ประเมินวงเงินรู้ผลใน 3 นาที

กับ กรุงศรี ออโต้ พร้อมสตาร์ท

เริ่มประเมินวงเงินพร้อมสตาร์ท
ผ่านมือถือ สแกนเลย

ดูวงเงินพร้อมสตาร์ทที่ได้รับ

x
icon-filter ค้นหารถยนต์
product filter
product filter
product filter
product filter
product filter

"ซื้อรถ" หรือ "เช่ารถ" สำหรับองค์กรอย่างไหนดีกว่ากัน?

icon 28 เม.ย. 59 icon 27,375
"ซื้อรถ" หรือ "เช่ารถ" สำหรับองค์กรอย่างไหนดีกว่ากัน?

"ซื้อรถ" หรือ "เช่ารถ" สำหรับองค์กรอย่างไหนดีกว่ากัน? 

หากคุณเป็นเจ้าของกิจการ กำลังกังวลเรื่องจัดหารถยนต์มาไว้ใช้ในกิจการสักจำนวนหนึ่ง แต่คิดไม่ตกว่าควรจะ "เช่าหรือซื้อ" อย่างไหนจะดีกว่า คุ้มกว่า และจัดการระบบเงินในบัญชีได้ดีกว่า เช็คราคา.คอมชวนมาหาคำตอบกันครับว่า แบบไหนที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณไม่สะดุด เพราะงบดุลจากการใช้รถบานปลาย

รถยนต์ที่ใช้ในองค์กร


ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจว่า แทบทุกองค์กรที่มีรถยนต์ให้ใช้งาน ไม่ว่าจะเพื่อประจำตำแหน่งคนสำคัญๆ ไปจนถึงรถส่งสินค้า ล้วนเป็นรถยนต์ที่ให้บุคคลต่างๆ ใช้งานฟรี และไม่ใช่รถของบุคคลนั้น จึงมีโอกาสเกิดความคิดในบางกลุ่มคนที่ว่า "ไม่ใช่รถฉัน จะขับอย่างไรก็ได้" และในที่สุดเมื่อรถคันนั้นไม่ได้รับการดูแลดูบำรุงรักษาอย่างถูกต้องตามระยะทาง และขาดความทะนุถนอมในการใช้งาน รถยนต์คันนั้นๆ ย่อมมีการเสื่อมสภาพ โทรมเร็วกว่าปกติหรืออาจไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างเหมาะสมนัก เป็นเหตุให้ต้องบำรุงรักษาหนักกว่าปกติ และมีค่าใช้จ่ายที่อาจเพิ่มมากขึ้น และในขณะเดียวกันบางครั้งก็ไม่สามารถจะตัดรถยนต์ประจำตำแหน่งได้ จึงต้องทนกับค่าใช้จ่ายจุกจิกที่ไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งรถยนต์ที่ใช้ในองค์กรมักมี 2 ประเภทคือ ซื้อสดหรือผ่อนไฟแนนซ์ และการเช่ารถจากบริษัทที่น่าเชื่อถือ 

ซื้อรถยนต์


การซื้อรถยนต์ในองค์กร ทั้งสดหรือผ่อน นับเป็นการซื้อทรัพย์สินมาเป็นของบริษัท ข้อดีคือ เป็นทรัพย์สิน และสามารถขายต่อให้กับคนภายในองค์กรได้ การซื้อรถยนต์มาใช้นั้น ทางบริษัทจะต้องเตรียมพร้อมกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นนอกเหนือจากการผ่อนชำระ, ค่าน้ำมัน ฯลฯ นั่นคือ การซ่อมบำรุง และการรับผิดชอบด้านประกันภัย รวมถึงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทางบริษัทก็จะต้องเป็นผู้ดูแลทั้งหมด อาจทำให้เกิดความยุ่งยาก ไม่สะดวกทั้งการต่อภาษีประจำปี การต่อประกันภัย เป็นต้น โดยรวมแล้วอาจต้องจัดตั้งหน่วยงานหรือผู้รับผิดชอบดูแลด้านนี้โดยเฉพาะ ซึ่งอาจสิ้นเปลืองงบประมาณมากขึ้น  

