบ ทำจากอัลลอย ท่อร่วมไอดีช่วยเพิ่มแรงบิดรอบต่ำได้ดี คอยล์จุดระเบิดแบบไม่ต้องใช้สายหัวเทียนยังช่วยลดการสูญเสียกำลังไฟในแบตเตอรี่โดยไม่จำเป็น วาล์ว EGR ที่หลายค่ายนิยมใช้ ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์สามารถหมุนเวียนไอเสียบางส่วนป้อนกลับเข้าสู่กระบอกสูบได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 6 สปีด ไหลลื่นและมีโหมดชิฟเกียร์ด้วยตัวคนขับเองตรงหัวเกียร์ที่ใช้งานค่อนข้างยากไปนิด ด้วยเงิน 6.7 แสนบาท คุณจะได้รถเล็ก 5 ประตูที่มีการขับขี่สไตล์ยุโรป ภายในที่แปลกแยกแต่สวยงาม ลองไปหาขับทดสอบดูว่าเจ้า Chevrolet Sonic ทั้งรุ่น 4 และ 5 ประตูจะตรงตามความต้องการของคุณหรือไม่
ขอขอบคุณ: ไทยรัฐออนไลน์ที่ให้ความอนุเคราะห์ข้อมูล จากคอลัมน์ Man & Machine
แท็กที่เกี่ยวข้อง
CAR GURU
เขียนโดย เช็คราคา.คอม CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)