เช่ารถยนต์


การเช่ารถยนต์เพื่อใช้ในองค์กรนับว่าได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานแล้ว โดยเฉพาะสถาบันการเงินใหญ่ๆ และบริษัทมหาชนระดับชาติ เพราะความสะดวกในการควบคุมค่าใช้จ่ายและระบบการดูแลรักษารถ โดยรถเช่านั้น บริษัทผู้ให้เช่ารถจะมีหน้าที่ดูแลให้ครบวงวร เริ่มตั้งแต่การรับ-ส่งมอบรถ, การนำรถเข้าเช็คระยะ, การเคลมต่างๆ พร้อมกับมีรถให้ใช้ทดแทน, บริการต่อภาษีประจำปีและประกันภัย และสุดท้ายสามารถปรับรุ่นรถได้ตามที่ระบุเอาไว้ในสัญญา เช่น ทุกๆ 3 ปี เป็นต้น และหมดห่วงในเรื่องขายรถต่อเพราะเป็นความรับผิดชอบของผู้ให้เช่ารถ ดังนั้น การเช่ารถจะมีความสะดวกและสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายดีกว่า

เปรียบเทียบ "ซื้อรถ - เช่ารถยนต์"

มาดูตารางเปรียบเทียบกันชัดๆ ว่าการซื้อรถและการเช่ารถให้กับองค์กรอย่างไหนจะคุ้มค่า และดีกว่ากัน
 ซื้อรถ / Leasing - Hire Purchase  เช่ารถ / Long Term Rental
1. ต้องจ่ายเงินดาวน์ หรือวงเงินประกัน
2. ค่างวดเท่ากันทุกเดือน แต่ลูกค้าต้องรับผิดชอบเรื่องค่าซ่อมบำรุงเอง
3. ลูกค้าต้องดูแลเรื่องต่อทะเบียนและพรบ. เอง
4. ไม่มีรถใช้ขณะเข้าซ่อมบำรุง หรือเกิดอุบัติเหตุกะทันหัน
5. เปลี่ยนรุ่นและแบบรถได้ยากเพราะเป็นทรัพย์สิน
6. ลูกค้าต้องรับความเสี่ยงจากค่าเสื่อม และค่าซากรถที่ไม่แน่นอนในอนาคต
7. รถถูกระบุว่าเป็นทรัพย์สินโดยระบบหักค่าเสื่อมปีละ 20% เป็นเวลา 5 ปี และสามารถหักได้สูงสุด 1,000,000 บาทเท่านั้นซึ่งเป็นภาระทางบัญชีเนื่องจากต้องควบคุมทรัพย์สิน
8. ลูกค้าต้องจ่ายค่าซ่อมบำรุงเองซึ่งทำให้ยากต่อการคุมค่าใช้จ่ายหรืองบประมาณ
9. เข้าศูนย์บริการปกติ หรืออู่ซ่อม
1. ไม่ต้องจ่ายเงินดาวน์ หรือเงินมัดจำ
2. ค่าเช่าคงที่ทุกเดือน สะดวกสบายด้วยระบบ Full Maintenance Service 
3. ลูกค้าไม่ต้องกังวลเรื่องต่อทะเบียนประจำปี และ พรบ.
4. มีรถทดแทนในระดับเดียวกันหรือสูงกว่าเมื่อรถต้องเข้าศูนย์บริการ หรือมีอุบัติเหตุ
5. ลูกค้าสามารถเปลี่ยนรถได้ใหม่ตลอด ไม่ต้องขับรถตกรุ่น เพื่อความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์
6. ลูกค้าไม่ต้องรับความเสี่ยงเรื่องของราคาซากสำหรับการขายต่อมือสอง
7. ในทางบัญชีรถเช่าไม่ถูกระบุว่าเป็นทรัพย์สิน แต่เป็นค่าใช้จ่าย จึงลดหย่อนภาษีได้ทั้งหมด หรือไม่เกิน 36,000 (นิติบุคคลเท่านั้น)  
8. ลูกค้าไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องค่าซ่อมบำรุง เพราะทางผู้ให้เช่าจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเอง
9. สาขาที่คอยให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศไทย และในบางแห่งมีศูนย์บริการมาตรฐานของยี่ห้อรถยนต์ พร้อมเป็นพันธ์มิตรกับศูนย์ B-Quik ทั่วประเทศ
จะเห็นว่าข้อดีและข้อด้อยนั้นแตกต่างกันค่อนข้างมาก ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจควรพิจารณาให้รอบคอบกันก่อนนะครับ

ก่อนเช่ารถ เช็คความพร้อมของบริษัทกันก่อน

เมื่อเริ่มเห็นความคุ้มค่าในการเช่ารถให้กับบริษัท องค์กรหรือห้างร้านแล้ว ถ้าตัดสินใจเลือกเช่ารถแทนการซื้อ เราก็ควรเลือกเช่ารถยนต์กับบริษัทเช่ารถที่มีความน่าเชื่อถือ มีความชำนาญ และมีรถยนต์พร้อมให้ใช้งานตามที่ต้องการ ซึ่งโดยส่วนมากบริษัทเช่ารถมักใช้รถยนต์ที่มีอายุตลาดระหว่าง 3 - 5 ปี อายุรถก็เป็นหนึ่งอย่างที่ต้องใส่ใจ เพราะยิ่งรถมีอายุมากก็ย่อมแสดงว่าเป็นรถที่มีการใช้งานมาอย่างยาวนานย่อมมีโอกาสเสียหาย หรือใช้งานได้ไม่เต็มสมรรถนะ ดังนั้นเราจึงควรเลือกบริษัทที่ใช้รถยนต์เช่าที่มีอายุตลาดโดยรวมไม่ควรเกิน 3 ปี หลังจากนั้นก็ควรเปลี่ยนคันหรือรุ่นใหม่ทันที เพื่อความสบายใจและความปลอดภัยของผู้เช่ารถ

แท็กที่เกี่ยวข้อง รถเช่า รถยนต์ รถ ซื้อรถ รถสำหรับองค์กร เช่ารถ
CAR GURU
เขียนโดย เช็คราคา.คอม CAR GURU

พูดคุยกับกูรูได้ที่




เว็บไซต์นี้มีการเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการใช้งานเว็บไซต์ และช่วยให้เราปรับปรุง และนำเสนอเนื้อหาตรงตามความสนใจของท่าน ท่านสามารถดู Privacy Notice และ ดู Cookies Policy ของเราได้ ที่นี่ ทั้งนี้ ท่านจะยินยอมให้เราเก็บคุกกี้ทั้งหมด หรือให้เก็บแค่บางส่วนโดยการคลิกเลือก ตั้งค่า

ท่านสามารถเลือกให้ความยินยอมการเก็บคุกกี้เป็นเรื่องๆ ได้ที่นี่

เมื่อคุณเข้าชมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่น checkraka เราอาจจัดเก็บ หรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของคุณในรูปแบบของคุกกี้ และเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึง เช่น tag และ pixel (เรียกรวมกันว่า “คุกกี้”) ซึ่งมักเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้โดยตรง แต่ช่วยให้คุณใช้งานเว็บไซต์ได้ปลอดภัย และตรงตามความต้องการมากขึ้น คุณอาจไม่ยินยอมให้เราเก็บคุกกี้บางประเภทได้ โดยการคลิกตามหัวข้อข้างล่างนี้

ประเภทคุกกี้
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่
ยินยอม / ไม่ยินยอม
คุกกี้ที่จำเป็นต้องมีเสมอ
(Strictly Necessary)
คุกกี้สำหรับการใช้งานเว็บไซต์
(Functionality)
คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและวิเคราะห์
(Performance & Analytics)
คุกกี้เพื่อการตลาด
(Marketing)